1 ดวงอาทิตย์ดวงโต กำลังโผล่พ้นทิวเขาไกลลิบอยู่เบื้องหน้า กระท่อมไม้ไผ่หลังเล็กโดดเดี่ยวที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่น้อยกำลังเริ่ม มีชีวิตชีวา กรุ่นกลิ่นควันไฟจากเตาฟืนกระจายไปทั่วทั้งกระท่อม เพียงดาว ก้าวออกมาสูดอากาศยามเช้าพร้อมกับกาแฟถ้วยโปรด กลิ่นกาแฟผสมด้วยกลิ่นมะนาวจาง ๆ ช่างหอมเย้ายวนให้ดื่มชิม เธอ บรรจงละเลียดกาแฟในถ้วยอย่างอ้อยอิ่ง นึกถึงใครบางคนที่เคยค่อนขอด "แปลกคน ทำไมกินกาแฟกับมะนาว" เธอจำไม่ได้ว่าเธอตอบเขาหรือไม่ เธอไม่ได้ติดใจในรสชาติ หวานมันที่เต็มไปด้วย ครีม นม น้ำตาล แต่กาแฟกับมะนาว มันอาจจะเป็น สิ่งที่แปลกสำหรับคนทั่วไป สำหรับเธอ กาแฟขม ๆ กับมะนาวเปรี้ยวพอ ปะแล่ม เข้ากันอย่างลงตัว กลิ่นหอมของกาแฟกับมะนาว มันชวนให้สดชื่น และทำให้อารมณ์ดีได้อย่างไม่ยาก เพียงดาวจิบกาแฟอึกสุดท้าย ก่อนที่จะวางมันลง เธอเปิดโลกสดใสด้วยรอยยิ้ม นึกถึงหน้าใครบางคน วันนี้คงเป็นเช้าทีสดใสเป็นพิเศษสำหรับเพียงดาวใครคนนั้น กำลังจะเดินทางมาที่นี่ ที่ที่เขาเคยบอกว่าจะไม่เหยียบมาอีก แต่เขาก็กลับมา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่เพียงดาวเชื่อว่า เขาเข้าใจเธอ 2 " พี่ครับชิดในด้วยคร๊าบ ข้างหน้ามีที่ว่างตั้ง 4 - 5 เซ็น รถเต็ม เราจะออกเดินทางกันเสียที เชิญคร๊าบ พี่คร๊าบ เบียด ๆ กันหน่อยครับ " เสียงเด็กรถตะโกนเจื้อยแจ้ว สร้างความรำคาญให้เลาขลุ่ย มากกว่าจะขบขัน รถคันเก่าคันเดียวไม่ใหญ่พอจะจุคนได้มากกว่า สามสิบคน แต่ที่เขานับทั้งคน ทั้งข้าวของมันมากกว่ารถจะบรรจุได้แต่รถก็ไม่ยอมเคลื่อนเสียที ยังคงหาผู้โดยสารเพิ่มโดยไม่ไยดี กับผู้โดยสารที่เข้าไปยัดอยู่ก่อนหน้า ทั้งกลิ่นคน ปนกับกลิ่นสิ่งของ เล่นเอาเลาขลุ่ยแทบจะกลั้นหายใจ นี่เขามาลำบากอะไรที่นี่ ที่ที่ไม่มีความสะดวกสบายใด ๆ เขาบ้าไปแล้วหรือ แค่ผู้หญิงคนเดียว เขาทำได้ถึงเพียงนี้ 3 "ขลุ่ย ๆ ดาวอยู่ทางนี้ " เสียงใส ๆ ของเพียงดาวแว่วมาจากข้างหลังของเลาขลุ่ย เขาหันหลังกลับไป พบรอยยิ้มสดใสบนหน้า ความเหนื่อยล้าเหมือนว่าจะมลายไปสิ้น "รอนานไหม ดาว " "ก็พอสมควรน่ะ ตื่นเต้นจะได้เจอขลุ่ย ออกมาแต่เช้าเชียว ปกติรถเข้าหมู่บ้านก็เกือบบ่ายแน่ะ แต่ดาวมารอขลุ่ยตั้งแต่เช้าเลย ขลุ่ยหิวไหมเนี่ย " " อื้อ หิว รถบ้าอะไรไม่รู้ คนเต็มตั้งแต่สามโมงเช้า กว่าจะเคลื่อนออกมาได้ ก็เกือบเที่ยง เซ็งชะมัด" "อื้อ ก็งี้แหละในป่าในดง วันนึงมีรถเที่ยวเดียวเอง ก็ต้องรอ เผื่อใครตกรถตกเรือต้องเสีย เวลาเป็นวันเลยนะ กว่าจะมีรถเข้ามาอีก ขลุ่ยยังโชคคีน๊า มาถึงแต่เช้า มีรถเข้ามาเนี่ย บางทีดาวเอง กว่าจะมาถึงหมู่บ้าน ใช้เวลาตั้ง สองวันแน่ะ " "แล้วดาว จะทนอยู่อีกเหรอ" "ขลุ่ย ดาวไม่ได้ทน แต่ดาวพอใจที่จะอยู่ที่นี่ ไม่เอาละ อย่าเพิ่งเปิดศีกกันเลย ขลุ่ยมาเหนื่อย ๆ ไปพักให้สบายก่อนนะ ปะ เดี๋ยวดาวมีเมนูพิเศษเลยนะ หิวข้าวแล้วเนี่ย ไปเร็ว" เพียงดาวดึงมือเลาขลุ่ยเดินห่างออกไปจากกลุ่มคน ตรงไปยังจักรยานกลางเก่ากลางใหม่ที่จอดพิงไว้ ในชายคาของศาลาริมทาง "ดาวจะไหวเหรอ ทั้งกระเป๋าทั้งคนนะ" "น่าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวมีคนมาช่วย" "มดแดง มดดำ มาเร็ว กลับบ้านกันเถอะ" เพียงดาวเรียกใครบางคน พอสิ้นเสียงเพียงดาว เด็กน้อย ตัวมอมแมม ก็จูงจักรยานออกมา "มดแดง กับมดดำ นี่พี่ขลุ่ยจ๊ะ " "สวัสดีครับ" สองเด็กน้อยพูดขึ้นเกือบจะพร้อมกัน "เอาล่ะ คุณสองมด ช่วยเอากระเป๋าพี่ขลุ่ยไปเก็บที่บ้านให้ทีนะ เดี๋ยวพี่ดาวจะตามไป ไปกันเถอะขลุ่ย" "ดาว เด็กสองคนนั้นไว้ใจได้แน่นะ ขลุ่ยกลัวว่าข้าวของจะเสียหายซะหมดนะซี" "ขลุ่ย นายสองมดเนี่ยไว้ใจได้ เค้าเป็นเด็กน่ารัก ไปกันเถอะ เดี๋ยวขลุ่ยซ้อนนะ ดาวจะปั่นเอง ขลุ่ยจะได้ไม่เหนื่อย" "ไม่เอาล่ะ ขืนให้ดาวปั่นมีหวังขลุ่ยต้องกินดินก่อนกินข้าวแน่เลย ขลุ่ยยังพอไหวน่า ขลุ่ยปั่นเองก็ได้" "ตามใจ งั้นตามสองคนนั่นไปละกัน " "เกาะแน่น ๆ ล่ะ เราจะบินแล้ว " "ไปเลย บินไม่กลัว กลัวไม่บินนะซี๊" การปั่นจักรยาน ท่ามกลางแสงแดดในยามบ่าย เล่นเอาเลาขลุ่ยเหนื่อยล้ากว่าที่จะควรเป็น แดดก็ร้อน คนก็หนัก แม้ระยะทางจะไม่ไกลนัก แต่เลาขลุ่ยก็รู้สึกว่าการปั่นจักรยานท่ามกลางแดดร้อน ๆ มันช่างทรมานเหลือเกิน กว่าจะถึงที่พักก็ทำเอาเลาขลุ่ยหงุดหงิดอยู่พอสมควร "เหนื่อยไหมขลุ่ย ดูสิเหงื่อซ่กเลย ดาวพัดให้นะ" "เหนื่อยสิ ร้อนด้วย หมูหรือคนเนี่ย หนักเป็นบ้าเลย" "น่าหน่อยเดียวเอง บ่นเป็นตาแก่หัวล้านไปได้ ดื่มน้ำให้ใจเย็นก่อน เดี๋ยวดาวไปหาอะไรมาให้กิน นะ" "ให้เร็วเลยเชียว ช้าจะเคี้ยวคนพูดซะให้ป่น" "แหมใจร้ายจริง แป๊บเดียวน่าเดี๋ยวมา" เพียงดาวเข้าไปในครัว ที่สร้างยื่นออกมานอกกระท่อม สักครู่ก็ยกถาดข้าวแช่ที่เตรียมไว้รับแขกพิเศษ ออกมา กรุ่นกลิ่นมะลิ หอมเย็น แนมกับเครื่องเคียงข้าวแช่ชวนให้หิว "มาแล้ว ข้าวแช่ เย็น ๆ หอมชื่นใจ ดาวทำเองเลยนะขลุ่ย ลองชิมสิ" "อื้อ แหมหอมชวนกินมากเลยดาว ว่าแต่ว่า ดาวพอจะ มียาแก้ท้องเสียบ้างรึเปล่า" "โธ่ ขลุ่ยฝีมือดาวไว้ใจได้น่า ขนาดแม่ช้อยยังไม่รับชิม คุณติ๋มเดินหนีเลยนะ รับรองถ้าเป็นอะไรที่นี่ ไม่รอดหรอก" "โหกะฆ่าให้ตายเลยใช่ไหม เอ้า เพื่อข้าวแช่หอม ๆ อร่อย ๆ ยอมตายว่ะไอ้ขลุ่ย" คงเพราะความหิว บวกกับคนรักนั่งอยู่ข้าง ๆ เพียงครู่เดียว เลาขลุ่ยก็จัดการข้าวแช่ชุดนั้นหมดเกลี้ยง "อร่อยไหม ขลุ่ย " "ก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่มันหิวน่ะ แต่ว่ามีอีกไหมดาว อีกสักพัก ขอกินอีกชุดนะ" "อ้าวไม่กลัวท้องเสียเหรอ" " ไม่กลัว โอ๊ะ โอ๊ะ โอย ดาว ดาวววว จ๋า ขลุ่ยหายใจไม่ออก" เลาขลุ่ยล้มตัวเขลง ลงบิดตัวไปมา "ขลุ่ย เป็นอะไรไปน่ะ " "ขลุ่ยท้องจะแตกตาย แล้วก็ง่วงด้วย "เลาขลุ่ยพูดพร้อมกับทรงตัวขึ้นนั่งก่อนจะล้มตัวแหมะลงบนตักเพียงดาว "ขอหลับสักพักนะดาว อืมตักดาวน่าหนุนนอนตาย" "ตาขลุ่ยบ้า " เพียงดาวต่อว่า หากแต่ยิ้มน้อย ๆ อย่างสุขใจ ปล่อยให้เลาขลุ่ยนอนหนุนตักอยู่เป็นนาน
11 มกราคม 2550 10:55 น. - comment id 94604
เยี่ยมครับ เขียนได้ถูกใจ
9 มกราคม 2550 07:51 น. - comment id 94632
อยากนอนหนุนตักมั่งจัง อิอิ อิจฉาเลาขลุ่ยจังค่ะพี่อ้อย
9 มกราคม 2550 10:28 น. - comment id 94633
หวานแบบนี้ .. ไม่อยากให้จบ .. นะ ..
27 กุมภาพันธ์ 2550 14:09 น. - comment id 95132
อ่านแล้วเขินจังเลย เหมือนมีคนมาแต่งนิยายให้ ที่จริงแล้วก็อยากเป็นเหมือนในนิยายบ้าง เพราะเราชื่อเพียงดาว