ชตาชีวิต
หนี้บุญ
เพียงพิศผ่านวัยสาวมาอย่างชอกช้ำ เมื่อสาวความสวยของเพียงพิศเป็นที่ร่ำลือในหมู่ชายหนุ่มของหมู่บ้าน ใบหน้าหวานดวงตากลมใหญ่เศร้าเธอมีหน้าตาคล้ายๆ นางเอกหนังอินเดีย อายุได้เพียง 1 6 ปี พ่อแม่ก็จับแต่งงานกับคนในหมู่บ้านที่พ่อแม่เห็นดี มิใยที่เธอจะบอกพ่อและแม่ว่า เธอไม่พร้อมจะแต่งกับเขา เพราะเธอแอบมีใจให้กับคนอื่นแล้ว เธอถูกคลุมถุงชนเธอจะไปมีแรงที่ใหนมาต่อต้านพ่อและแม่ผู้เผด็จการ หลังแต่งงานเพียงแค่ไม่กี่เดือน สามีที่พ่อและแม่เห็นดีให้แต่งด้วยก็ออกลาย ตอนนั้นช่างเศร้าเหลือเกิน เพียงพิศท้องลูกได้ 5 เดือนแล้ว เมื่ออยู่กับเขาต่อไม่ได้ พ่อและแม่ก็จำต้องพาเพียงพิศกลับไปอยู่บ้าน ไม่นานเธอก็คลอดลูกเป็นผู้หญิง หลังจากคลอดลูกเธอแอบไปติดต่อกับชายคนรักเดิมของเธอ จนสุดท้ายก็มีการสู่ขอแต่งงาน เธอจำเป็นต้องทิ้งลูกให้พ่อและแม่เลี้ยง และออกจากบ้านพ่อและแม่ไปอยู่กับสามีคนใหม่ ที่บ้านสามีคนใหม่ เธอไม่ต่างจากคนใช้ในบ้านนั้น ทุกคนรังเกียจเธอ แม่หม้ายลูกติด ใครจะไปยอมรับได้ เธอต้องทำงานหนักมากเพื่อแลกกับความเมตตาของคนในบ้าน แต่มิใยที่เธอจะใช้แรงกายทั้งหมดเท่าที่มีเพื่อคนในบ้าน ก็ยังไม่มีใครรับเธอ สามีนะหรือ เขาเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบพูดอะไรก็ไม่มีใครฟัง จึงไม่สามารถปกป้องเธอได้ยามเธอถูกเขารุมด่าว่า ชตาชีวิตเด็กผู้หญิงหน้าตาดีมากๆ คนหนึ่งไม่น่าจะเศร้าและโหดร้ายมากเพียงนี้
ด้วยวัยไม่ถึง 20 ปี ต้องแบกรับผิดชอบงานบ้านทั้งหมดที่ทุกคนในบ้านพร้อมใจกันยกให้เธอ เธอต้องออกไปหางานทำข้างนอกบ้างเพื่อแลกกับเงินเล็กๆ น้อยๆ ให้พอค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเธอ สามีกินเงินกงสีที่ได้รับปันส่วนมาเพียงเล็กน้อยในส่วนนี้มีเพียงส่วนของสามี เพียงพิศไม่เกี่ยว เพียงพิศต้องอยู่ร่วมชายคาคนใจร้ายอยู่นานโดยไม่มีโอกาสไปเยี่ยมดูแลลูกสาวของตัวเอง ลูกสาวกับเธอจึงไม่มีความผูกพันฉันท์คนแม่ลูก ช่างน่าสงสารเหลือเกิน เพียงพิศที่งามไม่มีที่ติ ทำไมเธอช่างอาภัพนัก
ตอนนั้นเพียงพิศอายุ ย่างเข้า 40 ปีแล้ว น้องชายของสามีขับไล่เพียงพิศให้ออกจากบ้าน เธอมันตัวซวยตั้งแต่เหยียบมาอยู่บ้านนี้ บ้านนี้มีแต่จนลง ไปให้พ้น ออกไปจากบ้านนี้ซะ น้องชายสามีผู้เลือดร้อน ขับไล่เธอ เธอสู้อดทนไม่เถียงไม่พูด ใครจะว่าอย่างไง อย่างเดียวที่ทำได้ ก็แค่ร้องไห้ แต่น้องสามีก็ยังไม่ยอม สุดท้ายเขาเอาปืนมาขุ่ ถามว่าจะไปดีๆ หรืออยากตายที่นี่ แม่สามีเห็นดังนั้น จึงมาบอกกับเพียงพิศว่า เอางี้นะ เธอกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่เธอก่อน ไว้เรื่องสงบลงแล้ว เธอค่อยกลับมา พร้อมกับให้สตางค์เพียงพิศไปนิดหน่อย เพียงพิศผู้น่าสงสาร เธอไม่มีโอกาสได้รู้ว่า การออกจากบ้านหลังนั้ในวันนั้นเป็นการต้องจากมาชั่วชีวิต เพราะเพียงแค่เธอออกจากบ้านมา สามีก็ไม่เคยตามเธอมาเลย กลับไปอยู่บ้าน ลูกก็เมิน พ่อแม่ก็เมิน ก็เพียงพิศยากจนไม่มีสมบัตติดตัวใดๆ ทั้งสิ้น ลูกเมินเพราะเพียงพิศทิ้งไปหาความสุขปล่อยให้ตายายต้องดูแล ลูกสาวรับรู้แต่ว่า แม่ไปแต่งงานใหม่ พาเธอไม่ด้วยไม่ได้ เพียงพิศปิดปากสนิทเพราะไม่มีคำแก้ตัวใดๆ ที่จะบอกลูกได้ จากวันนั้นมาวันนี้เพียงพิศออกจากบ้านสามีคนที่ 2 มาแล้ว 8 ปี โดยไม่เคยมีใครสักคนในบ้านหลังนั้น จะมาเยี่ยมเยียนถามข่าวๆ เธอเลยเหมือนเธอได้หายสาบสูญไปจากโลกนี้แล้ว
ฉันรู้จักเพียงพิศเพราะแม่ของเพียงพิศมาหา และขอให้ฉันช่วยให้เพียงพิศได้ทำงาน แม่เขาเล่าว่า เพียงพิศไปทำงานเป็นแม่บ้าน วันหนึ่งๆ ต้องตระเวณทำงานแม่บ้านหลายๆ หลัง จึงจะได้เงินเพียงพอค่าใช้จ่าย ฟังเรื่องราวตอนนั้นแล้ว ฉันสงสารเขาจับจิต ฉันไม่ได้หวังให้เขามาช่วยงานฉัน ฉันช่วยเขาเพราะอยากให้เขามีงานทำ ทำได้แค่ใหนก็ไม่เป็นไร ขอเพียงให้ฉันมีส่วนช่วยให้เขามีงานทำ นั่นคือความคิดของฉัน เมื่อพี่น้องของฉันรู้ ว่าเขาฉันหาเรื่อง ไปเอาคนแก่มาทำงานจะได้เรื่องอะไร ทำไมไม่หาคนอายุน้อยๆ ฉันบอกน้องฉันว่า แม้เขาทำอะไรไม่เป็นเลย ฉันก็จะจ้างเขา แค่พนักงานขายคนหนึ่ง ไม่เป็นไร เขาทำได้ก็ดีทำไม่ได้ก็ดี ฉันต้องให้โอกาสเขา
3 ปี ที่เพียงพิศอยู่กับฉัน เพียงพิศได้พิสูจน์ความเป็นคนดีของเธอให้ฉันเห้น เธอขยัน เธอดูแลผลประโยชน์ของฉันเต็มที่ แม้บางครั้งจะมากเกินความพอดีจนฉันต้องคอยปรามฉันไม่เคยผิดหวังที่ช่วยเธอไว้ ยิ่งฉันไม่เคยคาดหวังว่า เขาจะตอบแทนฉันได้มากขนาดนี้ ฉันยิ่งได้รับ ฉันคิดว่า นี่คือเจตนาดีที่ฉันมีให้เธอเจตนาที่หวังดีอยากให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ได้หวังว่าเธอจะทำให้ฉันได้แค่ใหน หวังเพียงว่า ค่าแรงเพียงน้อยนิดที่ฉันให้เธอจะสามารถช่วยให้เธอดำรงชีพอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งคนอื่นอีก วันนี้ ฉันดีใจ ที่ฉันสามารถสร้างให้คนๆ หนึ่ง เปล่งประกายความสามารถในตัวของเขาออกมาเต็มที่ เธอช่วยฉันได้มากเหลือเกิน เธอมีความสามารถ
จากนี้ไปจะไม่มีใครกล้าดูถูกเธอีกแล้ว เพียงพิศผู้เคยน่าสงสาร