คืนนั้น

สองร่าง

บรรยากาศของค่ำคืนในร้านอาหารแบบโอเพ่นแอร์ ที่ดูโปร่งโล่งและสบาย แต่ภายในจิตใจของผมตอนนี้มันกลับไม่โปร่งโล่งเหมือนบรรยายกาศภายในร้าน คืนนี้เป็นอีกคืนที่ผมรู้สึกเหงาอย่างประหลาด และสถานที่แห่งนี้เองที่ผมเลือกเป็นที่พักใจ และปล่อยให้ความเหงามันกัดกินใจผมอย่างนี้ต่อไป แปลกนะที่เวลาเหงา หรือเศร้า พอเราได้ฟังเพลงอะไรก็ตาม ไม่ว่าเนื้อหาจะเกี่ยวกับรักที่สมหวังหรืออกหัก มันกลับกระทบจิตใจของผมอย่างแรง เหมือนกับว่านักประพันธ์เพลงทุกเพลงทุกคนบนโลก จะแต่งเพลงเหล่านี้ให้กับผมโดยเฉพาะ
เสียงเพลงจากดีเจจบลงพร้อมน้ำเสียงที่หนักแน่นแต่ฟังดูนุ่มสบายของดีเจหนุ่มคนนั้น ส่งต่อหน้าที่ให้กับนักร้องหนุ่มที่มีน้ำเสียงไพเราะและร้องเพลงสดได้อย่างน่าฟัง แต่นั่นไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกวูบวาบได้เท่ากับมือกีตาร์ของเขา ใบหน้าที่ใสราวกับว่าเคลือบไว้ด้วยเรซิ่น คาดการณ์จากระยะไกลขนาดนี้อายุอานามคงประมาณยี่สิบต้นๆ เท่านั้น นัยตาที่ฉ่ำหวานอยู่ในที และลีลาการเล่นกีตาร์โปร่งของเขามันทำให้ผมตกอยู่ในพวังค์ อย่า ผมขอร้องเขาอยู่ในใจ และภาวนาขออย่าให้เขาหันมาสบตากับผมเลย เพราะผมเองไม่อาจจะซ่อนแววตาที่สื่อให้เขารู้ได้ว่าผมสนใจเขาเข้าแล้วอย่างจัง 
น้ำแข็ง โซดา และสุรา ถูกรินลงในแก้วตามด้วยเสียงที่เกิดจากการใช้อุปกรณ์บางอย่างคนเพื่อให้สุรานั้นเคล้ากันจนให้รสชาดที่จะนำมาซึ่งความเมาในที่สุด แก้วแล้ว แก้วเล่าที่ผมนั่งดื่มอยู่คนเดียว กับแกล้มบนโต๊ะ ไม่มีความหมายกับผมอีกต่อไป ไม่ใช่เพราะผมอิ่ม เพียงแต่ว่าสุรายิ่งให้รสชาดและอารมณ์ที่พรุ่งพร่านมากยิ่งขึ้นเมื่อมีอาหารตาให้ผมนั่งมองแทนกับแกล้มบนโต๊ะเหล้านั้น ผมยอมรับว่าอารมณ์เตลิดไปไกล ผมนั่งมองเด็กหนุ่มที่เล่นกีตาร์ราวกับว่าเค้าไม่ได้ใส่เสื้อผ้าหรืออาภรณ์ใด อะไรกันที่ทำให้ผมรู้สึกไปกับเขาได้ขนาดนั้นทั้งที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน นี่มันคือรัก ประทับใจ หรือเรียกว่าความใคร่กันแน่ แล้วถ้ามันเป็นเพียงความใคร่ ทำอย่างไรความอยากนั้นจะได้รับการตอบสนองล่ะ สุราอีกแก้วไหลผ่านลำคอผมอย่างรวดเร็วหลังจากความคิดของผมเริ่มไปไกลเกินความจริงที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า
เสียงเพลงเศร้าๆ ที่คุ้นหูของศิลปินที่ขับกล่อมอยู่บนเวทีดังขึ้น พร้อมกับความเจ็บปวดที่ประดังเข้ามาทิ่มแทงใจอย่างไร้ซึ่งความปราณี ความคิดเก่าๆ ย้อนกลับเข้ามาเติมเพิ่มความเจ็บปวดให้รวดร้าวหนักยิ่งขึ้น ใคร จะมีใครมั๊ยที่เจ็บและทรมานใจอย่างผมในตอนนี้ ผมไม่ต้องการใครเป็นเพื่อนคุย เพราะไม่อยากจะเสแสร้งว่าผมสบายดี ผมไม่ได้เป็นอะไรทั้งที่ในใจมันหมดความอดกลั้นและไม่เหลือพื้นที่ให้กับความสุขใดๆ อีกแล้ว  เพลงแล้วเพลงเล่าที่ทิ่มแทงจนใจผมยับเยิน จนแทบจะหมดแรงที่จะทำให้มันเต้นต่อไปได้อีก น้ำตาเริ่มคลอจนเป็นเงาประกายแวววาว แต่แล้วผมก็ยิ้มขึ้นมาได้ มันแปลกนะกับการที่ต้องเจ็บปวดเพราะความรัก อกหักใจสลาย แต่เมื่อความเจ็บปวดมันพุ่งขึ้นถึงขีดสุด ผมก็เริ่มรู้สึกว่าชีวิตมันก็เป็นเช่นนี้เอง อย่างน้อยผมก็เคยมีความรัก มีความสุขกับคนที่ผมรัก และความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นถึงแม้ว่ารักของผมจะร้างลาไปแล้ว แต่มันก็เป็นเหมือนความทรงจำจางๆ ที่ทำให้ผมได้นึกถึงคนที่ผมรักมากที่สุด บางครั้งความเจ็บปวดมันก็ทำให้เรายิ้มได้เหมือนกัน....				
comments powered by Disqus
  • จอมเจือก

    14 ธันวาคม 2549 13:55 น. - comment id 94291

    สงสัยจะเป็นเเอบ งะ38.gif
  • สองร่าง

    14 ธันวาคม 2549 14:01 น. - comment id 94292

    ไม่ต้องสงสัยเลยครับ 5530.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน