บทที่ ๓๒ เสวยสวรรค์ราชสมบัตินาครินทนาคร ว่าเอ็งห้ามเปิดโดยเด็ดขาดหากข้าคนของข้ายังไม่ไป ยกเว้นเข้าและป้าตลอดคน ทั้งหลายของข้าได้กลับไปแล้ว นั่นแหละเอ็งถึงจะเปิดดูสิ่งของภายในได้ อย่าลืมเสียล่ะ” พระองค์ทรงรับสั่งกำชับไอ้เจนไว้เป็นมั่นเป็นเหมาะ เมื่อไอ้เจนรับสิ่งของมาแล้วก็ชักชวน ให้พระองค์และเจ้าหญิงกับทหารทั้งหลายให้มาร่วมกันกินข้าวด้วยกัน แต่พระองค์ทรงปฏิเสธบอกว่าจะกลับแล้ว ไม่ต้องห่วงในเรื่องเหล่านี้ ทางฝ่ายไอ้เจนและไอ้จ้อยตลอดลูกสะใภ้นึกว่าพระองค์จะเดินทางกลับกรุงเทพ “ อ้าวปู่จะไม่ค้างคืนก่อนหรือ รถเข้ากรุงเทพไม่มีแล้วหมดเวลามันแล้ว ต้องคอยเป็นพรุ่งนี้ตอนสายๆถึงจะมีรถออกจากหมู่บ้านไปที่ท่ารถต่อเข้ากรุงเทพจ๊ะ หากปู่และป้าจะกลับจริงๆ ข้าก็จะไปหาเพื่อให้มันเอารถของมันออกมารับ ไปส่งปู่ที่ท่ารถให้จ๊ะ” องค์ทัศยุราชันย์ทรงพระสรวล แล้วทรงตรัสว่า “ไม่เป็นหรอกไอ้เจนเอ๋ย ปู่มาได้ก็กลับได้ แต่อย่าลืมล่ะดูแลพ่อเอ็ง ให้ดีๆนะปู่เป็นห่วงมันมากเลี้ยงดูมันตั้งแต่นอนแบเบาะ ตอนนี้ไม่มีเวลามาดูแล ไม่ใช่ลูกก็เหมือนลูก แม่มันทิ้งไปตั้งแต่เล็กๆ พ่อมันก็หายสาบสูญไปตั้งนมนาน ไม่ได้ข่าวคราวเลยป่านนี้คงจะตายไปแล้วล่ะ เออเอ็งเป็นหูเป็นตาแทนปู่ด้วยนะ เพราะปู่ต้องไปไกลมากพวกเอ็งไปหาไม่ได้หรอกแล้วก็ไปไม่ได้เสียด้วย” แล้วพระองค์ทรงหันมาทางไอ้จ้อยพลางตรัสขึ้นว่า “ไอ้จ้อย ในห่อนั้นมีสมุนไพรให้มึงเวลาเจ็บไข้ได้ป่วย ให้เอามาเล็กน้อย มาฝนกับน้ำค้าง เอ็งควรรองเก็บเอาไว้ใช้ในคราวจำเป็น แล้วเอามากิน ห้ามนำมาใช้สุ่มสี่สุ่มห้านะหมดไปก็หาไม่ได้อีกแล้ว ส่วนของที่มอบให้ เอาไปแลกมาเลี้ยงชีพให้หลานๆมันจะได้ดีกว่าเป็นอยู่นี้ นี่ก็ได้เวลาแล้วที่ข้าควรต้องไป ไม่รู้ว่าจะมาเยี่ยมเอ็งได้อีกหรือเปล่านะ คิดถึงข้าก็เอาของที่ข้าให้ไว้มีบางอย่างไม่ต้องเอาไปขาย เพราะเป็นของสำคัญ เก็บไว้คุ้มครองป้องกันเอ็งและลูกหลานจะไม่มีอันตรายมากล้ำกรายเอ็งได้ เพียงเอ็งเก็บไว้ในที่สูงๆก็จะคุ้มครองได้แล้วหากเวลาจะออกนอกบ้าน ให้บอกกล่าวกับเขาก็พอเขาก็จะคอยปกป้องเอ็งและลูกหลาน อย่าลืมจำคำของข้าล่ะ” พระองค์ทรงตรัสสั่งกำชับ “จ๊ะลุง เพียงเป็นของลุง ไอ้จ้อยก็ชื่นใจแล้วจะเก็บรักษาไว้” แล้วหันไปทางลูกแก “ส่วน มึงก็เหมือนกันไอ้เจนหากกูยังไม่ตายมึงห้ามขายของปู่มึงโดยเด็ดขาด” พร้อมกล่าวแล้วไอ้จ้อยก็ก้มลงกราบองค์ทัศยุราชันย์ทันที ด้วยความรักและเคารพยิ่ง อาการสั่นเทาไปตามร่างกาย พระองค์ทรงตรัสว่า “เมื่อข้ากลับไปแล้วไอ้จ้อยมึงก็เอาสมุนไพรที่กูให้ไว้ มากินสักแค่องคุลีนิ้วแล้วกลืนกับน้ำลายมึงก็ได้ อย่าลืมคำกูเสียล่ะ” “จ๊ะลุง ลุงสั่งอย่างไรไอ้จ้อยเชื่อฟังหมดจ๊ะ” ชายชรากล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ “อ้อๆ ของอื่นๆขายได้นะไอ้เจน ยกเว้นมีของสิ่งหนึ่งซึ่งผิดแผก ไม่เหมือนของอื่นๆทั้งสิ้น แล้วมึงก็จะเห็นเองแหละส่วนอื่นๆขายเอามาใช้เลี้ยงดูกัน อีกชิ้นมึงเก็บไว้ในที่สูงจะได้คุ้มครองปกป้องภัยให้แก่พวกมึง อย่าลืมเสียล่ะ แล้วสมุนไพรนั้นก็ให้เก็บรักษาไว้ให้ดีมันไม่มีวันสลาย ไปหรอก เวลาลูกหลานเป็นอะไรให้ใช้ฝนกับน้ำค้างเท่านั้นกินก็จะหายเจ็บไข้ รักษาได้สารพัดโรคนะมึง พอกูไปแล้วไอ้เจนเอาให้พ่อมึงกินด้วยตามที่สั่งไว้” พระองค์กำชับกลัวลืม ครั้นได้เวลาพอสมควร พระองค์ก่อนที่จะกลับให้นึกสงสารไอ้เจนพลางหัน ไปทางไอ้เจนและเมียมัน เรียกให้เข้ามาใกล้ๆ แล้วพระองค์ทรงหลับพระเนตร ตบลงบนศีรษะทั้งสองเบาๆทันที ปรากฏร่างกายหญิงชายพากันสะดุ้งสุดตัว ทำให้ไอ้เจนและอีกสร้อยมีความรู้สึกว่าร่างกายช่างเบาหวิวและก่อเกิด พลังอย่างหนึ่งแผ่ซ่านไปทั่วๆรอบร่างกายความอ่อนล้าอันตรธานหายสิ้น สายตารู้สึกว่าสว่างไสวผิดปกติขึ้นมาในทันที ทั้งสองรีบก้มลงกราบปู่ ด้วยความเคารพยิ่ง พลางคิดว่าปู่นี้คงจะมีวิชาอาคมมอบให้แน่นอนมิฉะนั้น ร่างกายของตนคงไม่รู้สึกเกิดผิดปกตินี้ขึ้นได้ ครั้นแล้วพระองค์ทรงหัน ไปทางไอ้จ้อย พลางลูบศีรษะเบาๆกล่าวคำอวยพรให้อยู่เย็นเป็นสุข อายุมั่นขวัญยืน จงพ้นจากเจ็บไข้ได้ป่วยโรคภัยทั้งสิ้น ไอ้จ้อยร้องไห้ทันที เมื่อรู้ว่าลุงที่มันรักเคารพมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยจะต้องจากไปอีกครั้งแล้ว น้ำตาชายแก่หลั่งไหลมิหยุดสิ้น สะอึกสะอื้นตลอดเวลาตรงเข้ากอดรัด องค์ทัศยุราชันย์มิยอมปล่อยวาง จนพระองค์ต้องเกาะมือออกแล้วทรงตรัสว่า “จ้อยเอ๋ยสิ่งใดได้มา สิ่งนั้นย่อมหลุดสิ้นสลายไปตามกาลเวลานะจ้อย สิ่งทั้งหลายมิได้จีรังยั่งยืนหรอก มันเป็นวัฏฏะจักรเวรกรรมของมนุษย์เรา เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ตั้งอยู่ เมื่อตั้งอยู่แล้วก็ต้องเปลี่ยนแปลง เมื่อเปลี่ยนแปลงแล้ว ก็สิ้นสลายไปทุกรูปหมู่นามหรอก หาได้เป็นอมตะไปสิ้นเว้นไว้แต่สามารถ สร้างในสิ่งบางอย่างเพื่อคุ้มครองหลุดพ้นจากกิเลสของมนุษย์แล้วเท่านั้น ถึงจะสามารถเอาตัวรอดพ้นจากเวรกรรมนี้ได้ มันเป็นอนิจจัง ทุกขังและ อนัตตาตามคำพระดำรัสขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกรูปทุกนามแหละ ฉะนั้นเอ็งจงละเสียวางเสียในสิ่งที่ควรวางอย่าได้เกิดความคิดไปในทาง โลภ โกรธ หลง พะวงอยู่ในหมู่ตัณหาที่มันรบกวนจิตใจของเอ็งทุกๆเสี้ยววินาที มิยอมให้จิตเอ็งพักผ่อนรวมตัวกันได้ หากเอ็งเชื่อข้าจงหมั่นประกอบความดี สร้างแต่ในทางผลบุญทานละเว้นในทางโลภได้ประการหนึ่งจิตเอ็งก็จะผ่อน คลายลงได้บ้าง หมั่นถือศีลภาวนาเพื่อชำระล้างจิตที่เอ็งประกอบเอาไว้จะได้ ผ่อนคลายลงเสียบ้าง แต่ข้าเลี้ยงเอ็งมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยย่อมเข้าใจจิตเอ็งได้ดี เห็นว่าเอ็งนั้นจิตใจผ่องใสยิ่งนักสะอาดบริสุทธิ์จะมีบ้างก็เพียงแค่เศษธุลีผง หากมาดแม้นเอ็งทำตามที่ข้าสั่งไว้ ไม่ช้าหรอกเอ็งจะพบทางสุขคติที่สมควร ไปแล้วบางทีเอ็งอาจจะได้ไปอยู่รวมกับข้าก็ได้ เอ็งจำคำของข้าไว้ให้ดีนะ หากทำตามที่ข้าสั่งนี้ ข้าคิดว่าไม่ช้าไม่นานหรอกเอ็งคงได้ไปอยู่รวมกับข้า ตามที่เอ็ง พึงปรารถนาทุกประการแล้วพระองค์ก็ทรงตบเบาเตือนสติมิให้ ชายชราที่กำลังสะอื้นร่ำไห้ อยู่ ครั้นชายชราได้รับฟังคำกล่าวทั้งหมดก็ ให้รู้สึกซาบซ่านผ่านเข้าสู่จิตใจทันที ให้รู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจอย่างไรพิกล รำลึกนึกถึงคำสั่งสอนให้ไว้จดจำมิให้ตกหล่นหายไปไหนเสียได้ ครั้นเมื่อได้ เวลา องค์ท่านท้าวทัศยุราชันย์ก็ทรงลุกพระวรกายยืนขึ้น ทรงหันไปยิ้มกับ เจ้าหญิงทั้งสามแล้วออกทอดพระบาทล่วงหน้าติดตามด้วยเจ้าหญิงและ เหล่าทหารหญิงทั้งหมดก้าวพ้นออกจากอาณาเขตบ้านทันที พอพ้นสายตา ก็ทรงคืนร่างพระวรกายคืนกลับเป็นองค์ทัศยุราชันย์และเจ้าหญิงทั้งสามพร้อม ด้วยเหล่าทหารหญิงพากันเหาะกลับไปยังนาครินทนาครทันที ครั้นองค์ทัศยุราชันย์พร้อมด้วยเจ้าหญิงและเหล่าบริวารกับไปแล้ว นายเจนก็แก้ห่อผ้าดูสิ่งของที่ปู่มอบหมายเพื่อจะเอาสมุนไพรมาให้พ่อได้กิน ทุกๆคนก็ตกตะลึงพึงเพริศไปตามๆกัน เพราะสิ่งของนอกจากสมุนไพร ซึ่งไม่เคยพบเห็นในดินแดนแถบนี้แล้ว ก็ประกอบไปด้วยเพชรนิลจินดามณี ต่างๆส่งประกายสดใสแวววาวตลอดจนทองคำเป็นแท่งๆเหลืองอร่าม มากมายนักจัดเรียงไว้เป็นระเบียบมิได้ปะปนกันโดยแยกเป็นสัดส่วน มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนและแปลกกว่าใดๆทั้งสิ้นส่งแสงประกายเจิดจ้า สว่างไสวไปทั้งบริเวณ เป็นรูปดาวเจ็ดแฉกปลายของดาวนี้เป็นรูปดาว ดวงเล็กทั้งเจ็ดมุมตรงกลางเป็นดาวขนาดใหญ่มีวงกลมภายในดาวเห็น เป็นรูปสัตว์ต่างๆผิดแผกกับสัตว์ที่เคยเห็นมาคล้ายๆคชสีห์ ราชสีห์ หงส์ทอง พระยานาค วานร ปักษียักษ์ และบรรดาอาวุธต่างๆเล็กๆกำลัง ลอยละล่องในหมู่เมฆหมุนเวียนสลับเปลี่ยนเวียนวนไปมาภายในรูปวงกลม วัตถุนี้มีฐานทองคำประดับด้วยเพชรนิลจินดาเป็นประกายวูบวาบเรืองรอง รองรับวัตถุนี้ไว้ลวดลายช่างสวยงามวิจิตรตระการตายิ่งนัก สิ่งนี่เองที่ปู่ทัด คงจะแจ้งไว้ ทั้งหมดพลางยกขึ้นจบเหนือหัวทันที ปรากฏเหตุพิสดารเกิด ขึ้นทันทีมีกระแสคล้ายประกายไฟฟ้าพุ่งเข้าสู่ร่างจนสะท้านไปทั่วทั้งสาม ที่ต่างได้ยกขึ้นไว้บนศีรษะ ด้วยความศรัทธาพลางก้มลงกราบสิ่งนี้ทันที ไอ้เจนก็รีบนำเอาสมุนไพรมาหักตามที่ปู่ทัดสั่งไว้ส่งให้พ่อจ้อยกิน พอตัว ยาตกลงสู่ท้องนายจ้อยก็เกิดอาการสะท้านไปทั่วร่างกระตุกไปมาทั่วตัว จนไอ้เจนและอีสร้อยพากันตระหนกตกใจร้องกันลั่น แต่สักครู่หนึ่งร่าง ของพ่อจ้อยก็ค่อยๆผ่อนคลายลง อาการที่เกิดขึ้นสร้างสิ่งมหัศจรรย์แทบ ไม่น่าเชื่อร่างของพ่อที่เคยโก่งงอคุ้มตลอดเวลากับยึดร่างตรงได้ราวอัศจรรย์ พลางสะบัดแขนขาได้คล่องแคล่วว่องไว้กับราวมีพลังหนุนเสริมดังคนหนุ่ม ก็มิปาน ทำเอาไอ้จ้อยและภรรยาพากันตาเบิกค้างงวยงงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำเนียงพ่อที่กล่าวก็แปรเปลี่ยนสิ้นเชิงกลับเหมือนสำเนียงของคนวัยกลางคน มิได้สั่นเครือเหมือนแต่ครั้งเก่าก่อน พลางได้ยินพ่อจ้อยคอย พร่ำรำพันเสียงดัง “ลุงกูเป็นเทวดาแน่เลยไอ้เจนอีสร้อย หากมิฉะนั้นร่างกูคงจะไม่เป็นดังนี้” พร้อมส่งเสียงหัวร่อด้วยความยินดี มึงไอ้เจนไปดูซิว่าลุงกูไปถึงไหนแล้ว ไอ้เจนได้ฟังดูก็อยากรู้ความวิ่งหายไปสักพักกลับมาด้วยเหงื่อท่วมตัวพลางพูดว่า “ไม่รู้ปู่หายไปไหนแล้วไม่มีร่องรอยเหลือไว้เลยจ๊ะ “ ไอ้เจนรายงาน “นั่นซิกูก็ต้องว่าอย่างนั้นมิฉะนั้นกูคงไม่เป็นอย่างนี้แน่เลย แล้วมึงมันก็เคย เป็นพรานเก่าถิ่นทางแถวนี้ชำนาญยิ่งการแกะรอยแล้วกูเชื่อมึง” พ่อเฒ่ากล่าว “กูเองก่อนก็สงสัยอยู่เชียว รูปร่างปู่เอ็งมันช่างมีราศีผิดคนธรรมดาถึงจะ แต่งตัวเหมือนแบบพวกเราแต่ก็มิอาจปิดบังราศีได้ “ชายชรารำพึงพร้อมก้มลงกราบ ชายหนุ่มหญิงสาวเห็นก็ทำตามทันที ตั้งแต่นั้นมานายจ้อยก็หมั่นทำบุญรักษาศีล นั่งภาวนาทำสมาธิไหว้พระสวดมนต์แผ่กุศลให้กับลุงและป้าและสัตว์อื่นๆมิได้ขาด ด้วยเชื่อคำสั่งเสียของลุงอย่างยึดมั่นถือมั่นแม้แต่ลูกแกและลูกสะใภ้ก็ปฏิบัติเยี่ยงแก เลิกทำความชั่วทั้งปวงประพฤติตนอยู่ในศีลห้าอย่างเคร่งครัด ช่วยเหลือเผื่อแผ่ ให้ทานคนด้อยกว่า ขยันหมั่นเพียรสร้างแต่ความดีใช้จ่ายสินทรัพย์ ในทางอดออม ขวนขวายหาสินทรัพย์ในทางสุจริตจนเกิดความเจริญรุ่งเรือง มั่งคั่ง ร่ำรวยทันตาเห็น โดยที่มิได้เกี่ยวกับสิ่งของที่ให้ไว้แต่ประการใด ต่างถือว่าเป็นของที่เทพยาดานำมาให้ คงเฝ้าเก็บรักษาไว้บูชาทุกๆวันมิได้ขาด เพียงแต่คำนึงถึงว่าจะได้มีโอกาสไปพบลุง กับปู่ดังที่เคยพบเห็นมาแล้วและต่างเล่าให้ลูกๆหลานๆฟังเป็นตำนานมาตราบเท่าทุกวันนี้ เมื่อท่านท้าวองค์ทัศยุราชันย์และพระองค์หญิงดาริกาเจ้าหญิงมณีกานต์และเจ้าหญิง ปทุมวดีพร้อมเหล่าทหารหญิงครั้นเสด็จถึงยังพระนครเรียบร้อยแล้วก็ทรงประกาศแต่งตั้ง เจ้าหญิงดาริกาเป็นพระอัครมเหสีฝ่ายขวา เจ้าหญิงมณีกานต์เป็นพระอัครมเหสีฝ่ายซ้าย เจ้าหญิงปทุมวดีเป็นพระอัครชายา และท่านมหาราชครูสิริปัญญาเป็นพระชนกนาถ โดยประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งตลอดจนทรงเฉลิมฉลองสมโภชงานนี้ อย่างมโหฬาร มีแขกต่างเมืองมากันมากมาย ดั่งพระยุพราชสิงหะฤทธากับเจ้าหญิงเฌอมาลย์ พระมเหสีในพระองค์ พระยุพราชโกเมศกุมารกับเจ้าหญิงอรุณรัศมีพระมเหสีในพระองค์ พระยุพราชวานนรินทร์กับเจ้าหญิงอุทัยเทวีพระมเหสีในพระองค์ เจ้าชายอหิงสากุมารทรงขึ้น เป็นกษัตริย์แห่งเมืองอหิงสากะนคร เจ้าชายนิละกาสูรย์ทรงขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งเมืองกาฬคีรีนคร ต่างเป็นพระสหายรักขององค์ท้าวทัศยุราชันย์ และเจ้าเมืองทั้งหลายต่างๆ ส่วนเจ้าหญิงทั้งหมด ทรงจับกลุ่มสนทนากันอย่างมีความสุขเกษมสำราญยิ่งนัก ส่วนเจ้าชายทั้งยุพราชและกษัตริย์ต่าง สนทนาวิสาสะล้วนถูกพระอัชฌาสัยกันถึงกับทรงพระสรวลเกษมสำราญเป็นที่ครื้นเครง กระเซ้าเย้าแหย่ถึงเจ้าหญิงต่างๆอย่างสนุกสนานพระราชหฤทัยจนไม่อยากจะลาจากกัน เมื่อสิ้นสุดงานเฉลิมฉลอง ต่างพระองค์ก็ทรงทูลลาท่านท้าวเธอเสด็จกลับพระนครไป องค์ท่านท้าวทัศยุราชันย์ก็ทรงมั่นคงต่อเจ้าหญิงทั้งสามยิ่งนักมิได้ใฝ่หาหญิงใดๆมาเป็นพระชายา และพระสนมอื่นอีกแต่ประการใดก็หาไม่ ล้วนทรงหมั่นดูแลเพียรเฝ้าปกครองเหล่าอาณาเขต ชาวอาณาประชาราษฎร์ให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ปราศจากภัยพิบัติทั้งปวงเป็นที่พระเกษมสำราญ พระราชหฤทัยองค์ทัศยุราชันย์และเจ้าหญิงทั้งสามพระองค์อย่างยิ่ง ทรงบังเกิดพระราชบุตร พระราชธิดากับทุกๆพระองค์หญิง ทรงพระร่วมทุกข์ร่วมสุขกันไปตราบพระชนม์ชีพนิจนิรันดรฯ “ จบบริบูรณ์ ” บทส่งท้าย.....สิ่งที่บังเกิดเป็นความโลภ ความโกรธ และความหลง อันซึ่งเป็นสิ่งที่ ไม่บังควรจะได้หากได้มาโดยมิชอบด้วยเหตุใดๆ หรืออาจได้มาเองนั้นย่อมทำให้เป็น ที่เดือดเนื้อร้อนใจไม่มีวันสิ้นสุดเกิดขึ้นได้ สิ่งนั้นย่อมผันแปรเปลี่ยนไปมิเกิดสันติสุข ดูดั่งท่านท้าวนิลกาฬและเหล่ากษัตริย์บางนคร ซึ่งพระองค์มีพร้อมในทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง ทั้ง ยศถาบรรดาศักดิ์ เกียรติยศชื่อเสียงตลอดจนอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์มากมาย ไพร่พลมาก ยากยิ่งจะหาผู้ใดทัดเทียมได้ เป็นที่เกรงกลัวของเหล่าแว่นแคว้นอาณาเขตต่างๆ แต่ด้วยเพียงแค่เกิดความโลภในสิ่งอันมิควรจะได้มาจนต้องเกิดความเดือดร้อนระทม ทุกข์หาความสุขมิได้ตลอดเวลาแล้วยังต้องเส้นสังเวยสิ้นชีวิตตกตายไป มิสมดังเจตนารมณ์ จนต้องสูญสิ้นเกือบทุกๆอย่างไป แล้วเหตุไฉนใยพวกเราล่ะจะประพฤติปฏิบัติตนอย่างไร เพื่อใช้เป็นหลักเข้ายึดเหนี่ยวจิตใจไว้เพื่อให้พ้นจากความโลภ โกรธ และหลงนี้ เพียงพอแล้ว หรือที่จะปล่อยชีวิตในการดำรงชีพอยู่นี้ให้ล่องลอยไปในกระแสกรรมนั้นๆ จะหาอะไรบ้างละ ให้เพียงพอที่จะใช้ยึดมั่นเป็นหลักค้ำประกันแก่พวกเราได้บ้างดั่งเทพนิยายเรื่องนี้ ขอได้โปรดมีสติพิจารณาไตร่ตรองให้ดี ดั่งตัวละครในเรื่องนี้ที่ใช้ชีวิตโลดแล่นไปตาม อำเภอน้ำใจของแต่ละตัวละคร หลงใหลในสิ่งที่กล่าวมานี้บ้าง หยุดยั้งเพียงพอบ้าง อัน “เทพนิยาย” เรื่องนี้ข้าพเจ้ามาดแม้นมิได้สอดแทรกไว้มากนัก เพียงให้คิดเองเพื่อเน้น เนื้อหาสาระรสชาติของเนื้อเรื่อง แค่ให้สนุกเพลิดเพลินบันเทิงใจเท่านั้น เพียงแค่ปรารถนา ให้ผู้อ่านทุกๆคนได้สนุกสนานไตร่ตรองขบคิดกันเอาเอง ไม่ต้องการให้คิดมากมายอะไรนัก ย่อมต้องขาดตกบกพร่องบางสิ่งบางอย่างไปบ้าง ด้วยรวบรัดเนื้อเรื่องมากเกินไปให้กะทัดรัด เน้นเนื้อหาสาระมิได้เน้นเนื้อหาคำพูดแต่ประการใดไม่ ฉะนั้นจึงมีสิ่งที่ขาดตกบกพร่องเกิดขึ้นได้ เพราะเนื้อหาคำพูดแล้วย่อมสามารถสอดแทรก บางสิ่งบางอย่างได้อย่างมากมาย กรณีนี้ผู้เขียนเอง ก็รู้เพียงแค่เล็กๆน้อยๆดุจปลาเล็กปลาน้อย ปลาซิวปลาสร้อยในกระชัง หาสามารถจับปลาใหญ่ในแม่น้ำท้องทะเลมหาสมุทรอย่างไรได้ ยิ่งกริ่งเกรงกลัวจะทำให้เกิดความผิดพลาดมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นแค่ความคิดจินตนาจิตตัวเอง อีกประการหนึ่งเรื่องนี้ที่จริงแล้วควรจะเป็นเนื้อเรื่องที่ยาวมากไม่เหมาะกับคอลัมน์ที่ว่า เป็นเรื่องสั้นหากจะคิดแต่งเขียนขึ้นมากกว่านี้อีกก็เกรงใจเจ้าของคอลัมน์นี้จะเกลียดชังว่ากล่าวได้ จึงคิดเพียงแค่รวบรัดเท่าที่ข้าพเจ้าจะทำได้ หากมีกรณีใดที่ผิดพลาดเกิดขึ้นในเรื่องราวเหล่านี้ จำต้องขออภัยไว้ใน ณ ที่นี้ด้วย งานเขียนนี้ก่อเกิดจากเรื่องสั้นๆก่อนแล้วค่อยมาเป็นเรื่องยาวๆ ในเทพนิยายนี้ จึงได้ทดลองเขียนดูเพราะเห็นว่ามีผู้เข้ามาอ่านชมดูพอประมาณ เมื่อเขียนขึ้นแล้ว ครั้นจะวางมือเสียไปทำงานด้านอื่นก็เกิดความเสียดายในความคิดอ่าน จึงต้องทนๆเขียนให้จบเรื่อง ซึ่งชื่อ*ทัศยุราชันย์*เทพนิยายเรื่องนี้ ข้าพเจ้าตั้งใจไว้ในชื่อนี้แล้วตั้งแต่ ครั้งแรก เพียงเพื่อ ข้าพเจ้าทดลองใช้ชื่อเรื่องว่า *เธออยู่ไหน* เพราะเป็นความฝันของหนุ่ม ทัด ทัดบ้านป่าก่อน ต่อมาได้ดัดแปลงเปลี่ยนไปตามเนื้อหาของเรื่องนี้จนเหมาะสมกว่าชื่อเดิม จึงได้เปลี่ยนชื่อถาวร ทัศยุราชันย์เทพนิยายเป็นการเขียนเรื่องแรกในชีวิตของข้าพเจ้าที่ได้ทดลองขึ้นตามจินตนาการ ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างนั้นล้วนแล้วแต่ก่อเกิดสร้างสรรค์ขึ้นจากภายในใจของข้าพเจ้าทั้งสิ้นมิมีอื่นใด แม้แต่ชื่อของตัวละครจะมีบ้างแต่ได้เกริ่นขออนุญาตไว้แล้วนอกนั้นข้าพเจ้าตั้งขึ้นเองประดิษฐ์ค้น คิดตามสถานการณ์ในเนื้อเรื่องเป็นหลักสำคัญ แต่ก็พยายามอย่างยิ่งมิให้ซ้ำกับชื่อของบุคคลใดๆ อาจจะมีบ้างคิดว่าคงจะมีเล็กๆน้อยๆเท่านั้นที่ผู้เขียนคาดคิดมิถึง ผู้อ่านก็มิได้ทักท้วงติงประการใด หากเกิดซ้ำก็ขอกราบประทานอภัยแก่ข้าพเจ้าด้วย ที่ได้จาบจ้วงโดยมิได้มีเจตนาจะลบหลู่หรือ กระทำการอันใดๆให้บังเกิดความเสียหายเกิดขึ้นแก่ท่านทั้งหลายได้ ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่ได้ผ่านอ่านชมดูผลงานของข้าพเจ้า หากมาดแม้นมีสิ่งใดผิดพลาด สามารถมาติชมได้ทุกประการ กรุณาแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบด้วยจักเป็นพระคุณยิ่ง ด้วยความเคารพนับถืออย่างยิ่งขอรับทุกๆท่าน ขอบคุณ...สวัสดีครับ. *** แก้วประเสริฐ. *** เขียนเรื่องจบ เมื่อ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ เวลา ๑๖.๐๐ นาฬิกา.
ขอปิดฉาก เทพนิยายเรื่อง "ทัศยุราชันย์" พร้อมบทส่งท้ายที่นาคิดนักขอรับ... ภาพประกอบของคุณ เฌอมาลย์ขอรับท่าน...แก้วประเสริฐ.
10 ธันวาคม 2549 23:10 น. - comment id 94214
ความโลภ ความโกรธ และความหลง นำมาซึ่งความทุกข์ เกิดการแก่งแย่ง เห็นแก่ตัว ไม่มีความพอดีเลยนะคะ เราควรรู้จักคำว่าพอเพียงและปฏิบัติตนให้เพียงพอ แต่เฌอ สงสัยค่ะว่าท่านท้าวองค์ทัศยุราชันย์ ทำไมมีมเหสีหลายพระองค์จัง อิอิ แบบนี้เรียกว่าโลภหรือเจ้าชู้คะ อิอิ เฌอ บาปปากไหมคะเนี่ย
11 ธันวาคม 2549 07:35 น. - comment id 94215
คุณ เฌอมาลย์ เทพนิยายเรื่องนี้จบลงเสียทีครับ สมควรแล้ว ที่คุณนั้นร่วมปิดฉากด้วยกัน เพราะเราสองก็ร่วมมือ กันมาตลอดนี่ครับขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
11 ธันวาคม 2549 07:56 น. - comment id 94216
คุณ เฌอมาลย์ ครับเป็นความคิดถึงถูกต้องทีเดียว การรู้จัก ประมาณตนเองนั่นแหละสามารถช่วยขจัดปัญหาลง ได้แยะเชียว ผมเองก็ถือปฏิบัติเช่นกันก็สามารถ ลดลงได้แยะเชียวครับ ที่คุณสงสัยนั้นขออารมภบท หน่อยนะครับคือว่า ซึ่งเป็นเพียงชาติก่อนของทัศยุ ราชันย์ที่มีพระมเหสี ชายาและสนมมากมายนักเกิด จากจ้าวต่างเมืองต่างยกลูกสาวมาให้เพราะทั้งหวัง ในสิ่งที่ตนต้องการคือน้ำอำมฤตนั้น แต่มิได้ดัง ใจสมปรารถนาจนเกิดความปั่นป่วนขึ้นมากมาย จนทำให้องค์ทัศยุราชันย์ต้องดับพระชนม์ชีพใน ธารน้ำอันศักดิ์สิทธิ์แล้วมากำเนิดใหม่ในมนุษย์ คือ ทัด ทัดบ้านป่าไงล่ะครับ เมื่อเป็นมนุษย์อัน แท้จริงก็หาได้มีภรรยาไม่ คงตั้งใจเลี้ยงดูอบรม ให้แก่จ้อยหลานที่เป็นมรดกจากพี่ชาย จนเกิด อุทกภัยตามชาตาฟ้าลิขิตมาสู่ดินแดนกึ่งมนุษย์ กึ่งเทพชุบร่างใหม่เป็นองค์ทัศยุราชันย์ ซึ่งมี พระมเหสีและชายาอยู่แล้วคือเจ้าหญิงดาริกา เจ้าหญิงมณีกานต์และเจ้าหญิงปทุมวดี ซึ่งมีความ ซื่อสัตย์ในพระองค์ยิ่งนัก นอกนั้นหนีกลับเมือง ไปมีพระสวามีใหม่กันหมด หลังจากได้ครอง เมืองอันแท้จริงอีกครั้งหนึ่งก็หาได้มีพระชายาพระสนม คเพิ่มขึ้นอีกแต่ใดไม่คงมีเพียงแค่สามพระองค์ เท่านั้นเองจนมีพระราชบุตรพระราชธิดาทุกๆพระองค์ นับได้ว่าพระองค์มิได้ทรงไขว่คว้าในทางกามตัณหา แต่อย่างใดครับ ส่วนเจ้าหญิงเฌอมาลย์ตามต้นนั้น ผมเองจะให้เป็นพระชายารองจากองค์หญิงปทุมวดี เพราะจะได้ครบทั้งสี่พระองค์ดังองค์อัมรินทราธิราช จอมสรวงสวรรค์ ซึ่งมีพระมเหสีสี่พระองค์ จำต้อง เขียนมิให้เป็นแปลงความไปเพราะจะทำให้เกิด เหตุการณ์ในวันข้างหน้าต่อไปได้ขอรับท่านเจ้าหญิง ที่รัก ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือดีมาตลอด แม้จะ มีสิ่งบกพร่องขึ้นน้อยนิดคงไม่ว่ากันนะครับขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
11 ธันวาคม 2549 09:16 น. - comment id 94222
ขอบคุณจริงตั้งแต่อักษรตัวแรก... ถึงตัวสุดท้าย....ให้จินตนาการ..รอยยิ้ม ตลอดจนแง่คิด...คำสอน..... ขอบคุณด้วยใจจริง.....เคารพค่ะ
11 ธันวาคม 2549 09:28 น. - comment id 94223
คุณ ยายแม่มดทางแสงดาว ผมก็ต้องขอขอบคุณในน้ำใจคุณยิ่งนักที่ให้ กำลังใจผมด้วยดีเสมอมาตั้งแต่ต้นจนจบในเรื่องนี้ น้ำใจดวงนี้ผมจะมีลืมเลือนไปจากหัวใจผมจะเก็บไว้ เป็นรอยจารึกจดจำไว้ชั่วนิจนิรันดร์ครับขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
11 ธันวาคม 2549 14:40 น. - comment id 94229
..แฝดเพื่อน..กลับมาอ่าน..ตอนจบ..พอดี..เขียนงานได้ดีมากค่ะ...สำหรับงานเรื่องแรก...ต้องบอกว่า...ไม่ธรรมดา..มีความอดทน..วิริยะ..พากเพียร..และจินตนาการที่เยี่ยมมาก...หากราชิกา..อายุเท่าคุณแก้ว..จะมีความสามารถขนาดนี้มั้ย...คิดว่า..คงไม่สามารถแน่นอนค่ะ..... ..มาชื่นชม...ชมชื่น..และจะให้กำลังใจต่อไปค่ะ.. ...ดูแลสุขภาพตนเองด้วยนะคะ..เป็นห่วงค่ะ..
11 ธันวาคม 2549 14:46 น. - comment id 94232
คุณ ราชิกา เรามันคนราษีเดียวกันย่อมมีอะไรคล้ายๆกัน คนราษีนี้มักจะไม่ธรรมดาแน่นอนเช่นแฝดเพื่อน รักก็เหมือนกันมองดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา เพราะ เท่าที่ศึกษามาคนราษีนี้มักมีอะไรๆพิเศษเสมอๆจ๊ะ มิใช่เข้าข้างตัวเองนะแต่คนใหญ่คนโตมักฝากงาน เขียนไว้ให้ได้ศึกษามาแล้วเสมอๆครับ หากคิด จะทำงานสักชิ้นหนึ่งครับขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
12 ธันวาคม 2549 09:15 น. - comment id 94245
กานต์มาทันได้อ่านตอนจบพอดีนะคะคุณลุง ดีใจมากค่ะที่ได้อ่านนิยายของคุณลุง สนุกค่ะ
12 ธันวาคม 2549 09:42 น. - comment id 94256
คุณ เพียงพลิ้ว จ้าจบเสียทีเพราะเกินเวลาเขามามากแล้วล่ะ ไว้ให้ว่างๆกว่านี้สักหน่อย จะแต่งเรื่องสั้นให้อ่าน นะจ๊ะเอาเป็นทันสมัยหน่อย หากสองมิติมันต้องยาว ถึงจะรู้เรื่องกันหากสั้นเกินไปแล้วมันก็ไม่ดีจ๊ะ แก้วประเสริฐ.