บทที่ ๒๙ เฉลิมฉลองนครนาครินทนาคร “พี่ให้สัจจะวาจาสัญญาจ๊ะน้องทั้งสอง พี่จะมิทำให้เป็นที่ระคายเคือง แก่น้องหญิงทั้งสองของพี่เป็นอันขาด” องค์ท่านท้าวทรงพระดำรัสทันที “หากได้รับสัจจะวาจาเช่นนี้ กระหม่อมก็พร้อมจะสละราชสมบัติเมือง รัตนานคร จะมอบหมายให้องค์เธอพระปิตุลาทิพยะราชของเสด็จพ่อทศราช ขึ้นปกครองนครรัตนาต่อไป เพียงแต่ต้องกลับไปยังเมืองรัตนาก่อนเพื่อ จัดการสะสางแต่งตั้งองค์พระปิตุลาเสียก่อน แล้วถึงจะกลับมา เพค่ะ” องค์หญิงมณีกานต์ทรงตรัสกับพระราชสวามี” องค์หญิงทรงตรัสตอบ “หากเมื่อเฉลิมฉลองนครนาครินทนาครเสร็จสิ้นลง พี่กับน้องหญิง ดาริกาก็จะร่วมไปในงานที่เมืองรัตนาด้วยนะ” พระองค์ทรงกล่าวยิ้มแย้ม ด้วยความดีพระทัย “อีกประการหนึ่งเพค่ะ เหล่าทหารหญิงชายที่หม่อมฉันนำมานี้ก็ทูลขอ ไว้ในกรณีพิเศษ เพียงขึ้นตรงกับหม่อมฉันแล้วก็มีเพียงเสด็จพี่ เจ้าพี่หญิง และน้องปทุมวดีเท่านั้นที่สามารถบังคับบัญชาใช้สอยได้เท่านั้นนะ เพค่ะ” พระองค์หญิงมณีกานต์ทรงตรัสต่อ “ได้ซิน้องหญิงพี่อนุญาตน้องทุกๆอย่าง” องค์ท่านท้าวเธอทรงดำรัส “หม่อมฉันอยากได้ภูเขาด้านทางทิศตะวันออกของเมืองให้เป็นที่พำนัก ของเหล่าทหารหญิงชายส่วนใหญ่พักอยู่ ด้วยเป็นทำเลเหมาะยิ่งนักสามารถ ใช้เป็นที่ประกอบอาชีพได้อย่างดีในการเลี้ยงตัวเองและเหล่าทัพจะได้มิต้อง เป็นที่เดือดร้อนพระราชหฤทัยและเหล่าประชาราษฎร์ของพระองค์ต่อไป ส่วนทหารหญิงกระหม่อมก็จะคัดไว้เพียงเล็กน้อยเพื่ออยู่รับใช้หม่อมฉัน และพระองค์ตลอดจนเจ้าพี่หญิงดาริกาเท่านั้น ห้ามทหารของพระองค์เข้าไป สร้างความเดือดร้อนแก่เหล่าทหารของหม่อมฉันด้วยนะ เพค่ะ” องค์หญิงมณีกานต์ทรงย้ำขึ้นเพื่อเหล่าทหารของพระองค์ เพราะทรงคิดแล้วว่า หากต่อไปในกาลข้างหน้าจะมีปัญหาเกิดขึ้นได้ “ได้ซิน้องหญิงแล้วพี่จะทำหนังสือยืนยันตลอดจนสัญลักษณ์ไว้ มอบให้น้องหญิงเพื่อป้องกันทหารที่ขาดความรับผิดชอบ อาจจะมีเกิดขึ้นได้ในภายหน้าได้” องค์ทัศยุราชันย์เทรงย้ำและเน้นไว้ให้เป็นพิเศษ “หากเป็นเช่นนั้นกระหม่อมก็รู้สึกซาบซึ้งในน้ำพระหฤทัย ของพระองค์ยิ่งนัก จะขอเฝ้าปรนนิบัติรับใช้พระองค์จวบจนชีวิตจะหาไม่ เพค่ะ” “พี่เองก็จะเป็นพยานและรับรองไว้ให้แก่น้องหญิงของพี่ไว้ด้วยนะ หากวันใดที่เสด็จพี่ผิดคำสัญญาเมื่อใด เราทั้งสามก็จะลงมือทำโทษ เสด็จพี่ทันที ดีไหมล่ะน้องรัก” องค์หญิงดาริกาหันมาตรัสขึ้นบ้าง “แล้วจะทำโทษเสด็จพี่ฉันท์ใดล่ะ” องค์หญิงปทุมวดีหันมาตรัสขึ้นบ้าง “มาๆใกล้เข้ามาแล้วพี่จะบอกให้อย่าให้เสด็จพี่ได้ยินนะ” องค์หญิง ดาริกาตรัสเรียกเจ้าหญิงมณีกานและเจ้าหญิงปทุมวดีให้ใกล้เข้ามา แต่ เจ้าหญิงเฌอมาลย์ก็ทรงอยากรู้เหมือนกันจึงเข้าร่วมฟังด้วย ครั้นเจ้าหญิงดาริกากระซิบบอกโทษของท่านท้าวทัศยุราชันย์ให้แก่ ทั้งสามพระองค์ทราบ เสียงหัวร่อต่อกระซิกเย้าหยอกเสียงดังก็เกิดขึ้นทันที สร้างความมึนงงสงสัยให้แก่ท้าวเธอยิ่งนัก ถึงกับต้องทรงเอ่ยตรัสถามขึ้นว่า “อะไรหรือโทษพี่ร้ายแรงถึงเพียงนี้เชียวหรือ ขอทราบหน่อยได้ไหม ล่ะน้องหญิง” “มิได้หรอกเพค่ะ ถ้าหากเสด็จพี่จะรู้ก็ลองทำผิดดูซิเพค่ะ” องค์หญิง ดาริกาทรงตรัสเอ่ยขึ้น ทำให้บรรดาเจ้าหญิงต่างก็ทรงพระสรวลลั่นกว่าเดิมเสียอีก พลางทอด พระเนตรมองพระพักตร์องค์ทัศยุราชันย์ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทุกๆพระองค์ หลังจากที่ทรงเย้าหยอกกันจนเพลิดเพลินจนผ่านการเสวย พระกระยาหารล่วงไปแล้ว องค์หญิงเฌอมาลย์ก็ทูลลากลับไป ยังกองทัพพระองค์ทันที พบองค์ชายสิงหะฤทธาเฝ้าคอยอยู่และไต่ถามว่า ทำไมถึงกลับล่าช้ายิ่งนัก พระองค์หญิงเฌอมาลย์ก็ทรงเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ให้องค์ชายสิงหะฤทธาทรงทราบ องค์ชายก็ทรงพระสรวลดังลั่นด้วยความ พอพระราชหฤทัยยิ่งนัก พร้อมทั้งรำลึกถึงกาลในภายหน้า หากแม้นว่า พระองค์ผิดบ้างเห็นทีจะต้องระมัดระวังให้เป็นพิเศษ จากนั้นทั้งสอง พระองค์ก็ทรงหยอกล้อเกี้ยวพาราสีกันและกันจนควรแก่เวลาองค์ชายจึง ลากลับไป เมื่อกาลเวลาเฉลิมฉลองความมีสันติสุขเมืองนาครินทนาครเกิดขึ้น ภายในพระราชวังและภายในกำแพงเมืองก็จัดงานเฉลิมฉลองกันอย่าง มโหฬารเอิกเกริกไปทั่วทุกมุมเมือง อาณาประชาราษฎร์ต่างยิ้มแย้มแจ่มใส เข้าร่วมฉลองกันทุกๆครัวเรือนต่างออกมาร่วมงานสิ้นทุกๆคน พบปะสนทนา ชมมหรสพที่ทางการจัดไว้ให้ทุกๆมุมเมือง นับเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มโหฬารยิ่ง ภายในท้องพระโรงและพระตำหนักทุกๆตำหนักก็ถูกประดับประดา ด้วยโคมไฟแสงสีอันตระการตา ส่องแสงแพรวแวววาวไปทั่ว บรรดาทหาร ชายหญิงที่เข้าเวรยามก็ได้รับอนุเคราะห์เป็นพิเศษต่างเย้าแหย่หยอกล้อกันได้ ทุกๆคนใบหน้าแย้มยิ้มผ่องใส ภายในท้องพระโรงถูกจัดขึ้นใช้เป็นงานต้อนรับ แขกเมืองที่จะเสด็จมาร่วมเฉลิมฉลอง ก็ถูกจัดวางไว้ตามลำดับเรียงรายไปด้วย โต๊ะที่ประดับไว้อย่างสวยงามตระการพร้อมผลไม้นานาๆชนิดวางแบ่งเป็นโต๊ะๆ ตามลำดับ ครั้นได้เวลาองค์ท้าวเธอทัศยุราชันย์ก็ทรงเสด็จนำพระอัครมเหสีซ้ายขวา และพระอัครชายาที่ทรงฉลองพระองค์งดงามดุจประหนึ่งเทพธิดาเสด็จมาจาก สรวงสวรรค์ก็มิปานกระหนาบข้างตามหลังเสด็จบนพระลาดพระบาทเข้าสู่ที่ พระราชอาสน์พระทับพร้อมด้วยพระมหาราชครูที่ถือของใส่พานตามมาเบื้อง หลังห่างๆติดตามด้วยเหล่านางสนมกำนัลในทั้งหลายเรียงแถวตามเสด็จ เมื่อทรงเข้าประทับยังพระราชอาสน์เรียบร้อยแล้วก็ทรงหันพระพักตร์ ไปยังแขกเมืองทั้งหลาย ที่นั่งอยู่ตามโต๊ะเก้าอี้ที่ฝ่ายพระราชวังจัดไว้นั้นซึ่งนั่ง เต็มอยู่ทุกพระเก้าอี้ องค์ท่านท้าวทัศยุราชันย์ก็ทรงลุกขึ้นจากที่ประทับก้าว พระบาทเสด็จเข้าไปหาองค์ท้าวเธอสิงหะราช องค์ท้าวเธอวิหะคะยุราช องค์ท้าวเธอนาคุระนาคราช องค์ท้าวเธอวานิระหะ และองค์ท้าวเธอพิษยะราช กระทำพระบังคมกราบถวายลงบนพระชานุทุกๆพระองค์ พร้อมทั้งองค์หญิง ทั้งสามก็ย่อพระชานุถวายพระพร ทำให้องค์ท้าวเธอผู้ยิ่งใหญ่ถึงกลับทรงหลั่ง น้ำพระเนตรนองพระพักตร์ไปตามๆกันมิคาดคิดว่าองค์ทัศยุราชันย์มหาราชนั้น จะทรงเคารพและให้พระเกียรติอันยิ่งใหญ่แก่พระองค์เกินกว่าที่จะคาดคิดได้ ถึงกลับทรงเขย่าพระหัตถ์ด้วยความปลาบปลื้มยินดียิ่ง ครั้นแล้วองค์ทัศยุราชันย์ก็ทรงจูงพระหัตถ์กษัตริย์ทั้งหลายให้ไปประทับยัง ที่พระราชอาสน์เคียงคู่กับพระองค์ทันที ตลอดจนเข้ามาจูงเหล่าพระยุพราชให้มา ร่วมประทับร่วมด้วยเคียงคู่ตามลำดับด้วยกัน มิได้แบ่งชั้นวรรณะเปรียบประดุจดั่ง ญาติในครอบครัวเดียวกันฉะนี้ สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือนยิ่งนักสุดจะหาที่ เปรียบมิได้ แล้วพระองค์ทั้งหลายก็ทรงพระวิสาสะไต่ถามความทุกข์สุขซึ่งกัน และกันดุจเป็นครอบครัวเดียวกัน บางครั้งก็ทรงพระสรวลดังสนั่นไปทั่ว เมื่อเวลาผ่านไปพอสมควรหลังพระกระยาหารเสร็จสิ้นลง เหล่ากษัตริย์ทั้งหลาย ก็ยังมิยอมเลิกราโดยง่ายยิ่งเพิ่มความฉันท์ไมตรีแนบแน่นกว่าเดิม องค์ท่านท้าว ทัศยุราชันย์ทรงตรัสว่า “ข้าพเจ้าขอถวายพระพรแด่ทุกๆพระองค์ซึ่งมีน้ำพระทัยไมตรีได้รับพระกรุณา จากทุกๆพระองค์ที่ทรงพระเมตตาอุปการะเกื้อหนุนในการครั้งนี้ จนนาครินทนาคร ได้รับความร่มเย็นเป็นสุขอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆจากข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพึงจะน้อมมอบให้แก่ทุกๆพระองค์เป็นที่ระลึกว่ากาลครั้งหนึ่งไมตรีนี้ จะยั่งยืนไว้จากห้วงดวงใจของข้าพเจ้ายิ่งนัก ขอพระองค์ทุกๆพระองค์ได้โปรด เอ็นดูแก่ข้าพเจ้าด้วยเปรียบประดุจลูกหลานของท่านนี้ด้วยเถิดพระพุทธเจ้าข้า” แล้วองค์ท่านท้าวทัศยุราชันย์ก็ได้น้อมพระวรกายอัญชูลีถวายบังคมเหล่า กษัตริย์ทั้งปวงด้วยพระวรกายอ่อนน้อมยิ่ง แล้วทรงตรัสให้ท่านมหาราชครู เข้ามาแล้วทรงตรัสแจ้งแก่เหล่ากษัตริย์ทั้งปวงว่า “ข้าพเจ้าขอน้อมกราบเรียนทูลพระองค์ว่า นี่คือท่านมหาราชครูแห่งนครนี้ ซึ่งข้าพเจ้ายกย่องเปรียบประดุจพระชนกนาถของข้าพเจ้ามิปาน” แล้วพระองค์ ทรงหยิบของในพานทองคำที่พ่อปู่มหาราชครูถือไว้ออกมามอบให้แก่เหล่า กษัตริย์ทุกๆพระองค์ แล้วทรงตรัสขึ้นว่า “อันน้ำใจของข้าพเจ้าและท่านพ่อปู่ผู้ทรงเป็นพระชนกนาถของข้าพเจ้า ขอแสดงน้ำใจเพียงน้อยนิดนี้ไว้ นั่นคือ แก้วน้อยที่บรรจุน้ำอำมฤตศักดิ์สิทธิ์ และผลไม้วิเศษซึ่งภายในบรรจุด้วยพลังธาตุทั้งสี่ไว้ เพื่อมอบให้เป็นที่รำลึก จากนครนาครินทนาครไว้ด้วยความเคารพยิ่ง” เมื่อองค์ทัศยุราชันย์ทรงตรัสเสร็จสิ้น ภายในท้องพระโรงก็เงียบกริบ เหล่า กษัตริย์ทั้งหลายเบิกพระเนตรค้างจ้องมองดูแก้วน้อยที่บรรจุน้ำอำมฤตศักดิ์สิทธิ์ ภายในส่องแสงประกายแวววาวดุจดั่งปรอทเป็นประกายสีสวยสดต่างๆกัน สะท้อนออกมาพ้นแก้วน้อยขวดนั้น ฉับพลันทุกๆพระองค์ทรงทรุดพระวรกาย ลงกับพระเก้าอี้โดยพร้อมเพรียงกันกำขวดแก้วน้อยมือไม้สั่นระริกไปหมด แม้แต่เหล่าพระยุพราชทั้งหลายก็แตกตื่นตะลึงพึงเพริดไปตามๆกันมิคาดคิด เลยว่าพระราชบิดาจะได้น้ำอำมฤตที่ศักดิ์สิทธิ์มาโดยมิคาดฉะนี้ แล้วองค์ทัศยุราชันย์ก็ทรงตรัสเรียกพระยุพราช นิละกาสูรย์และพระยุพราช อหิงสากุมารเข้ามา พระองค์ทรงหยิบขวดแก้วน้ำอำมฤตพร้อมผลไม้วิเศษมอบ ส่งให้แก่พระยุพราชทั้งสองทรงพระดำรัสว่า “เราขอมอบทั้งสองสิ่งนี้ไว้แก่ท่านทั้งสองด้วย เป็นเพราะเจตนารมณ์ของ พระราชบิดาของท่านยุพราชที่มีความต้องการยิ่งนักแต่หากทว่าทรงกระทำ ในสิ่งผิดพลาดขัดกับเจตนารมณ์ของพระผู้เป็นเจ้า การครั้งนี้เราได้ไปกราบทูล แด่จอมเทพแห่งสรวงสวรรค์แล้วถึงเหตุการณ์นี้ทั้งหมด พระองค์ทรงพระกรุณา
ภาพบนแสดงถึงการเฉลิมฉลองพระนคร ภาพล่างเป็นภาพเจ้าหญิงทั้งสามพระองค์ ทรงสรงน้ำขอรับท่าน...แก้วประเสริฐ.
8 ธันวาคม 2549 10:20 น. - comment id 94171
อิจฉาคนมีความสุข........ คุณชาย....โอมเพี้ยง....น้ำลดตอผุดปทุมวดีคนไหน..น้ำลดได้รู้กัน
8 ธันวาคม 2549 11:16 น. - comment id 94172
น้ำอย่าได้ลดเลย เจ้าประคู๊ณณณณณณ อิอิ
8 ธันวาคม 2549 12:59 น. - comment id 94174
คุณ แม่มดน้อย โอมอิทธิ์ปฎิหารย์เพี้ยง ตอจงหายไปเน๊อะ หายไปแล้วจ้าหมดไปหมดแล้วเน๊อะ ฮ่าๆๆๆ แก้วประเสริฐ.
8 ธันวาคม 2549 13:00 น. - comment id 94175
คุณ เฌอมาลย์ ก่อนลงสรงนั้นเขาใช้ทหารไปตัดตอหมดแล้วจ้า น้ำลดอย่างไรรับรองตอไม่โผล่แน่นอน ไม่ต้องต๊กใจ รับรองสวยสดงดงามจนต้องต๊กใจอีกครั้งแหละจ้า อิอิ แก้วประเสริฐ.
8 ธันวาคม 2549 13:55 น. - comment id 94177
ว้า....ตอโดนตัด
8 ธันวาคม 2549 14:05 น. - comment id 94178
หมายถึงน้ำลดเห็นปทุมมาพาใจให้หวามไหว ต่างหาก....... ใครว่าถามเรื่อง.....ต เต่าหลังตุง...
8 ธันวาคม 2549 14:26 น. - comment id 94179
คุณ เฌอมาลย์ งามจริงเน้อเจ้าหญิงเฌอมาลย์ อุ๊ยอิจฉาแล้วซิ แก้วประเสริฐ.
8 ธันวาคม 2549 14:27 น. - comment id 94180
คุณ ยายแม่มด คงจะรำคาญกระมังครับ ฮ่าๆๆๆๆ แก้วประเสริฐ.
8 ธันวาคม 2549 14:30 น. - comment id 94181
คุณ ยายแม่มดแสงดาว อ้าวหรือ งั้นหรือ โอ้ยคิดมากจังเลยเรานิ ถ้าอย่างนั้นลดๆๆๆๆเถอะนะ อิอิ แก้วประเสริฐ.
8 ธันวาคม 2549 15:12 น. - comment id 94182
เอมไม่งามเหมือนสามองค์หญิง ... จะมีใครรักจริงไม๊น้อ ....
8 ธันวาคม 2549 15:38 น. - comment id 94183
ทะเลใจ ลูกรัก งามซิลูกพ่องดงามเสมอ พ่อเองนั้นรักลูกจริงใจ เสมอมาคิดถึงเสมอๆ ถึงแม้ว่าจะห่างหายไปนานแต่ ภายในใจพ่อยังรำลึกนึกถึงเสมอมิเคยขาด คนจะงามนั้นหาใช่ซึ่งใบหน้า กิริยาแช่มช้อยร้อยใจเหลือ อีกถ้อยสำเนียงเสียงหวานผ่านจุนเจือ มิรู้เบื่อเอมรักประจักษ์ใจ. เอมลูกพ่อมีครบทุกอย่างมีหรือคนจะไม่รัก เว้น แต่ลูกพ่อจะปฏิเสธนั่นแหละจ้า รักลูกพ่อเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
12 ธันวาคม 2549 09:28 น. - comment id 94252
อิอิ ภาพเจ้าหญิงสรงน้ำ
12 ธันวาคม 2549 09:34 น. - comment id 94254
คุณ เพียงพลิ้ว ผมเห็นว่าสวยงามดีจึงนำมาลงไว้ครับคือว่า สวยแบบไทยๆแต่คนละสไตร์กันครับ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วใบหน้าก็แบบนี้กันแหละครับ แก้วประเสริฐ.