นิยายอ่านจบแล้วช่วยกันตั้งชื่อด้วยนะคะ ตอนที่ 4
ศรรกรา
ในระหว่างการเดินซื้อของเด็กสาวพยายามไม่ให้คนทั้งคู่เดินเคียงกัน เธอจะเดินแทรกระหว่างชายหนุ่มกับหญิงสาวโดยทำทีไม่รู้ไม่ชี้ พี่ฝุ่นจ้า ...ไปเลือกหนังสือเป็นเพื่อนไผ่หน่อยสิจ๊ะ...เออ...พี่ข้าวไม่ต้องเข้าไปก็ได้นะไผ่เลือกหนังสือนาน หนูกลัวพี่เบื่อ เด็กสาวกล่าวโดยไม่ให้โอกาสให้หญิงสาวได้พูดอะไร ก่อนที่จะฉุดแขนชายหนุ่มเข้าไปในร้านขายหนังสือ เด็กสาวแกล้งเลือกหาหนังสือนู้นหนังสือนี้นานจนกระทั่งชายหนุ่มต้องพูดขึ้น ไผ่..อยากได้หนังสืออะไรบอกพี่เถอะ เดี๋ยวพี่หาให้ คือเราอยู่ในนี้นานแล้วนะ พี่เกรงใจข้าว ป่านนี้คงอยากจะกลับบ้านแล้วล่ะ เด็กสาวเห็นว่านานพอสมควรแล้วจึงไปที่เคาน์เตอร์เพื่อจ่ายค่าหนังสือ และก็เดินออกไป เด็กสาวสะใจที่เห็นหญิงสาวยืนกระสับกระส่าย และบีบนวดขาตัวเองด้วยความปวดเมื่อย ที่จอดรถก็ไกลจากร้านขายหนังสือมากโข ของที่หญิงสาวซื้อมาก็มากทั้งที่ชายหนุ่มช่วยถือให้ก็ยังพะรุงพะรังพอดู เด็กสาวไม่ได้ช่วยถือของโดยอ้างว่าตนเองก็ถือหนังสือที่เพิ่งซื้อมาเหมือนกัน ทั้งที่ความจริงก็สามารถช่วยถือให้ได้แต่เด็กสาวก็เพียงต้องการแกล้งหญิงสาวเท่านั้น กว่าจะขึ้นรถได้ก็ทำเอาทั้งสามคนเหนื่อยพอดู แต่เด็กสาวก็สะใจมาก
ไต้ฝุ่นสังเกตว่ากอไผ่มีพฤติกรรมที่แปลกไปหลังจากที่ปานชนกมาขออาศัยอยู่กับเขา เด็กสาวขลุกอยู่กับเขาทั้งวันต่างจากเมื่อก่อน บางทีเด็กสาวก็เอาสำรับอาหารของตนมากินร่วมด้วยกับเขา ชายหนุ่มสังเกตว่ากอไผ่จะไม่ค่อยชอบปานชนกเท่าที่ควรเพราะเธอมักจะพูดขัดคอหญิงสาวอยู่เสมอ พี่ข้าว พี่มาอยู่ที่นี่ตั้งนานที่บ้านพี่ไม่ห่วงพี่บ้างเหรอคะ ไม่หรอกจ๊ะ พี่บอกทางบ้านไว้แล้วว่าพี่จะอยู่ที่นี่สักพักนะ แต่พี่เป็นผู้หญิงมันจะดีเหรอที่อยู่กับ... เด็กสาวหันไปมองที่ชายหนุ่ม ทางบ้านพี่ไม่รู้หรอก แต่พี่กับพี่ฝุ่นไม่มีอะไรหรอกรับรองได้ หญิงสาวพูดแก้ต่างให้ตัวเองเสร็จ เออ..พี่ฝุ่นวันนี้เรามาทำอะไรกินที่บ้านพี่ดีกว่า เดี๋ยวไผ่จะไปบอกแม่ว่าไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวไผ่จะลงมือเป็นแม่ครัวเองวันนี้ เด็กสาวอาสา ก็ดี..เพราะครัวที่นี่ไม่ได้ทำอาหารมานานแล้ว เดี๋ยวเราไปจ่ายตลาดกัน ข้าวไปด้วยเปล่า ชายหนุ่มชวน คงไม่ต้องหรอกพี่ข้าว ตลาดไม่มีอะไรน่าไป และเราต้องเลือกซื้อของนาน ไผ่กลัวพี่ข้าวเมื่อยเมื่อคราวนั้นอีก และอีกอย่างเราก็คงไม่ได้ซื้ออะไรเยอะด้วย ไผ่ไปกับพี่ฝุ่นสองคนก็คงพอ พี่ข้าวก็อยู่เฝ้าบ้านละกัน เด็กสาวชิงกล่าวสรุปเหมือนเช่นเคย ทำให้หญิงสาวจำต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง กว่าทั้งคู่จะกลับมาถึงก็นานหลายชั่วโมงทีเดียว ทั้งสามลงมือเข้าครัวโดยมีกอไผ่เป็นแม่ครัวตามที่อาสาไว้ พี่ข้าวลองชิมแกงจืดหน่อยสิค่ะว่ายังขาดอะไร ว่าแล้วเธอก็ตักแกงจืดยื่นให้หญิงสาว ในขณะนั้นเองเด็กสาวก็แสร้งทำแกงจืดหกลวกใส่มือหญิงสาว โอ้ย! หญิงสาวร้องพร้อมกับสบัดมือด้วยความเจ็บปวด อุ้ย! ไผ่ขอโทษเด็กสาวทำหน้าสลด แต่แอบซ่อนรอยยิ้มที่สะใจและชายหนุ่มก็ชำเลืองเห็นรอยยิ้มนั้นด้วย ทำให้ชายหนุ่มเกิดความไม่พอใจเด็กสาวอย่างมากจนทนไม่ไหว นี่ไผ่..พี่รู้นะว่าเราแกล้ง ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย คะ...คือว่า เด็กสาวพยายามพูดแก้ต่างให้ตนเอง พี่รู้นะ ว่าเราไม่ชอบพี่ข้าวเค้า แต่เราก็ไม่ควรจะทำอะไรรุนแรงแบบนี้ เขาต่อว่า พร้อมกับฉวยแขนหญิงสาวไปทำแผล เด็กสาวได้แต่น้ำตาคลอ ฝุ่น...ข้าวว่าฝุ่นว่าน้องเค้าแรงเกินไปหรือเปล่า น้องเค้าอาจไม่ได้ตั้งใจ มันคงเป็นอุบัติเหตุ หญิงสาวไม่สบายใจ หลังจากที่ชายหนุ่มทำแผลให้หล่อนเรียบร้อยแล้ว ผมก็ขอโทษยัยไผ่ด้วย เค้ายังเด็ก เราไปทำอาหารกันต่อเถอะ ป่านนี้น้องไผ่คงจะรอเราอยู่ หญิงสาวชวน แต่เมื่อเข้าไปไหนครัวก็ไม่เจอเด็กสาวซะแล้ว บนโต๊ะอาหารมีกับข้าวที่ทำเสร็จตั้งวางอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว
สวัสดีค่ะพี่ฝุ่น....ไปรษณีย์แผ่นนี้ก็คงจะเป็นแผ่นสุดท้ายแล้วที่กันย์จะเขียน เพราะกันย์คงไม่มีเวลาเขียนถึงพี่เหมือนแต่ก่อน เพราะระยะนี้กันย์ต้องเรียนหนักขึ้น และกันย์ก็คิดว่าพี่ก็เข้มแข็งขึ้นกว่าแต่ก่อน คงไม่ต้องให้น้องคนนี้เขียนให้กำลังใจแล้วมั้ง ถึงแม้ไปรษณีย์แผ่นนี้จะเป็นแผ่นสุดท้ายที่กันย์ได้เขียนถึงพี่ แต่กันย์ก็ยังรักและเป็นห่วงพี่เหมือนเดิม และยังให้กำลังใจพี่อยู่เสมอ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เขียนถึงพี่ก็ตาม และหวังว่าพี่ชายก็คงไม่ลืมน้องสาวคนนี้นะคะ กันย์ก็ไม่รู้จะเขียนอะไรอีก เพราะระยะสองปีที่กันย์เขียนไปรษณีย์มันก็คงเพียงพอที่จะบอกอะไรได้หลายอย่าง กันย์ขอขอบคุณที่พี่อ่านไปรษณีย์ของกันย์มาโดยตลอด ขอขอบคุณมาก ๆ นะคะ
รักและเป็นห่วงพี่ฝุ่นเสมอ
กันย์