.. หัตถบิดร ..

keekie

เป็นอีกครั้งแล้วที่ฉันมาเหยียบผืนแผ่นดินบรรพบุรุษ
	ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อน
	หลายสิ่งหลายอย่างต่างไป
	สิ่งเดียวในโลกสมมติใบนี้ที่คงความเป็นนิรันดร์
	นั่นคือความเปลี่ยนแปลงล่ะมั้ง				
ที่บ้านมีต้นมะอึกเพิ่มขึ้น				
แล้วก็ชดเชยด้วยสิ่งที่ขาดหายไป
	นั่นคือสับปะรดที่ฉันเคยเห็นติดลูกขนาดกำลังโตสวยเมื่อครั้งมาเยือนคราวที่แล้ว
	สุดท้ายน้ำท่วม ตายทั้งต้น (อดกินเลย)
	ใครจะนึก ..				
กับอีกบางอย่างที่คลับคล้ายคลับคลา .. ทำให้ฉันเข้าใจผิด
	ดอกเหลืองอร่ามที่ฉันเคยเข้าใจว่ามันเป็นเถาฟักทอง
	บัดนี้หลักฐานทนโท่ว่า ..
	แท้จริงแล้วมันคือลูกฟักตะหากเล่า (ยัยเง่าเอ๊ย)
	
	I'm not always right, but I'm never wrong!!!				
เหลือบแลไปเห็นเรือนไม้หลังเล็ก
	ที่เคยเห็นปู่ทำราวบันไดเมื่อคราวที่แล้ว
	บัดนี้มันเสร็จสมบูรณ์ ..

	หากปราศจากคนอาศัย .. 
	
	เพราะทุกคนในบ้านพาปู่ข้ามฟากไปฝั่งโน้น ..
	พาปู่ไปโรงพยาบาล ..

	ลูกหลานทุกคนจากทั่วสารทิศที่แยกย้ายกันไปทำมาหากิน
	กลับมารวมกันพร้อมหน้าพร้อมตา
	รวมทั้งฉันด้วย .. 

	"ปู่จะออกจากบ้านก็แต่วันพระ .. ไปวัด ฟังเทศน์ สวดมนต์
	อันนี้แล้วแต่คน บางคนศรัทธาธรรม บางคนไม่ ..
	แต่คนศรัทธา .. มีความสุขกว่าใช่ไหม? .." 
	นั่นเป็นคำที่ปู่เคยบอกฉัน

	ฉันยังคงยืนมองเรือนหลังเล็ก ..	
	เรือนหลังเล็กนั้นเป็นของอารัตน์ 
	ปู่สร้างให้ลูกคนสุดท้องของปู่ ..				
"ปู่ขายมะพร้าวส่งลูกหลานเรียน .. 
	วันนี้สมบัติบรรพบุรุษจึงตกถึงลูกถึงหลาน .. 
	ต่อแต่นี้ก็แล้วแต่ลูกหลานแล้วว่าจะทำยังไงต่อ .. แล้วแต่ .."  
	นั่นคือคำของปู่ที่เคยบอกฉันอีกเหมือนกัน
	
	ไม่รู้เหมือนกันว่าอารัตน์เคยมาเห็นขณะปู่กำลังตอกตะปูเรือน
	เหมือนอย่างที่ฉันเคยเห็นหรือป่าว?
	
	คิดพลางมองป้ายเหนือประตูเรือน ..

	.. หัตถบิดร .. 

	จะเห็นหรือไม่เห็นก็ช่างมันเหอะ .. 
	อารัตน์คงรู้ว่า .. ปู่สร้างเรือนหลังนั้นให้ด้วยสองมือของปู่เอง .. 

	น่าอิจฉาอารัตน์ชะมัด .. 

	ฉันหิ้วเป้ใบเก่าลงจากรถ ..
	เดินไปนั่งอยู่บนบันไดขั้นสุดท้ายของเรือนใหญ่ .. 

	ตามองแคร่ที่เคยเห็นปู่นั่งตอกตะปูราวบันไดเมื่อคราวที่แล้ว
	นึกถึงท่าทางแข็งแรง กระฉับกระเฉงเกินวัยเก้าสิบของปู่

	ช่างแตกต่างกับภาพที่ฉันได้เห็นเมื่อวาน
	ยามเดินทางมาถึง ..

	ภาพปู่ถัดตัวไปกับพื้นเพื่อไปเข้าห้องน้ำ
	ไม่ยอมให้ใครอุ้ม .. 
	หัวเข่าบวมเพราะมีน้ำอยู่ข้างในทำให้ปู่ปวดขามากจนเดินไม่ได้
	
	ทุกคนได้แต่ยืนรอปู่อยู่หน้าห้องน้ำ
	ปู่เงียบไปนานจนต้องเคาะเรียกเป็นระยะๆ .. 

	"วันเวลาของปู่น้อยลง .. รอวันดับ ..
	แค่เห็นลูกเห็นหลานมาหา ปู่ก็ดีใจแล้ว .."  
	ฉันนึกถึงคำปู่อีกแล้ว

	ความจริงตลอดชีวิตมานี้
	ฉันได้พบปู่แทบจะนับครั้งได้
	มีครั้งสองครั้งหลังนี่ล่ะที่ฉันมาหาปู่ลำพัง
	ได้อยู่พูดคุยกับปู่มากหน่อย ..

	"ฟังรู้เรื่องเร๊อะ .."  
	พ่อเคยถามฉันด้วยความหมั่นไส้
	เมื่อเห็นฉันนั่งคุยกับปู่เป็นเรื่องเป็นราว หัวเราะคิกคัก .. 
	คนนึงพูดใต้ อีกคนนึงพูดกลาง แต่ทำท่าเหมือนคุยกันรู้เรื่อง ..

	"รู้สิ .. "  ฉันหันไปตอบทันทีทันควัน


	เสียงรถแล่นเข้าประตูบ้านทำฉันตื่นจากภวังค์

	ปู่มาแล้ว 

	อาแป๋งจอดรถหน้าเรือนใหญ่
	แล้วรีบเปิดประตูลงมาอุ้มปู่ลงจากรถ

	"ไม่ต้องๆ .."  เสียงปู่ดัง
	
	ทุกคนได้แต่ยืนมองปู่พยายามลงจากรถ
	สองมือจับเครื่องช่วยเดิน พยายามจะลุกทั้งที่หัวเข่ายังบวม
	
	ผู้ชายคนหนึ่งที่สร้างเนื้อสร้างตัวมาด้วยอาชีพชาวสวน
	
	เป็นอย่างนี้นี่เอง ..
	กำลังกายถดถอยตามสังขาร
	หากแต่นั่นไม่ได้ทำให้ใจไหวคลอนแม้แต่น้อย

	แล้วปู่ก็ลุกขึ้นได้ด้วยตัวเอง
	ด้วยสองมือสองเท้าที่แทบไร้เรี่ยวแรง
	สองมือสองเท้าที่ก่อร่างสร้างครอบครัวมาได้

	ทุกคนเดินตามปู่จนปู่มานั่งลงบนแคร่ ..
	แล้วก็แยกย้ายกันไปทำกิจ พักผ่อน หลังจากที่เมื่อคืนแทบไม่ได้นอนกันทั้งคืน

	ฉันเดินไปคุกเข่าข้างหน้าปู่

	"หนูต้องกลับวันนี้นะคะปู่ ติดงานน่ะค่ะ .."  ฉันบอกปู่

	"กลับคนเดียว?"  ปู่ถามแค่นั้น 

	"ค่ะปู่ .."  ฉันตอบ
	
	ปู่จับมือฉันพลางพูด 
	"ขอให้มีความสุข อย่าเจ็บอย่าไข้ เดินทางปลอดภัยนะลูกนะ .."
	
	ฉันจับมือปู่วางบนหัว ..
	
	"หายทุกข์ หายโศกนะลูกนะ เจริญๆ .."  ปู่ยังคงพูดต่อ

	"เสร็จงานแล้วหนูจะมาหาปู่อีก ปู่หายไวๆ นะคะ .. " ฉันบอก

	"กลับดีๆ นะลูกนะ ถ้าลำบากนักต้องมาคนเดียวก็ไม่ต้องมา
	ปู่ไม่เป็นอะไร .. รอไว้มีคนมาด้วยค่อยมาลูก .."  ปู่บอก

 
	
	ก่อนก้าวออกพ้นประตูบ้าน
	ฉันยืนมองเรือนหลังเล็กนั่นอีกครั้ง ..
	
	พลางยกมือกุมหัว .. 
	
	หัตถบิดร				
				
comments powered by Disqus
  • ผู้หญิงช่างฝัน

    2 ธันวาคม 2549 12:11 น. - comment id 94022

    ไม่รู้เคยบอกคุณหรือยัง..
    ชอบงานคุณ.. ชอบอารมณ์งานคุณ..  จริง ๆ 
    
    36.gif
  • nig...

    2 ธันวาคม 2549 12:30 น. - comment id 94023

    55.gif
    
                สองหัตถ์ที่พ่อสร้าง            โรงเรือน
    ทำเผื่อลูกหลานเยือน                     เยี่ยมบ้าง
    เจ็บป่วยแต่ทำเสมือน                     ไม่เจ็บ
    ใจหนึ่งอาจอ้างว้าง                          ห่วงล้นลูกหลาน
    
                 ไม่นานอาจจากเจ้า            ไปไกล
    อย่าห่วง..ไม่เป็นไร                          แค่นี้
    สังขารนี่ยังไหว                                ยิ้มกริ่ม
    พูดปลอบหลานลูกชี้                       ช่องให้รักษ์ตน
    
    แจมค้าบ
    11.gif
  • ร้อยฝัน

    2 ธันวาคม 2549 22:22 น. - comment id 94031

    เมื่อสองสามวันที่ผ่านมา  ฉันยืนอยู่ข้างเตียงของพ่อในห้องฉุกเฉิน  เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ  ถ้าช้าอีกนิดเดียวคงเป็นอัมพฤก หมอบอกอย่างนั้น  ฉันกุมมือพ่อแน่นไว้ ส่งผ่านกำลังใจให้  จนรู้สึกได้ถึง สัมผัสที่อบอุ่น  ที่ฉันไม่คุ้นชิน และโหยหามานาน
  • กีกี้

    3 ธันวาคม 2549 06:51 น. - comment id 94034

    คุณผู้หญิงช่างฝัน .. 
    
    ขอบคุณค่ะ .. 1.gifคุณ nig...
    
    มาแจมค้าบ .. ซะเป็นโคลง พี่กี้เขียนไม่เป็นจ้ะ .. 
    
    ปล. อยากเป็นคนน่ารักจังเลย .. 62.gifคุณร้อยฝัน .. 
    
    มิน่าเขาถึงว่ากันว่า .. หนึ่งสัมผัสมิเท่าล้านคำพูด .. 
    คุณพ่อหายเพราะกำลังใจที่ได้รับนั่นแหละเชื่อมะ .. 1.gifขอบคุณทุกท่านนะค้า ..  36.gif
  • โคลอน

    4 ธันวาคม 2549 16:26 น. - comment id 94057

    ***หัตถบิดร*** เป็นชื่อที่ดูอบอุ่นมากเลยนะ เหมือนมีเทวดามาคุ้มครองผู้อาศัย...ทำให้บ้านดูน่าอยู่ขึ้นเยอะเลย11.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน