กาลเสาร์หนึ่งนานมาแล้ว...ประมาณ 2-3 เดือนเห็นจะได้ (อารัมภบทให้เท่ห์ไปงั้นแหละ :p)...เราก็ตื่นเช้าขึ้นมาตามปกติ (เขียนให้ดูดีเข้าไว้) ขณะที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ ตาของเราก็เหลือบไปเห็น รังต่อเข้า มันเกาะติดหนึบอยู่ข้างหน้าต่างชั้น 2 ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้...อารามตกใจ วิ่งเข้าบ้าน (ฉลาดโนะ) ดั๊นลืมปิดน้ำ สุดท้ายหลังจากชั่งใจอยู่นาน ก็ต้องจำใจออกมาปิดน้ำเองอยู่ดี คิดซะว่าวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าแระกัน(ปกติ นิ่งเป็นหลับขยับเป็นกิน...ดิ้นแล้วได้...เอ๊ยไม่ใช่...จะเขียนทำไมเนี่ยภาพพจน์หมดกัน)(^^)" พอเราออกมาเจ้าต่อ(ตอนนั้นยังไม่รู้จักชื่อ)ก็มาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ตอนแรกก็ปอดๆ เคยได้ยินคนโบราณบอกว่าให้อยู่นิ่งไว้มันจะได้ไม่ต่อย เราก็เลยยืนนิ่งเป็นเทพีเสรีภาพ อยู่อย่างงั้น กะว่ารอยยิ้มของเราคงจะพอผูกมิตรได้บ้างแหละ แต่มันชักนานเกินไปแระ แถมเรายังรู้สึกว่ามันจะไปชักชวนพลพรรคของมันมาดอมดมเราซะอีก (นี่ขนาดยังไม่ได้อาบน้ำนะเนี่ยแสดงว่าเนื้อหอมใช้ได้...อิอิ)กลับมาสู่โหมดเดิม...ขาเริ่มสั่นแระ...ก็เรายังไม่อยากจะเป็นราชินีต่อหรอกนะ ที่อยู่เฉยๆแบบนี้น่ะเพราะ ปอด(สรุปสั้นๆ) แต่ขืนชักช้าอยู่อาจโดนสกรัมได้ เราก็เลยอาศัยจังหวะที่เจ้าต่อมันเผลอ เปิดแน่บเข้าบ้านในทันใด }}}}}}}}} (เครื่องหมายปีกกา แทนว่าพักครึ่งเวลาแป๊บ เดี๋ยวเล่าต่อ...ก็เหมือนการ์ตูนสมัยก่อนไงก่อนจะพักโฆษณาเค้ายังให้ กามาพรีเซ้นซะ...อิอิ) แฮ่ม...กลับสู่โหมดปกติ... พอเข้ามานั่งจิบกาแฟแล้วก็เลยนึกขึ้นได้ว่า วันนี้ น้าเรานัดคนตัดต้นไม้ มาตัดต้นปีบหน้าบ้านนินา จริงๆต้องเรียกว่า... ตอน... ถึงจะถูก ก็ช่วงหน้าฝน ต้นปีบโตเร็วกว่าเจ้าของซะอีก(ขอแบ่งมาสัก 10 เซ็นก็ไม่ได้)กิ่งมันไปพาดสายไฟเข้า ก็เลยต้องจำใจจับตอนซะ (อยากมือยาวดีนัก)ความจริงมันกำลังโตเป็นพุ่มสวยมากๆเลยมีนกมาเกาะพักเวลาแดดร้อน ให้ร่มเงากับบ้าน ไม่ร้อนด้วย (เข้าโหมดเสียดาย...) เราคิดว่าจะให้คุณลุงที่มาตัดต้นไม้ช่วยจัดการให้ พอได้เวลาลุงตัดต้นไม้ก็มากัน 3 คน พอลุงตัดต้นไม้เห็นเข้าก็ อุทานว่า"หูย...นี่มันต่อหางเสือนี่นา" เราก็เลยถามกลับไปว่า" ลุงเอาออกได้มั๊ย" ลุงเค้าก็บอกว่า " เอาออกตอนนี้ไม่ได้หรอก ต้องรอตอนกลางคืนถึงจะได้ ไม่งั้นมันรู้ มันจำได้ด้วยนะว่าใครมาพังบ้านมัน(จริงเร้อ...ลุงปอดอ่ะจิ...แอบคิดในใจ แล้วก็ตั้งใจฟังต่อ) อย่าให้บอก มันตามจนเจอตัวเลยล่ะ...ลุงเคยโดนมากับตัวเลย"(เหอๆ...อุตส่าห์ทำใจดีสู้เสือแล้วนะเนี่ย เจอแบบนี้ เล่นเอา หลอนเลย)เราก็ถามลุงต่ออีกว่า "ถ้าไม่รีบเอาออก รังมันก็โตคับบ้านเลยสิลุง มีหวังได้ขึ้น น.ส.พ หน้า 1 สักวัน" ลุงตัดต้นไม้ก็หัวเราะ หึหึ แล้วบอกว่า " ไม่หรอก รังมันจะขยายอีกนิดหน่อยแต่ไม่มากกว่านี้แล้วล่ะ แต่มันไม่ทำอะไรคนนะ ถ้าเราไม่ไปทำอะไรมันก่อน(ก็แหงล่ะ...ไม่ใช่ปิ่นมุกหนิจะได้อะไรก็ยอม)....หนูเห็นสีขาวๆในรังนั่นมั๊ย" เราก็เหลือบขึ้นไปมองตามที่ลุงชี้ชวน " ฮื่อ..." ลุงตัดต้นไม้บอกว่า"สีขาวๆในรังที่เราเห็นก็คือลูกของพวกมัน มันกำลังเลี้ยงลูกอยู่ เดี๋ยวพอลูกมันโต พวกมันก็จะไปเอง แล้วเมื่อนั้น รังมันก็จะร้าง ไว้เราค่อยเอาออกตอนนั้นดีกว่า"(เข้าโหมดซึ้งปนสงสาร)เราเลยคิดในแง่ดีว่า ถือซะว่ามีบอดี้การ์ดข้างบ้านก็ไม่เลวเหมือนกัน พอลุงตัดต้นไม้กลับไปแล้ว เพิ่งนึกขึ้นได้ลืมถามคำถามสำคัญว่า แล้วอีกนานไหมกว่ามันจะโตอ่ะลุง...แต่ก็ช่างเถอะ...ถือซะว่าเป็นบ้านเอื้ออาทร หลังจากนั้น ทุกเช้าเราต้องไปแอบมองเจ้าต่อหางเสือซึ่งเป็นสมาชิกใหม่ร่วมบ้าน ไปโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้ความรู้สึกกลัวในตอนแรกมันหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่... ผ่านไปเป็นเดือน...อืม...รังของมันไม่โตขึ้นเท่าไหร่จากวันแรกที่เห็น ค่อยเบาใจหน่อย....วันนี้เป็นวันว่าง(จำไม่ได้แระว่าวันไหน...สงสัยจะเป็นอัลไซเมอร์ระยะฟักตัว)เราก็เลยไปด้อมๆมองๆสมาชิกร่วมบ้านอยู่นาน เลยสังเกตุเห็นว่า สีขาวๆที่อยู่ตามรูๆหรือช่องๆ(เรียกว่าอะไรก็แล้วแต่)มันค่อยๆหายไปแล้วครึ่งหนึ่ง อืม...สงสัยคำอธิษฐานของเราจะได้ผล เราอธิษฐานให้พวกมันโตเร็วๆจะได้ไปเร็วๆไง (ดูเหมือนจะใจดี^^)" จากวันแรกที่เห็นจวบจนวันนี้ก็ร่วมๆ3เดือนแล้ว ลูกๆของเจ้าต่อก็โตกันเกือบหมด คิดถึงตอนนี้เราก็แอบดีใจนิดๆที่ไม่ได้ทำลายบ้านหลังเล็กๆนั้น ก่อนที่บรรดาเจ้าต่อจูเนียร์จะได้ลืมตามาดูโลก แล้วก็เติบโตขึ้นมาเป็น ต่อหางเสือที่แข็งแกร่งในเวลาต่อมา... คงมี"ต่อ"อีกหลายล้านตัวที่ไม่มีโอกาสได้เติบโต หรือ มีสิทธิ์ได้ใช้อ๊อกซิเจนร่วมกับพวกเรา ไม่มีโอกาสจะได้ใช้พื้นที่ว่างในโลกใบนี้เพื่อเรียนรู้และเข้าใจการมีชีวิตอยู่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า การเอาตัวรอด ต้องทำกันยังไง...หลังจากผ่านประสปการณ์เป็นพี่เลี้ยงต่อ ด้วยความจำใจมา เราก็ได้ข้อคิดเตือนตัวเองว่า"ก่อนจะทำอะไร หยุดคิดสักนิด เวลาในชีวิตคงไม่เสียเปล่าหรอก"จริงมั๊ย...อย่างน้อยตอนนี้เราก็ไม่กลัว...ต่อ...แล้วล่ะ... ปล.ดูๆไปรังต่อที่ติดอยู่ข้างบ้านก็สวยดีเหมือนกันนะ...มองไปมองมาเหมือนเราได้ย่อแผนที่โลกมาประดับไว้ใกล้ตัว...เจ๋งซะ (หาเรื่องชมตัวเองอีกแระ):p ปล.รอบ2 หลังจากได้อ่านเรื่องแมลงวันหัวเขียว2 ของคุณ พีรเดช นวลสายแล้วทำให้เราอยากลองเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาบ้าง มองหาวัตถุดิบใกล้ตัวก่อนเลย...
23 พฤศจิกายน 2549 17:02 น. - comment id 93888
ตอนเด็กๆเราเคยไปแหย่รังต่อด้วยค่ะ หลบเกือบไม่ทันค่ะ เกือบหัวหงอกก่อนไวแล้วค่ะ
23 พฤศจิกายน 2549 17:21 น. - comment id 93890
เกือบไปแล้วมั๊ยล่ะ***เพียงพลิ้ว*** อิอิ...แต่ตอนนี้ถึงเราจะไม่กลัวแล้วเวลาเดินผ่านไปใกล้ๆก็ต้องมองซ้ายมองขวาอยู่ดี...
23 พฤศจิกายน 2549 17:57 น. - comment id 93891
ที่บ้านมีแต่พึ่งใต้หลังคา....มาเลนไฟกลางคืน....เห็นคนใต้เค้าเผาต่อเอาตัวอ่อนมากิน ยังไม่ได้ลองเลย
23 พฤศจิกายน 2549 18:02 น. - comment id 93892
อ่า...อย่าลองเลยน่าสงสารออกนะ***ทางแสงดาว***
24 พฤศจิกายน 2549 13:05 น. - comment id 93909
เอามากินเลยดิ เคยลองแล้วววววววว ไม่โหดร้ายหรอก
24 พฤศจิกายน 2549 22:12 น. - comment id 93914
เขียนได้อารมณ์ขันดีครับ เมื่อสองสามอาทิตย์ ที่ผ่านมานี้แหละ ผมโดนตัวต่อหัวเสือบอมส์ใส่ กระบานผมได้สามบอมส์ ขณะที่ออกไปขี่จักรยาน ออกกำลังกายตอนเย็นๆ ผ่านรังของมันที่ทำรังใน ศาลพระภูมิแถวๆบ้านเป็นรังใหญ่มากครอบคลุม ศาลจนเกือบมิดศาลมารู้ภายหลังนะครับ ต้องรีบ ขี่กลับบ้านทันทีปวดหนึบๆ ดีนะผมไม่แพ้กับพิษ ของมันเท่าไหร่แต่ก็เล่นเอาคอแข็งไปเหมือนกัน ใช้ยาหม่องสมุนไพรทาแล้วทานยาอักเสบตามติด จะสองสามวันนี่แหละถึงจะหาย เอามือปัดมันขณะ กำลังบอมมันติดกับผมบนศีรษะไม่ยอมไป จนต้องตบมันนั่นแหละถึงบินหนีมองเห็นได้ ตัวเกือบเท่านิ้วนางผุ้ชายเช่นผมนี่แหละครับ มิฉะนั้นหัวคงหงอกดั่งผู้ใหญ่แจ้งแต่หรือว่าหัว ผมหงอกอยู่แล้วถึงกลมกลืนไป ให้เขาดูรอย ที่ถูกต่อยเขาบอกว่าไม่หงอกครับ ต่อนี้มันจะไม่ทำรังใกล้หน้าต่างคนหรอกครับ มันจะทำรังไว้วางไข่ตามสถานที่ไม่ค่อยพลุกพล่าน ที่ผมว่าศาลนั้นบ้านไม่มีใครอยู่ปล่อยร้างไว้ ไม่มีคนมาเช่าครับ เจ้าของติดธนาคารจนถูกยึดไป ทึ่คุณเห็นนั้นผมว่าคงจะเป็นตัวหมาร่า ลักษณะคล้าย ตัวต่อแต่เล็กกว่ามาก ตัวมักจะเป็นสีเหลืองเกือบ ทั้งตัว พวกนี้แหละมักชอบทำรังแถวหน้าต่างหรือ มุ้งลวดครับ รังทำด้วยดินเหนียวรังนิดเดียว มันไม่ดุร้ายทำอันตรายใครหรอกครับเหมือน ใจดียังไงยังงั้นแหละ แต่ก็ไม่ควรไว้วางใจ ผิดกับต่อหัวเสือที่ผมเล่ามานี้นั้นนะมันดุร้าย จริงๆหากไปไล่มันแล้วล่ะคุรเอ๋ย มันไล่ทันที เลยล่ะต้องหนีกันตาเหลือกเลยล่ะ เอาล่ะครับผมโม้ให้คุณฟังแค่นี้นะครับ ขอบคุณที่เคยไปเยี่ยมงานผมมาครับขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
25 พฤศจิกายน 2549 07:45 น. - comment id 93919
ขอบคุณค่ะ***ลุ่มน้ำ(หูย...ชอบกินหญ้าอ่อนเอ๊ย ตัวอ่อนนิเอง)***แก้วประเสริฐ(...อืม...แต่รังมันไม่ได้ทำด้วยดินเหนียวนะ แก้วประเสริฐฯ นี่เป็นรังเห็นๆเลยอ่ะเป็นช่องๆๆแต่หน้าต่างบานนั้นไม่ได้เปิดนานแล้วอ่ะเป็นไปได้มั๊ยว่ามันคิดเอาเองว่า บ้านร้าง...แหะ ตัวมันสีน้ำตาลเข้มๆอ่ะ ไม่ใช่สีเหลืองบางวันก็มีศพของมันตกลงมาตายข้างบ้าน..เราต้องเก็บไปทอด เอ๊ย เก็บไปทิ้งบ่อยๆ)