***ทำดีติดดี...คนดีที่ผกผัน***
โคลอน
ถ้าหากคนเรายึดติดกับคำๆนี้ เราก็คงจะผิดหวังหากทำดีแล้วไม่ได้ดี จนมีคนคิดคำเสียดสีขึ้นมาว่า***ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป*** สังคมเราจะเป็นยังไงถ้าคนทำดีเกิดท้อ คงมีคนดีที่ผกผัน อีกมากมายเกิดขึ้นจนนับไม่ถ้วน แต่ถ้าหากเราคิดกลับกันว่า คนที่ทำดีคือคนปกติ คนไม่ปกติเท่านั้นที่ทำชั่ว คนเราก็จะทำดีจนเป็นนิสัยและถือเป็นเรื่องปกติ สังคมก็จะน่าอยู่ขึ้นเพราะไม่ต้องใช้แรงจูงใจมากมายในการที่จะให้คนหันมาทำดี คนเราก็คงจะทำดีได้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ถึงไม่มีใครเห็นไม่มีใครรู้ก็ยังคงทำดีต่อไป ไม่ต้องมีชื่อเสียงเงินทองมาล่อใจเราก็ทำดีด้วยความสมัครใจได้เช่นกัน ถ้าหากเราค่อยๆปลูกฝังสิ่งเหล่านี้เข้าไปในสังคมขนาดเล็กก่อน โดยเริ่มต้นจากตัวเรา ครอบครัวเรา สักวันคนที่ทำดีโดยไม่ยึดติดว่าต้องได้ดีก็จะขยายวงกว้างขึ้น สังคมก็จะน่าอยู่และมีความเป็นมิตรมากกว่าศัตรูหรือคู่แข่ง คงน่าเสียดายถ้าจะมีคนดีที่ผกผัน หันมาห้ำหั่นกันเองโดยที่ตัวแปรเหล่านั้นคือการทำดีแล้วต้องได้ดี
ขออนุญาตนำคำสอนของ*** ท่านพุทธทาสภิกขุ*** มาประกอบแนวคิด
***มามือเปล่า***
ยศและลาภหายไปไม่ได้แน่
คงเหลือแต่ต้นทุนบุญกุศล
ทรัพย์สมบัติทิ้งไว้ให้ปวงชน
แม้ร่างตนก็เอาไปเผาไฟ
เมื่อเจ้ามามีอะไรมาด้วยเจ้า
เจ้าจะเอาแต่สุขสนุกไฉน
เมื่อเจ้ามามือเปล่าจะเอาอะไร
เจ้าก็ไปมือเปล่าเหมือนเจ้ามา