บทที่ ๖ มหันต์ภัย หญิงดาริกาเดินไปแหวกม่านพร้อมหันหน้ามาเรียกชายหนุ่มเพื่อให้เข้าไปดูแท่นที่พระบรรทมของ องค์กษัตริย์ เขาจึงเอ่ยปากถามว่า “เดี๋ยวก่อนแม่หญิง สงสัยเหลือเกินว่าตั่งที่ตั้งยังด้านทิศใต้นั้นใช้ประโยชน์อะไรหรือน้องหญิง” หญิงสาวหันกลับไปมอง พร้อมกล่าวว่า “นั่นเป็นที่ตั้งของเครื่องมโหรีใช้สำหรับกล่อมองค์กษัตริย์ยามหนึ่งทุ่มเป็นต้นไป ประกอบเพลงให้นางรำ ฟ้อนถวายทอดพระเนตรพระกรรณระหว่างเข้าที่พระบรรทมบนพระแท่นบรรทมค่ะ โดยจะมีนางในเปิด พระวิสูตรจนกระทั่งองค์กษัตริย์จะเข้าสู่พระนิทรา แล้วก็รูดปิดพระสูตรเหล่านางสนมนางในนางรำทั้งหลาย ก็จะกลับ ต่อมาก็เป็นหน้าที่ของทหารหญิงชายอารักขาตามพระทวารและพระบัญชรค่ะ” การที่หญิงสาว กล่าวคำราชาศัพท์ประกอบนั้นเพื่อต้องการให้ชายหนุ่มรับทราบถึงคำที่ใช้เรียกหาองค์กษัตริย์ซึ่งชายหนุ่ม จะต้องรับทราบไว้ก่อนในทางปฏิบัติต่อไป เมื่อชายหนุ่มก้าวตามเข้าในพระที่ก็พบตั่งยาวสร้างด้วยหินอ่อนหลากสีแกะสลักด้วยลายต่างๆขาตั้งรับนั้น เป็นรูปพญานาคแผ่พังพานลำตัวและหางพันเป็นรูปวงกลมตรงกลางตั่งของอีกตัวหนึ่งซึ่งยาวทอดไปแผ่พังพาน ของขาอีกมุมหนึ่งเป็นฉะนี้ทั้งสี่ขา บนหัวตั่งตั้งไว้ด้วยหมอนสามเหลี่ยมริมผนังกำแพงปราสาทจัดวางด้วยหมอน ข้างและผ้าห่มซึ่งทอประกายแสงแวววับ ด้วยความสงสัยชายหนุ่มจึงเดินตรงไปเอานิ้วมือจิ้มไปยังที่พื้นเตียงนั้น เพื่อทดสอบว่าจะนุ่มนิ่มเหมือนกับที่เขาใช้นอนเมื่อครั้งอยู่ในถ้ำหรือเปล่า ผลปรากฏว่ากลับนุ่มนิ่มกว่าประดุจ ปุยนุ่นบางเบาคล้ายละเอียดอ่อนล่องลอยไปมากว่าที่ผ่านมา จึงหันไปมองหญิงสาวเห็นสาวเจ้ายืนยิ้มอยู่ในการ กระทำของเขา “นี่ใช้เป็นพระแท่นที่บรรทมขององค์ราชันย์ค่ะ ท่านพี่เดินดูไปรอบๆก็ได้นะเพราะต่อไปท่านพี่ก็ต้องมาพัก ที่นี่แหละ ทางพระบัญชรก็สามารถแลเห็นวังเล็กทั้งสองพระบัญชรตรวจดูการเป็นอยู่ของพระมเหสีพระองค์ใด พระองค์หนึ่งได้ อีกทั้งด้านหลังแท่นที่พระบรรทมจะเป็นประตูทอดสู่ยังปราสาทของท่านมหาราชครูพ่อปู่ค่ะ” หญิงสาวกล่าวพร้อมเดินนำหน้าชายหนุ่มซึ่งคอยเฝ้าติดตามอยู่ พอแหวกม่านผืนใหญ่ก็พบประทางทางออก ยืนเฝ้าด้วยทหารหญิงชายอย่างละหนึ่งนาย เมื่อทหารหญิงชายพบหญิงสาวก็รีบทำความเคารพก้มหน้าลงมอง ด้านหลังเป็นทางยาวทอดไปไกลเห็นปราสาทสีขาวล้วนทำด้วยแก้วหลากสีสะท้อนแสงสดใส “ท่านพี่จะไปดูหรือไม่ค่ะ” หญิงสาวถาม “อย่าดีกว่าน้องหญิง ยิ่งเป็นสถานที่ของท่านพ่อปู่ด้วยแล้วมิบังควรอย่างยิ่ง” ชายหนุ่มตอบ หญิงสาวยิ้ม ใบหน้าช่างงดงามอะไรเช่นนี้ความขาวผ่องนวลใยประกายสีชมพูไล้ใบหน้าด้วยประกายสีส่งให้ ยิ่งพิศยิ่งงามงดงามตา ชายหนุ่มอดวูบเข้าไปในทรวงเสียมิได้ หากเราได้เป็นองค์ราชันย์จริง หญิงเอยในโลกนี้เห็น ทีพี่คงจะต้องไม่เหลียวแลใครอีกแล้วจะคอยเฝ้าประโลมเล้าเจ้าเพียงคนเดียว มิให้ห่างกายน้องแม้แต่ชั่วเวลาเดียว จะคอยเฝ้าเคล้าคลึงในรสเสน่หายากที่จะหลีกลี้ไปที่ใดได้ พลางกระหยิ่มยิ้มย้องอีกไม่ช้าหรอกน้องหญิงความ จริงย่อมปรากฏมิดั่งฝันเช่นขณะนี้ ชายหนุ่มยิ้ม เสมือนจะรู้ความคิดอ่านของชายหนุ่ม หญิงสาวใบหน้ากับแดงซ่านเต็มไปด้วยสีเลือดกล่าวสำเนียงตะขุก กุกกักว่า “ก็ดีเหมือนกันท่านพี่ เพราะปกติแล้วท่านพ่อปู่ก็ไม่ค่อยชอบให้ใครไปพลุกพล่านนัก ยกเว้นแต่มีเรื่องสำคัญ ที่จะต้องจัดการกับบ้านเมืองหรือปรึกษาข้อราชการเท่านั้น มักจะขลุกตัวเจริญธรรมสมาธิแต่เพียงผู้เดียวหาสนใจ อื่นใดๆและมักจะไม่อนุญาตให้ใครไปหา จะเว้นก็เพียงแต่องค์ราชันย์หรือหญิงเท่านั้นเอง” หญิงสาวกล่าวถึง อุปนิสัยของท่านพ่อปู่ “นั่นซิตอนนี้จะอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ได้ เพราะตอนขาเข้าเห็นท่านอยู่วิหารเล็กนะหญิง”ชายหนุ่มกล่าว “ท่านพ่อปู่มักจะไปที่วิหารเล็กเสมอเพราะต้องคอยตรวจตราสิ่งภายนอกเป็นประจำ บางครั้งก็ออกเดินทางไป ตามภพต่างๆเพื่อสนทนาธรรมกับองค์เทพเสมอๆ” “นั่นซิจึงไม่สมควรจะไปท่านคงจะทราบถึงการกระทำของเราทั้งสองแล้วล่ะ” ชายหนุ่มพูดถึงชายชรา “ถ้าอย่างนั้นก็สมควรแก่เวลาแล้วท่านพี่จะได้พักผ่อนเสียก่อน เห็นท่านพ่อปู่กล่าวก่อนไปรับท่านพี่ว่าหาก เป็นองค์ราชันย์จริงคงจะลืมเหตุการณ์เก่าๆหมดแล้ว จะให้ไปฝึกฌานสมาธิเสริมสร้างปัญญาบารมีในระหว่าง คอยวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำที่ใกล้จะถึงนี้คงใช้เวลาไม่นานหรอกเพราะบารมีเก่าที่สะสมไว้จะคอยหนุนให้แตกฉานได้ ง่ายกว่าคนที่ไม่เคยฝึกสมาธิมาเลย” หญิงสาวกล่าวขึ้น “แล้วหญิงจะจัดคนมาคอยปรนนิบัติท่านพี่เอง” หญิงสาวกล่าว “ไม่ต้องหรอกน้องหญิง หากมีคนมาปรนนิบัติเห็นทีพี่เองคงจะไม่ได้พักผ่อนนะ” ชายหนุ่มกล่าวด้วยเกรงใจ “ถ้าเป็นเจตนาของท่านพี่ หากมีความต้องการอะไรขอให้ท่านพี่ไปที่หัวตั่งเตียงจะมีระฆังแก้วแขวนไว้ให้ ท่านพี่เคาะระฆังแก้วใบนั้น ก็จะมีนางสนมกำนัลเข้ามาคอยปรนนิบัติรับใช้นะ ตอนนี้หญิงขอลาไปพักผ่อน ก่อน” หญิงสาวกล่าวขอตัว “อย่างนั้นลำบากน้องหญิงมากแล้ว ขอบใจน้องหญิงมากนะ” ชายหนุ่มยิ้มกล่าวคำขอบคุณ “ อ้อเดี๋ยวเวลาประมาณสักทุ่มกว่าๆ หญิงจะมาร่วมทานอาหารกับท่านพี่ด้วย” หญิงสาวกล่าว ตั้งทุ่มหนึ่งหรือตอนเราอยู่ที่โน่นห้าหรือหกโมงก็กินกันแล้ว แต่ก็ไม่กล้าทักท้วงแต่ประการใดเพราะคิดว่าเมื่อ มาถึงที่นี้แล้วอะไรๆก็ต้องปล่อยตามไป เปรียบเสมือนเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม หรือพายเรือในคลอง ก็ต้องคดตามคลองฉันท์ใด ชายหนุ่มคิด พลางตอบว่า “ตามใจน้องหญิงเถอะจ๊ะ หญิงว่าอะไรพี่ก็ว่าอย่างนั้นแหละ” ชายหนุ่มตอบ หญิงสาวไม่ตอบอะไรเพียงแต่ยิ้ม ถึงแม้ว่าแค่เพียงยิ้มของหล่อนก็ทำให้เขาวาบหวามใจยิ่งนักจนแทบรู้สึกไม่ หิวโหยแต่ประการใด เพียงแค่มองหญิงสาวก้าวพ้นประตูวังและเห็นหล่อนกำลังสนทนากับนายทหารองครักษ์ เมื่อหล่อนก้าวเดินไปก็มีนายทหารองครักษ์ติดตาม คงเหลือเพียงสองนายชายหญิงที่ยังคงยืนเฝ้าหน้าประตูวังไว้ ครั้นเหลือบมองไปที่หน้าต่างพบทหารหญิงชายเฝ้าอยู่ด้วย ช่างเคร่งครัดจริงๆ ชายหนุ่มคิด จนกระทั่งเวลาผ่านเลยไปหลังจากที่รับทานอาหารกับหญิงดาริกา พร้อมดูการฟ้อนรำพร้อมมโหรีจนกระทั่ง เวลาล่วงเข้าดึก หญิงดาริกาจึงขอตัวไปพักผ่อนบ้าง ชายหนุ่มก็รู้สึกเกิดอาการง่วงเหงาหาวนอน จึงไปที่เตียงนั่ง เอนตัวลงนอนใช้ความคิดย้อนหลังเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาเสมือนหนึ่งเป็นความฝันที่เกิดขึ้นแก่เขาและผล็อย หลับไปเมื่อไหร่มิรู้ได้ จวบจนฟ้าสางเสียงไก่ขันกังวานเจื่อนแจ้วแว่วเข้ามา เขาจึงรู้สึกตัวขยับกายลุกขึ้นนั่งแต่นึกแปลกใจยิ่งนัก เพราะก่อนนั้นเขาเดินเที่ยวต่างๆไม่เห็นมีไก่สักตัวเดียว แต่ทำไมตอนนี้กลับได้ยินเสียงร้องกังวานจึงลุกขึ้นเดิน ไปที่หน้าต่างมองไปข้างนอกก็ไม่พบเห็นแต่ประการใด อะไรๆมันช่างพิเศษพิสดารจริงๆเขาคิด พลันเหลือบไป เห็นโต๊ะริมหน้าต่าง ถูกจัดวางไว้ด้วยขันที่ทำด้วยทองคำ ภายในบรรจุน้ำแล้วโรยด้วยกลีบดอกไม้พร้อมถาดทองคำ ส่งประกายวางด้วยผ้าสีสวยสดเป็นชั้นๆ ตั้งแต่มาที่นี่เขาเห็นภาชนะทำด้วยทองคำสองครั้งคือจานที่กินพร้อมช้อน ถ้วยใส่น้ำแกงและมา ณ ที่นี้อีกครั้นจะถามหญิงดาริกาก็ไม่กล้าหรือว่าของใช้ถูกอย่างของกษัตริย์จะทำด้วยทองคำ แต่ทำไมล่ะตั่งเตียงที่เขานอนรวมทั้งตั่งที่ตั้งของวงมโหรีกลับไม่เป็นทองคำเลย คงจะมีนัยพิเศษอะไรบางอย่างเขาคิด คงเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ ไม่รู้วันนี้ก็คงจะรู้วันหน้าหรอกเขานึกคิด พร้อมจัดการล้างหน้าล้างตาด้วยน้ำที่ใส่ใน ขันทองคำ โอ้โฮช่างหอมหวนอะไรเช่นนี้เขารำพึงกับตนเอง พลางหยิบผ้าขึ้นเช็ดหน้าก็ช่างนิ่มนวลเช่นกัน คนที่เป็นกษัตริย์นี่ช่างพิถีพิถันจริงๆนะ หากเป็นแต่ก่อนเพียงแค่ขันอลูมิเนียมจ้วงน้ำจากตุ่มขึ้นล้างแล้วเอาผ้า ขาวม้าเช็ดตัวก็เรียบร้อย เราเราจะวางตัวอย่างไรดีหนอต้องพยายามเรียนรู้สิ่งเล็กๆน้อยให้หมอเพื่อจะได้ไม่เกิด ความขวยเขินเป็นที่ครหานินทาจากคนอื่นได้เขาคิด อ้าวตื่นเช้ามาเราต้องเข้าห้องน้ำถ่ายทุกข์และอาบน้ำจะทำ ฉันท์ใดดีหนอ ยังไม่ทันทีความคิดจะสิ้นสุดก็เห็นเหล่านางกำนัลทั้งหลายเดินเข้ามาพร้อมน้อมตัวลงกล่าว เชื้อเชิญเขาให้ไปยังห้องขวามือโดยเดินนำหน้า เข้าไปในห้องตั้งแต่เข้ามาเขามิทันสังเกตว่าภายในห้องนั้นจะมี กี่ห้องเพราะมันแต่เพลินและสนทนากับหญิงดาริกา จนลืมสิ่งเล็กๆน้อยไปปกติแล้วเขาเป็นคนละเอียดคนหนึ่ง เมื่อเขาถูกนำพาไปยังในห้องพร้อมสาวสวยเหล่านั้น เหล่านางทั้งหลายก็รีบเปลื้องผ้าเขาทั้งหมด ทำให้ชาย หนุ่มตกใจมากถึงกับแย่งเสื้อผ้าชุนมูลกันทีเดียว จนนางบางคนกลั้นหัวร่อแทบตายเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วเขาจึงยอม ให้นางกระทำโดยมิขัดขืนเปลื้องเขาจนกายล่อนจ้อน แล้วนำลงไปยังสระน้ำที่โรยด้วยดอกไม้ต่างพันธุ์ส่งกลิ่น หอมโรยริน เหล่านางกำนัลก็พากันลงไปพร้อมขัดสีฉวีวัณเขาเป็นการใหญ่ ส่วนนางอีกกลุ่มหนึ่งยืนรออยู่ ข้างๆถือเสื้อผ้ายืนคอยไว้ ทำให้เขารู้สึกเขินเหนียมอายจนหน้าแดงกร่ำ นางอีกกลุ่มหนึ่งกำลังดีดสีตีเป่าด้วยเครื่อง ดนตรีคล้ายๆกล่อมก็มิปาน หลังจากเสร็จภารกิจทั้งปวงแล้วพวกนางก็จัดการเช็ดเนื้อตัวพร้อมทั้งนำน้ำหอมแป้ง ที่จัดทำเป็นพิเศษทาและโรยตัวเขาจนหอมกรุ่นไปทั่ว เสร็จสรรพก็จัดการสวมใส่เสื้อผ้าเครื่องประดับนานา ประการซึ่งเขาเองไม่รู้เลยในเรื่องนี้ หากเป็นเขาคงไม่ยุ่งยากมากเช่นนี้ เมื่อสมควรแก่การจัดการจึงนำเขาไป ยังบานกระจกบานใหญ่ที่ทำด้วยทองคำขัดเงางามส่งประกายชัดเจนแทนกระจกเงาที่เคยใช้ในเก่าก่อนจัดการ แต่งใบหน้าพร้อมคาดผ้าศีรษะด้วยผ้าที่ถักทอด้วยใยทองคำประดับด้วยมณีสีแดงก้อนใหญ่ส่องประกายแดงฉาน เมื่อเหล่านางกำนัลตรวจสอบเห็นว่าเรียบร้อยดีแล้วก็พากันน้อมก้มถอยหลังพร้อมเดินออกไปพร้อมกับนาง ที่บรรเลงดนตรี เหล่านางกำนัลนี้จัดถือว่าเป็นสาวสวยตระการตากลุ่มหนึ่งหากแม้นเป็นสมัยก่อนคงจะมีการ แก่งแย่งชิงตัวนางทีเดียว เขาเองก็อดจะชมความงามของนางกำนัลเสียมิได้ แล้วก็ย่างเท้าเดินออกไปยัง หน้าต่างยืนชมวิวในอุทยาน ซึ่งมีมวลหมู่แมลงแปลกตากำลังบินว่อนไปว่อนมาตามกลีบดอกไม้ทั้งหลาย “ท่านพี่เรียบร้อยแล้วหรือค่ะ” หญิงสาวอมยิ้มกึ่งหัวร่อคิกๆๆ จนชายหนุ่มเหนียมอายคิดว่าหล่อนคงจะทราบถึงการอาบน้ำของเขาเป็นแม่นมั่น รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าววูบวาบ ไปมา แสร้งกลบเกลื่อนความเขินด้วยเดินไปทำท่าทางพินิจพิจารณานางทันที แล้วกล่าวชมนางทันที “วันนี้น้องหญิงแต่งกายช่างงดงามเสียเหลือเกินจนพี่แทบจะจำน้องหญิงมิได้ ทำไมช่างสวยบาดใจเช่นนี้” ชายหนุ่มชมเพื่อเปลี่ยนเรื่องเกี่ยวกับการอาบน้ำของเขา ได้ผลแฮะเห็นหล่อนมีใบหน้าอายขวยเขินทันที “อ้อ..ท่านพี่น้องได้รับข่าวว่าท่านพ่อปู่เรียกท่านพี่และหญิงเข้าพบโดยด่วนมิทราบว่าเรื่องเป็นประการใด สงสัยเกี่ยวกับท่านพี่หรือเกี่ยวกับนครหรือเปล่า รีบเดินทางไปพบกันเถอะ” หล่อนพูดเสร็จรีบเข้ามาจูงมือเขา ทันที ชายหนุ่มแทบจะรวบตัวหล่อนมาสวมกอดเสียให้ได้เพราะกลิ่นหอมในกายหล่อนช่างยั่วเย้าใจเหลือเกิน อยากจะพรมจูบลงบนใบหน้าอันงามงดปานประหนึ่งเทพธิดาเสียให้ได้ จนต้องรีบชั่งใจไว้อย่างลำบาก “แล้วท่านพ่อปู่อยู่ที่ใดรึ” ชายหนุ่มถาม แต่จิตใจรู้สึกสังหรณ์อย่างไรชอบกล “ท่านพ่อปู่มารอท่านพี่ที่อุทยานริมน้ำพุร้อนค่ะ” หญิงสาวตอบ พลางชายตามองชายหนุ่มที่เปลี่ยนสภาพ ใหม่ ร่างกายเขาซึ่งกำยำล่ำสันเนื่องจากทำงานหนักกลับเปล่งประกายของความเป็นลูกผู้ชายรัดรูปเข้ากับเครื่อง แต่งกายอย่าพอเจาะพอเหมาะทำให้เกิดรังสีสง่างามอย่างประหลาดจนอดชมในใจนางจนรู้สึกปลื้มปติ ในความทะมัดทะแมงของชายหนุ่มผู้ซึ่งจะมาเป็นสามีนางต่อไปมิได้ “รีบไปเถอะน้องหญิงหากไม่มีเรื่องท่านพ่อปู่คงจะไม่มาหาอย่างเร่งด่วนเช่นนี้” ชายหนุ่มตอบเจตนาที่คิด จะเย้าแหย่หล่อนหายไป ทั้งสองรีบเดินออกทางประตูข้างของปราสาทเพื่อเข้าไปในสวนอุทยานแลเห็นท่านพ่อปู่กำลังยืนมองดู สายธารน้ำพูอย่างเคร่งเครียดสังเกตได้จากใบหน้าคิ้วขมวดจนเป็นเส้นๆ เมื่อเข้าไปถึงจึงน้อมกายลงพนมมือไหว้ ท่านพ่อปู่หันกลับมายิ้ม พลางเชิญให้ทั้งสองนั่งยังเฉลียงทอดยาวริมที่สร้างไว้แบบม้านั่งยาวหินอ่อน เมื่อทั้งสาม นั่งลงเรียบร้อยแล้ว ท่านพ่อปู่ก็เอ่ยปากกล่าวขึ้น “ปู่พึ่งได้รับรายงานมาเมื่อกี้นี้เองว่า เมืองกาฬปักษ์คีรีนครจะส่งกำลังมาขอน้ำอมฤตศักดิ์สิทธิ์กับเราเป็น ข้ออ้างความต้องการอันแท้จริงนั้นต้องการเจ้าหญิงดาริกามากกว่า เพราะหากขอน้ำอมฤตศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียว ก็จะต้องทำสงครามกับสรวงสวรรค์เพียงแต่กล่าวอ้างเท่านั้น” ท่านพ่อปู่เอ่ย “ที่ท่านท้าวนิลกาฬกล้ากำเริบเติบสานเช่นนี้เพราะเห็นประกายของไข่มุกกับแสงที่ครอบคลุมเมืองเรานั้น อ่อนแสงลง ตามลำดับ จึงไปยุแหย่นครต่างๆโดยเอาน้ำอมฤตเป็นที่ตั้งจะแบ่งปันกันทั่วๆแต่ในเจตนาอันแท้จริง กลับมุ่งหวังในตัวเจ้าหญิงดาริกามากกว่า เพราะหากเป็นเช่นนั้นนครต่างๆก็จะไม่เห็นด้วย เพราะนครเหล่านี้ต่าง ก็กระหายในน้ำอมฤตเพียงคอยหาโอกาสและจังหวะเท่านั้น อีกประการหนึ่งท่านทัศยุราชันย์สิ้นพระชนม์ไป ความเกรงกริ่งก็ลดน้อยลงไปด้วย ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วว่าเจ้าหญิงดาริกาทรงพระสิริโฉมโนมพรรณงามยิ่งนักแม้ แต่พระมเหสีของมหาเทพบนสรวงยังต้องก้ำกึ่งกัน ด้วยเหตุนี้จึงมีราคะจริตมากขาดความเกรงกลัวเหมือนแต่ ก่อนเก่ายิ่งด้วยมเหสีของท้าวนิลกาฬก็สิ้นพระชนม์ชีพไม่นานมานี้เอง” ชายชราสาธยายให้ฟัง “ทางเราได้รายงานเรื่องนี้ให้ท่านมหาเทพทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ทว่าท่านท้าวนิลกาฬยังไม่ทราบ ว่าท่านทัศยุราชันย์ได้หวนกลับมาแล้วในคราบของมนุษย์” ชายชราเสริม “แล้วท้าวนิลกาฬเป็นใครอยู่ที่ใดหรือท่านพ่อปู่” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัยพลางหันไปมองหญิงดาริกา เห็นใบหน้าสวยสดงดงามมีแววประกายดุดันเคร่งเครียดจนเขาอดสะท้านใจมิได้มิคิดว่านางที่งดงามเช่นนี้ยาม ไม่สบอารมณ์จะมีลักษณะน่าสะพรึงกลัวยากแก่การเย้าแหย่ได้ “ท้าวนิลกาฬเป็นเทพอสูรอยู่ริมป่าหิมพานต์เชิงเขาไกรลาส ได้ข่าวว่าได้รับพรจากท่านมหาเทพมาจึงทำให้ ไม่ยำเกรงกลัวผู้ใดเที่ยวย่ำยีเทพเทวามนุษย์สัตว์ไปทั่วขยายอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลจนท่านท้าววิรุฬหคมหาราช ต้องออกไปปราบปรามนั่นแหละถึงได้หยุดรุกรานแต่ด้วยนิสัยกักขฬะสักพักก็เริ่มต้นขึ้นใหม่คราวนี้พุ่งมาทาง เราเพื่อหากได้น้ำอมฤตไว้ก็จะทำให้เพิ่มฤทธิ์เดชมากยิ่งขึ้น” ชายชราอธิบาย “เอาล่ะท่านทัศยุแรกทีเราคิดว่าจะให้ท่านพักผ่อนสักพักหนึ่งก่อน แต่ตอนนี้เห็นทีจะต้องของด ตั้งแต่พรุ่งนี้ เป็นต้นไปให้หญิงดาริกาพาท่านมาหาเราที่ปราสาทด้านหลังเพื่อเริ่มต้นฝึกฌานสมาบัติเริ่มต้นปฏิบัติถือศีลพรต และตรวจสอบวิชาอาคมศิลปะศาสตร์อาวุธต่างๆ เพราะท่านเองก็เคยมีฌานจนถึงขั้นอนาคามีฌานแล้วเพียงเริ่มดึง ให้หวนกลับมา เริ่มต้นจากฌานเบื้องต้น กสิณทั้งหมดเข้าสู่ครรลองโลกียฌาน เราคิดว่าคงใช้เวลาไม่มากนัก พอถึงขั้นสมาบัติชั้นสูงก็เข้าสู่พิธีกรรมอาบน้ำธารศักดิ์สิทธิ์ในวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ เพื่อปลุกมหาศาสตราอาวุธเสริม โดยหญิงดาริกาเป็นผู้ดูแลควบคุมอย่าให้ขาด ทานอาหารที่เป็นผลไม้โดยนำผลไม้ทองที่เป็นตัวประสานธาตุ เพิ่มเติมทุกๆวัน นำน้ำอมฤตธาตุที่เราจะนำมาให้เร่งธาตุต่างๆภายในกายท่านทัศยุ คงจะทันต่อเหตุการณ์นี้แน่” ชายชรากล่าวกับชายหนุ่มพลางหันไปสั่งกับหญิงดาริกา ซึ่งรับฟังน้อมรับคำสั่งด้วยใบหน้าค่อยยิ้มแย้มแจ่มใส “ เอาล่ะเรามีเรื่องคุยก็เพียงเท่านี้ เพราะต้องรีบขึ้นไปเฝ้าท่านมหาเทพก่อนด้วยตัวเอง” ชายชรากล่าวจบก็ลุก ขึ้นเดินออกไปยังปราสาทส่วนตัว ปล่อยให้หนุ่มสาวสนทนากันต่อไป......
1 พฤศจิกายน 2549 14:16 น. - comment id 93272
พอถึงขั้นสมาบัติชั้นสูงก็เข้าสู่พิธีกรรมอาบน้ำธารศักดิ์ในวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ เพื่อปลุกมหาศาสตราอาวุธเสริม โดยหญิงดาริกาเป็นผู้ดูแลควบคุมอย่าให้ขาด ทานอาหารที่เป็นผลไม้โดยนำผลไม้ทองที่เป็นตัวประสานธาตุ เพิ่มเติมทุกๆวัน นำน้ำอมฤตธาตุที่เราจะนำมาให้เร่งธาตุต่างๆภายในกายท่านทัศยุ คงจะทันต่อเหตุการณ์นี้แน่ กว่าจะได้ทำพิธีกรรม ท่านชายผอมแน่เลยค่ะ
1 พฤศจิกายน 2549 16:39 น. - comment id 93274
กานต์จ๋า....มาแย่งตำแหน่งนะ.. ก้อยายยืนดูเช้าชายเปลื้องผ้าอยู่น่ะซิ เจ้าชายอะไร...น่าเกรียดจัง.....ยายแม่มดมือสั่นหมด.....เพิ่งมีแรงคิดเห้นค่ะ เจ้าชาย..ของยายแม่มด ......กานต์อย่าว่านะคะ..รักจัง
1 พฤศจิกายน 2549 23:18 น. - comment id 93275
ค่อยๆตั้งใจอ่านอย่างละเมียดค่ะ ยอดเยี่ยมเลยค่ะ ต้องติดตามแล้วค่ะ ด้วยศรัทธารักค่ะ
2 พฤศจิกายน 2549 22:24 น. - comment id 93294
...เหตุการณ์กำลังเข้มข้น..ศึกชิงเจ้าหญิง..กำลังจะเกิดขึ้น...รอติดตามต่อไปค่ะ...
2 พฤศจิกายน 2549 23:24 น. - comment id 93300
คุณ เพียงพลิ้ว เป็นงานบ้าๆบอๆบวมๆบ๊องส์ๆของผมครับ ซึ่งเขียนเป็นนิยายเรื่องแรกจริงๆในชีวิตนี้ของผม เองจะดีหรือไม่แล้วแต่ผู้ชมแหละครับ เจ้าหญิงมณีกานต์ แก้วประเสริฐ.
2 พฤศจิกายน 2549 23:27 น. - comment id 93301
คุณ ยายแม่มด นั่นแน่แอบดูเขาแล้วเอามาวิจารณ์เสียหายหมด เลยนะ โธ่..โถๆๆๆ เจ้าหญิงปทุมวดีนะเจ้าหญิง แก้วประเสริฐ.
2 พฤศจิกายน 2549 23:31 น. - comment id 93302
คุณ พุด สาวงามแห่งพฤกษาไพร นี่เป็นการเขียนนิยายเรื่องสั้นเรื่องแรกในชีวิต ของผมครับ เลยออกจะ บ้าๆบอๆบวมๆบ๊องส์ครับ แสนที่จะดีใจยิ่งที่นักเขียนเช่นคุณให้เกียรติมา คอมเม้นท์การเขียนนี้ ติดชมได้นะครับมือใหม่ครับ หวังว่าจะได้รับความกรุณาติดตามและคอมเม้นท์ งานผมด้วยนะครับดีใจมากครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
2 พฤศจิกายน 2549 23:34 น. - comment id 93303
คุณ ราชิกา ครับยิ่งจะเพิ่มความเข้มข้นขึ้นตามลำดับครับ จะค่อยๆลดความเยิ่นเย้อเท่าที่จำเป็นครับ หวังว่า แฝดเพื่อนที่รักยิ่งคงจะติดตามจนจบนะครับ เจ้าหญิงดาริกาแห่งนครนาครินทนาครครับ แก้วประเสริฐ.
5 กุมภาพันธ์ 2551 10:39 น. - comment id 98978
ขอบคุณนะคะที่ไดเขียนเรื่องที่สนุกย่างนี้มาให้ได้อ่านจะคอยอ่านเรื่องต่อไปเรื่อยๆค่ะ