*The Promise* รักเดียวของหัวใจและรักตลอดไปฉันสัญญา (ตอนที่1)
สุมิตา
Come Back :+: จุดเริ่มต้น:+:
ไอ้นัท....แกอยู่ไหนว่ะ ฉันรอแกมาสองชั่วโมงแล้วนะว้อย พสธรกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์สาธารณะที่อยู่ภายในสนามบิน ถ้าใครเห็นหน้าหล่อของเขาตอนนี้คงจะมีสองอารมณ์ในเวลาเดียวกัน ด้านหนึ่งคงจะหลงใหลกับหน้าตาหล่อเหลาถอดแบบมาจากชาวตะวันตกแต่ผิวแทนน้อยๆชวนให้น่ามองยิ่งนั้น ขัดกับดวงหน้าที่คิ้วแทบจะมัดเป็นปมอารมณ์ชุนเจ้าเพื่อนตัวดีของเขาต่างแสดงให้ใครต่อใครเห็นอย่างชัดเจน
เอออฉันก็รีบอยู่จะถึงแล้วเนี่ย....รถมันติดว้อยก็แกเล่นมาแบบฟ้าผ่าแบบนี้ใครจะไปรู้ว่ะ
งั้นเดี๋ยวเจอกันที่ร้านกาแฟในสนามบินนะขืนฉันยืนรอแกนะฉันตายแน่ คนก็เยอะ เบื่อจริงๆเมืองไทย
ครับๆคุณผู้ชาย เชิญครับ เดี๋ยวไอ้นัทคนนี้จะรีบเอาราชรสไปรับครับ ตาลตอบกลับพร้อมด้วยเสียงหัวเราะนุ่มๆ แล้ววางสายไป
แล้วมันนึกยังไงมาแบบฟ้าผาแบบนี้นะ หรือว่าเพราะแฟนแหม่มของมัน เอแต่ก็ไม่น่าจะใช่ มันหล่อจะตายหาอีกกี่คนก็ได้นี่หว่า เออไว้ค่อยถามมันแล้วกัน.....เขาปัดความคิดออกไปแล้วหันมาบึ่งไปที่สนามบินรับเจ้าเพื่อนซี้ตัวดีของเขา
.........................................................
ณ. ร้านกาแฟที่สนามบิน
ทางนี้นัท.... ชายหนุ่มในชุดสูทสีเทาโบกมือเรียกชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะมาจ่ายตลาดมากกว่ามาสนามบิน นัทรีบตรงมาหาเขาทันทีแล้วทรุดตัวลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
แกแต่งตัวอะไรของแกว่ะ ฮ่าๆๆ พูดไปก็ขำไปหลังจากสำรวจเพื่อนรักที่ใส่แค่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น และรองเท้าแตะ
ก็แกเล่นมาซะเช้านี่หว่า ฉันลุกมารับแกดีเท่าไหร่แล้ววะ อีกอย่างถ้าฉันช้าแกฆ่าฉันพอดี นัทส่งสายตาที่แทบจะฆ่าเพื่อนได้
เอาละ ขอโทษที่รบกวนแก เขาสลดลงเล็กน้อย หลังจากที่รู้สึกว่าเขาทำตัววุ่นวายมากเกินไป
เอาน่ะ...ล้อเล่นโว้ย ฉันว่ารีบไปดีกว่าตาล ฉันอายสายตาคนแถวนี้ว่ะ เขากระซิบกระซาบกับเพื่อนรักก่อนจะเดินนำลิ่วไปที่ลานจอดรถ
.......................................................................
นี่เออว่าแต่แกดูที่พักให้ฉันรึยัง ที่ฉันโทรมาให้แกหาให้น่ะ ตาลหันกลับไปถามนัท
เอออดูให้แล้ว เดี๋ยวดูนี้ล่ะกัน เขาพูดพลางก้มไปหยิบอะไรในลิ้นชักข้างตัวรถ
ที่นี่ไงสวยมั้ยว่ะ....ถ่ายรูปมาให้แกดูด้วย ฉันไปดูที่จริงมาแล้วนะสวยดีแกคงชอบว่ะเขาสำทับต่อ
สวยดี....เข้าอยู่ได้เลยใช่มั้ย เขาหยิบรูปไปดู
ได้เลยสิ กุญแจอยู่นี่แล้ว.....ว่าแต่แกมาเมืองไทยทำไมว่ะ เขาพูดพลางโยนกุญแจพวงหนึ่งให้คนนั่งข้างๆ ตาลอึ้งไปพักหนึ่งกับคำถามที่ได้รับจากนัท และไม่นานเขาก็หันไปบอกคนถาม
เอาไว้จะเล่าให้ฟัง ยาวว่ะ ตอนนี้ฉันอยากจะนอนที่สุดเลยแก นั่งเครื่องบินมาเป็นสิบๆชั่วโมงเหนื่อยจะตาย ตาลพูดพลางเอนเบาะและเอนตัวตามเบาะไป
แหมนั่งชั้น First class ยังเหนื่อยรึไง เขาหันไปยิ้มกับอีกฝ่าย หันไปก็อดขำไม่ได้
อะไรของมันพูดอยู่ดีๆหลับไปซะงั้น เรื่องของมันเอาไว้รอมันเล่าดีกว่า เขาเลิกคิดก่อนจะหันไปขับรถมุ่งหน้าไปกลางใจเมืองกรุงเทพที่แสนจะคับคั่งไปด้วยรถราและผู้คนมากมาย ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น สองหนุ่มก็มาถึงจุดหมาย
นัทดับเครื่องก้าวลงไปเปิดท้ายรถหยิบกระเป๋าเดินทางใบย่อมๆสองไปลงมาวางไว้ แล้วอ้อมไปประตูด้านข้างคนขับ แล้วสะกิดเพื่อนเบาๆ
ตื่นได้ละ....ถึงแล้ว ลงมาช่วยกันขนของดิว่ะ เขาดึงคู่สนทนาที่กำลังงัวเงียสุดขีดมาด้วย ก่อนจะปิดประตูรถ ตาลไล่ความงัวเงียออกไปก่อนที่จะหันไปสนมจกับกระเป๋าเดินทางของตัวเอง โดยมีนัทช่วยหิ้วไปใบหนึ่ง และเดินนำหน้าไป
ทำไมแกไม่ไปนอนที่บ้านว่ะ ให้ฉันหาห้องให้ทำไมเนี่ย นัทเป็นผู้ทำลายความเงียบระหว่างที่เขาทั้งสองอยู่ในสิฟท์
ไม่อยาก.....ไม่มีอะไรหรอก ตาลตอบเสียงเรียบๆ
อืมนี่ว่าแต่....แกทิ้งงานมาป๊ากับม๊าแกไมด่าเอาหรอ
ฉันไม่ได้ทิ้งนี่...ก็แค่เอามาทำที่นี่เดี๋ยวนี้สะดวกจะตายมีอินเตอร์เน็ตซะอย่าง กลัวอะไร
ไม่ทิ้งมาดนักธุรกิจดาวรุ่งแห่งปีจริงนะแกเนี่ย ฮ่าๆ
ว่าแต่ฉันดูแกสิ....ทำงานงกๆหาเมียเป็นตัวเป็นตนได้รึยังว่ะ ตาลตอกกลับทำเอานัทอึ้งไปนิดก่อนที่จะหัวเราะออกมาพร้อมกัน
เป็นไงห้องสวยมั้ย....แกคงชอบนะ นัทถามตาลขณะที่ทรุดตัวลงบนโซฟาสีฟ้าที่อยู่มุมห้อง
สวยดี...แต่ทำไมมันดูแหวๆว่ะ ยังกับผู้หญิงอยู่เลย ตาลค่อยเดินสำรวจทีละห้องเรื่อยๆ
ภายในห้องชุดนี้ถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือห้องนั่งเล่น และอีกมุมหนึ่งของห้องจะมีมุมทำครัวเล็กๆ และมีห้องนอนอีกสองห้องซึ่งมีห้องน้ำในตัว และดูจากสิ่งของที่จัดอยู่แล้วไม่น่าเชื่อเลยว่าจะไม่มีคนอยู่ เพราะทุกสิ่งในห้องครบครันไปเสียทุกอย่าง
แกทายถูก เจ้าของห้องคนก่อนเป็นผู้หญิง รู้สึกว่าคนที่ปล่อยให้เช่าจะเป็นพี่สาวเจ้าของห้องนะ
เห็นว่าน้องสาวไม่สบายหรือไงเนี่ยแหละ เลยมาปล่อยให้เช่า
แล้วแกไปรู้จักเค้าหรอถึงให้แกเช่า ตาลทรุดตัวลงบนโซฟาอีกด้านหนึ่ง
ป่าวหรอก....พอดียัยนุชรู้จักน่ะ มันเลยแนะนำฉันมา ที่นัทพูดถึงก็ไม่ใช่ใครอื่น นุสรา น้องสาวแท้ของณัฐดนัยนั่นเอง สองพี่น้องสนิทกับตาลเป็นอย่างดีเพราะโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก
อีกทั้งพ่อแม่ของทั้งสองตระกูลก็เป็นคู่ค้าทางธุรกิจกันมานาน และทั้งสามคนก็ได้มีโอกาสไปเรียนต่อที่อเมริกาด้วยกันตั้งหลายปี ทำให้ทั้งสามสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก
เออพูดถึงยัยนุช....ตอนนี้ไปฝรั่งเศสไม่ใช่หรอ ตาลเริ่มบทสนทนาถึงน้องตัวแสบของเขา ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ๆแต่ตาลก็รักและตามใจนุสรามากอาจจะเป็นเพราะบ้านเขามีเขาเป็นลูกชายคนเดียวพอเจอน้องสาวที่น่ารัก ช่างเอาใจ ก็อดจะรักเอ็นดูในความไร้เดียงสาของเธอไม่ได้
อืมเพิ่งไปเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วนี่เอง ไปคุยเรื่องการตลาดที่จะขยายกิจการนั่นแหละ ยัยนุชมันบ่นคิดถึงแกจะตาย เสียดายที่ไม่ได้เจอแก มันรักแกมากกว่าฉันอีกมั้งเนี่ย
ก็แหมแกดุยัยนุชจะตาย ฮ่าๆ
มันก็เลยหนีไปประจบแกไงล่ะ แล้วทั้งสองก็หัวเราะเมื่อนึกอดีตครั้งวันวาน
บทสนทาของสองหนุ่มดำเนินต่อไปสักพักใหญ่ทำให้นัทรู้เรื่องที่เขาค้างคาใจมาตลอดหลายชั่วโมงจากที่ตาลเล่าให้ฟัง ตาลมาที่นี่เพราะต้องการมาหาที่สงบๆเพื่อนหนีจากอะไรร้ายที่เขาพบที่อเมริกาเมื่อเขาพบว่าแฟนสาวที่คบหาดูใจกันมานานปีกลับไปคบหากับผู้ชายคนอื่น
ทั้งๆที่ตาลให้ทั้งความรักและเอาใจใส่เธอทุกอย่างแต่เธอก็ยังหนำใจเธอ เธอลงทุนที่จะเอาความลับของบริษัทไปบอกให้กับคู่ขาของหล่อนซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง ทำให้บริษัทที่เขารักกว่าอะไรทั้งหมดเกือบจะขาดทุนไปหลายพันล้านบาท และนี่คือสาเหตุทั้งหมดที่ทำให้เขามาที่นี่
อย่าคิดมากนะ แกเนื้อหอมจะตายไปคงไม่เสียใจเพราะอะไรแค่นี้นะ นัทตบไหล่ตาลเบาๆ
ไม่หรอก ฉันแค้นมากกว่า เกือบเสียค่าโง่แล้ว ตาลพูดถึงคนรักซึ่งตอนนี้เค้าไม่เหลือเยื่อใยให้หล่อนอีกแล้ว เขาแทบอยากจะฆ่าหล่อนด้วยซ้ำ ทั้งที่เขาทุ่มเททุกอย่างแต่กลับได้รับผลตอบแทนแย่ๆอย่างนี้
เอาละ ฉันไปนะ แล้วมีอะไรโทรหาแล้วกัน บ่ายนี้มีประชุมว่ะกลับไปแต่งตัวก่อนเดี๋ยวไม่ทัน
นัทโบกมือลาตาลแล้วเดินไปที่ประตู ไม่ต้องส่งหรอก พักเหอะฉันไปเองได้
ขอบใจมากนะนัท สำหรับทุกอย่าง
ขอบคุณทำไม เพื่อนกันนี่หว่า ไปล่ะแล้วเจอกัน แล้วนัทก็ก้าวออกจากห้องไปทิ้งตาลไว้เพียงลำพัง หลังจากนัทไปสักครู่ตาลก็เข้าไปอาบน้ำเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้ามาทั้งวัน แล้วออกมานอนลงบนเตียงแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราในเวลาต่อมา
.อย่ามานอนบนเตียงฉัน ออกไปนะนายไม่มีสิทธิ์ ออกไป.ที่นี่มันห้องของฉันนายออกไปเดี๋ยวนี้.....เหมือนจะมีเสียงใสๆล่อยลอยมากับสายลมเข้าสู่ห้วงนิทราของเขา หากแต่ตาลก็ไม่ได้ใส่ใจกับเสียงนั้นเลย
....ใครนะมารบกวนขนาดนอนยังจะมาในฝันอีก เขาพึมพำเบาๆแล้วเสียงนั้นก็จางหายไป