ถ้าคนเราเกิดมาเพื่อจะพบกับความสูญเสียก็คงไม่มีใครที่จะสามารถหลบเลี่ยงได้ไม่ว่าจะมีเงินทองมากขนาดไหน หรือมีความรู้มากเท่าไหร่ สุดท้ายก็หมดลมหายใจเหมือนกัน เมื่อสัจธรรมของชีวิตคือ * เกิด แก่ เจ็บ ตาย* แล้วทำไมคนเราจึงต้องแสวงหาสิ่งของมากมายมาประดับชีวิต คนที่จากไปโดยที่ยังไม่ได้สร้างทุกข์ให้ตัวเองถือได้ว่าเป็นคนไม่มีกรรม หรือ กรรมน้อย แต่ก็ยังมิวายสร้างทุกข์ให้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ข้างหลังอยู่ดี ถ้าหากการทำให้คนอื่นทุกข์ใจ ถือเป็นบาปอย่างหนึ่ง คนที่ยังอยู่ก็ควรอย่างยิ่งที่จะรีบทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง อย่างน้อยก็เพื่อเป็นการให้เกียรติกับผู้ที่จากไปว่าไม่ได้สร้างทุกข์ให้ใคร หากแต่เหลือไว้ซึ่งใจอันบริสุทธิ์ และ พึงระลึกถึงคุณงามความดี หรือ ความทรงจำที่ดีที่เขาหรือเธอได้มอบให้กับเราเป็นของขวัญก่อนจาก อย่างน้อยช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ของเราก็ยังมีเรื่องดีๆให้น่าจดจำบ้าง เวลาใดที่รู้สึกท้อแท้ หรือผิดหวัง สิ่งต่างๆไม่เป็นไปดังใจคิด หากลองมองในแง่ดี คนเราทุกคนย่อมมีกำลังใจอยู่ข้างตัวเสมอไม่ว่าจะเป็นกำลังใจที่เรามองไม่เห็นจากคนบนฟ้าที่คอยส่งสายตามองมาอย่างห่วงใย หรือ คนคุ้นเคยที่อยู่รอบข้าง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับได้หรือเปล่า ถ้าหากเรามัวแต่จมอยู่กับความทุกข์ เหงา เศร้า ซึม จนบดบังสิ่งดีๆรอบตัว เราก็คงไม่สามารถรับพลังที่ส่งมาเหล่านั้นได้ ถ้าเราคิดได้ว่าการมีชีวิตอยู่เป็นอีกหน้าที่หนึ่ง ที่คนเราต้องทำนับตั้งแต่ถือกำเนิดขึ้นมาในโลกใบนี้ เราก็ควรจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุดโดยไม่สร้างทุกข์ให้กับตัวเองหรือผู้อื่น เมื่อถึงวันหนึ่งที่เราเป็นฝ่ายต้องจากไปบ้าง โลกใบนี้ก็ยังมีพื้นที่ว่างเสมอที่จะเก็บรวบรวมเรื่องราวดีๆของใครสักคน ปล. สัจธรรมของความสูญเสียที่ได้ค้นพบด้วยตัวเองก็คือ *เมื่อเราร้องไห้แล้ว...เราจะพบว่า ตาบวม หน้ายับย่น หัวหมุนติ้ว เวลามองกระจกเราจะไม่อยากเจอมนุษย์อื่นอีกเลย...ถ้าหากการร้องไห้จะช่วยย้อนอดีตได้เราก็คงร้องทุกวันจนกว่าทุกอย่างจะดีดังเดิม แต่เมื่อมันไม่ใช่ก็จงยอมรับ เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้ดีกว่า (o*^____^*o)
20 ตุลาคม 2549 14:37 น. - comment id 93077
น่าสนใจและควรเรียนรู้กับสิ่งที่ผ่านมานะคะ ซึ่งบางกรณีบางอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ส่งผลให้ทุกข์ร้อนบ้าง แต่ในที่สุด มันเหมือนเป็นสิ่งทดสอบเท่านั้น ถ้าชีวิตของแต่ละคนราบเรียบ ราบรื่น ไม่มีสิ่งใดสะดุดขัดขวางเส้นทางชีวิตเลย นั่นหมายถึงว่า เราจะไม่สามารถรับรู้ขีดความสามารถของเรา ซึ่งขีดความสามารถนี้ ต้องอาศัยบททดสอบเท่านั้นจึงจะวัดผลได้ อัลมิตราชอบนะ ชอบฟังคนที่ผ่านโลกมามากกว่า เล่าเรื่องราวย้อนหลังให้ฟัง หลายครั้งที่รู้สึกทึ่ง คาดไม่ถึงไม่นึกไม่ฝันว่า จะเคยมีเรื่องราวแบบนั้น หลายครั้งก็รู้สึกเหมือนร่วมรับรู้ในสภาวะนั้น ลุ้น .. ไปด้วย และมีบ้างที่ตนเองจะต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ในขณะนั้น อาจขบคิดปัญหาไม่ออก หาสาเหตุไม่พบ แก้ไขไม่ถูกทิศทาง แต่ทุกอย่างก็ย่อมมีวันสิ้นสุด เมื่อย้อนกลับไปค่อย ๆ วิเคราะห์ บางทีเก็บมาเป็นบทเรียนได้เป็นอย่างดีทีเดียวค่ะ ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ อากาศเปลี่ยนแปลง
21 ตุลาคม 2549 11:33 น. - comment id 93087
ขอบคุณมากค่ะ อัลมิตรา บางทีกว่าคนเราจะเรียนรู้ประสปการณ์ต่างๆได้อย่างถ่องแท้เราอาจต้องสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่าก็ได้...แต่ก็ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น มองโลกกว้างขึ้น มองเห็นสัจธรรมในการมีชีวิตอยู่ได้ดีขึ้น เนอะ