แสงแดดในยามเช้ากระทบกับสายน้ำที่ไหลอย่างเอื่อยๆ ภาพตรงหน้าฉันมันสวยงามยิ่งนัก ฉันยืนมองสายน้ำที่พลิ้วไหวเป็นระลอกๆตามกระแสลมมันทำให้ฉันคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา นึกถึงภาพวันเก่าๆที่เราเคยมีกันและกัน ตอนนี้ถ้าทุกอย่างยังเหมือนเดิมฉันจะบอกเค้าว่า ....ฉันรักเค้า รักมาก และรักตลอด....มา ...แต่มันคงสายเกินไปแล้ว ป่านนี้เค้า........คงจะมีคนที่เค้ารักมากกว่าฉัน แต่สำหรับฉันยังไงรักก็คือรัก รักและความทรงจำที่ยังฝังอยู่กับอดีตไม่มีวันลบเลือน แม้กาลเวลาจะผ่านมาเนิ่นนานเท่าไหร่แล้วก็ตาม.......... เมื่อก่อนที่ฉันเรียนอยู่ ฉันเป็นคนที่ย้ายโรงเรียนบ่อยมาก แต่การย้ายโรงเรียนครั้งนั้นตอนม.4 ทำให้ฉันได้รู้จักเค้า และนั่นเองฉันย้ายจากโรงเรียนหญิงล้วนไปอยู่โรงเรียนสหศึกษาที่มีผู้ชายเรียนร่วมด้วย ช่วงแรกๆฉันก็ปรับตัวยากอยู่เหมือนกัน วางตัวลำบากมากแต่ด้วยการที่ฉันเป็นคนที่ไม่เรื่องมาก ง่ายๆ ฉันจึงเข้ากับเพื่อนใหม่ได้ในเวลาอันรวดเร็ว การเรียนและชีวิตของฉันเป็นไปเรื่อยๆตามครรลองของชีวิตแต่แล้ววันหนึ่งก็มีข่าวจากอาจารย์ว่า จะมีเพื่อนใหม่ย้ายมาที่ห้องเราในวันพรุ่งนี้ทุกคนในห้องตื่นเต้นกันใหญ่ว่าเขาคนนั้นเป็นใครกัน หน้าตาวเป็นแบบไหน ย้ายมาจากไหน .....ทุกคำถามถูกตั้งขึ้นมากมายจากโจทย์ที่อาจารย์บอกว่า พวกเราจะมีเพื่อนใหม่ ในที่สุดวันที่เพื่อนๆรวมทั้งฉันด้วยรอคอยก็มาถึง อาจารย์พาเพื่อนใหม่มาแนะนำกับพวกเรา เสียงฮือฮ่ากันเกิดขึ้นจากกลุ่มนักเรียนหญิง หวัดดีครับ ผมชื่อ นัทพล วัฒนพาณิชย์ เรียกเราว่า นัทก็ได้นะ ยินดีที่ได้รู้จักกับทุกคนครับเสียงนั้นกังวานดังไปทั่วห้องทุกคนในห้องได้ยินหมด ฉันเหงยหน้าขึ้นจากหนังสือมาสนใจที่เจ้าของเสียงแทน แล้วก็สะดุดอยู่ใบหน้าน่ารักนั้นอยู่นาน โหยยยยยยยย........โคตรหล่อเลยยยยยยวะ น่ารักดี สมกับที่พวกนั้นกระดี้กระด้ากันจิงๆว่ะฉันคิดในใจ ในขณะที่ฉันตกอยู่ในห้วงภวังค์อยู่นั้นก็มีเสียงดุน่าเกรงขามของอาจารย์ที่เคารพปลุกแนให้ตื่นจากภวังค์อันฝันหวานของฉัน........... เอาหล่ะ ทุกคนก็รู้จักกับเพื่อนใหม่แล้วนะ นัทพลเธอนั่งข้างเอมอรนะ เค้าเป็นหัวหน้าห้อง ครับ หนุ่มหล่อตอบรับอาจารย์ เอมอร ค่ะ เพื่อนมีปัญหาอะไรเธอช่วยเค้าหน่อยนะ ค่ะ ฉันตอบเสียงสั่นๆหวั่นในใจอีกตะหาก เรานั่งด้วยนะ เรานัทนะ เธออะชื่อรัย ฉฉฉฉ....ฉันชื่อ..แอม นะ เอ่อ.....มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ โอ้ยยยยกว่าจะพูดได้ใจตึ้มๆต่อมเลย....ฟ้าช่างเป็นใจอะไรเช่นนี้หนอ ให้เขามานั่งข้างเราจนได้...เฮ้อขอบคุณค้า..........สวรรค์...55555555++++ การที่นัทมานั่งข้างฉันทำให้ฉันไม่ค่อยสนใจเรียนเท่าไหร่ เพราะมัวแต่นั่งชำเลืองมองคนข้างๆ อย่างใจเต้นสั่นระรัวป็นจังหวะร็อคแอนโรล แต่ก็มีบ่อยครั้งที่เค้าจับได้ว่าฉันมองหน้าเค้าอยู่ แต่ฉันก้อหาข้ออ้างให้ตัวเองรอดพ้นไปซะทุกครั้งเลย เฮ้ย!!!!!! มองไรวะ ไม่เคยเห็นคนหล่อรึไง555555555555++++ อุแหวะ....หล่อตายหล่ะ( แต่มันก้อหล่อของมันจิงๆแหละม่ายงั้นฉันคงม่ายรักมันซะขนาดนี้หรอก) อะไรติดปากแกก็ไม่รู้ฉันแค่ดูเฉยๆว่าเปงอะไร ....ไอ้หลงตัวเองทันใดนั้นมือของฉันก็ฟาดไปที่หลังของเพื่อนซี้แก้เขิน ดัง ป๊าบ ตามมาด้วยเสียงด่า สาปแช่ง สรรเสริญ พร้อมทั้งเสียงโอดครวญ..... แก....ไอ้มือหนัก มามะมาให้พ่อเตะซะดีๆ 5555++++ ฝันไปเถอะไอ้นัทเต่าทองแดง55555555++ นัทเต่าทองแดงเป็นฉายาที่ฉันตั้งให้นัทเพราะฉันชอบล้อมันว่าเต่าเหม็นแต่จริงๆแล้วกลิ่นตัวของนัทน่ะหอมจะตาย กลิ่นแบบผู้ชายสุภาพบุรุษ......(ปากหมา) นัทชอบมาโรงเรียนแต่เช้า แต่ที่นัทมาแต่เช้าไม่ใช่เพราะขยันหรอกนะ เพราะมันต้องการจะลอกการบ้านตะหากเล่า เฮ้ย.....แอมการบ้านมาลอกดิ..เร็ว เดี๋ยวไม่ทัน..ฮืมมมมมมมมม.......ช้าจิงโว้ย เอ้า ...นี่..วันหลังแกก็ทำเองสิวะ ฉันเถียงนัทบ้าง แต่ไม่มีเสียงตอบกลับมาเช่นทุกครั้งเพราะเขาสนใจอยู่กับการลอกการบ้านอย่างเดียว นับวันฉันกับนัทเรายิ่งสนิทกันมากขึ้นทุกวัน ทุกวัน ยิ่งสนิทมากเท่าไหร่ก็รักมากเท่านั้นโดยที่ฉันเป็นฝ่ายแอบรักเค้าข้างเดียว... วันนั้นเรานั่งทานข้าวด้วยกันเช่นทุกวันแต่ที่แปลกไปก็คือ สายตาของนัทที่คอยจ้องมองสาวโต๊ะข้างๆ ฉันเอ๊ะใจเลยถามนัทขึ้น เฮ้ย!!! นัทมองไรอยู่น่ะ ปล่าว... ไม่มีรัยกินข้าวต่อเถอะ นัทก้มลงทานข้าวต่อแต่สายตาของนัทยังไม่วายชำเลืองไปที่โต๊ะของหญิงสาวนั้นอีก นัทคงไม่รู้หรอกว่าหัวใจของฉันคนนี้สลดวูบไปทันที เหมือนไฟฟ้าช็อตที่กลางใจชั่วขณะหนึ่ง วันต่อๆมานัทยังคงแอบมองสาวน้อยคนนั้นอยู่เหมือนเดิมทุกครั้ง ฉันจึงยอมแข็งใจฝืนใจทำในสิ่งที่ไม่อยากทำเพราะมันทำร้ายหัวใจตัวเอง ฉันตัดสินใจเดินไปโต๊ะของสาวน้อยคนนั้น ทักทายแล้วก็ขอเบอร์ติดต่อ มาอย่างเสร็จสรรพ พอฉันเดินกลับมาที่โต๊ะ นัทก็รีบถามแกมตวาดฉันซะลั่นเลย แอม แกไปทำไรมาวะ ไปที่โต๊ะนั้นทำไม ฉันก็ไปขอเบอร์มาให้แกไง....เห็นมองมาตั้งนาน รำคาญวะ ชอบก็บอกว่าชอบดิ มัยต้องปิดบังกันด้วยวะ ฉันถามเสียงเรียบ....พยายามปรับสีหน้าให้ธรรมดาที่สุดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา ก็.....ก็ ...เขินนี่หว่าแล้วได้จิงเหรอ...เค้าชื่อรัยอ่ะ บ้านแถว..แล้วมาอยู่นานแล้วเหรอทำไมไม่เคยเห็นหน้า..แล้ว.. เฮ้ย!!!!...พอก่อนทีละคำถามตอบม่ายทัน..อะ..เบอร์โทร ที่อยู่ ชื่อ ครบทุกอย่าง ถามอะไรถามมา.. แกทำไงถึงได้เบอร์มา.. นัททำหน้าสงสัย คิ้วขมวด ก็นั่นน่ะ เพื่อนเก่าฉัน เพิ่งเข้ามาช่วงกลางเทอมนี้ย้ายมาตามพ่อ แล้วแกบอกอะไรเค้าอีกรึป่าวว่ะ????? บอก... ....................... ฉันทำท่าครุ่นคิดนิดนึง กวนอารมณ์ของนัท บอกว่า...ถ้าเพื่อนเราจะโทรไปเล่นด้วย หวานจะว่ารัยมั้ย นัททำท่าตื่นเต้นใหญ่ เซ้าซี้ให้ฉันบอกอย่างเร็วไว เค้าบอกว่า.... ได้สิไม่เปนรัยสิ้นเสียงคำตอบที่ฉันบอกนัท นัทกระโดดกอดฉันด้วยความดีใจ คนทั้งโรงอาหารมองมาที่เราเป็นจุดเดียว ฉันอายคนอื่นแต่ก็แอบดีใจนิดๆ จากวันนั้นเองนัทก็ติดต่อกับหวานสาวน้อยน่ารักจนเกิดเป็นความรัก สัมพันธ์ลึกซึ้งขึ้นกับใจของทั้งคู่ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับนัทนะเหรอ ก้อยังปกติดี คงมีแค่ฉันที่รักนัทขึ้นทุกวันๆทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีทางสมหวังได้เลย....แต่ฉันก้อยังรักเค้า บ่อยครั้งที่ฉันพยายามจะตัดใจจากนัท.....สุดท้ายฉันก้อทำไม่ได้เลยสักครา.......และบ่อยครั้งที่ฉันต้องคอยตอบคำถามตัวเองว่าทำไมชอบทำให้ตัวเองเจ็บหัวใจ.....ทำไมถึงต้องแคร์คนอย่างนัทด้วย....ทำไมไม่หาคนใหม่.....คงเป็นเพราะความรักมั้งที่ทำให้ฉันมีความสุขและความทุกข์ในเวลาเดียวกัน....คงเป็นเพราะความรักมั้งที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้...... ฉันทำหน้าที่เป็นกามเทพสานรักให้พวกเค้าทั้งๆที่ตัวเองไม่ชอบเลย...แต่เพราะนัทฉัน...ยอม.... งอนกันเมื่อไหร่...โกรธกัน...ฉันต้องเป็นคนไกล่เกลี่ย...โดยที่พวกเค้าคงไม่รู้หรอกว่า ฉันต้องแอบร้องไห้คนเดียวเพราะพวกเค้า.......คิดแล้วช่างสมเพชตัวเองเสียจิงๆ......ดันไปรักบุกคลต้องห้ามรัก.....กาลเวลาช่างผ่านไปเร็วยิ่งนัก คำว่าเราที่เมื่อก่อนเคยใช้เพื่อสื่อความหมายว่า เรา 2 คน ตอนนี้ต้องเป็นเราที่มีหวานเข้ามาเพิ่มอีกคน......หรือบางครั้งอาจเป็นพวกเค้าก้อด้ายที่คิดว่า ฉันเป็นส่วนเกิน และวันนั้นเองเป็นวันที่ฉันน้อยใจมาก.... นัทนัดกับฉันเพื่อที่จะไปซื้อหนังสือที่เราทั้งคู่โปรดปรานด้วยกัน แต่เค้าก้อเบี้ยวฉันเพื่อที่จะไปดูหนังกะหวานแทน ก็อย่างว่าแหละเค้าเป็นแฟนกันหนิ!!! เพื่อนสนิทที่แอบรัก คงไม่มีอะไรสำคัญสักเท่าไหร่หรอก ฉันโทรหานัทหลายครั้ง กว่าจะติด ฉันได้แต่ฟังคำแก้ตัวของนัท หัวใจก้อสะอื้นร่ำไห้ไปด้วย *** อัลโหล....นัทแกอยู่ไหนว่ะ ทำไมไม่มาซะที รอนานแล้วนะ เอ่อ...แอม ว่าจะโทรหาอยู่พอดีเลย...คือว่า...ฉันขอโทษนะ..ฉันคงไปกับแกไม่ได้แล้วล่ะ ฉันพาหวานมาดูหนังหน่ะ หวานเค้าอยากดู ถ้ายังไงแกช่วยซื้อหนังสือมาให้ฉันด้วยนะ.....ขอบใจวะ... ตื๊ด....ตื๊ด....... ยังไม่ทันที่ฉันจะตอบอะไร นัทก็ชิ่งวางสายไปก่อน และอย่างนี้เองฉันก็รู้แล้วว่าฉันกับนัทคงเป็นได้แค่เพื่อนกัน...เท่านั้นเอง...... อ้อ!!ฉันลืมดูเวลาที่ล่วงเลยผ่านมาซะแล้ว.....ฉัน นัท และหวานเราเข้ามหาวิทยาลัยที่เดียวกันแต่คนละคณะกัน ความรักของหวานกับนัทยังคงหวานสมชื่อของเจ้าตัว เวลาพวกเราจะมานั่งทานข้าวด้วยกันเสมอแต่บ่อยครั้งที่ฉันขอตัวเพราะไม่ต้องการเป็นก้างขวางคอใคร.... นัทเค้ายังไม่ทิ้งความเป็นเพื่อนกับฉันเลย เค้ายังคงดีเสมอต้นเสมอปลาย คาวมรักของนัทที่หวานชื่นมื่นเกือบจะต้องสะดุดเพราะมีรุ่นที่มาชอบและตามตื้อจีบหวานจนนัทเก็บอาการหึงไม่ไหวแทบจะต้องเลิกกับหวาน แต่ฉันคงเสียใจยิ่งกว่าหากคนที่ฉันรัก 2 คน ต้องเสียใจพร้อมๆกัน ฉันจึงทำหน้าที่เป็นทูตสานความรักให้พวกเค้าทั้ง 2 คนเหมือนเช่นเคย จากนั้นมาความรักของเค้า 2 คน ก็มีอุปสรรคเล็กน้อยเท่านั้นเอง นัทเค้าเคยบอกกับฉันว่า ถ้าเค้าเรียนจบเค้าจะขอหมั้นหวาน ได้ฟังคำนั้นแล้ว...ฉันชาหนึบเข้าที่กลางใจ แต่นัทคงไม่ทันสังเกตหรอก เพราะนัทมีมัวแต่เพ้อรำพันฝันหวานให้ฉันฟังอยู่เกี่ยวกับอนาคตของหวานกับเค้า ฉันทำได้แค่เพียงฟังนัทพูดพร้อมกับฝืนยิ้มให้ดูร่าเริงที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้ แอม อือ มีรัย แกว่า ...จบแล้วฉันจะขอหมั้นกับหวาน แกว่าหวานจะยอมมั้ยวะ ต่อจากนั้นฉันก็จะทำงานเก็บเงินขอหวานแต่งงานแล้วเราก็.............. หลังจากนั้นฉันไม่ได้ยินอะไรอีกเลย หูฉันมันอื้อไปหมด รู้สึกตื้อในหัวสมอง นัทยังคงรำพันไปเรื่อย จนฉันสุดจะทนอีกต่อไป จึงออกตัวกับนัท ว่า มีเรียนขอตัวก่อนแล้วฉันก็มานั่งร้องไห้ใต้ต้นหูกวาง...ต้นไม้ที่นัทกับฉันเคยมานั่งเล่นด้วยกันบ่อยๆ และทุกๆครั้งที่ฉันร้องไห้นัทก็คอยปลอบใจฉันทุกครั้ง แต่ตอนนี้ฉันต้องเช็ดน้ำตาให้ตัวเองเพราะต่อแต่นี้ไป นัทคงไม่มีเวลามาเช็ดน้ำตาให้ฉันอย่างที่เคยอีกแล้ว เพราะเค้าต้องดูแลคนที่เค้ารัก ไม่ใช่เพื่อนสนิทที่นิสัยเสียแอบรักเพื่อนด้วยกันอย่างฉัน............... กาลเวลาผ่านไปอย่างไม่คิดจะย้อนกลับคืน พวกเราทั้ง 3 จบการศึกษารับปริญญาพร้อมกันและในวันนั้นเอง........วันรับปริญญา นัทล้วงกระเป๋าถือกล่องกำมะยีสีแดงเปิดขึ้นและหยิบแหวนออกมา........ขอหวานแต่งงาน........ นัทไม่ได้ขอหวานหมั้นตามที่บอกกับฉัน แต่เค้า.....เค้า ...ขอหวานแต่งงาน ซึ่งก็หมายความว่า ฉันหมดสิทธิ์ในตัวเค้าแล้วจริงๆ ภาพที่ฉันเห็นตรงหน้ามันบาดตาบาดใจ หวานยิ้มขวยเขิน ตอบรับตกลงแต่งงานกับนัท แต่ฉันน้ำตาคลอเบ้าต้องหามุมเงียบซับน้ำตาให้ตัวเอง หลังจากนั้นไม่นานข่าวดีของนัทก็มาถึงฉันขณะที่ฉันทำงานอยู่บริษัทกราฟิกแห่งหนึ่ง ถึงตอนนี้ฉันทำใจได้มากขึ้นแล้ว ฉันทำหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวในแต่งงานของนัท ทั้งๆที่อยากเป็นมากกว่านั้นแต่ก็ไม่มีสิทธิ์ นัทมีความสุขกับชีวิตการแต่งงาน คงมีแต่ฉันที่ยังหาใครมาแทนที่นัทไม่ได้เลยสักคน............... *****************+++++++++++++++++++++++++++++++********************* ....................เสียงเพลงแว่วดังอยู่ข้างปลุกฉันขึ้นจากภาพความทรงจำในอดีต ทันใดนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์สอดแทรกเข้ามา กริ๊ง......กริ๊ง....... ฮัลโหล ฉันกรอกเสียงลงในโทรศัพท์ แอมเหรอ วันนี้ว่างมั้ย????? มาดูตาต้นให้หน่อยสิ หวานไม่สบายน่ะ ฉันจะพาหวานไปหาหมอ ไม่อยากทิ้งตาต้นไว้ที่บ้านคนเดียว จะพาไปด้วยก็ลำบาก ว่างัย ว่างมั้ย อือ ได้ เดี๋ยวไปหานะ อืมมมมม .......ขอบใจนะ ตอนนี้ฉันกลายเป็นน้าของเด็กชายตัวน้อยวัยน่ารัก น่าชัง ลูกชายของนัทกับหวานไปซะแล้ว สำหรับฉันคงมีสิทธิ์เป็นได้แค่นี้....... นัทผู้ชายคนแรกที่ฉันรัก..........และจะเป็นคนสุดท้ายที่ฉันลืม............**** เพื่อนคนหนึ่งแอบรักเธอ.............เก็บงำความลับนั้นอยู่ภายใน ก็ไม่เคยเปิดเผยไปด้วยกลัวจะเสียใจจะเสียเธอ............ ปิดบังอยู่ตั้งนาน และมันอัดอั้นใจ ยิ่งเราใกล้ชิดกัน ยิ่งหวั่นไหว.... เธอสบตา กลับหลบตาเธออยู่ร่ำไป ..... ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ แต่มันคือแสนไกล ยิ่งเธอเป็นเหมือนเพื่อนสนิท.......... ยิ่งไม่มีสิทธิ์จะบอกไป ว่า......... รักเธอ........... *************************************************************************************
3 ตุลาคม 2549 17:40 น. - comment id 92898
เศร้าจังอะ .... สู้ต่อไปนะ ...
5 ตุลาคม 2549 11:11 น. - comment id 92924
อย่าไปเสียใจเลยนะคะ อย่างน้อย ๆ เราก็ได้เรียนรู้คำว่า รัก...สักครั้งหนึ่งในชีวิต..ถึงแม้ว่ามันจะเป็นรักข้างเดียวก็ตาม เมื่อสมัยวัยรุ่นเราก็เป็นเหมือนกันค่ะ...รักข้างเดียว...มันช้ำอยู่แล้ว....สุดท้ายก็ต้องยอมรับความจริงคะ...ยอมรับว่าเจ็บและทรมานที่ต้องทำตัวเป็นนางเอกคอยปรับความเข้าใจให้คนที่เรารักเข้าใจกันและกัน แต่รักข้างเดียวของดิฉันมันเกิดขึ้นเมื่อสมัยยังวัยรุ่นนะค่ะ.. ตอนนี้เราต่างคนต่างแต่งงานมีครอบครัวกันหมดแล้ว ....แต่แปลกมาก ทำไมเวลาที่คนที่เราเคยแอบรักเค้าไม่สบายและมีเรื่องทุกข์ใจ.... ความรู้สึกของดิฉันมันเหมือนมีลางสังหรณ์บอกทุกที....ยิ่งบางครั้งเขาคนนั้นก็มักจะมาเข้าฝันบ่อย ๆ ...เป็นอะไรที่ทรมานเหมือนกัน ....ทุกวันนี้ได้แต่ภาวนาอย่ามาหลอกมาหลอนกันอีกเลย....ถ้าจะมาเข้าฝันก็ขอเลขเด็ด ๆ ให้สักันกงวดเถอะ สาธุ ..
8 ตุลาคม 2549 13:46 น. - comment id 92950
ไม่แปลกหรอกความรู้สึกมีใครบอกได้ง่ายใหมละถ้าเป็นคุณสามารถบอกคนที่รักไปง่ายๆเลยว่ารักใหมละลองคิดดูให้ดีก่อนจะบอกอะไรออกมาดีกว่า