...ตึกตั๊ก ตึกตั๊ก........เสียงหัวใจของฉันมันเต้นผิดจังหวะ ไม่เหมือนอย่างเคย พร้อมกับเสียงหายใจที่ติดขัด ไม่เป็นจังหวะอย่างเคยเป็น ฉันนั่งกำมือแน่น ตัวเก็งไปหมด ฉันนั่งลำพังคนเดียวอยู่หน้าห้อง....ซึ่งก่อนหน้านั้น ฉันได้เจอผู้ชายใจดีคนหนึ่งเขาดูภูมิฐาน เขาเอ่ยบอกฉันว่า *ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง อย่ากังวลเลย เดี๋ยวเดียวก็เสร็จแล้ว* ...คำพูดที่ปลอบโยนของผู้ชายใจดีคนนั้น ไม่ได้ช่วยให้ฉันคลายความกังวลอะไรเลย ฉันนั่งนิ่ง ตัวแข็งทื่ออยู่ไม่นาน สักพักได้ยินเสียงดังก้อง...ในหู *อย่าทิ้งพ่อนะ ดูแลพ่อนะ* มันวนซ้ำ ๆ ในหูเหมือนอยู่ใกล้ ๆ ไม่ไกลจากฉันเท่าไหร่ ฉันมองไปรอบ ๆ มีภาพผู้หญิง อายุมากแล้วนอนอยู่บนเตียง สายตาเหม่อลอย จ้องมองมาทางฉันแล้วเอ่ยขึ้น *อย่าทิ้งพ่อนะ ถ้าแม่...ไม่อยู่แล้ว ดูแลพ่อด้วย อย่าลืมนะ* แม่...พร่ำบอกฉัน...ช้ำ ๆ ...ตอนนั้น ที่แม่...เอ่ยออกมาทั้งที่ลำบากในการที่จะเปล่งเสียงออกมา แต่แม่...ก็พยายามที่จะพูด ให้ฉันได้รับฟัง แต่ตอนนั้นฉันไม่ได้รับปากกับแม่ไว้ ฉันสนิทกลับแม่...ตั้งแต่เด็กจนโต... ฉันซึมซับเรื่องราวของแม่...มากกว่าใคร ๆ ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด แม่...ไม่ได้ไว้ใจฉันหรอก แม่...เคยบอกว่า ฉันเหมือนพ่อทุกอย่าง รูปร่าง หน้าตา นิสัยใจคอ ผิวพรรณ แม้นแต่โรคลมในกระเพราะ ก็ยังเหมือนพ่อ....สงสัยตอนฉันอยู่ในท้องแม่ แม่คงรักพ่อมากหรือเปล่า หรือโกรธพ่อน๊า ฉันเองก็ไม่กล้าถาม... ...เมื่อฉันเหมือนพ่อทุกอย่าง จึงทำให้ฉันพยายามทดแทนสิ่งที่แม่ขาด สิ่งที่พ่อไม่เคยให้แม่... ทุกเรื่องราวของแม่...ฉันซึมซับมาทุกอย่าง ความเจ็บปวดทุกอย่างที่พ่อทำไว้กับแม่...พ่อเจ้าชู้แค่ไหน? พ่อนอกใจแม่กี่ครั้ง ฉันรับรู้และรับทราบทุกอย่าง พี่ ๆ น้อง ๆ ไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้เลย... ...ฉันไม่ได้ดีใจหรอก ที่รู้เห็นเรื่องราวพวกนี้ ฉันเสียใจต่างหาก และร้าวรานในหัวใจ รักและสงสารแม่มากแค่ไหน? แต่ฉันทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งอยู่ข้าง ๆ เป็นเพื่อนแม่ ร้องไห้ไปกับแม่เท่านั้นเอง...พ่อไม่ใช่บุคคลที่น่าประทับใจสำหรับลูก ๆ ทุกคน แต่พ่อใม่เคยสอนให้ลูกเป็นคนไม่ดีเลย มีประโยชน์หนึ่งที่พ่อบอกพวกเราเสมอ *รักที่จะเป็นอะไรให้เลือกเอา รักดีก็ทำ รักชั่วก็ทำ* พ่อให้อิสระกับพวกเรา พ่อไม่มาดูแลพวกเรา ทำให้เราไม่ยอมที่จะเป็นคนไม่ดีในสายตาของใคร ๆ ...วันที่แม่ออกจากโรงพยาบาล เพื่อกลับมาบ้าน เป็นวันที่ทรมานในหัวใจเหลือเกิน ฉันไม่ได้ไปทำงาน ฉันนั่งอ่านหนังสือให้แม่ฟัง ใคร ๆ บอกว่าฉันบ้าไปแล้ว ไม่หรอกฉันไม่ได้บ้า... เพราะหนังสือที่ฉันอ่านเป็นคัมภีร์พระไตรปิฎก ทำให้ใคร ๆ คิดว่าฉันเป็นบ้าไปแล้ว แม่เริ่มไม่ไหวแล้ว...ฉันเอียงตัวไปแนบแก้มแม่ และพูดข้าง ๆ หูบอกให้แม่ท่องพุทธโธ พุทธโธ พุทธโธ *คิดถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไว้ในใจนะแม่นะ* ...ฉันจับมือแม่ไว้มั่น แม่พยายามพูด แต่ไม่มีแม้นเสียงเปล่งออก สายตาของแม่ดูวิงวอน...เห็นสายตาแม่แล้วทำไม? ฉันจะไม่รู้ว่าท่านต้องการอะไร ฉันตัดสินใจ บอกแม่ออกไป...*แม่ไม่ต้องห่วงนะ หนูจะดูแลพ่อ จะไม่ทิ้ง และจะคอยดูแลน้อง แม่ไม่ต้องห่วงนะ* ฉันพูดเสียงดังฟังชัด ปะปนกับเสียงร้องไห้ โฮของพี่สาว และพ่อที่อยู่รอบ ๆ ข้าง... ปู่และญาติ ดึงตัวฉันออกมา เพื่อไม่ให้น้ำตารดศพแม่ มือของแม่ยังกำมือของแน่น ตาของแม่ไม่ปิด ฉันค่อย ๆ เอื้อมมือไปปิดตาแม่ เพื่อให้แม่หลับตาให้สนิท เหตุการณ์วันนั้นทำให้ฉันรู้สึกผิด ผิดจนถึงทุกวันนี้... ...แหลม แหลม...เสียงดังมาจากข้างหลังทำให้ฉันสะดุ้งตื่นจากพะวังภ์ ฉันหันไปมองพร้อมกับปาดน้ำตาที่ไหลมาจากไหนก็ไม่รู้ แล้วมองหน้าพี่ชาย เห็นเขามาแล้วทำให้ฉันอุ่นใจขึ้นเยอะ ความหวาดกลัววิตกกังวลหายไปบ้าง แต่ก็ยังมีอยู่ พี่ชายของฉันนั้นเอง เขาเรียบร้อนหน้าตาตื่นมา แล้วถามขึ้นแบบเรียบ ๆ ในแบบของเขา *พ่อเป็นไงบ้าง...* เขาเอ่ยถามหน้าของเขาเหมือนเฉย ๆ แต่แววตาเขาก็กังวลไม่ต่างจากฉันหรอก *ไม่รู้หมอยังไม่ออกมาเลย* ฉันตอบไปด้วยเสียงสะอื้นในคอ... พี่คงไม่รู้สินะว่าฉันกลัวแค่ไหน? ...สักพักผู้ชายใจดีคนที่ปลอบฉันก่อนหน้านั้น เดินออกมาจากห้อง...ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วนะ คนไข้ต้องฟักฟื้นที่โรงพยาบาลก่อน ประมาณ 1 อาทิตย์นะ ฉันมองหน้าพี่แล้ว ความกังวลใจ ที่มีบนใบหน้าก็หายไป ฉันเอยขึ้นพร้อมยกมือไหว้เขา *ขอบคุณมากคะหมอ* แล้วหมอก็เดินจากไป...การผ่าตัดของพ่อผ่านได้ด้วยดี รอแค่การฟักฟื้นเท่านั้น อีก 1 อาทิตย์ก็กลับบ้านได้แล้ว...
8 สิงหาคม 2549 19:09 น. - comment id 92090
ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงจะดีใจมาก ๆ ค่ะ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง .. เอาใจช่วยให้คุณพ่อหายไว ๆ
8 สิงหาคม 2549 20:11 น. - comment id 92093
ชีวิตของลูกคนหนึ่ง ที่ไม่มีแม่ คอยเป็นห่วงอยู่ข้าง ๆ ยากจังเลยนะค่ะ ที่จะมีชีวิตอยู่ได้ รักท่านตั้งแต่วันที่ท่านยังอยู่ข้าง ๆ เรา ดีกว่ารักท่านตอนที่เรา จากเราไปแล้วนะค่ะ
8 สิงหาคม 2549 22:53 น. - comment id 92094
เป็นเรื่องที่เศร้ามากๆเลยค่ะ กตัญญูเป็นสิ่งประเสริฐค่ะ สักวันคุณมะกรูดก็จะได้สิ่งดีๆส่งผลกลับมาแน่นอนค่ะ
9 สิงหาคม 2549 08:20 น. - comment id 92096
พี่กานต์รักแม่ค่ะน้องมะกรูด แม่พี่กานต์พูดบ่อยๆว่า ไม่อยากตายก่อนพ่อเพราะกลัวลูกจัดการอะไรได้ไม่ดีพอ ยิ่งคิดเรื่องของแม่ยิ่งชื่นชมค่ะ แต่เขียนออกมาไม่ได้ค่ะ ขอเพียงความเข้มแข็งครึ่งหนึ่งของแม่ก็พอค่ะ
10 สิงหาคม 2549 21:00 น. - comment id 92103
เรื่องนี้ นับว่า อ่านแล้วได้เห็นความรักที่แม่มีต่อลูก ลุกมีต่อแม่และพ่อ แล้วตกลงในเรื่อง แม่ยังมีชีวิตอยู่ไหม พอดี ตอนแรกเป็นแม่ ตอนหลังเป็นพ่อ โลกเรามีพบ ก็มีจาก มีจากก็มีพบ ทุกสัพสิ่ง เป็นไปโดยธรรมชาติปรากฏการของโลก ................
11 สิงหาคม 2549 11:02 น. - comment id 92110
เป็นงานที่ซาบซึ้งมากจ้า แก้วประเสริฐ.
11 สิงหาคม 2549 12:31 น. - comment id 92117
" คิดถึงพ่อกับแม่ค่ะ รักท่านมากค่ะ \" พี่สาวดูแลตัวเองนะค่ะ เป็นห่วงค่ะ
12 สิงหาคม 2549 14:57 น. - comment id 92126
น้องสาวจ๋า อ่านแล้วเศร้านะ แต่น้องจ๋าเข้มแข็งมากนะจ๊ะ พี่ชายก็กำพร้าแม่ตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย จำหน้าแม่ไม่ได้เลย ได้ดูแต่รูปถ่ายแม่แค่นั้น ถ้าพี่เสียแม่ไปตอนที่จำความได้แล้ว ไม่รู้เหมือนกันนะว่าจะเข้มแข็งได้เหมือนน้องสาวจ๋าหรือปล่าว?? พี่ชายเสียใจด้วยนะเรื่องคุณแม่ ชื่นชมในความเข้มแข็งของน้องสาวนะครับ.. ดูแลคุณพ่อดูแลตัวเองดีๆนะ..
15 สิงหาคม 2549 14:04 น. - comment id 92187
สวัสดีค่ะ คุณmashimaro99 เรื่องที่มะกรูดเขียน มีเรื่องจริงอยู่ 60 % ค่ะ แต่งเติมบ้าง อีก 40% ค่ะ แต่ความรุ้สึกน่าจะ 100% คะ ขอบคุณมากนะคะ รักษาสุขภาพนะคะ ------------------------------------------------------------------------------- สวัสดีค่ะ คุณตะวันจะลับขอบฟ้า... 3 ปีแล้วที่มะกรูดไม่มีแม่ คอยให้กำลังใจเหมือนก่อน แต่ก็มีท่านอยู่ในนี้ ในใจดวงนี้เสมอ...แม้ท่านไม่อยู่แล้ว ใหม่ ๆ ก็ลำบากเหมือนกันคะ เคว้งคว้างอยู่นานคะ แต่ทุกชีวิตต้องก้าวเดิน ต่อไป... รักษาสุขภาพนะคะ ------------------------------------------------------------------------------- สวัสดีค่ะ คุณเฌอมาลย์ ขอบคุณมากค่ะ สำหรับกำลังใจ... รักษาสุขภาพนะคะ ------------------------------------------------------------------------------- สวัสดีค่ะ พี่สาวจ๋า... วันนี้พี่สาวจ๋าคงจะกลับแล้วใช่มั้ยคะ....คิดถึงล่ะ มากด้วย... มะกรูดก็รักแม่มาก ไม่ว่าตอนเท่าอยู่หรือไม่อยู่ ทุ่มเททำเพื่อท่านเสมอมา แต่ก็มีที่ทำท่านเสียใจ... แม่มะกรูดเก่งค่ะ ท่านเก่งมาก ๆ มะกรูดก็ไม่ได้ครึ่งของแม่หรอกคะ แม่อดทน แม่รักพ่อมาก ถ้าเป็นมะกรูดคงไม่ทน และไม่ทำแบบแม่แน่ ๆ คิดถึงพี่กานต์นะคะ พี่กานต์กราบแม่พี่กานต์แทนมะกรูดด้วยนะคะ ------------------------------------------------------------------------------- สวัสดีค่ะ คุณคนผ่านมา... แม่มะกรูดเสียแล้วค่ะ เมื่อต้นปี 46 อ่านแล้วงง เหรอ? คะ มะกรูดคงเบลอด้วยมั่งคะ เพราะเรื่องนี้ตั้งท่าเขียนตั้งแต่เดือนที่แล้ว แต่ไม่สำเร็จ เพราะว่ามะกรูดรอ้งไห้ทุกที... ขอบคุณนะคะ ที่แวะมาทักทาย... ------------------------------------------------------------------------------- สวัสดีค่ะ คุณแก้วฯ ขอบคุณมากคะ ที่แวะมาทักทาย.... รักษาสุขภาพนะคะ ระลึกถึงเสมอ.. ------------------------------------------------------------------------------- สวัสดีค่ะ น้องเหมียว.... เจ้าก็ดูแลตัวเองนะคะ สาวน้อย... คิดถึง.... ------------------------------------------------------------------------------- สวัสดีค่ะ พี่ชายจ๋า... ไม่มีแม่แล้วความรู้สึกตอนนั้นมันก็เคว้งคว้างนะคะ เหมือนตัวเองไร้จุดยืน เพราะทำทุกอย่างก็เพื่อแม่ แต่ตอนนี้ไม่มีท่านแล้วแต่เราต้องก้าวต่อบ้างทีก็ท้อ และอ่อนล้าใจ แต่เมือ่คิดถึงท่านอยู่เสมอ แม่ไม่จากน้องสาวจ๋าไหน? หรอกคะ ท่านยังอยู่ในใจ อยู่กับน้องสาวจ๋าเสมอตลอดเวลา.... คะน้องสาวจ๋า จะดูแลพ่ออย่างดีค่ะ ตอนนี้ท่านก็เกือบจะหายแล้วมั่ง ขานั้นบ่นเก่ง อยู่ด้วยนาน ๆ ไม่ได้ ปะทะคารมณ์ประจำ ตอ้งอยู่ห่าง ๆ คอยห่วง... (ท่านแต่งงานใหม่แล้ว เลยไม่ค่อยเข้าใกล้เท่าไหร่ แต่ก็ห่วงใยเสมอ) พี่ชายรักษาสุขภาพนะคะ คิดถึง และเป็นห่วงเสมอ... ------------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------------
20 กุมภาพันธ์ 2553 01:10 น. - comment id 92507
อ่านเพื่อเล่าเป็นคติสอนใจแก่ผู้หลงผิดคิดทำแท้ง เราไปทำแท้งมาเมื่อวาน ดิฉันเป็นนักเรียน มหาลัยแห่งนึงซึ่งอาศัยอยู่กับแฟนที่คบกันมา 3 ปี ตอนแรกที่รู้ว่าท้อง ฉันตัดสินใจไม่บอกให้แม่รู้เพราะว่ายังไม่พร้อมและยังเรียนไม่จบกลัวแม่จะด่าเอา พอกลับบ้านไปหาแม่แม่ก็เริ่มสงสัยว่าทำไมเข้าห้องน้ำบ่อยจังเป็นอะไรหรือป่าว ฉันก็ปัดไม่บอกแม่และเปลี่ยนเรื่องคุยเสมอจนแม่เริ่มสงสัย และฉันจึงตัดสินใจบอกแม่กับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวฉัน ตอนแรกคิดว่าแม่จะต่อ ว่า แต่แม่ไม่ทำอะไรเลยได้แต่เงียบฉันกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จึงร้องไห้ออกมา หลังจากนั้น 2-3 วันฉันก็กลับไปหอพักที่พักอยู่ไปถามแฟนว่าจะเอายังไง แฟนกลับไม่ให้คำแนะนำใด ๆ และบอกว่าจะเลี้ยงไหวหรอถ้ามีลูกทั้งค่านม แพมเพริด อะไรอีกมากมาย ฉันจึงโทรไปหาแม่ว่าแฟนเค้ารับไม่ได้ไม่หร้อมที่จะมี แม่ฉันจึงบอกว่าทำอะไรให้คิดเสียก่อน มาอีกวันนึงแฟนบอกว่ามีสถานรับทำแท้งที่สุขุมวิท 12 ราคาไม่แพงมาก ฉันทำอะไรไม่ถูกจิง ๆ แฟนจึงพาไป ตอนแรกที่เดินเข้าไปมันก็เหมือนกับร้านอาหารด้านล่างแต่มีทางขึ้นบันไดขึ้นไปชั้นบน พอขึ้นไปพยาบาลที่หน้าเค้าร์เตอร์จะถามว่าประจำเดือนขาดกี่เดือนแล้วเค้าก็ให้นั่งรอ คุณเชื่อไหมว่าคนที่รอทำบาปกรรมนั้นมีเยอะมากเลย และยังมีนักเรียนผมสั้นตัวเล็กมาก ๆ มานั่งรอ เฮ้อพอนึกก็สมเพดตัวเองจิง ๆ พอนั่งซักพักเค้าก็เรียกให้ไปชั่งน้ำหนะกและจ่ายตัง ตอนแรกจ่อย 200 และเข้าปัยอีกห้องจ่ายอีก 1800 ฉันคิดไปคิดมากแล้วก็ไม่อยากทำแต่มันก็จำเป็นจิงๆ แล้วตอนที่ฉันพร้อมใครที่ไหนอยากจะมาเกิดกับฉันร่ะ ? ฉันไม่เคยคิดว่าเรื่องแบบนี้จะมาเกิดขึ้นกับฉัน พอฉันนั่งสักพักเค้าก็ให้ขึ้นไปชั้นบน แล้วเค้าจะพาเดินไปห้องรอทำ พอถึงพยาบาลก็จะให้เปลี่ยนผ้าถุง และกินยาแก้ปวด แล้วพอถึงเวลาหมอก็เรียกในห้องนั้นมันน่ากลัวมากตอนที่ฉันเข้าไปมือไม้สั่นไปหมดตัวเย็น พยาบาลบอกว่าห้ามเกร๊งเค้าให้ฉันยกขาขึ้นปัยเหมือนขาหยั่ง แล้วซักพักเขาก็นำอะไรไม่รู้เสียบเขาไปที่ช่องคลอดฉันรุ้สึกเจ็บปวกมากเค้าดึงเข้าดึงออกอยู่ปะมาน4-5ครั้งมันจุกมากแทบจะทนไม่ไหวฉันน้ำตาซึมพอเส๊ดพยาบาลอีกคนก็มารับตัวฉันกลับไปที่ห้องเดิมและให้ฉันกินน้ำร้อนและนอนพักแต่ทว่ามันไม่ได้เจ็บแค่ร่างกายแต่มันเจ็บทั้งจิตใจ ฉันได้ชื่อว่ากำลังจะเป็นแม่คน แต่ฉันกลับทำลายเค้าคนนั้นไปเสียแล้ว ฉันนอนร้องไห้อยู่ในห้องนั้นได้ปะมาน 5 นาทีฉันก็ใส่กางเกงเหมือนเดิม ยาที่เค้าให้มาเป็นยาแก้ปวดและวิตตามินธรรมดา ฉันพอแข็งแรงดีแล้วก็เดินลงปัยข้างล่างซึ้งแฟนรออยู่ แล้วก็โบกรถกลับบ้านฉันยืนแทบไม่ไหวแต่ก็ต้องทน ฉันอยากเตือนสติกับผู้ที่จะคิดไปทำว่าอย่าทำเลยเด็กเค้ามีบุนเกิดมาอยู่กับเราแล้วเราอย่าปัยทำลายเค้าสิ่งที่ฉันทำมันผิดพลาดมากฉันอยากฝากปัยบอกกับวินญาณ น้อย ๆ ของแม่ว่าแม่ขอโทดจิง ๆ แม่อยากให้ลูกอโหสิให้แม่เลว ๆ คนนี้ จึงอยากฝากมาเป็นคติสอนใจ ........แม่ที่แสนเลว........