...ฉันไล่สายตาผ่านตัวอักษรบนหน้าจอมอนิเตอร์ตรงหน้า ...มีบ้างที่ฉันอ่านทวนซ้ำ และมีบางคราวที่ฉันอ่านข้ามไปอย่างรวดเร็ว ...แต่ทั้งหมด ... ผ่านตา และก็ผ่านไป ไม่เก็บอะไรไว้ในใจ
...ฉันไล่สายตาผ่านตัวอักษรบนหน้าจอมอนิเตอร์ตรงหน้า ...มีหลายหนให้ฉันอ่านทวนซ้ำ และมีบางคราวที่อ่านข้ามไปอย่างรวดเร็ว ...แต่ทั้งหมด ... ผ่านตา และก็ผ่านไป ไม่เก็บอะไรไว้ในใจ ...และปล่อยให้บางเรื่องราว...วางไว้ในเวป...ตามเดิม
คงมีเพียงเท่านี้ที่อยากพูด ซึ่งพิสูจน์ลำบากแสนยากเข็ญ มากเรื่องราวบิดเบือนเกลื่อนประเด็น ความคิดเห็นบางอย่างแตกต่างไป เฉกนักบุญแปรบาปรับทราบบท แท้ทั้งหมดยัดเยียดรังเกียจใส่ ข้อมูลที่ถูกอ้างมาคราหมางใจ โดยบางใครตั้งแง่กระแสรวน เรานั่งมองกลไกภายในเวป แต่มิเก็บมาคิดจนจิตผวน บาปหรือกรรมรู้ได้หากใคร่ครวญ ทุกอย่างล้วนบ่งชี้แหล่งที่มา และมิถือสาใครในความคิด ถูกหรือผิดคำถากพิพากษา เรื่องแค้นเคืองอาฆาตปราศนำพา แม้นรู้ว่าจิตเพื่อนไม่เหมือนเดิม ปล่อยกระแสเรื่อยไหลโดยไม่เร้น ใครคิดเข่นข่มเหงราวเบ่งเสริม หรือผู้ที่หมายย่ำคอยซ้ำเติม โหมเพลิงเพิ่มลุกลามเช่นทรามไฟ หัวใจเราก็เท่านี้อย่างที่บอก ยอมช้ำชอกจากสิ่งติงแก้ไข แต่มิอาจรับความผู้หยามใจ เรื่องบางอย่างวางไว้จบในเวป
...นั่นสิ ...บทบาทบนเวที...และหน้าที่ที่จะต้องทำ...ยังต้องเป็นไป...
...ฉันไม่อาจบงการใคร ๆ ให้มีความเชื่อตามสิ่งที่ฉันอยากให้เป็นไป ...และที่สำคัญฉันไม่อยากถูกใครครอบงำ บงการ จนฉันปราศจากอิสระ ...ฉันไม่อาจคาดหวังใด ๆ ...กระทั่งความคาดหวังนั้นเป็นความคาดหวังของฉันเอง
...ฉันอาจได้ยินเสียงปรบมือแสดงความยินดี ...ฉันควรวางท่านิ่งหรืออาจยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก..ไม่ควรดีใจออกนอกหน้าดีกว่า ...หรือฉันอาจได้ยินเสียงโห่ร้อง ขว้างปาเกือกแตะ ... ก็อาจเป็นไปได้ทั้งนั้น ...ฉันควรสงบกว่านั้น...ที่สำคัญฉันต้องไม่ออกอาการโกรธขึ้ง
...ส่วนเบื้องล่างเวที... ...ย่อมคละเคล้าระหว่างผู้ที่ชื่นชมและผู้ที่ไม่ชื่นชม ...ฉันควรให้ความรู้สึกของคนที่อยู่เบื้องล่างเวทีส่งผลกระทบถึงฉันน่ะหรือ ?
...ในเมื่อฉันเลือกที่จะอยู่บนเวที... ...ขีดเขียน...ฝากอักษรบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ตามจินตนาการ ...จะว่าไปแล้ว...ถ้าจะเทียบไปกับการแสดง... ...ฉันก็คงเป็นนักแสดงคนหนึ่งที่โลดแล่นบนโลกฝัน ...การกระโดดโลดเต้นบนเวที...ก็ยังคงจะต้องดำเนินต่อไป
...ขอเพียง...ไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อนนอนหนาว ...ขอเพียง...ไม่ไปก้าวร้าวข่มเหงรังแกใคร ...ฉันคิดว่า ฉันก็มีความสุขอย่างพอเพียงแล้ว ...ถึงแม้ว่าบางสภาวการณ์อันเป็นจริง... ...อาจมีบางสิ่งที่เจ็บปวดและอัดอั้นตันใจอยู่บ้าง ...ฉันบอกกับตนเองซ้ำ ๆ ว่า ... ต้องอดทน
...หากแต่ภาระหน้าที่การงาน และร้าวรานในบางสาเหตุ ...อาจทำให้ฉันรู้สึกท้อแท้ในบางครั้งคราว ...แต่ฉันก็ยังมีความเชื่อมั่นว่า... ...สองขาสองแขนและหนึ่งหัวใจ...จะพยุงร่างให้ดำเนินต่อไปอย่างกล้าแกร่ง ...เพียงแต่ฉันมองไปข้างหน้า... ...และค้นหาสิ่งที่มุ่งหมายไว้...ด้วยใจที่เปี่ยมสุขและสนุกกับสิ่งเหล่านั้น ...เรื่องอื่น ๆ ที่ไร้สาระต่อชีวิตของฉัน...ฉันก็ไม่เก็บไว้ให้รกใจ
...เรื่องราวในเวป , เรื่องราวของคนต่าง ๆในเวป ...เปรียบเหมือนห่วงโซ่ที่เกี่ยวพันกันมาแต่ก่อน ...ฉันปล่อยให้มันเป็นไปตามกระบวนการ ไม่ขัดขวาง ไม่ซ้ำเติม ...ฉันจะพยายามอย่างที่สุด... ...ที่จะมองโลกในแง่ดี มองในมุมที่เห็นแต่สิ่งวิจิตรสวยงาม ...ดังนั้น...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น..ฉันคงได้แต่ทำใจว่า ...ช่างเขา ...ไม่ถือสา...ไม่ขอวุ่นวาย...เพราะฉันถือว่า...ฉันพยายามอย่างที่สุดแล้ว
...ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เมืองไทยประสบกับเรื่องหนักสาหัสอยู่ตั้งมาก ...วิกฤตโดยรวมดังกล่าว ทำให้ฉันรู้สึกหนักอึ้งไปกับสภาวการณ์นั้นด้วย ...ดังนั้น ฉันจึงอยากให้โลกส่วนตัวที่ฉันสร้าง ณ พื้นที่ของฉัน ...มีแต่ความความสุข สงบ ...พื้นที่ส่วนตัวของฉัน ฉันก็ไม่ได้บัญญัติกฏเอาไว้เป็นกรอบสักเท่าไหร่ ...ไม่ว่าจะเป็นดนตรี วรรณกรรม ศิลปะ และผู้คนที่มีรอยยิ้มน้ำใจไมตรี ...ฉันเปิดกว้างสำหรับสิ่งที่หลั่งไหลเข้ามา ...แม้ว่า จะพบบ้างหรือไม่พบบ้าง ... ก็ยังหวังว่าจะยังมีให้เห็นอยู่
3 สิงหาคม 2549 17:08 น. - comment id 86475
เป็นนาฏกรรมระคนบนละครโลก ที่สุขโศกเท่าที่ใจจะใฝ่ฝัน อาจหลอมหล่อพ้อระทดแรงกดดัน หรืออาจผันความดีงามตามใจปอง นาฎกรรมดำเนินเดินตามบท เราลิ้มรสแล้วเต้นตามยามใจหมอง หรือเรานิ่งพึ่งพิงใจไม่มัวมอง เดินครรลองตามหน้าที่ที่ควรทำ เป็นนาฎกรรมระคนบนละครโลก ชีวิตโศกสุขชื่นหรือขื่น-ขำ อย่าให้โลกกำหนดบทจองจำ อย่าปิดงำโลกจนแคบแทบหมดทาง. สวัสดีค่ะ ... คุณอัลมิตรา : ) แค่ปิดตา ก็มองไม่เห็น แค่ปิดหู ก็ไม่ได้ยิน แค่ปิดปาก ก็ไม่ต้องลิ้มรส แค่ปิดจมูก ก็ไม่ได้กลิ่น แค่เมินหนี ก็ไม่ต้องรับสัมผัส แค่ไม่คิด ก็ไม่ต้องรับรู้อารมณ์ แต่ถ้ามิอาจ \"ปิด\" ประสาทสัมผัสทั้งมวลได้ ... เราก็ \"รับ\" และ \"รู้\" เท่าที่สิ่งนั้นเป็นอยู่ โดยไม่ต้องไปกระโดดโลดเต้นไปกับสิ่งที่กระทบ ... เราจะเข้าใจอะไรตามจริงได้เยอะเลย เห็นด้วยไหมคะ? ปิดหน้าเว็บ เรื่องก็จบอยู่บนเว็บ มีแต่เราตามเก็บมาไว้ที่ใจ อิอิ
3 สิงหาคม 2549 18:14 น. - comment id 92048
เห็นด้วยค่ะ เราต้องแยกให้ออก โลกความจริงส่วนนึง โลกอินเตอร์เน็ทก็ส่วนนึง อย่าไปยึดติดโลกไหนเลยค่ะ หาความสงบสุขที่ไหนไม่มีหรอกค่ะ ใจเราสงบทุกอย่างก็ไม่ระคายใจ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
4 สิงหาคม 2549 03:07 น. - comment id 92056
ปิดเครื่อง..ก็ไร้เรื่องราว.... ...เขียนได้เยี่ยมครับ...ตอนเช้าอย่าลืมทานยนนะ...ง่วงจังตอนนี้..งานยังไม่เสร็จเลยอะลิง...
4 สิงหาคม 2549 07:51 น. - comment id 92057
...การที่ถูกจับพลัดจับพลูให้มาอยู่รวมกันในสถานที่หนึ่ง ๆ ...และเนื่องจาก..หลายพ่อพันแม่หลากนิสัยใจคอ ...มันก็เลยมีเรื่องราวที่มีทั้งสุข และทุกข์บ้าง ปะปนกัน ...บางคนก็นึกนิยมชมชอบอีกคน โดยที่อีกคนไม่รู้ตัวหรือรู้ตัว ...บางคนก็รู้สึกว่าศรศิลป์ไม่กินเส้นกันกับอีกคน โดยที่อีกคนไม่รู้ตัวหรือรู้ตัว ...บางคนก็แค่มาอ่านเฉย ๆ.. บางคนก็แค่มาเขียนเฉย ๆ.. บางคนมาแล้วไม่เฉยพกแผนมาเพียบ.. ...การที่จะจับตามองใครสักคนว่ามีพฤติกรรมอย่างไร ...รวมถึงการตัดสินในความเป็นมาของเขา มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ กับการปรากฏแค่ตัวอักษรบนเน็ตเท่านั้น ...กระทั่งการที่ได้สัมผัสตัวตนจริงในช่วงเวลาหนึ่ง ก็ไม่อาจจะฟันธงวิเคราะห์ได้เช่นกัน ...แต่โดยมากแล้ว ผู้ที่ถือสิทธิ์(ไม่รู้เหมือนกันว่าใครให้สิทธิ์ เอาสิทธิ์มาจากไหน) มักจะถือว่าตนถูกเสมอ ...ทั้งนี้ทั้งนั้น ส่วนใหญ่จะอ้างว่า..มีวุฒิภาวะสูงกว่า คุณวุฒิ วัยวุฒิ .. เหนือกว่าอีกฝ่าย ...หารู้ไม่ว่า.. วุฒิที่ยกอ้างดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่การันตีได้เลยว่า ความคิดของตนเองจะถูกต้องทุกครั้งไป ...ยิ่งเฉพาะการต่างระดับของพื้นฐานทางจิตใจ ใครเล่าจะยอมรับว่าตนเองมีพื้นฐานทางจิตใจต่ำ ? ...เรื่องวุ่น ๆ จึงยังคงวนเวียนอยู่ในโลกของอินเตอร์เน็ต ...คิดจะหลบคงยาก คิดจะเลี่ยงคงไม่ได้.. คิดจะไม่ให้เกิด บางทีการเกิดขึ้นก็มิได้เกิดจากเรา ...ดังนั้น จะขบคิดกันให้เปล่าเปลืองพื้นที่ในสมองกันทำไม ...ในเมื่อพื้นที่ส่วนนั้น น่าจะมีแต่เรื่องที่จรรโลงใจ เพื่อที่สร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้น ...ที่สำคัญ เพื่อชดเชยกับโลกจริงที่บูดเบี้ยวและวุ่นวาย คุณหยาดอรุณ .. ถูกต้องแล้วค่ะ การที่สะสมเรื่องราวบนโลกจริงไว้มากมาย เมื่อมีโอกาส ก็อาจกระทำการผ่อนคลายด้วยการเขียนบทกวี วาดรูป ฟังเพลง .. ตามประสา ตามถนัด แต่การที่ยังหมกมุ่นเก็บเอาเรื่องราวในโลกของอินเตอร์เน็ตไปร่วมสะสมปนเปกันอีก ดูเหมือนว่า จะเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องนักที่จะเลือกใช้ คงแล้วแต่คนค่ะ หากใครยังคุกรุ่นร้อนระอุ หากใครยังคงคับแค้นคับข้อง ..ก็สุดแต่ใจของแต่ละคนค่ะ ปิดประตูมิขานรับ..ใครจะดับใครจะหมางก็ช่างเขา.. เรื่องของคนกระโหลกหนาปัญญาเบา..สุขหรือเศร้าวางไว้จบในเวป คุณเฌอมาลย์ .. ค่ะ โลกอินเตอร์เน็ตคืออีกโลกหนึ่ง ซึ่งเป็นซัปเซตของโลกจริง แต่การที่ใครจะปล่อยให้โลกอินเตอร์เน็ตก่อกวนความเป็นอยู่บนโลกจริง มันเป็นความคิดที่ไม่ควรทำ หนำซ้ำไม่ควรคิด.. ตอนนี้อัลมิตรามีความสุขกับกะลาน้อย ๆ ตบแต่งประดับประดาโมบายด์ไปตามเรื่องค่ะ คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ ..ตีสาม อัลมิตรานอนเผื่อไปแล้วค่ะ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
4 สิงหาคม 2549 11:55 น. - comment id 92060
เรื่องในเน็ต ยิ่งเราตามไปโลกจะยิ่งกว้างออกไปกว่าที่เราเข้าใจและตามทัน ถ้า เรารู้จักคำว่า พอประมาณ หรือเพียงพอ พอดีๆๆ โลกเน็ต ก็จะเป็นโลกที่พอดี กับความต้องการ ดูเหมือน อัลมิตรา โดนแกล้ง มาหรือไฉน ปล่อยให้มันไหลไปตามเน็ตเถอะนะ เริ่มสร้างเน็ตหัวใจของตนต่อไปครับ
4 สิงหาคม 2549 12:31 น. - comment id 92061
คุณส.เพื่อนใจ .. หากจะให้อัลมิตราตอบว่า .. มีผู้ใดประทุษร้ายอัลมิตราหรือเปล่า มีหรือไม่มี ? ส่งผลหรือไม่ส่งผล ? .. ถ้าคิดว่ามีมันก็มี , ถ้าคิดว่าไม่มีมันก็ไม่มี , ถ้าคิดว่าส่งผลมันก็ส่งผล , ถ้าคิดว่าไม่ส่งผลมันก็ไม่ส่งผล สุดท้ายแล้ว อัลมิตราควรเลือกที่จะตอบว่าไม่ .. คงจะเป็นคำตอบที่ดีกว่า เพียงแต่ว่า สิ่งที่อัลมิตราพบพานในโลกของอินเตอร์เน็ต อัลมิตราไม่อาจรู้โดยทั่วถ้วนถึงสาเหตุ และยิ่งไปกว่านั้น อัลมิตราก็คร้านที่จะรับรู้อะไรไปมากกว่า การอยู่อย่างสงบใจ อาจเป็นเพราะว่า .. ตลอดการทำงานในชีวิตจริงอัลมิตรามีสัมพันธ์กับวงจรใยแก้ว ดังนั้น ไม่ว่าอะไรต่อมิอะไรที่เกิดขึ้น นอกจากทำให้เหนื่อยหน่ายบ้างในบ้างครั้งแล้ว ก็ไม่น่าจะส่งผลอะไรกระทบกระเทือนจิตใจไปมากกว่านั้น ในโลกของอินเตอร์เน็ต อัลมิตรามีความสุขที่จะอยู่อย่างคนที่ไม่คาดหวังใด ๆ มีความพึงพอใจที่จะได้ขีดเขียนตามจินตนาการของตนเอง โดยมีอิสระเต็มที่ ตาข่ายที่คลุมบนหัวใจของอัลมิตรา อัลมิตราย่อมปกป้องเป็นอย่างดี เรื่องอื่น ๆ ที่จะมารบกวน คงผ่านพ้นตาข่ายนั้นไม่ได้ค่ะ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
7 สิงหาคม 2549 14:12 น. - comment id 92082
อ่านแล้วปวดขมอง