เพลงรัก เพลงละคร ตอนที่2

เก่งกาจ

เค้ก เค้กเข้าไปก่อนนะ เดี๋ยวเราตามเข้าไปกริชกล่าวเหมือนขอร้อง เค้กเห็นดังนั้นไม่กล่าวสิ่งใดเดินเข้าไปในห้องประชุม
กริชคิดถึงภาพในอดีต เป็นภาพ เมื่อเจ็ดปีที่แล้ว ตอนนั้นเป็นเวลาเช้าก่อนที่เขาจะไปโรงเรียน บ้านของกริชเคยอยู่ติดบ้านของหยี ทุกเช้ากริชจะได้ยินเสียงเปียโนจากบ้านของหยี เขามองออกไปนอกหน้าต่างเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเล่นเปียโนอย่างเพลิดเพลิน โดยหารู้ไม่ว่ามีเด็กชายคนหนึ่งกำลังหลงรักเธอและเสียงเพลงของเธออยู่เงียบ ๆ
กริชไปโรงเรียนได้แล้วลูก เดี๋ยวสายนะแม่ของกริชบอกพร้อมยื่นกระเป๋านักเรียนให้ แต่สังเกตเห็นอะไรบางอย่างจึงบ่นออกมา
นี่ลูกเอาช็อกโกแลตไปกินในห้องเรียนด้วยหรือ เดี๋ยวคุณครูก็ว่าเอาหรอกแม่บ่นออกมา
กริชเห็นดังนั้นรีบดึงเอาช็อกโกแล็ตและกระเป๋าจากมือแม่แล้ววิ่งออกไป ช็อกโกแล็ตนั้นมีลักษณะเดียวกับที่หยีเคยได้รับ
หลังจากที่กริชตื่นจากภวังค์ เขาก็ตามเค้กเข้าไปที่ห้องประชุม เขาเฝ้าบอกกับตัวเองว่าตลอดเวลาเขาต้องการพบเด็กผู้หญิงซึ่งเป็นรักแรกของเขา 
 วันที่เขาได้พบกับเค้ก มีสิ่งหนึ่งในตัวเค้กที่ทำให้เขามั่นใจว่าเป็นเด็กหญิงคนเดียวนั้น คือ เพลงFirst love หากแต่วันนี้ เขากลับพบกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งคือเด็กผู้หญิงคนนั้นตัวจริงเข้าวันนี้ ชายหนุ่มอดที่จะรู้สึกสับสนกับความจริงข้อนี้ไม่ได้
กริชตัดสินใจเดินเข้าไปที่ห้องประชุมเพื่อ พิสูจน์อะไรบางอย่าง 
ระหว่างทางใจเต้นไม่เป็นส่ำ ที่ตนเองจะได้เจอกับผู้หญิงที่เขาเฝ้าตามหา ผู้หญิงที่เฝ้ารอคอย ผู้หญิงที่เป็นดังทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต
เมื่อถึงห้องประชุม เขาเดินอย่างเงียบ ๆ 
เสียงเปียโนกลบเสียงฝีเท้า เสียงเพลงนั้นถูกบรรเลงโดยหญิงสาวที่เขาว่าไปเมื่อสักครู่ 
แต่เป็นหญิงสาวที่เขาอยากพบเจอมากที่สุดในขณะนี้ ทันที่รู้ความจริงบางอย่างว่าแฟนสาวไม่ได้แต่งบทเพลงนี้หากแต่เป็นหญิงสาวที่เล่นเปียโนให้ฟังอยู่ตรงหน้า 
ในหัวใจเขาสุขล้นเหลือเกิน ชายหนุ่มไม่ทันสังเกตว่าเค้กมายืนอยู่ข้าง ๆโดยไม่พูดจาสักคำ เฝ้าดูว่ากริชจะทำอย่างไรกับความจริงที่ได้รับรู้ 
แต่ทันใดนั้น  ก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นคนนั้นคือเจ๊กุ๊กนั่นเอง
หวัดดีจ๊ะ คุณน้องเจ๊กุ๊กกล่าวด้วยน้ำเสียงสดใสพร้อมยิ้มให้กริชกับเค้ก
หวัดดีค่ะ/ครับกริชรู้สึกตัว ตื่นจากภวังค์ หันไปทักทายพร้อมยิ้มให้เล็กน้อย เค้กก็เช่นกัน
นี่คงเป็นน้องกริช กับน้องเค้กใช่ไหมค่ะเจ๊กุ๊กเอ่ยถามเพื่อให้แน่ใจ
กริชพยักหน้ายิ้มรับเล็กน้อย เค้กก็เช่นเดียวกัน
ขอบคุณน้องสองคนมากเลยนะจ๊ะที่มาช่วยงานพี่ ถ้าไม่ได้คนเก่ง ๆอย่างน้องสองคนมาช่วยพี่แย่แน่เลยเจ๊กุ๊กอดหยอดคำหวาน เป็นการออดอ้อนไม่ได้
หยีในตอนนี้หยุดเล่นเปียโนทันทีเมื่อได้ยินเสียงเจ๊กุ๊กที่เดินเข้ามา เธอเดินมาหาเจ๊กุ๊กที่ข้างล่างเวที
หวัดดีค่ะพี่กุ๊กหยีเอ่ยพร้อมยิ้มให้พี่กุ๊ก แต่สายตาไปหยุดที่ใครคนหนึ่งที่มองมาที่เธอเช่นกัน เป็นแววตาที่เธอไม่อาจคาดเดาได้  เขาคือกริชนั่นเอง
หวัดดีจ๊ะหยี  คุณน้องนี่เจอกี่ทีก็เล่นแต่เพลงนี้  แต่ว่าฟังกี่ทีก็เพราะ ไม่เบื่อเลยเจ๊กุ๊กอดชมไม่ได้ เพราะเธอชื่นชมในฝีมือการดนตรีของหญิงสาวเองจึงได้ชวนกันมาร่วมทำกลุ่มโปรเจคด้วย
กริชได้ยินอย่างนั้นก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าคนที่เขาตามหามาตลอดคือหยีนั่นเอง
เขาได้แต่มองหยีด้วยสายตาที่มีความหมายมากขึ้น อยากบอกเหลือเกินว่าตลอดเวลาเขาต้องการพบเธอแค่ไหน
ว่าแต่วันนี้เรียกประชุมทำไมค่ะหยีเอ่ยถามอย่างสงสัย 
ก็วันนี้เราจะคัดตัวแสดงเอกกัน แต่ว่าต้องรอไอ้ได๋ มันก่อนเจ๊กุ๊กเอ่ยถึงได๋ รุ่นน้องพี่กุ๊กหนึ่งปี หรือเด็กเปอร์ อยู่ปีห้ากล่าว ทั้งสองคนคือพี่กุ๊ก กับพี่ได๋ยังติดวิชาโครงงานอยู่หลายปี ทั้งคู่ตั้งใจที่จะให้ผ่านปีนี้ให้ได้ 
	หวัดดีเจ๊กุ๊ก ได๋กล่าวทักทายขัดจังหวะการสนทนาของทั้งคู่ 
	ตายยากจริงนะแกเจ๊กุ๊กหันไปแขวะใส่เพื่อนรุ่นน้องที่เป็นคู่กัดกันมา  แล้วหันหน้ามาทางหยี พร้อมพูดว่า
	นี่หยี แล้วไอ้โดมล่ะพี่กุ๊กหันไปถามเสียงแข็งกับยาหยีทันที 
	ขอโทษค่ะพี่กุ๊ก หยีพยายามโทรไปตามมันหลายเที่ยวแล้ว แต่มันยัง..หยีจะพูดต่อ แต่พี่กุ๊กแทรกพูดขึ้นอย่างรู้ทัน
	ยังไม่ตื่นพี่กุ๊กกล่าว หยียิ้มรับอย่าง แหย ๆ
	เอาละไม่ต้องรอมันแล้ว  เริ่มคัดเลือก ตัวแสดงเอก ของเรื่องกันนะเถอะพี่กุ๊ก กล่าวขึ้น  
มีเสียงหนึ่งขัดจังหวะขึ้น
	พี่กุ๊กครับ ขอขัดจังหวะหน่อย เราจะคัดนักแสดง ทั้งที่ยังไม่รู้เรื่องราวอย่างนั้นหรือพี่ได๋เอ่ยถาม
	เรื่องของละครหรือคะ  คืออย่างนี้ ค่ะ พระเอกของเรื่อง หลงรักผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเขาคิดมาตลอดว่า เป็นคนแต่งเพลงFirst love ให้เขา แต่ เขาไม่เคยรู้ความจริงว่าเจ๊กุ๊กหยุดเล่าเรื่อง เป็นเชิงรอให้คนอื่นถาม
ซึ่งได๋ก็ถามขัดขึ้นทันที
ว่าอะไรเจ๊ได๋เอ่ยถามด้วยความอยากรู้
เขาไม่เคยรู้ว่า ผู้หญิงอีกคนซึ่งเป็นนางเอกของเรื่องเป็นคนแต่ง จนมาได้ยินนางเอกร้องเพลง เขาก็เริ่มสับสนเจ๊กุ๊กเล่าทีละนิดเหมือนต้องการเรียกความสนใจจากผู้ร่วมทีมทีละนิด 
แต่เจ๊กุ๊กไม่ได้สังเกตว่ากริชเฝ้ามองหยี  ถ้าทำได้เขาอยากจะเข้าไปโอบกอดเธอไว้แล้วบอกเธอว่า เขาเฝ้าตามหาเธอมาตลอด หยีเป็นรักแรก และหญิงเดียวในดวงใจของเขา เขารู้สึกว่าเรื่องราวของเจ๊กุ๊กคล้ายชีวิตรักของเขายิ่งนัก
ได๋อยากรู้เรื่องมาจึงเอ่ยถาม
พระเอกสับสนอะไหรือเจ๊ได๋เอ่ยถาม
เขาสับสนว่าเขาควรจะรักแฟนของเขา ซึ่งเขาคิดมาตลอดว่าแต่งเพลงนี้ หรือเขารักนางเอกซึ่งร้องเพลงนี้ได้เข้าถึงอารมณ์กันแน่  พี่กุ๊กเล่าพร้อมนึกภาพตามไปด้วย พี่กุ๊ก เล่าเรื่องจนคนอื่นเพลิน ๆ พอหยุด ทุกคนต่างเสียอารมณ์ เพราะต้องการรู้จุดจบของเรื่อง
	แล้วตอนจบมันควรป็นยังไงครับพี่กริชเอ่ยถามโดยนัย มองมาที่หยีด้วยความรัก เขาต้องการให้ใครสักคนช่วยบอกทางออกที่ดีสำหรับเขาที
	ยังตัดสินใจไม่ได้จ๊ะพี่กุ๊กหันมาตอบพร้อมถอนหายใจ
	ทำไมละครับรุ่นน้องคนหนึ่งถามขึ้น
	 ยังคิดไม่ออกค่ะพี่กุ๊กกล่าว ทุกคนได้แต่ถอนหายใจเพราะอยากรู้ตอนจบ
	แล้วมันจะทันหรือพี่กุ๊กใกล้วันงานแล้วนะพี่ได๋ออกความเห็น
	ไม่รู้ค่ะ ขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อนพี่กุ๊กกล่าวพร้อมกุมขมับตนเอง
	เอาละค่ะ  น้อง ๆ ก็ซ้อมบทละครเท่าที่มีไปก่อน ตอนจบเป็นยัง ไง ใกล้วันแสดงจริง เดี๋ยวพี่จะบอกอีกทีนะคะพี่กุ๊กตัดบท พร้อมเอ่ยต่อว่า
	ตอนนี้เราก็มาคัดตัวแสดงเอกกันก่อนนะคะ
	แล้วพี่ตัดสินใจเลือกใครบ้างละครับได๋ถามต่อทันที
	พี่ตัดสินใจเลือกตัวพระเอกไว้แล้วค่ะ คือ..ยังไม่ทันที่พี่กุ๊กจะเอ่ยต่อ ได๋ก็ขัดจังหวะขึ้นทันที
	ผมใช่ไหมครับพี่กุ๊กพี่ได๋กล่าวเล่น ๆ เหมือนไม่จริงจัง
	อุ๊ยคุณน้องขา บุคลิกของคุณน้อง  คนละขั้วกับพระเอกของพี่นะคะพี่กุ๊กปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมยิ้มให้กริชแล้วพูดต่อ
	คนที่จะมารับบทพระเอก ก็คือ คุณน้องกริชค่ะพี่กุ๊กกล่าวอย่างอารมณ์ดี
	ไม่ดีกว่ามั้งครับพี่กุ๊ก ผมขอเป็นแค่สตาร์ฟดีกว่ากริชกล่าวปฏิเสธทันที หากแต่พี่กุ๊กก็ส่ายหน้าไม่รับฟังพลางแย้งว่า
	ไม่ได้ ไม่ได้ ค่ะคุณน้องกริช ที่พี่เลือกน้องกริช เพราะพี่รู้มาจากเพื่อนของพี่ว่า  น้องกริชรักดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ  ซึ่งมันก็ตรงกับตัวละครของพี่พี่กุ๊กหยุด  ก่อนพูดต่อเป็นเชิงขอร้องแกมบังคับ
	เอาเป็นว่าอย่าปฏิเสธเลยนะค่ะ รับหน้าที่นี้ไปซะโดยดีกริชได้แต่อ้ำอึ้งไม่กล้าปฏิเสธ พี่กุ๊กจึงหันไปพูดต่อ
	ต่อเลยนะค่ะ คนที่จะมารับบทแฟนพระเอก ก็คือ คุณน้องเค้กค่ะยังไม่ทันที่พี่กุ๊กจะกล่าวอีก พี่ได๋ก็แย้งขึ้นเหมือนไม่เห็นด้วย
	เดี๋ยวนะครับพี่กุ๊กได๋กล่าว
	อะไรอีกล่ะค่ะ คุณน้องพี่กุ๊กกล่าวอย่างนึกรำคาญในความขี้สงสัยของได๋
	ทำไมถึงเลือกเค้กเป็นแฟนพระเอกละครับได๋กล่าว เขาอยากให้เค้กเล่นเป็นนางเอกของเรื่องมากกว่าเป็นแฟนพระเอก
	ก็คุณน้องเค้ก เธอเล่นดนตรีเก่งกำลังจะพูดต่อ ได๋ก็แย้งขึ้นมาอีก
	ยัยหยี ก็เล่นดนตรีเก่งนะครับได๋กล่าวต่อเหมือนอยากเชียร์ให้เค้กซึ่งเขาแอบปลื้มอยู่เป็นนางเอกของเรื่องมากกว่า
	ก็ใช่ค่ะ แต่ว่าที่พี่เลือกน้องเค้ก เพราะบุคลิกของคุณน้องเค้ก พร้อมความสามารถที่เล่นดนตรีเก่ง มันสามารถโน้มน้าวให้ตัวพระเอกมารักเธอได้โดยไม่สะกิดใจสักนิดว่ารักคนผิดพี่กุ๊กอธิบายอย่างยืดยาว ได๋รับฟังพร้อมถามต่ออย่างสงสัย
	ถ้าอย่างนั้นพี่เลือกใครเป็นนางเอก
	น้องหยีสิค่ะพี่กุ๊กกล่าวยิ้ม ๆ ในการตัดสินใจของตนเอง
	ยัยหยีนี่นะพี่ได๋กล่าวอย่างไม่อยากเชื่อในฝีมือ
	ก็ใช่นะสิค่ะคุณน้อง อย่าหาว่าพี่เวอร์เลยนะค่ะ คุณน้องหยีเนี่ย ร้องเพลงเพราะมาก มากเท่านักร้องมืออาชีพเลยก็ว่าได้เจ๊กุ๊กพูดพร้อมยิ้มให้ยาหยี หยียิ้มรับกับสายตากับทุกคนอย่างแหย  
	ถ้างั้นพวกเราคงต้องขอพิสูจน์คำพูดของพี่กุ๊กหน่อยละครับกริชหันไปพูดกับพี่กุ๊ก พร้อมหันหน้ามาพูดกับยาหยีด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แต่แววตานั้นมองมาด้วยความรัก
	เธอช่วยร้องเพลงให้พวกเราฟังหน่อยได้ไหมกริชหันไปบอกยาหยี
	ร้องเพลง First Love สิหยีเค้กสนับสนุนอีกแรง เมื่อเห็นแฟนหนุ่มไม่ได้ว่าอะไรหากหยีจะร้องเพลงนี้
	แต่ว่าเพลงนั้น..หยีได้แต่อ้ำอึ้ง พร้อมมองกริชเหมือนไม่แน่ใจว่าเขายังจะเคืองเธออยู่หรือเปล่าหากเธอร้องเพลงนี้
	ร้องเลยหยี เค้กเห็นหยียังอ้ำอึ้ง เธอจึงสนับสนุนอีก
	ร้องสิกริชกล่าวสั้น ๆพลางสบตาหยีเป็นเชิงอนุญาต
	จากนั้นหยีก็ร้องเพลงFirst love ออกมา   ในระหว่างที่ยาหยีกำลังร้องเพลง  กริชฟังเพลงที่ยาหยีร้องพร้อมเก็บความถูกใจในน้ำเสียงของหยีอย่างเงียบ ๆโดยไม่แสดงออก
	ทันทีที่ร้องเพลงจบ ก็มีเสียงปรบมือด้วยความยินดี ยาหยีโค้งคำนับเป็นเชิงขอบคุณ
	เพราะมากค่ะ คุณน้องหยีเจ๊กุ๊กปรบมืออย่างยินดี พร้อมมองไปที่กริช เห็นมองไม่วางตาจึงหันไปแซวชายหนุ่ม
	เป็นไงค่ะคุณน้องกริช นางเอกของพี่ร้องเพราะไหมค่ะเจ๊กุ๊กกระเซ้า  
	พี่แล้วทำไมต้องไปถามกริชด้วยละได๋โผล่งออกมา เพราะตนคิดว่า หยีจะร้องเพลงดีไม่ดี ไม่เห็นเกี่ยวกับกริชเลย  
	เฉยน่ะไอ้ได๋ แกนี่ชอบขัดฉันเสียจริงเจ๊กุ๊กหันไปว่าพี่ได๋ จนได๋ต้องเงียบไป
	ว่าไงค่ะ น้องกริช เพราะไหมเจ๊กุ๊กหันมาถามกริชต่อ เหมือนต้องการคำตอบ
	เพราะมากครับเขากล่าวสั้น  พร้อมมองหยีด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
	คุณน้องกริชรู้สึกใช่ไหมละค่ะว่า ไม่อยากเชื่อว่าหยีจะร้องได้ไพเราะขนาดนี้เจ๊กุ๊กเอ่ยถามเหมือนต้องการรู้อะไรบางอย่างเพื่อเป็นประโยชน์ต่อละครของตน
	ครับกริชตอบตามความเป็นจริง
	เห็นไหมค่ะคุณน้องทั้งหลาย คุณน้องกริชไม่เคยคิดว่าน้องหยีหรือนางเอกของพี่ จะร้องเพลงได้ไพเราะตรึงใจขนาดนี้ ซึ่งมันเป็นอารมณ์เดียวกับพระเอกของเรื่อง แสดงให้เห็นว่าคุณน้องกริชเล่นเรื่องนี้ได้พี่กุ๊กกล่าวอย่างยินดี ที่ละครของตนสำเร็จไปกว่าครึ่งเพราะเลือกตัวเอกที่ลงตัว นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องการความคิดเห็นของกริชที่มีต่อการร้องเพลงของหยี
	ในระหว่างที่พี่กุ๊กมอบบทให้แต่ละคน หยีไม่ทันสังเกตว่ามีใครบางคนแอบมองอยู่  เขาคือกริชนั่นเอง
	หลังเลิกประชุมชมรม หยีก็ได้ขี่รถจักยานกลับบ้านทันที เธอเห็นทั้งเค้กและกริชขี่รถแซงหน้าไป เธอได้แต่มองเขาไปทั้งคู่ 
	อีตาบ้าไปได้เสียก็ดี อยู่ ๆก็มาตู่ว่าเพลงฉันเป็นของตัวเองหยีเบะปากบ่นถึงชายหนุ่มอย่างรู้สึกเคือง	ยาหยีไม่ได้ขี่กลับบ้านทันทีแต่ไปที่บ้านโดม เพื่อจะบอกงานที่พี่กุ๊กฝากมาให้ แต่เมื่อไปถึงบ้านโดม บ้านปิดเงียบไร้ผู้คน 
	ไอ้โดม ไอ้โดม อยู่หรือเปล่าหยีตะโกนเรียกเพื่อน แต่ไม่มีเสียงขานรับ
	สงสัยจะออกไปวิ่งหยีพึมพำกับตนเอง จากนั้นเธอก็กลับบ้านทันที
	ทางด้านโดมได้ออกมาวิ่งที่สนามของหมู่บ้าน ในขณะนั้นก็รู้สึกหน้ามืดมากะทันหัน เขาย่อตัวลง พร้อมกุมขมับตนเองเหมือนรู้สึกมึนหัว ทันใดนั้นมีของเหลวแดงไหลออกมาจากจมูก
	เป็นอะไรไปวะเราโดมบ่นกับตนเองพร้อมเอามือกุมขมับตนเอง
	ทางด้านหยีที่ขี่จักรยานถึงหน้าบ้าน เธอพบว่ามีกล่องอันหนึ่งอยู่ในรั้วบ้านเธอ เธอพบว่ากล่องนั้นคือกล่องช็อกโกแล็ต เธออดแปลกใจไม่ได้ ว่าใครส่งมา
	คิดไปคิดมา รู้ทันทีว่าอาจเป็นคนเดียวกับที่เคยส่งให้เธอเมื่อสมัยยังเด็ก ๆ
	มองออกไปที่ข้างบ้าน เห็นบ้านเปิดไฟ แสดงให้เห็นว่ามีคนย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ หลังจากที่บ้านนี้มีคนย้ายออกไปเสียนาน
	ทันใดนั้นเอง เธอก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมาจากบ้าน เขาคือกริชนั่นเอง
	หมอนั่นนี่หยีอุทานออกมา เสียงของเธอดังพอที่กริชจะได้ยิน และเห็นเธอที่มองมาทางเขาพอดี
	ตอนนี้ชายหนุ่มรู้สึกเป็นมิตรมากกว่าเคย พร้อมยิ้มให้ แล้วเดินเข้ามาหาหยี
	สวัสดีดีครับ กริชกล่าวทักทาย
	สวัสดีค่ะหยีเหวอไปเหมือนกัน ไม่คิดว่าเขาจะเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วขนาดนี้ ตอนกลางวันยังว่าเธออยู่เลย	
	คุณอยู่ที่นี่หรือครับกริชเอ่ยถาม
	ค่ะ ฉันอยู่บ้านนี้มาตั้งแต่เด็กหยีตอบพลางยิ้มให้ ค่อยรู้สึกผ่อนคลายเมื่อเห็นท่าทีเป็นมิตร
	คุณพึ่งย้ายมาอยู่ใหม่หรือคะหยีเป็นฝ่ายถามบ้าง
	เปล่าครับ ผมเคยอยู่ที่นี่สมัยเด็ก ๆเหมือนกันชายหนุ่มตอบ หยีพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้
	กริชยิ้มแล้วเห็นบางสิ่งอยู่ในมือของหยี มันคือกล่องช็อกโกแลตนั่นเอง
	นั่นคุณถืออะไรมาหรือครับกริชเอ่ยถาม
	ช็อกโกแลตนะค่ะ มีคนมาวางไว้หน้าบ้าน ไม่รู้ว่าใครหยีมองช็อกโกแลตในมือยิ้ม แล้วตอบชายหนุ่ม
	คุณไม่ดีใจหรือครับที่มีคนมาให้อย่างนี้กริชถามเหมือนอยากรู้ แต่เก็บอาการไว้ ไม่อยากให้หญิงสาวรู้ความรู้สึก
	เรียกฉันว่าหยีก็ได้นะหยีไม่ตอบแต่เอ่ยเรื่องชื่อแทน
	เธอก็เรียกเราว่ากริชก็ได้นะกริชบอกเช่นกัน
	ได้จ๊ะ กริชหยียิ้มรับ 
	เธอยังไม่ตอบฉันเลยกริชเอ่ยขึ้น เหมือนไม่ลืมง่ายๆ
	อะไรหรือหยีเอ่ยถามอย่างสงสัย
	เธอไม่ดีใจหรือที่ได้ช็อกโกแลตกริชเอ่ยถาม พร้อมเก็บซ่อนความอยากรู้คำตอบภายในใจ
	ได้ช็อกโกแลตจากคนใจร้ายอย่างนั้น ไม่เห็นอยากดีใจเลยหยีเอ่ยออกมาอย่างน้อยใจ
	คนใจร้ายอย่างนั้นหรือ ทำไมไปว่าเขาอย่างนั้นละกริชเอ่ยถามยิ้ม ๆ
	ก็เขาเคยให้ช็อกโกแลต ตั้งแต่เราเด็ก จนถึงปีที่แล้วนี่เอง อยู่ ๆเขาก็ไม่ส่งให้เสียเฉย ๆหยีบ่น อ่อย ๆ
	เขาคงเป็นคนสำคัญสำหรับเธอนะกริชพูดเป็นเชิงถาม
	เขาน่ะสำคัญสำหรับเรา แต่เขาคงไม่คิดว่าเราสำคัญ  เขาน่ะ คือรักแรกของเราเลยนะหยีกล่าวความรู้สึกที่มีออกมา กริชตะลึงกับคำว่ารักแรกของหยี
	รักแรกอย่างนั้นหรือ ทำไมเธอจึงรักเขาล่ะ				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน