ความจริง = ความสุข + ความทุกข์ สมการนี้คงเป็นจริงตลอดในความรู้สึกของฉัน แต่ความหมายของมันไม่เคยซ้ำกันสักวัน เพราะแม้ว่าความจริงจะต้องประกอบด้วยสองสิ่งนี้ แต่สัดส่วนของสองสิ่งนี้ไม่เคยเท่ากันเลย และไม่เคยซ้ำกันเลยในแต่ละวัน อยู่ที่ตัวฉันเอง ใจฉันเองนั้นแหละ จะมาเป็นตัวกำหนด ว่าฉันอยากได้สิ่งไหนมากกว่ากัน ตาชั่งของชีวิตฉัน วันนี้อยากจะเอียงไปข้างไหน ก็อยู่ที่ฉันนั้นแหละที่จะหยิบอะไรใส่ลงไปในตาชั่งนั้น ทั้งๆที่ทุกคนก็รู้ และอยากให้มีแต่ความสุขในชีวิต แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่มีใครทำเช่นนั้นได้ เพราะธรรมชาติหรือจะพระเจ้าที่สร้างคนเราขึ้นมา เกิดอิจฉาและอยากเล่นสนุก อยากทดสอบเรา ในทุกๆวันมีเหตุการณ์มากมายที่ถูกสร้างขึ้นให้เกี่ยวเนื่องกับชีวิตเรา ดึงให้เราไปอยู่กับความทุกข์ ทั้งๆที่เราก็พยายามฝืนแล้ว แต่ก็ดูเหมือนกำลังวังชาของมันช่างมีมากมายมหาศาลเสียจริงๆ ยิ่งพอเราเผลอไปกับมันด้วยแล้วละก็ มันจะเหมือนกับดูดพลังแห่งการมีความสุขของเราไปอีก แล้วนี่เราจะต้านมันไหวหรือ ..ไหวซิ ..อยู่ที่เรียนรู้ ไง ไม่ใช่แค่โรงเรียนที่เราจะไปเรียนรู้ แต่ชีวิตเรานี้แหละ ลองมาเรียนรู้ชีวิตกัน ไม่ว่าจะทำอะไร เดินไปไหน ทุกสิ่งมันมีสิ่งที่แฝงอยู่ภายในทั้งสิ้น เก็บสิ่งเหล่านั้นมาเรียนรู้ บางที สิ่งที่เราเห็นว่าไร้สาระที่สุด อาจจะทำให้เราพบ หนทางที่จะใส่ของลงในตาชั่งด้านความสุขเพิ่มขึ้นก็ได้ แค่นี้แหละ ถ้าเราสามารถตอบตัวเองได้ว่า เราสู้มันได้ เราไหวอยู่ แค่นี้ ถ้าเราเชื่อว่า เราทำได้ ก็จงทำมันให้ดีที่สุด
20 กรกฎาคม 2549 08:43 น. - comment id 91745
หลุมฝังศพคือจุดจบของการศึกษา ใครน้าคิดประโยคนี้ขึ้นมา เรียนรู้กันไปคนละอย่างสองอย่าง ดีกว่าอยู่เฉยว่าไหมหลานรัก สอบหรือยัง ตั้งใจเรียนนะคะ
20 กรกฎาคม 2549 19:48 น. - comment id 91762
ตอบยาย ฮืออือ เป้นคำพูดเด็ดจริงๆ แต่ขอไม่เห็นด้วยนะคับ เพราะ หลุมฝังศพเป็นแค่ทางผ่านของการศึกษาคะ ^^;;; แบบว่าผ่านมาเยอะ เฮ้อๆๆ ส่วนเรื่องสอบก้อจันทร์นี้มีสอบอีกแย้ว เบื่อจิงๆๆ อ้อ อีกคำที่คิดได้คือ การเรียนคือจุดเริ่มต้นในการเดินเข้าสนามรบ