เรื่องสั้นสีเทา .... อาคม
Dr.FreaK
หากเทียบชีวิตของคนเป็นสีแต่ละสี
สีของชีวิตอาคมคงเป็นสีเทาอ่อนๆ
อาคมเป็นน้องชายของพ่อ
ยังไม่แต่งงานแม้จะอายุเยอะแล้ว
อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน
เหมือนกับอาราม และ อาลัย
ครอบครัวเราเป็นครอบครัวใหญ่
ญาติคนไหนที่ยังไม่เป็นฝั่งเป็นฝา
ก็ยังอยู่รวมกันเป็นปกติ
อาคมทำงานเป็นจิตรกร
ทุกวัน อาคมจะตื่นตั้งแต่ตี 5
เพื่อออกมารำไทเก๊กบนดาดฟ้า
6 โมงครึ่ง อาคมจะกินข้าวเช้าเสร็จ
8 โมง จะขลุกอยู่ในห้องทำงาน
และไม่ออกมาพบปะผู้คนอีกเลยจนถึงเวลาข้าวเย็น
ทุกวัน ชีวิตของอาคมไม่เคยเปลี่ยน
มีครั้งหนึ่งตอนเด็ก
สมัยที่อาคมเพิ่งเป็นจิตรกรได้ใหม่ๆ
ผมและพี่สาวแอบเข้าไปในห้องทำงานของเขา
ซึ่งเป็นที่รู้ดีกันว่าหากใครรุกล้ำ
เป็นอัน "โดนดี"
ในห้องทำงานของอาคมมีรูปวาดมากมาย
แต่ละชิ้นเป็นผลงานที่หาคำบรรยายไม่ได้
อาจเป็นเพราะตอนนั้นผมยังเด็ก
หรือเพราะมันห่วย ผมก็ไม่แน่ใจ
ที่แน่ใจก็คือ
อาคมติดกลอนประตูห้องทำงานเพิ่มอีก 5 ชั้น
หลังจากวันที่เราแอบเข้าไป
ทุกคนในบ้านสงสัยว่าอาคมวาดอะไร
พอรู้ว่าผมกับพี่สาวเคยเปิดประตูพิศวงนั้น
ก็พากันถามถึงงานของอาคม
วาดคน? วาดวิว? วาดสิ่งของ?
วาดภาพแอ๊บสแทรก? หรือ วาดรูปโมนาลิซ่า?
ออกจะเกินความสามารถของอายุผมในตอนนั้น
แต่ผมก็ยืนยันได้ว่า
มันไม่ใช่ทุกสิ่งที่แต่ละคนเดา
อาคมกำลังวาดอะไรบางอย่าง
ที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าความคาดหมายของทุกคน
สองสามปีมานี้
อาคมสุขภาพแย่ลง
แต่ดูจะอารมณ์ดีขึ้น
เริ่มพูดจาในโต๊ะอาหารมากขึ้น
เขาเปรยถึงผลงานของเขาว่า
ใกล้จะสมบูรณ์เต็มที
และทุกคนจะได้ชื่นชมผลงานของเขา
ในวันที่เขาพร้อมเปิดตัวงาน
ทุกคนในบ้านตื่นเต้นกันมาก
อย่างกับจัดงานปาร์ตี้
พ่อซื้อแชมเปญมาขวดหนึ่ง
ทั้งๆที่ไม่มีใครในบ้านดื่ม
แต่พ่อบอกว่าอยากลองเปิดขวดแชมเปญดูสักครั้งในชีวิต
พวกเรารอให้อาคมนำงานของเขาออกมาจากห้อง
แต่อาคมก็ไม่ลงมาเสียที
เราทุกคนเริ่มกระวนกระวาย
พ่อตะโกนเรียกอาคม
แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ
พ่อคิดว่าอาคมคงอยู่ในห้องทำงาน
อาสาขึ้นไปตามด้วยตัวเอง
หลายนาทีผ่านไป
พวกเราทุกคนก็ตามขึ้นไป
เพราะพ่อไม่ยอมกลับลงมาเสียที
ที่หน้าห้องทำงานของอาคม
กลอนทุกชั้นถูกถอดออก
พ่อยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
สายตาจ้องเข้าไปในห้อง
มันเหมือนกับในหนังที่เราเคยดู
ไม่มีใครพูดอะไร
ทุกคนเดินช้าๆไปที่หน้าห้อง
แล้วมองไปทางเดียวกับที่พ่อมอง
"ชีวิต... นี่คือชีวิตของคม"
พ่อพูดขึ้นมาเบาๆ
งานชิ้นสุดท้ายในชีวิตของอาคม
คือภาพชีวิตของเขาเอง
อาคมไม่ได้ตาย
ไม่มีใครในบ้านพูดหรือแม้แต่จะคิด
ว่าอาคมตายแล้ว
อาคมแค่หายตัวไปเฉยๆ
อาจจะไปนั่งวาดรูปที่อื่น
สักแห่งในประเทศ
สักที่ในโลก
สักมุมในจักรวาล
ไม่มีใครรู้ได้
รูปสีเทาบนผืนผ้าใบ
เรานำมันมาตั้งในห้องอาหาร
เป็นรูปสีเทาอ่อนๆทั้งผืน
เรียบ เนียน เหมือนสีคอนกรีต
ไม่มีใครในบ้านสักคนเข้าใจ
ว่าทำไมพ่อถึงบอกว่ามันคือชีวิตของอาคม
ยกเว้นผม
พ่อบอกกับผมว่า
สีเทาเป็นสีที่ผสมกันระหว่างขาวและดำ
สีเทาอ่อนๆหมายความว่าเจือขาวมากกว่า
และนั่นคือบทสุดท้ายของชีวิตอาคม
ส่วนผสมของ ขาว และ ดำ
หลายปีต่อมา
พ่อจากเราไป
ในงานศพ
ผมแอบหวังเล็กๆว่าอาคมจะกลับมา
แต่ก็ไม่มีวี่แวว
ผมไม่เคยบอกพ่อว่า
ผมเชื่อว่ารูปนั้นเป็นรูปชีวิตของอาคม
แต่ผมไม่เชื่อ
ว่ามันเกิดขึ้นจากสีขาวและสีดำ
ผมเชื่อว่าชีวิตสีเทาของอาคม
เกิดจากการรวมกันของสีทุกสี
แล้วค่อยย้อมสีขาวเข้าไปทีหลัง
เพื่อให้มันกลายเป็นสีเทาอ่อน
ผมเชื่อ
ว่าชีวิตของอาคมไม่ได้มีแค่สีขาวและสีดำ
แต่คงไม่มีใครไขปริศนานี้ได้
นอกจากอาคม