~~~เงาของพระจันทร์~~~ (ตอนจบ)

..สีน้ำฟ้า..

ซีโผเข้ากอดแม่ก่อน หางตาร้อนผ่าว แรงกอดสองแม่ลูกแน่นจนไม่มีช่องว่าง ปล่อยให้พ่อยืนมองตาปริบ ๆ แล้วจำต้องสะกิด ส่งสายตา กอดพ่อมั่ง เจ้าซี  เธอหัวเราะทั้งน้ำตา กราบที่ต้นแขนก่อนจะกอดพ่อให้แน่น สาสมกับความคิดถึง
	สามคนพ่อ-แม่ลูก พากันไปรับประทานโจ๊กที่หน้าสถานีรถไฟนั่นเอง ระหว่างรอก็คุยกันกระหนุงกระหนิง สลับเสียงหัวเราะกันเป็นบางครั้งคราว ส่วนใหญ่ซีกับแม่จะผลัดกันพูด ผลัดกันเล่า พ่อก็ยังเป็นพ่อที่น่ารัก ที่ฟังทั้งคุณลูกและคุณภรรยาที่รักอย่างไม่รู้จักเบื่อ สายอีกหน่อยครอบครัวสุขสันต์ก็พากันเดินตลาดเช้า ในตัวเมือง ช้อปปิ้งกันเพลิน จนข้าวของล้นหลังรถมาใส่ในเบาะหลัง ข้าง ๆ ตัวซี 
	สวนส้มตัวซี อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ราว ๆ 50 กิโลเมตร  ดังนั้นกว่าจะกลับถึงบ้านก็ปาเข้าไปบ่ายโมงกว่า พอจอดรถเด็กรับใช้ที่มาช่วยขนของบอกว่ามีแขกมารออยู่ที่บ้านสามคน คนหนึ่งคือส้ม ส่วนอีกสองคนไม่เคยเห็นมาก่อน ขบวนของพ่อ แม่ ลูก เดินเรียงกันมายังห้องรับแขก ซีเป็นคนรั้งท้าย และสุดท้ายความสงสัยก็สิ้นสุด เมื่อเห็นส้มนั่งหงออยู่ในห้องรับแขก โดยครามกับคุณมาลัยกำลังนั่งพลิกนิตยสารในมือหยุดชะงัก หันมามองผู้มาใหม่ โดยอัตโนมัติบรรดาผู้อาวุโสน้อยทั้งสามคนต่างยกมือไหว้ผู้ใหญ่พร้อม ๆ กัน 
	ส้มเป็นฝ่ายทำลายบรรยากาศอึมครึม โดยการผายมือไปทางคุณมาลัยและคราม
คุณป้ามาลัย กับพี่คราม เป็นเพื่อนของส้มกับซีค่ะ  และผายมือต่อไปยังพ่อกับแม่ของซี
คุณพ่อกับคุณแม่ของน้องซีค่ะ   ต่างก็ยกมือไหว้กันและกัน ตามอาวุโส ผู้มาใหม่ตามมานั่งสมทบในโซฟาสีครีมที่ตั้งอยู่กลางห้อง
พอดีพี่ครามลาพักร้อน ไม่รู้จะไปเที่ยวไหน  คุณป้าอยากมาเชียงใหม่  คุณครามโทรไปชวนส้ม ส้มก็เลยแนะนำให้มาที่นี่ และถือโอกาสมาเยี่ยมพ่อกับแม่ด้วยค่ะ   ส้มพยายามเป็นตัวเชื่อมสัมพันธไมตรี ซีได้แต่ยิ้ม ไม่พูดอะไร ครามก็อมยิ้มในหน้า 
ทานอะไรกันหรือยังคะ
ก็..เอ่อ ทานบนเครื่องบินมารอบหนึ่งแล้วค่ะ   คุณมาลัยยิ้มแย้ม และเริ่มทำตัวตามสบายขึ้น หลังจากที่เกร็ง ๆ อยู่เหมือนกัน จู่ ๆ ลูกชายตัวดีก็เดินดุ่ม ๆ เข้าบ้าน คว้าแขนเธอให้จัดกระเป๋าเสื้อผ้าบอกว่าไปเชียงใหม่ด่วน กว่าจะรู้เรื่องก็ตอนได้คุยกันระหว่างขับรถไปสนามบินแล้ว.. เฮ้อ..ลูกหนอลูก
งั้น  เดี๋ยวให้ซีเข้าครัว ทำอาหารเลี้ยงแขกนะ     ผู้เป็นแม่หันมาพยัก เพยิด มาทางลูกสาว ซียิ้มแต่ยังไม่ยอมสบตาใครอีกคน ทำเหมือนว่าเขาไม่อยู่ตรงนั้น 
งั้น ซีขอตัวไปดูในครัวนะคะ
จ้ะ   แม่พยักหน้า  ส้มลุกขึ้นขอตัวตาม, ครามก็ทำตามบ้าง เด็ก ๆ เดินตามกันออกมา ทิ้งให้ผู้ใหญ่สนทนากันอยู่ในห้องรับแขก
ส้มฉากตัวออกไป บอกว่าจะเข้าห้องน้ำ ก็เหลือแต่ซี คราม และความเงียบ ที่ตามกันไปห้องครัว
ซี   เขาเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ
คะ  ซีค้นตู้เย็น นำของออกมาวางบนโต๊ะ เตรียมทำอาหาร
พี่ขอโทษสำหรับหลาย ๆ สิ่งที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าพี่ไม่ชัดเจนเอง ทั้งที่พี่....   เธอเลิกคิ้วมองหน้าเขา
พี่จะขอโทษซีทำไมเนี่ย   เจ้าตัวดียิ้ม ตาใส
เราเป็นพี่ เป็นน้องกัน พี่ไม่ได้มีอะไรผิดต่อซี เราสนิทกันเกินไปน่ะค่ะถึงแม้ว่าจะพบกันไม่บ่อยนัก พี่อย่าคิดมากสิ
แต่
แต่อะไร ไม่เห็นจะมีอะไรให้แปลก เราสองคนได้ไมตรีมาจากโลกไซเบอร์  ผู้หญิงกับผู้ชายคบกันไม่จำเป็นต้องจบลงด้วยคำว่ารักเสมอไป  จริงอยู่..เรามีความรู้สึกที่ดี ที่พิเศษต่อกัน   เธอสบตาเขาแน่วแน่
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราต้องรักกัน แต่งงานกันนี่นา  เขาพยักหน้าหงึก ๆ ดวงตาสดใส ไม่มีเค้าคนอมทุกข์อีกต่อไป ไอ้ตัวปากแข็ง หน็อย !  
เข้าใจล่ะ นี่พี่ก็ชวนคุณมิ้นท์เขามาด้วยนะ   ดวงตากลมโตแฉลบลงพื้นนิดหนึ่ง ก่อนตวัดกลับมาสบตาเขาเหมือนเดิม เสียงแข็งนิด ๆ  เขาไม่ได้เข้าข้างตัวเองหรอก.. จริง จริ๊ง
อือ ค่ะ
นี่จะแกงอะไร
จะทำพะแนงไก่  ไข่เจียว และน้ำพริกกะปิ ปลาทู พอไหวไหมคะ   
ได้ ๆ พี่ช่วยนะ
เป็นจริงอ่ะ
ดูถูก   เขาพับแขนเสื้อเชิ้ต ทำท่าทะมัดทะแมง ซีหลบตา แล้วก็เผลอค้อนเขาไปจนได้  ส้มแอบดูสถานการณ์อยู่ข้างนอก พอเห็นไม่มีอะไรก็เดินเตร่ออกไปข้างนอก ไม่มายุ่ง ปล่อยให้หนุ่มสาวจัดการกันเอง
--------------***************************--------------
	พระจันทร์ข้างขึ้น เกือบเต็มดวงลอยเด่นอยู่กลางท้องฟ้า เสียงหรีดหริ่งร้องระงม ครามสูดหายใจลึก ๆ เข้าปอด ท่าทางผู้ใหญ่เข้ากันได้ดี เพราะคุณแม่ของซี วัยใกล้เคียงกันกับแม่ของเขา เห็นว่าจะชวนกันไปไหว้พระวันพรุ่งนี้  
	สายลมเย็นยามราตรีพัดโชยแผ่วเบา เขาถอนหายใจอายุก็ปาเข้าไปไม่น้อยแล้ว ทำไมเขาโง่กับความรัก อาจเป็นเพราะเขาเป็นผู้ชายจึงทำให้ไม่ละเอียดอ่อนกับเรื่องบางเรื่อง ดีว่าแม่ ที่เป็นแม่ผู้ประเสริฐกับเขาเป็นผู้ชี้ทางสว่าง ทำให้เขามองพระจันทร์ได้เต็มตา ไม่ใช่หลงมองแต่เงาของพระจันทร์ที่อยู่ในน้ำ เงาสะท้อนของแสงพระจันทร์นั้นสวย แต่บอบบางเพียงแค่สายลมพัดน้ำไหวระริกให้เกิดลูกคลื่นเงาพระจันทร์ก็จะจางหายไป แต่ถ้าหากมองสูงขึ้นไปอีก พระจันทร์ตัวจริงที่ลอยเด่นอยู่บนฟ้านั่นต่างหาก ที่สวยจริง และสวยนานกว่า 
	ส้ม.. สาวประเภทสองที่แทบจะมองไม่ออกว่าเธอเคยเป็นผู้ชาย เพื่อนที่แท้จริงของซีนั่นก็อีกคน ที่ช่วยไขความกระจ่างบางอย่างให้เขา
	ก็เหลือแต่ซี แม่สาวที่ปากแข็งอย่างวายร้าย ที่หารู้ไม่ว่าตอนนี้ความลับของเธอไม่ได้ลับต่อไปอีกแล้ว เขานึกขอบคุณหลาย ๆ สิ่งที่ประกอบกันขึ้นมา
	อะ ..แฮ้ม   เขาหันมาทางต้นเสียง เลิกคิ้ว
	ส้มว่า พระเอกน่ะเลิกมาเก๊กอยู่คนเดียวในมุมมืดดีกว่า โน่นแน่ะ นางเอกของเรานอนเล่นอยู่ที่ระเบียงชั้นสอง มุมโปรดของเค้าล่ะ ไม่ไปชวนสนทนาหน่อยหรือคะ  เขาผิวปากหวือ
	แล้วผู้ใหญ่นอนแล้วหรือ
	ค่ะ ท่าน ๆ เข้านอนกันหมดแล้ว ทางสะดวกแน่นอน   ส้มเอียงคอ ชูมือสองนิ้ว สัญลักษณ์ของการให้กำลังใจ
	ขอบคุณนะครับส้ม  สำหรับทุก ๆ อย่างที่ผ่านมา ผมอาจจะไม่ใช่คนดีนัก แต่สัญญาผมจะไม่ทำให้แม่ ส้ม หรือทุก ๆ คนผิดหวังแน่นอน
	หลายคนที่โง่กับความรัก  จนบางครั้งกามเทพแทบจะฆ่าตัวตาย   ส้มค่อน เจือเสียงกลั้นหัวเราะ เขายิ้มตาม
	ผมนี่ไม่ได้เรื่องจริง ๆ นั่นแหละ กว่าจะรู้
	ไปเถอะค่ะ.. เดี๋ยวนางเอกหนีเข้านอนก่อนแล้วจะอด  ส้มเดินนำกลับเขามาในบ้าน แต่เดินเลยไปทางห้องนอน เปิดทางให้หนุ่มสาวได้อยู่กันตามลำพังอีกครั้ง
--------------***************************--------------
	พี่นั่งด้วยได้ไหมซี   เธอผงกศรีษะจากเก้าอี้นอน หันมามอง  ระเบียงชั้นสองซึ่งเป็นมุมส่วนตัวที่ซีชอบที่สุด กับการได้อาบแสงจันทร์ บัดนี้มีคนมารุกรานเสียแล้วสิ 
	เชิญค่ะ  พยักหน้าแล้วก็ปล่อยศรีษะเอนพิง เก้าอี้นอน สบาย ๆ
	พรุ่งนี้เราไปวัดไหนนะ
	แม่จะพาไปหลายวัดค่ะ  เห็นว่าจะให้ครบเก้าวัดประมาณนั้นแหละ แล้วคุณมิ้นท์ตามมาเมื่อไหร่คะ  เขาสาวเท้านั่งเก้าอี้ข้าง ๆ เป็นเก้าอี้ผ้าใบ คล้าย ๆ เก้าอี้ชายหาด แต่เนื้อผ้าทำจากผ้าฝ้ายดิบ มองเห็นสีขาวสลัว ๆ  กลิ่นเทียนหอมไล่ยุง หอมกลิ่นตะไคร้นำมา ชวนให้ชื่นใจ
	เอ่อ..พี่ล้อเล่นน่ะ มิ้นท์เขาจะไปเที่ยวฮ่องกงกับลูกชายรัฐมนตรี เลยไม่ได้มาด้วย
	อ้าว..พี่ครามเก๊าะอกหักล่ะซี   เธอผงกศรีษะขึ้นมา มองคนข้าง ๆ
	ไม่หรอก แต่ก็เกือบไป
	มิ้นท์เขาคบอยู่กับลูกชายรัฐมนตรีนานแล้ว  พอมาเจอพี่ เขาก็มีไมตรีด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสนใจพี่เกินกว่า เพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่ง
	จริงอ่ะ
	ฮื่อ   เสียงจิ้งหรีดกรีดเสียงดังระงม  หนุ่ม-สาวทอดสายตามองออกไกลออกไปถึงพระจันทร์ และท้องฟ้ายามราตรีกาล 
	ซี    เขาผุดนั่งและกุมมือสาวน้อยตรงหน้า เธอขึงตาแล้วชักมือกลับ แต่เขาไม่ยอมปล่อย
	พี่ไม่ใช่คนดีเท่าไหร่นัก แต่ระหว่างเราพี่จะรักษาความสัมพันธ์ดี ๆ นี้ไว้ ซีเห็นด้วยไหม
	ไม่ทราบสิคะ   เธอยังพยายามชักมือออก ไม่สบตากับใครทั้งนั้นแหละ แต่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อย
	ให้โอกาสพี่นะซี   ที่ผ่านมา ผลมันพิสูจน์ออกมาแล้ว พี่ขาดซี พี่แทบขาดใจเลย    
	แหวะ    เขาปล่อยมือ ซัดมะเหงกลงไปดังป๊อก ซีคลำศีรษะป้อย ๆ  
	เด็กบ้า   เขางึมงำ ๆ  ทิ้งตัวหงายลงเก้าอี้แรง ๆ ด้วยความที่ตัวสูง ศรีษะเลยโขกกับขอบบนของเก้าอี้ผ้าใบ ที่ฐานทำจากไม้ดังโป๊ก !
	คิก ๆ    ซีหัวเราะ 
	นั่นแหละ กรรมสมัยนี้มันติดจรวดนะ พี่คราม
	เขางึมงำ พึมพำ อะไรไม่รู้ในความสลัวของราตรีที่มีแสงจันทร์ฉาย  ซียิ้มเอนตัวลงนอนดังเดิม หนุ่ม-สาว ปล่อยความคิดไปจนสุดหัวใจ โดยมีเสียงของธรรมชาติดังกังวาน
------
อาจจะเป็นเพราะรักเราร้อนรนเกินไป
อาจเป็นเพราะหัวใจรุ่มร้อนจะไขว่คว้า
หาสิ่งที่ฝันหาวันที่เป็นดังใจ
ยิ่งตามหายิ่งห่างไกลยิ่งทรมาน
ค่ำคืนที่มีน้ำตา
ใจที่พังทลายลงมา
แต่ยังมีแสงจันทร์สว่างให้เรามองเห็น
ค่ำคืนยังคงงดงาม
เป็นไปตามที่มันเคยเป็น
และยังมองเห็นความสุขอยู่กับเราไม่ไกล
เกือบจะลืมว่าฟ้างามนั้นงามเพียงใด
เกือบจะลืมว่าหัวใจมีใครให้ผูกพัน
ทุกอย่างรายล้อมมากมายใต้เงาพระจันทร์
และความรักอยู่ตรงนั้นไม่เคยห่างไกล
เหมือนได้พบและหยุดพัก
ทบทวนเรื่องเดิมให้เรามีวันนี้ที่สุขใจ 
 
	** เพลงค่ำคืนที่งดงาม (ละครพระจันทร์ลายกระต่าย)				
comments powered by Disqus
  • แก้วกาหลง

    10 มิถุนายน 2549 18:24 น. - comment id 91112

    จบได้ดีนะคะ แล้วจะคอยติดตามผลงานค่ะ
  • กิ่งไผ่

    8 มิถุนายน 2549 20:36 น. - comment id 91143

    สวัสดีค่ะ คุณสีน้ำฟ้า 
    หายไปนานเลย นึกว่าจะไม่ได้อ่านตอนจบเสียแล้ว เข้ามาทุกวันเลย นึกว่าลืมไปซะแล้ว
    หวังว่าคงสบายดีนะคะ ตอนจบนี่จบได้บรรยากาศสวยงามดีจัง แล้วนี่แพลนไว้หรือยังว่าจะเขียนเรื่องอะไรต่อ ยังไงก็ตั้งใจทำงานนะคะ ถ้าว่างก็เข้ามาโพสให้ได้อ่านกันอีก

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน