นานมาแล้ว..สมัยที่โลกยังมีพระจันทร์ 2 ดวง มีดวงจันทร์ดวงหนึ่งเป็นผู้หญิง..กับอีกดวงหนึ่งเป็นผู้ชาย และดวงจันทร์ทั้งสองดวงนี้ ต่างก็รักกันมาก ดวงจันทร์ทั้งสองไม่เคยแยกห่างจากกัน...ทุกๆคืนเมื่อมองไปบนฟ้า จะเห็นดวงจันทร์ทั้งคู่ อยู่เคียงข้างกันเสมอ.. แต่แล้ววันหนึ่ง...ดวงจันทร์ผู้หญิงได้ไปพบกับดวงอาทิตย์ ทำให้ดวงจันทร์ผู้หญิงหลงใหลในแสงเจิดจ้าของดวงอาทิตย์ จนเลื่อนตัวตามดวงอาทิตย์ไปทีละน้อย ทีละน้อย....และก็แยกมาจากดวงจันทร์อีกดวงหนึ่งในที่สุด...เมื่อค่ำคืนมาถึง.. จึงมีดวงจันทร์ผู้ชายเหลืออยู่เพียงดวงเดียว ... ส่วนดวงจันทร์ผู้ชายก็ได้แต่ตามหาดวงจันทร์ผู้หญิงไปทุกหนทุกแห่ง .... คืนแล้วคืนเล่า วันเวลาล่วงผ่านไป แต่ดวงจันทร์ผู้ชายก็ไม่สามารถหาดวงจันทร์ผู้หญิงได้พบ..ด้วยความคิดถึง และอยากพบดวงจันทร์ผู้หญิงให้เร็วที่สุด ทำให้ดวงจันทร์ผู้ชายคิดว่า "หากเรามัวแต่ตามหาอยู่อย่างนี้ คงไม่ได้เจอแน่ๆ" จึงตัดสินใจ.. ระเบิดตัวเอง เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปทั่วทั้งจักรวาล เพื่อให้ชิ้นส่วนแต่ละชิ้น ออกตามหาดวงจันทร์อีกดวงหนึ่งนั้น... เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ดวงจันทร์ผู้หญิง ได้เห็นถึงความจริงว่า..แม้ดวงอาทิตย์จะส่องแสงเจิดจ้า สวยงามสักปานใด แต่ดวงอาทิตย์ก็มิได้ส่องแสงเจิดจ้า แต่เพียงเธอเท่านั้น ยังส่องแสงไปยังดาวดวงอื่นๆ อีกมากมาย ดวงจันทร์ผู้หญิงจึงกลับมาหาดวงจันทร์ผู้ชายอีกครั้ง...แต่หาเท่าไรก็หาดวงจันทร์ผู้ชายไม่พบ ต่อมาจึงได้รู้ว่า ดวงจันทร์ผู้ชายยอมระเบิดตัวเอง เพียงเพื่อตามหาตน จนกระจัดกระจายเป็นเศษเสี้ยวเล็กๆ ทำให้ดวงจันทร์ผู้หญิงรู้ว่าไม่มีวันที่จะได้เจอกับดวงจันทร์ผู้ชายอีกต่อไปแล้ว จึงได้แต่โศกเศร้าและเสียใจ .... แต่ด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ที่ดวงจันทร์ผู้ชายมีต่อดวงจันทร์ผู้หญิง ทุกค่ำคืนจึงพยายามเปล่งประกายแสงที่ยังเหลืออยู่เพียงน้อยนิดของตน ส่งให้ถึงดวงจันทร์ผู้หญิงเกิดเป็นแสงพร่างพรายเต็มท้องฟ้า เคียงข้างดวงจันทร์จนเกิดเป็นดวงจันทร์และดวงดาว ให้เราเห็นจนถึงทุกวันนี้ .... หากเรามองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนวันไหนที่เห็นจันทร์สวยสดใส วันนั้น คุณก็จะไม่เห็นดาวดวงเล็กดวงน้อยส่องแสง หรือวันใดคุณเห็นดาวเปล่งประกายเต็มฟ้ามืด วันนั้น คุณก็จะไม่พบดวงจันทร์....เขาและเธอ ไม่อาจพบกันตลอดกาล.....
22 มีนาคม 2546 06:25 น. - comment id 67760
พึ่งจะรู้ก็วันนี้อ๊ะ อิอื
22 มีนาคม 2546 11:02 น. - comment id 67761
อืมมม เข้าที
24 มีนาคม 2546 13:43 น. - comment id 67806
เป็นบทความที่อ่านเมื่อไหร่ก็รู้สึกดีเสมอ ดาวสีหม่นแต่งกลอนเก่งนะ
25 มีนาคม 2546 17:13 น. - comment id 67824
หุหุ อยากจาบอกว่า วันไหนมีแสงจันทร์ วันนั้นไม่มีแสงดาว ลองสังเกตจิ อิอิ
26 มีนาคม 2546 09:28 น. - comment id 67850
ถึงแม้อาจจะมองไม่เห็น แต่แสงจันทร์กับแสงดาวต้องอยู่เคียงคู่กันเสมอแหละน่าเจ้าเด็กบ๊อง... ขอบคุณค่ะนายดอกไม้, เพื่อนของพระจันทร์, สนิม
27 มีนาคม 2546 22:05 น. - comment id 67886
แหม ทีคนอื่นล่ะก็ ทีเรา มาว่าเป็นเด็กบ๊องอีก อารัยเนี่ย ยุติธรรมมากเลยนะ
28 มีนาคม 2546 19:28 น. - comment id 67900
อ๊ะใช่สิ ทั้งน่ารักออกอย่างนี้ และแสนดีมีความยุติธรรมอีกต่างหาก หาได้ที่ไหน อิอิ
23 เมษายน 2546 13:35 น. - comment id 68445
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน เรื่องราวที่ดาวสีหม่นเขียน สงสารดวงจันทร์ผู้ชายป่านนี้คงปลิวว่อนอยู่ทั่วจักวาลตาทุกดวงของเศษเสี้ยวธุลีนั้นคงจับจ้องอยู่ที่ดวงจันทร์อันเป็นที่รักยิ่งกว่าชีวิตอย่างเศร้าสร้อยหมองหม่นด้วยรู้ชะตากรรมของตัวเองแล้วว่าไม่มีหนทางใดที่ดวงจันทร์ผู้หญิงจะเหลือบแลเห็น
23 เมษายน 2546 17:56 น. - comment id 68455
ก็ไม่แน่นอนเสมอไปหรอกนะ บางทีดวงจันทร์ผู้หญิงอาจจะแอบมองอยู่ก็ได้ แต่ดวงจันทร์ผู้ชายอาจจะไม่มีโอกาสมองเห็นเท่านั้นล่ะ...เขาและเธอจึงไม่อาจจะพบและอยู่เคียงคู่กันได้ตลอดไป
13 ตุลาคม 2546 16:07 น. - comment id 69814
ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเป็นแบบนี้ สุดยอดเลย
13 ตุลาคม 2546 16:07 น. - comment id 69815
ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเป็นแบบนี้ สุดยอดเลย