แล้วเราก็เข้าใจกัน (ตอนที่13)

เรียงร้อยเป็นเรื่องราว

"โถ!คนดีของน้า" ขณะที่หวานสะอึกสะอื้นร่ำไห้อย่างปวดร้าว ขณะนั้นอุษาก็เจ็บปวดเช่นเดียวกันที่ต้องเห็นสภาพเช่นนี้ของหลานสาว มันทำให้เธอรู้สึกสงสารอย่างจับใจ
  "หวานจ๊ะ" อุษาเชยคางที่เรียวได้รูปของหวานขึ้น ปลายนิ้วค่อย ๆ บรรจงเกลี่ยน้ำตาให้ 
  "น้าว่าหนูทนทุกข์ทรมานจากการทำเพื่อตัวเองมามากแล้วนะ
    ทำไมถึงไม่ทำให้ตัวเองมีความสุขสักทีล่ะ"
  "ทำยังไงล่ะคะ" หวานถามด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น
  "อภัยให้พ่อเขาไงล่ะ"
  "อภัยให้งั้นหรอ!" หวานส่งเสียงอยู่ในใจ เธอจะให้อภัยได้อย่างไร ในเมื่อเขาไม่เคยมาเหลียวแลแม่ของเธอสักครั้ง
  "น้าษาคะหวานอภัยให้เขาไม่ได้หรอกคะ!" หวานพูดโดยไม่สบตาน้าสาวสักนิด
  "แล้วหนูจะปล่อยให้ตัวเองทนทุกข์อยู่อย่างนี้เรื่อยไปหรือหวาน"
  "น้าษาคะหวานอยากอยู่คนเดียวคะ"
  "ตามใจนะ ถ้าการอยู่คนเดียวมันจะทำให้หนู
    คิดอะไรดี ๆ  ให้ตัวเองขึ้นมาได้"
    หวานปิดเปลือกตาทั้งสองข้างลง เมื่อน้าสาวพาร่างออกจากห้องนี้ไป ไฟแค้นที่มันสั่งสุมมานาน ความทรงจำที่ยังเก็บภาพในอดีตอันขมขื่นของแม่ไว้  มันทำให้ยากเกินอภัยเชียวหรือ
  "หลานเป็นอย่างไรบ้าง" อุษาไม่ตอบผู้เป็นแม่ เธอส่ายหน้าไปมาพร้อมทรุดนั่งลงบนโซฟาอย่างอ่อนแรง
  "โธ่!หวานของยายทำไมหนูถึงไม่รู้จักปล่อยวางบ้างล่ะลูกเอ๊ย"
        ทันทีที่ทราบเรื่องภาวิณีรีบมาหาทัศนัยที่ทำงานทันที โดยได้พาพนัศที่กำลังลาพักร้อนอยู่มาด้วย ซึ่งตอนนี้เธอและพนัศกำลังคุยกับทัศนัยอยู่ในห้องทำงานของเขา
  "ภาไม่อยากเชื่อเลยว่าที่คุณปรางค์ฆ่าตัวตาย มันเกี่ยวข้องกับคุณด้วย!" ภาวิณีพูดออกมาด้วยความตกใจ แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า สิ่งที่
เธอคิดวิตกมันคือความจริง
  "ผมนี่มันเลวกับปรางค์เขาจริง ๆ เลยนะ สมควรแล้วล่ะที่โดน
    ยัยหวานกล่าวว่า ๆ เป็นฆาตกรน่ะ!"
  "อย่าโทษตัวเองเลยว่ะ" พนัศเอ่ยขึ้นมา
  "ถ้าหลายปีก่อนกันไม่ถือทิฐิ แล้วกลับไปหาปรางค์เขา
      เรื่องมันคงไม่ลงเอยแบบนี้เป็นแน่" ทัศนัยยังคงกล่าวโทษตัวเองอย่างเสียใจ
  "จริงอยู่ที่แกทำร้ายจิตใจคุณปรางค์ แต่เธอก็ไม่ได้ตายเพราะแก"
  "จริงอย่างที่นัศพูดนะทัศ" ภาวิณีพูดออกมาอย่างเห็นด้วยกับพนัศ
  "คุณปรางค์เธอไม่ได้ตายเพราะคุณ เธอตายเพราะทุกข์ที่ไม่รู้จักปล่อยวางต่างหาก"
  "ฉันว่าแทนที่แกจะห่วงเรื่องของตัวเอง ฉันว่าแกควรห่วงยายหวานมากกว่านะ
    เพราะคนที่น่าเป็นห่วงตอนนี้ไม่ใช่แก แต่เป็นลูกสาวแกต่างหาก" คำพูดของพนัศได้สร้างความงุนงงให้กับทัศนัยขึ้นมา
  "ทำไมแกถึงพูดอย่างนี้ว่ะไอ้นัศ" เขาเอ่ยถามด้วยความสงสัยและอยากรู้
  "เพราะตอนนี้ลูกสาวแกกำลังแบกความทุกข์เหมือนกับที่คุณปรางค์เคยแบกเอาไว้ยังไงล่ะ"
    แม้เรื่องเมื่อคืนมันผ่านพ้นไปแล้ว แต่มันยังคงวนเวียนอยู่ในสมองของทัศนัย ยิ่งต้องมารับรู้กับสภาพจิตใจของลูกสาวตอนนี้ ยิ่งทียิ่งปวดร้าวหัวใจ  เป็นเพราะความคิดเห็นแก่ตัวของเขาทีเดียว  ที่ทำร้ายจิตใจของคนถึงสองคนด้วยกัน  ยิ่งกว่านั้นคือคนที่เขารักด้วยกันทั้งคู่  ต่อให้พนัศกับภาวิณีพูดว่าการที่นวลปรางค์ฆ่าตัวตายไม่ได้เป็นเพราะเขา แต่ถ้าเขาไม่มีความคิดที่เลวร้ายกับเธอ เธอก็คงไม่ด่วนจากเขาไป  และลูกสาวคงไม่ต้องมามีสภาพผูกใจเจ็บเช่นทุกวันนี้ เขานึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ยิ่งคิดเหมือนยิ่งถูกเข็มทิ่มแทงลึกลงไปถึงขั้วหัวใจ 
"ปรางค์!!คุณช่วยบอกผมที ผมควรจะช่วยลูกของเราให้หลุดพ้นจากสภาพเช่นนี้อย่างไรดี"				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน