คือเรื่องมันเป็นฉะนี้หนอ "ฤารักฉันจักเป็นเพียงความฝัน ไม่มีวันนั้นวันที่ใจเต็มดวง" เพลงจันทร์ของวง The world นั้นลอยมาจากข้างบ้าน ถึงแม้ว่ามันจะไพเราะสักแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ฉันเบิกบานใจกับท่วงทำนองของเพลงมันเลย ฉันชื่อแตงกวา เป็นลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่บ้าน ฉันนั้นอายุ 29 เกือบจะ 30 แล้ว แต่ยังหาแฟนไม่ได้เสียที (ก็เพราะอย่างนี้ถึงเกลียดเพลงรักๆ ไงล่ะ) ฉันเคยได้ฝันว่าสักวันหนึ่งฉันจะได้แต่งงานกับหนุ่มเมืองกรุง หน้าตาหล่อๆ รวยๆ ประมาณว่าเป็นทายาทของประธานบริษัทอะไรซักอย่างนึงนี่แหละ แต่เทพเจ้าท่าจะเล่นตลกกับชีวิตฉัน ฮึแน่นอนทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันคิดมันกลับเป็นตรงกันข้ามหมด มีชายหนุ่มคนหนึ่งมาจากต่างจังหวัด ชื่อปิง มันได้เข้ามาทำงานราชการในเมืองนี้ ตอนแรกๆ ฉันไม่เห็นจะสนใจตรงไหน ท่าทางเป็นคนจน ดำก็ดำ แถมขี้เหร่อีกตะหาก นึกแล้วอี๋!!! แต่ก็มีอยู่วันหนึ่ง ฉันไปช่วยป้าทำทุเรียนกวนอยู่แถวๆ ริมคลอง ขณะที่ฉันกำลังเหนื่อยจากงานแล้วเดินเพื่อจะไปดื่มน้ำปัสสาวะ (ผู้อ่าน --->หา! น้ำเยี่ยวรึ???ผู้เล่า ---> กินน้ำ แล้วไปเยี่ยวโว้ย!) ฉันก็เดินชนกับไอ้ปิงคนนั้น แล้วตาต่อตาก็มาประสาน ฉันจึงรู้สึกแปลกๆ กับไอ้หมอนี่ ส่วนไอ้ปิงก็ทำท่าชอบฉันแล้วด้วย มันหยอดคำหวานใส่ฉัน จนฉันหลงคารมมัน จนชักจะชอบมันบ้างแล้วสิ แล้วก็มีอยู่วันหนึ่งที่ฉันอยู่บ้านคนเดียวในตอนค่ำๆ เนื่องจากพ่อกับแม่ไปงานที่กาญจนบุรี ขณะที่ฉันกำลังเต้นแอโรบิดตามทีวีอยู่ ไอ้ปิงก็เข้ากระโดดมากอดฉัน "โอ๊! แตงกวาจ๋า ฉันรู้สึกว่าฉันรักเธอแล้วหละ" มันว่า "อุ๊ยตาย! อย่ามาทำอย่างนี้นะ เดี๋ยวใครเขามาเห็นเข้า!" ฉันว่า "ไม่มีใครเห็นหรอกแตงกวาจ๋า" มันว่าอีก แล้วคืนนั้นฉันก็ตกเป็นของมัน ฉันว่าตัวเองรักผู้ชายคนนี้จนสุดหัวใจ แม้ว่าจะทำความรู้จักกันแค่ไม่กี่วัน อาจจะเป็นเพราะคารมคมคายของมันที่ว่าผู้หญิงคนไหนฟังแล้ว อาจเกิดความรู้สึกอบอุ่น จนเกิดเป็นความรักก็ได้ฉันกับไอ้ปิงคบกันอย่างเปิดเผย แต่ก็มีแต่คนว่าและตักเตือนฉันว่าไอ้ปิงนั้นมันเป็นคนไม่ดี มันเอาผู้หญิงมาเยอะแยะ และมันทำผู้หญิงท้อง ถึงได้หนีมาที่หมู่บ้านของเราเมื่อฉันได้ฟังก็รู้สึกใจหาย แต่ฉันรักผู้ชายคนนี้สุดหัวใจจริงๆ ฉันคงไม่อาจทิ้งเขาได้และฉันก็ทนฟังใครเขาว่าอีกไม่ไหวเช่นกัน เราจึงหนีไปอยู่ที่อื่น เราได้มาอยู่กันที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง เราเช่าบ้านแห่งหนึ่ง อยู่กินกันอย่างลับๆ แล้วเราก็ได้ทำพิธีแต่งงานอย่างเงียบๆ เช่นกันเรามีความสุขกันมาก แต่แล้วไอ้ปิงมันก็นึกขึ้นได้ว่ามันจะต้องกลับไปทำงานราชการที่หมู่บ้านของฉัน ถ้าไม่ไปภายใน 15 วันก็จะต้องโดนข้อหาว่า "หนีราชการ" ดังนั้นเราจึงกลับไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจ ตัวฉันเองก็รู้สึกเป็นกังวล กลัวว่าพ่อกับแม่จะว่า คนในหมู่บ้านจะเกลียด แต่ฉันก็คิดว่าไปกับผัวเถอะ ไปตายเอาดาบหน้า! พอมาถึง คนในหมู่บ้านมองเราเป็นตาเดียวด้วยสายตาที่เกลียดชัง คุณป้าเมื่อเจอฉันก็เอาแต่ด่า "มึงกลับมาทำไมอีตัวสกปรกของหมู่บ้าน ทั้งกูและก็คนในหมู่บ้านเขาเกลียดมึงกันแทบทุกคน ไม่เว้นแต่พ่อกับแม่มึง ทำไมมึงไม่คิดถึงความรู้สึกเขาเลยเหรอ? ไม่ได้นึกเลยหรือไงว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่เขาจะเจ็บปวดแค่ไหน อีนังผู้หญิงใฝ่ต่ำ! คบหาผู้ชายเลวๆ ไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ กูบอกมึงหลายทีแล้วนะ! แล้วมึงรู้มั๊ยว่าแม่มึงคิดมากจนเป็นมะเร็งเนื้องอกในสมอง อี" ป้าแกด่าต่อไป พอฉันได้รู้ถึงเรื่องแม่เท่านั้นฉันก็รู้สึกแย่มากๆ ที่ทำร้ายจิตใจท่าน ฉันร้องไห้ แล้วรีบไปที่โรงพยาบาลที่แม่อยู่ ฉันเข้าไปเยื่ยมดูอาการแม่ แต่แม่ก็กลับว่าฉัน "อีลูกสารเลว มึงไปให้พ้นหน้ากู กูไม่ต้องการลูกอย่างมึง!" แม่ว่าทั้งน้ำตา แล้วพ่อก็ออกมาจากห้องน้ำ พอเห็นฉันก็ด่าฉันอีกเช่นกัน "มึงไปให้พ้นหน้ากูเดี๋ยวนี้ ทีอีอย่างนี้มาทำเป็นห่วง เห็นผู้ชายดีกว่าพ่อแม่ไป๊!" พอฉันได้ยินเข้าเท่านั้นก็รีบวิ่งไปทันที ฉันกลับมาที่หมู่บ้าน นั่งอยู่ริมคลอง ร้องไห้หนักที่ทำร้ายจิตใจท่าน แต่แล้วเมื่อฉันมองออกไปที่อีกฝั่งของคลอง ฉันก็เห็นไอ้ปิง ไอ้ปิงกำลังกอดเอวผู้หญิงคนนึงอยู่ แล้วก็กอดจูบกัน ฉันร้องไห้หนักขึ้น ชีวิตเราคงไม่มีค่าแล้วจริงๆ ใช่สิ ใช่ฉันมันอีตัวสกปรก ฉันอยู่ไปก็รกโลก ฉันมันไม่ดีที่ทำให้พ่อแม่เสียใจ และฉันมันโง่ที่ทุ่มเทหัวใจให้กับไอ้ผู้ชายชั่วๆ ฉันทำตัวเองทั้งนั้นไม่มีใครต้องการฉันหรอกฉันยืนขึ้นและมองลงไปในน้ำก่อนจะกระโดดลงไป แม้จะว่ายน้ำไม่เป็น แต่ก็ช่าง เพราะนี่ฉันก็กำลังฆ่าตัวตายลาก่อน คุณพ่อคุณแม่ หนูไปให้พ้นตามที่พ่อกับแม่บอก --->หลังจากนั้นก็มี่คนพบร่างที่ไร้วิญญาณของแตงกวาแตงกวาพูดถูก เธอทำตัวเองถึงได้เป็นอย่างนี้ ถึงต้องมานั่งเสียใจภายหลังเราก็เหมือนกันเรื่องนี้เราเอามาดัดแปลงของชีวิตจริงของคนๆ หนึ่ง ที่เราไม่ควรทำตาม และจงจำไว้ว่า "เราควรที่จะคิดถึงความรู้สึกของผู้อื่นอยู่เสมอ"
17 มีนาคม 2546 22:07 น. - comment id 67713
พิมพ์ผิดตั้งเยอะ...
18 มีนาคม 2546 17:32 น. - comment id 67725
เศร้าจัง.....ที่จริง ไม่น่าคิดสั้นเลยนะคะ
19 มีนาคม 2546 09:23 น. - comment id 67729
น่าสงสาร..น่ากลัวด้วย ผู้ชายทำไมเป็นแบบนี้เนอะ
22 มีนาคม 2546 23:00 น. - comment id 67775
รักตัวเองเถอะนะแตงกวาจ๋า...
7 เมษายน 2546 16:09 น. - comment id 68050
อืม น่าสงสารจัง
1 ตุลาคม 2548 12:30 น. - comment id 87002
ไม่น่ามาจบชีวิตเพราะผู้ชายเฮงซวยเลย เศร้า...เเต่ก้อเป็นข้อคิดเตือนใจดีค่ะ ว่าลมปากของผู้ชายมันเชื่อไม่ค่อยจะได้_