แล้วเราก็เข้าใจกัน(ตอนที่3)
เรียงร้อยเป็นเรื่องราว
"อรุณสวัสดิ์จ๊ะ"
ทัศนัยส่งเสียงทักทายลูกสาว ขณะกำลังตักข้าวต้มกุ้งที่เพิ่งเสร็จใหม่ ๆ ถ่ายใส่ชามใบใหญ่ หวานไม่ได้ทักตอบ พาตัวเองเข้ามานั่งในห้องครัวด้วย อาการที่เศร้าซึม ดวงตาทั้งสองข้างที่บวมเปล่ง แสดงให้เห็นว่าผ่านการร้องไห้มาทั้งคืน
"นี่หนูร้องไห้ทั้งคืนเลยหรอลูก!"
ทัศนัยส่งเสียงออกมาด้วยความตกใจ แววตาที่มองมายังลูก เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเหลือคณา แต่ไฉนเลย แววตาดวงน้อยที่สะท้อนกลับ ดูช่างไม่แยแสนัก
"กินข้าวต้มร้อน ๆ กันดีกว่า พ่อทำเองเชียวนา"
เขาจงใจพูดเพื่อให้น้ำเสียงฟังดูร่าเริง หวังลูกสาวได้คลายความเศร้า แต่เหมือนเปล่าประโยชน์ เมื่อหวานยังคงแสดงสีหน้าเฉยชา
"อร่อยไหมครับ"
"คุณทำอะไรมาหนูกินได้ทั้งนั้นแหละ"
"ทำไมหนูถึงไม่เรียกพ่อว่าพ่อล่ะหวาน"
"ไม่จำเป็น!"
"ทำไมจะไม่จำเป็น!เมื่อพ่อคือพ่อของหนู"
คราวนี้น้ำเสียงของทัศนัยฟังดูเข้มขึ้น
"กับคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน มันก็ไม่ต่างอะไรจากคนอื่นนักหรอก"
เขาไม่อยากเชื่อเลยว่า ประโยคทั้งหมดที่ได้ยินเมื่อครู่ จะมาจากคำพูดของเด็กวัยเพียงเฉียด9ขวบ ยิ่งกว่านั้นก็คือลูกของเขาเอง
"กินเสร็จเดี๋ยวเตรียมอาบน้ำแต่งตัวนะ พ่อจะพาหนูไปสมัครเรียน"
เขาเปลี่ยนบทสนทนาทันที เพื่อไม่ให้บรรยากาศตึงเครียดมากไปกว่านี้
. . .
ณ.โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง
"ดูแกยังซึม ๆ อยู่นะคะ"
หญิงสาวที่มีนามว่าภาวิณีพูดออกมา ขณะสายตาที่มองไปยังสนามเด็กเล่น ที่มีหวานกำลังนั่งไกวชิงช้าอยู่ เธอคือครูคนหนึ่งในจำนวนครูหลายคนของที่นี่ หนำซ้ำเธอยังเป็นทายาทเพียงคนเดียวของเจ้าของโรงเรียนแห่งนี้อีกด้วย
"ดูท่าว่าแกจะไม่ยอมรับผมเป็นพ่อ"
ภาวิณีหันไปมองหน้าเขา ผู้ชายที่เคยทิ้งแม่ของหวาน เพื่อมาเป็นแฟนกับเธอ แต่ในที่สุดเขาก็ต้องทำลายจิตใจเธอ ด้วยความรู้สึกของเขาที่เพียงแค่หลงเธอเท่านั้น เพราะแท้จริงนั้นตลอดเวลาที่เคยคบกันมา หัวใจของผู้ชายคนนี้ มีเพียงแต่แม่ของหวานคนเดียว ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงเลือกเส้นทางของคำว่า 'ไม่รู้จักพอ'ต่อไปเรื่อย ๆ แทนที่จะกลับไปหาแม่ของหวาน และตอนนี้เธอเอง ไม่อาจทราบว่า เขามีคนใหม่หรือไม่
"แกยังคงปรับตัวไม่ทัน ให้เวลาแกหน่อยสิคะ อีกอย่างคงยังไม่หายสะเทือนใจ
กับภาพที่แม่ของแกต้องตายไปต่อหน้าต่อตา"
เธอพูดเป็นเชิงให้เขาได้ตรอง
"ผมลืมนึกถึงข้อนี้เลย ผมนี่แย่จริง ๆ เลยนะ"
คำพูดของทัศนัยทำให้หญิงสาวรู้สึกแปลกใจเป็นยิ่งนัก ด้วยนิสัยที่คิดว่าตัวเองนั้นถูกเสมอ หรือถ้าเขาผิด ใครหน้าไหนก็อย่าได้มาพูดเป็นเชิงสั่งสอนเชียว เพราะเขาพร้อมที่จะต่อต้านจนถึงที่สุด แต่เวลานี้เขากับยอมรับโดยสดุดี เวลาหลายปีที่เธอไม่ค่อยได้เจอเขา ๆ เปลี่ยนไปมากขนาดนี้เชียวหรือ
"ยิ้มอะไรของคุณน่ะภา"
ทัศนัยถามออกมาด้วยความแปลกใจ ที่จู่ ๆ หญิงสาวก็ยิ้มออกมา
"คุณดูเปลี่ยนไปนะทัศ"
"ผมคงโตขึ้นมั้ง"
เขาพูดเป็นเชิงติดตลก พลางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
"ผมทำให้ภาเสียเวลามานานแล้ว ขอตัวกลับเลยแล้วกัน จะได้พาเจ้าหญิงน้อย
ไปซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนด้วย... หวานครับพ่อจะไปแล้วนะลูก"
หวานลุกจากชิงช้าเดินเข้ามาหาพ่อด้วยสีหน้าแม้คิดที่จะยิ้มก็ไม่มีสักนิด
"สวัสดีจ๊ะ"
ภาวิณีรับไหว้ เมื่อหวานยกมือไหว้อย่างสวยงามในความคิดของเธอ
"ไปนะว่าง ๆ จะหาเวลามาหาคุณอีก"
ทัศนัยพูดพลางเดินนำหน้าลูกสาวตรงไปยังรถที่จอดอยู่ ภาวิณีไม่ได้เดินตามไปส่ง เธอยังคงยืนอยู่ตรงนี้ ยืนจนรถคันสีเขียวเข้มแล่นหายลับไปจากตา
. . .
"อยากได้อะไรอีกไหมเจ้าหญิงน้อยของพ่อ"
ทัศนัยถามออกมาหลังจากที่ซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนให้ลูกได้ครบแล้ว
"ไม่คะ"
"งั้นไปกินพิซซ่ากันนะพ่อหิวแล้ว"
ความจริงเขาไม่ได้หิวสักเท่าไร แต่ตอนที่เดินผ่านร้านพิซซ่า เขาสังเกตเห็นว่า ลูกสาวมองเข้าไปยังร้านอย่างเนิ่นนาน ซึ่งพิซซ่าคงเป็นอาหารจานโปรดของแก และคงจริงตามที่คิด เพราะเขาได้รับการพยักหน้าตอบรับจากลูกสาว ว่าแล้วก็เดินนำลูกสาวตรงไปยังบันไดเลื่อน เพื่อขึ้นไปสู่ชั้น5ของห้าง
. . .
รอยยิ้มผุดขึ้นมาตรงริมฝีปากของผู้เป็นพ่ออย่างทัศนัย เมื่อตรงหน้าที่เขากำลังเห็นอยู่ตอนนี้ คือภาพของลูกสาวที่กำลังกินพิซซ่าอย่างเอร็ดอร่อย เขาเผลอยิ้มกว้างอย่างลืมตัว เมื่อพิซซ่าชิ้นที่สามถูกแยกออกจากถาดไปไว้ในจานของลูกสาว ตัวเขาเองชิ้นแรกยังไม่พร่องเลย มัวแต่มองความน่ารักของลูกสาวจนเพลิน เขาใช้เวลาเกือบถึง 2 ชั่วโมงที่อยู่ในนี้จึงได้พาลูกสาวกลับ
. . .
"รู้อะไรไหมหวาน ตอนที่พ่อเห็นหนูลองชุดนักเรียน หนูดูน่ารักมากเลยนะลูก"
ทัศนัยบอกออกมา หลังจากที่พากันกลับมาบ้านเป็นที่เรียบร้อย หวานไม่พูดอะไรออกมา รีบวิ่งขึ้นไปห้องของตัวเองทันที แต่มีสิ่งหนึ่งที่หวานทำให้หัวใจของผู้เป็นพ่อคนนี้ได้พองโต ที่เห็นหวานเผลอเปิดรอยยิ้มออกมาด้วยความเขินอาย เป็นความรู้สึกที่เขาอยากหยุดช่วงเวลานี้ไว้ให้นานที่สุด เพราะวันพรุ่งนี้ไม่อาจทำให้เขาคาดเดาได้ว่า เจ้าหญิงน้อยจะยังคงยิ้มให้เขาเช่นนี้อีกหรือไม่
--------------------------------------------------------------------------------