มิติรักต่างภพ

chantarat

บทที่ 2
           บนระเบียงตามทางที่จะไปห้องพักครู   ในตอนนี้มีนักศึกษามากพอควรจึงทำให้การเดินทางของจัสมินและราเลสลาลำบากพอควร  แต่ทั้งคู่ก็ใช้เวลาไม่มากทั้งคู่ก็มาถึงห้องพักครู
       ก๊อก....ก๊อก....ก๊อก....เลสเคาะประตูห้องของอาจารย์แฟร์เลิส   แต่เมื่อเลสเปิดประตูเข้าห้องไป   เธอก็เห็นฟร้อนและอาจารย์สาวสวยอย่างสนิทสนม   
 ขอโทษค่ะ   
 เข้ามาสิเลส   มีอะไรเหรอ   
   คือหนูจะมาขอใบลาค่ะ  แต่รอให้อาจารย์คุยธุระกับฟร้อนก่อนก็ได้นะค่ะ
 คุยด้วยกันก็ได้  เพราะฟร้อนก็มาคุยกับครูเรื่องนี้เหมือนกัน  หลังจากที่แฟร์เลิสพูดจบเธอก็เดินไปหยิบเอกสารการลามาให้เลส  แต่ฟร้อนก็ขัดขึ้นมาก่อน
 อาจารย์ครับงั้นธุระของผมก็มีแค่นี้แหละครับ  งั้นผมขอตัว  
 อ้าวเหรอจ๊ะ  งั้นโชคดีกับการเดินทางนะ 
 ครับ   พูดจบ   ฟร้อนก็เดินออกจากห้องไป  แล้วเอกสารที่ตอนนี้อยู่ในมือของแฟร์เลิสก็มาถึงมือเลส
 ขอบคุณค่ะ  แล้วนี่ต้องกรอกทุกช่องเลยใช่ไหมค่ะ   เลสถามเมื่อเห็นเอกสาร
 จ๊ะ  แล้วนี่เธอจะลาไปไหนเหรอ  
 ยูคอนค่ะ
 เอ๊ะ!  ที่เดียวกับที่ฟร้อนจะไปเลยนะ 
 จริงเหรอค่ะ   ชื่ออาจจะเป็นรัฐเดียวแต่เป็นคนละประเทศก็ได้นะค่ะ 
 เขาจะไปแคนนาดา   แฟร์เลิสกล่าว
 ค่ะ  ถ้างั้นก็ประเทศเดียวกัน อาจารย์ค่ะถ้าหนูจะขอถามว่าเขาไปทำไมอาจารย์พอจะบอกได้ไหมค่ะ  
 ได้สิ  เขาไปงานเลี้ยงกับพ่อแม่เขาน่ะ 
 ค่ะ  งั้นถ้ากรอกเสร็จหนูจะเอามาให้นะค่ะ   ว่าแล้วเธอก็เดินออกมาจากห้อง
 เมื่อกี้ฉันเจอฟร้อนด้วย  น่ารักที่สุด   จัสมินพูดทันทีที่เจอเลส
 เหรอจ๊ะ  แล้วเธอรู้ไรไหมจัส...ฟร้อนเขาก็ลาหยุดเพื่อไปยูคอนเหมือนกัน 
 เหลือเชื่อ 
 จริง ๆนะ 
 งั้นเธอก็มีโอกาสสูงนะสิที่จะเจอเขาที่โน่น 
 ไม่มั้งเพราะเราคงดวงไม่ตรงกันขนาดนั้น  แต่ฉันว่าคนที่อาจเจอฟร้อนบ่อย ๆ ไม่ใช่ฉันนะ   เลสพูดพร้อมทำหน้าทะเล้น
 บ้าสิ  พูดอะไรน่ะเลส 
 เอ..แต่ฉันสงสัยจังว่าทำไมฉันกับฟร้อนมีเหตุที่ต้องเจอกันทุกที   ตั้งแต่คราวที่แล้ว  จำได้ไหมจัส 
 จำได้สิ  ฉันยังอิจฉาไม่หายเลย   ทั้งคู่สนทนากันต่อพร้อมเดินไปเรื่อย ๆ  เพื่อจะไปที่ห้องเรียน  แต่แล้วเมื่อเดินไปที่ทางเลี้ยวเลสซึ่งเดินนำหน้าจัสมินก็ต้องชะงักเพราะเธอได้ชนกับอะไรบางอย่างเข้า
 อุ๊ย  ขอโทษ  เลสเอ่ยเมื่อเห็นว่าสิ่งที่เธอชนคือหน้าอกของฟร้อน
 ไม่เป็นไรฉันก็รีบเหมือนกัน  
        พูดจบทั้งคู่ก็รีบแยกออกจากกันปานสายฟ้าแลบ  แล้วฟร้อนก็เดินหายไป  จัสมินที่เห็นเหตุการณ์ก็เข้ามาหาราเลสลา
 เป็นไรรึเปล่าเลส  จัสมินถามด้วยความเป็นห่วง
 เปล่า  ไปกันเถอะเดี๋ยวไม่ทัน  ว่าแล้วเธอก็จูงแขนจัสเพื่อเข้าห้องเรียนไป
                            ชั่วโมงเรียนวันต่อมา   นักเรียนที่นั่งตั้งตาคอยก็ต้องอารมณ์เสียเพราะเขาไม่มาแล้วที่สำคัญเขาไม่ยอมแจ้งล่วงหน้าด้วย
 แย่จัง  อาจารย์เนอร์วิลไม่มาแล้ววิชาประวัติศาสตร์มันยากนะเนี่ย  จัสมินบ่น
 เหรอ  แต่นี่จัสพรุ่งนี้ฉันจะไปแคนนาดาแล้วนะอยากได้อะไรไหมหมายถึงของฝากอ่ะนะ  
 ไม่หรอกขอบใจ จัสตอบอย่างเศร้า ๆ
 เป็นอะไรไปจัสเธอดูเศร้าผิดปกตินะ 
 ก็คิดถึงไง  ฉันคงเหงาแย่ 
 โธ่นึกว่าอะไร  ฉันไม่...
           การสนทนาของทั้งคู่ต้องหยุดเพราะสาวสวยมาขัดจังหวะเธอก็คือดาวเด่นของมหาลัย  เซลรี่
 ได้ข่าวว่าเธอเคยให้ฟร้อนไปส่งบ้านเหรอ  เธอถามเลสด้วยเสียงที่หยิ่งเล็กน้อย
 ใช่  เลสตอบด้วยท่าทีที่ปกติ  แต่ภายในใจของเลส  เธอรู้สึกเหมือนจะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้เอาเสียเลย  ไม่ถูกชะตา เธอคิด
 ทีหลังอย่ามายุ่งกับฟร้อนอีก 
 ฉันไม่ได้ยุ่งมันเป็นเหตุบังเอิญ
 เบื่อจริง ๆ พวกที่ชอบให้ท่าผู้ชายเนี่ย 
 ฉันว่าน่าจะเป็นใครบางคนแถวนี้มากกว่ามั้งที่ชอบให้ท่าผู้ชาย  แต่ทั้งที่ให้เขาก็ไม่อยากจะเอา   เลสพูดกลับเสียงเรียบ ๆ  แต่สิ่งที่เซลรีกำลังทำตอนนี้มันต่างจากน้ำเสียงของเลสลิบลับ  เพราะตอนนี้เซลรีกำลังกรี๊ดและกระทืบเท้าพร้อมมือก็กำลังจะเข้ามาตบหน้าของเลส    แต่การกระทำของหล่อนก็ต้องชะงักเพราะอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวและทำให้เธอรู้สึกแปลก ๆ   เซลรีจึงลดมือลงแล้วเดินจากไปด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว
 ฉันไม่เคยเห็นว่าเซลรีจะยอมคนง่าย ๆ อย่างนี้  จัสมินบอก
 อ๋อ  ชื่อเซลรี สงสัยเขาคงอยากได้ฟร้อนจนตัวสั่นเลยคิดจะกำจัดผู้หญิงทุกคน        เลสพูดออกมาอย่างหัวเสีย
         เย็นแล้วเลสอยู่ที่สนามบินพร้อมกับจัสมิน  เพราะวันนี้เลสต้องเดินทางไป   แคนนาดา   แล้วตอนนี้เธอก็กำลังรอเครื่องอยู่  
 ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ  ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศแคนนาดากรุณาเตรียมตัวขึ้นเครื่องได้แล้วค่ะ  เสียงพนักงานที่สนามบินประกาศทำให้เลสเตรียมตัว  แล้วคุยกับ     จัสมินต่อ  แล้วเธอก็พาตัวเองไปที่ทางขึ้นเครื่อง  
               ระหว่างการเดินทางจากอียิปต์ไปแคนนาดาเลสนอนหลับตลอดทาง  เธอรู้สึกเหมือนมีใครมาโอบกอดเธอดูแลเธอ  แต่เลสก็ไม่อาจรู้ได้ว่าสิ่งที่เธอรู้สึกคืออะไร  จนเมื่อเธอเดินทางถึงแคนนาดา  เลสก็ต้องเดินทางไปรัฐยูคอนต่อ
               เช้าแล้วที่มหาลัยในอเล็คซานเดรียวันนี้มันช่างดูเงียบเหงาเหลือเกินในความรู้สึกของจัสมิน  เธอรู้สึกคิดถึงพื่อนรักซะเหลือเกิน   แต่ความรู้สึกนั้นดูจะบรรเทาลงเมื่อเธอก้มมองนาฬิกาที่ตอนนี้บอกเวลาที่เธอควรจะไปเรียนโบราณคดีได้แล้ว  จัสจึงรีบไปที่ห้องเรียน   และวันนี้อาจารย์ไมรัสก็เข้าห้องเรียนช้ากว่าปกติ   และเมื่ออาจารย์มาถึงก็สั่งงานเด็ก ๆ 
 พวกเธอต้องจับคู่เพื่อที่อาทิตย์หน้าครูจะให้พวกเธอไปดูงานที่พีระมิด  แล้วครูจะแจกรายละเอียดในวันนั้น  อ๋อ...กรุณาส่งชื่อก่อนหมดคาบด้วยนะ   อาจารย์ไมรัสพูด
 อาจารย์ค่ะแต่ฟร้อนกับราเลสลาไม่อยู่ค่ะ จัสมินบอก
 
 ถ้างั้นก็ให้คู่กันเพราะคนอื่นก็คงจับคู่กันพอดี ใช่ไหม   อาจารย์พูด                           จากนั้นเขาก็สอนจนหมดชั่วโมง 
              ที่แคนนาดาตอนนี้อากาศค่อนข้างเย็นเพราะเพิ่งจะเช้าตรู่  เลสตื่นขึ้นอย่างสดชื่อเพราะเมื่อคืนเธอคงเหนื่อยกับการเดินทาง  และวันนี้เธอก็ตั้งใจว่าจะไปหาแม่ที่สุสานด้วย  เลสจึงออกไปที่ร้านดอกไม้และสั่งดกอกุหลาบสีขาวช่อใหญ่   จากนั้นเธอก็ไปที่สุสานและวางดอกกุหลาบนั้นที่หลุมสลักชื่อแมรี่   จากนั้นเลสก็ยืนไว้อาลัย  ระหว่างนั้นเลสก็ได้ยินเสียงใครสักคนที่อยู่แสนไกล
 พอเถิดยอดดวงใจข้า  อย่าเศร้าโศกอีกเลยเราอยากให้เจ้าเข้าใจ  และให้อภัยข้า  ข้าทรมานเหลือเกิน   เลสแทบจะลืมตาขึ้นในทันทีที่เสียงนั้นหยุดลง
 ใคร  ใครน่ะ  เลสพูดพร้อมกับหันไปมารอบ ๆ เพื่อดูว่ามีใครอยู่แถวนี้ไหม  แต่ผลก็คือไม่มีใครนอกจากเธอ
 เอ....เสียง ๆ เหมือนที่เราเคยได้ยินที่ห้องอาจารย์แฟร์เลิสนี่  หลังจากที่เลสสรุปเอาเองว่าเธออาจจะหูแว่วหรืออะไรก็ตามวันนี้เธอรู้สึกเหนื่อยมาก  เลสจึงเดินทางกลับโรงแรมที่พัก   และอีกไม่กี่วันเธอก็จะกลับ
 เมื่อไหร่ฟร้อน  เฮ้ย ...เลสจะกลับมาสักทีนะ  จัสมินบ่น  แต่ในใจเธอก็ยังคิดถึง ฟร้อนอยู่ดี   และเมื่หันกลับไปข้างหลังอาลาซิลก็หันมาถามเธอ
 จัสมินเลสไปไหนเหรอ  ไม่เห็นเจอเลย 
 เลสเหรอ  เขาไปแคนนาดานะ  ไปธุระแล้วรู้ไหมว่าฟร้อนจะกลับเมื่อไหร่  จัสมิน ลองถาม
 ก็วันนี้แหละตอนเย็น  อาซิลตอบ
แต่สักพักเซลรีก็เดินเข้ามาแล้วดึงอาซิลขึ้นจากที่นั่ง  แล้วยื่นกล่องบางอย่างให้
 ฝากให้ฟร้อนเย็นนี้ด้วยนะ ขอบใจ  พูดจบเซลรีก็เดินส่ายสะโพกจากไป  การกระทำนี้สร้างความงุนงงให้อาซิลแต่เขาก็ไม่ว่าอะไร   เมื่ออาซิงคุยกับเซลรีที่เพิ่งเดินจากไปเสร็จเขาก็หันมากล่าวลาจัสมินแล้วรีบไปเช่นกัน
       ที่สนามบินฟร้อนเดินทางมาถึงแล้ว  แต่เขาก็ไม่สนใจสายตาสาว ๆ ที่มองเขาเหมือนเคย  แต่คนที่เขารอนะสิ ยังไม่มาให้เห็นสักที   
 อาซิลฉันจะรอนานดีไหมเนี่ย  ฟร้อนพึมพำ  ยังไม่ทันขาดคำอาซิลก็กึ่งเดินกึ่งวิ่ง
 โอ๊ย  เหนื่อยจังกว่าจะมาถึงที่นี่นึกว่าจะไม่ทันนายซะแล้ว  อาซิลพูด
 ก็เกือบจะไม่ทันแหละนะ ใครมารอใครเนี่ย  ฟร้อนพูดแบบประชดเล็กน้อย
 เอาน่า  ฉันขอโทษแล้วกันแล้วนี่มีคนฝากมาให้  อาซิลพูดพร้อมกับหยิบกล่องออกมาจากกระเป๋า  แล้วยื่นให้ฟร้อน
 ของใคร  ฟร้อนถาม พร้อมกับแกะกล่องนั้น  ภายในกล่องเป็นแหวนโบราณ  ลวดลายดูแปลกตา
 เซลรี  แต่สวยดีนะฟร้อน 
 ใช่สวยแปลก ๆ  ฟร้อนตอบแต่สายตาของเขายังคงจับจ้องที่แหวน
                 สามทุ่มแล้วแต่ผู้คนที่สนามบินยังคึกคัก  คงเป็นเพราะเสียงของผู้คนที่อยู่ที่นี่  วันนี้จัสมินมารอรับเลส  ซึ่งเธอกำลังมองหาเลสอยู่ครู่ใหญ่สายตาจัสมินก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวในชุดสีดำ  ซึ่งในสายตาของจัสมินเลสสวยเหลือเกินแม้จะไม่แต่งหน้า
 คิดถึงจึง  จัสพูดแล้วกอดเลสแน่น
 ดีใจเหมือนกันที่เจอ  รู้ไหมว่าฉันคิดถึงเธอจะตาย  เลสพูด
 แล้วเธอจะกลับบ้านเลยรึเปล่า  จัสถามเพราะเห็นว่าดึกแล้ว
 นอนบ้านเธอดีกว่า  จะได้คุยกันนาน ๆ ไง  เลสพูด
             ว่าแล้วทั้งเลาและจัสก็นั่งรถออกไปจากสนามบิน    ที่บ้านของจัสมินเป็นบ้านขนาดกลางมีต้นไม้ในเขตทะเลทรายอยู่มากมาย  ซึ่งมันดูสวยงามมากในสายตาเลส
 เข้ามาสิ  วันนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่น่ะ  จัสพูดในขณะที่มือก็ไขกุญแจ
        เมื่อเลสเข้ามาถึงบ้านของจัสมินแล้วเธอก็ขอตัวไปอาบน้ำและพักผ่อน  แต่เมื่อเลสล้มตัวลงนอนเธอก็ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เพราะคืนนั้นเธอฝันถึงสร้อยที่เจอบนชั้นนั้น  แต่คราวนี้ไม่ได้อยู่บนชั้นแต่มันอยู่ในมือชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูสูงใหญ่น่าเกรงขาม  เขากำลังบรรจงใส่สร้อยเส้นนั้นบนคอระหงของหญิงสาวคนหนึ่ง   ซึ่งสร้อยเส้นนั้นเหมาะกับชุดสีดำที่เธอใส่เหลือเกิน  แต่ภาพเหล่านั้นก็เลือนหายไปกลายเป็นภาพทะเลทรายมองไปทางใดก็ไม่มีสิ่งใดนอกจากทรายสีเหลืองแสดเท่านั้น    หญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมายและดูเหมือนเธอกำลังอ่อนเพลียและกระหายมาก   ภาพสุดท้ายที่เลสเห็นหญิงสาวคนนั้นเธอกำลังทรุดลงบนทะเลทรายแล้วใช้ของบางอย่างกรีดที่แขนจากนั้นของเหลวสีแดงก็หลังไหลออกมาแล้วเธอก็ดื่มมันเข้าไป  เป็นเวลานานพอควรหน้าของหญิงสาวเริ่มซีด..
 เลส ตื่นๆ  วันนี้มีเรียนเช้านะ   เสียงของจัสมินทำให้เลสตื่นจากภวังค์
 จ๊ะ ๆ ตื่นแล้ว  เลสเมื่อรู้ตัวเธอก็เด้งตัวขึ้นจากเตียงทันที
 ไปอาบน้ำได้แล้วจ๊ะ  จัสพูด
 จ๊ะ  เลสรับคำแล้วก็ยิ้มแล้วพาร่างเข้าห้องน้ำ  แล้ว 20 นาทีเธอก็ออกมา
      ในรถทั้งสองคนกำลังคุยกันเรื่องการทำงานนอกสถานที่ในวันนี้  
 เธอได้คู่กับฟร้อน  อิจฉาเลสจัง 
 ฉันจะโดนทำร้ายไหมเนี่ย  แต่ถ้าเธออยากคู่ฟร้อนก็เปลี่ยนกันสิ ดีไหม เลสพูดยิ้ม ๆ เมื่อเธอคิดถึงหน้าเซลรี
 ไม่เป็นไรหรอก  ฉันคู่อาซิลก็ได้  
 จัสเธอแอบชอบฟร้อนมาก็นานนะ  แต่เธอเคยบอกเขารึเปล่า 
 ไม่อ่ะ ฉันไม่กล้า 
 ถ้าเธอไม่บอกเขา  มันจะมีประโยชน์อะไร จริงไหมเพราะงั้นเธอต้องกล้า ๆ ไว้ 
 ไปที่พีระมิดนะค่ะ จัสพูดขึ้นกับคนขับรถ  แล้วหันมาตอบเลส
 ก็ได้  ฉันจะกล้าบอกเขา    
              ที่ทะเลทรายตอนนี้นักศึกษากำลังยืนจับกลุ่มคุยกันเพื่อรอเวลา    แต่เลสกำลังยืนจ้องพีระมิดเบื้องหน้าด้วยความสนใจ   และเธอก็สงสัยว่าทำไมกาลเวลาไม่อาจทำลายมันลงได้  บางคนเชื่อว่าพีระมิดนี้มีคาถากำกับไว้เพื่อให้มันอยู่ได้ตลอดกาล
 เลสร้อนจังเลย  เมื่อไหร่อาจารย์จะมาเนี่ย  จัสมินบ่น
 ร้อนก็เอาเสื้อฉันไปบังแดดก่อนก็ได้นะ  เลสพูดพร้อมกับถอดเสื้อให้แล้วบังแดดให้
 แล้วเธอล่ะเลส 
 ไม่เป็นไร  ฉันยังไม่ร้อนนะ 
            เวลาผ่านไปไม่นานอาจารย์ก็เรียกนักศึกษาทีละคู่ออกไปรับใบงาน
 เลสเดี๋ยวเจอกันนะ   ไปทำงานก่อน  จัสพูดแล้วเดินจากไป  ส่วนฟร้อนและเลสก็ไปด้วยกัน   แต่เมื่อเวลาผ่านไปงานของฟร้อนและเสลก็เสร็จเป็นคู่แรก  แต่เธอส่งงานเสร็จเลสและฟร้อนก็ออกมาเดินเล่น
 ฟร้อนนายว่าข้างหลังพีระมิดมีอะไร  เลสถาม
 อยากรู้ก็ไปดูกันสิ  ไปไหม  เลสรู้สึกแปลกใจ  แต่เธอก็อยากรู้เช่นกันเลสจึง                ไปกับฟร้อน
 ฟร้อนนายว่าไหมว่าทะเลทรายมันดูสวยดูนะ  เวลาโดนแดด  เลสพูดเหมือนมีใครสั่ง
 ใช่สวย  แต่มันคงมีอันตรายเหมือนกันนะ ดูอย่างทะเลซิ  ฟร้อนตอบแต่สายตายังคงมองพื้นทรายเบื้องหน้า
 เดินไปอีกหน่อยไหม   ทั้งคู่กล่าวพร้อมกัน  
         แล้วการเดินทางของทั้งคู่ก็เริ่มขึ้น  โดยที่ไม่มีใครสังเกตว่าไม่มีใครอีกแล้วอยู่ในบริเวณนั้น  แต่ทั้งคู่ก็เดินต่อไปข้างหน้าเหมือนโดนมนต์สะกด   แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งสองรู้สึกตัวอีกทีพายุทะเลทรายก็โหมกระหน่ำเสียแล้ว
              
( จบตอน )
				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน