ปัง..ปัง..ปัง...ปัง.ๆๆๆ..เสียงเคาะฝาบ้านดังถี่ยิบขึ้นเรื่อยๆ เป็นเสียงสัญญาณบ่งบอกให้รู้ว่าถึงเวลาตื่นแล้ว เด็กหญิงสะดุ้งลืมตาตื่น พร้อมกับลุกขึ้นจากที่นอน..รีบก้าวออกจากห้องนอน..มองออกไปนอกห้องที่มีน้องชายนอนอยู่อีกมุมหนึ่งของบ้าน เด็กชายก็รีบตืนเช่นเดียวกัน.. อากาศยามเช้าช่างเยือกเย็นเสียนี่กระไร..มองไปทางไหนก็มืดสนิท..พระอาทิตย์ยังไม่โผล่พ้นขอบฟ้า..บ้านใกล้เรือนเคียงยังคงเงียบสนิท..ผู้คนกำลังหลับใหลอย่างมีความสุข...พอก้าวลงจากบันไดบ้าน เด็กหญิงรีบก้าวขาไปที่ยุ้งข้าว เพื่อตักข้าวเตรียมไว้ สำหรับตำ..ไม่นานเสียงตำข้าวก็ดังขึ้น ป๊อก ..ป๊อก ป๊อก..ๆๆๆๆๆๆ .ก้องสะท้อนในความมืดของเวลาใกล้รุ่ง ..สักครู่ใหญ่เสียงไก่ขันก็เริ่มแว่วมา...เอ้กอีเอ้กเอ๊ก.ๆ..ตามด้วยเสียงตีปลีกพรึบพรับ.ๆ เป็นระยะๆ ..แสงสว่างค่อยๆ คืบคลานเข้ามาเยือน..ความเย็นยะเยือกกำลังจะจางหายไปพร้อมกับแสงสีทองโผล่พ้นขอบฟ้า ร่างกายค่อยๆ ปรับอุณหภูมิให้เข้ากลับเช้าวันใหม่ ผู้คนที่หลับไหลในเวลาใกล้รุ่งสาง .ค่อยๆ ทะยอย..ออกจากบ้านหุงหาอาหารเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันใหม่.. ความเงียบในยามเช้ามืดก่อก่อให้เกิดความเหงาและความสุขในเวลาเดียวกัน
22 กุมภาพันธ์ 2549 14:36 น. - comment id 89727
ยามเช้าที่แสนจะลางเลือน..และเพิ่งหัดแต่งเกรงว่าข้อความจะหายก็เลยรีบโพสต์..ถ้านึกอะไรออกจะมาเขียนและแก้ไขเพิ่มเติมค่ะ มือใหม่หัดเขียน
22 กุมภาพันธ์ 2549 15:25 น. - comment id 89728
25 กุมภาพันธ์ 2549 07:48 น. - comment id 89762
อ่านแล้วคิถบ้านนาจังเลยค่ะ... บ้านเราก็บ้านนอกนะ.. บ้านเรานะติดกะทุ่งนาเลยละ.. บรรยากาศสวยมาก ๆ .. เรานะชอบมองรวงข้าวมาก สีมันสวยดีนะค่ะ... ชอบตกปลาหน้าฝนด้วย.. แต่ก็กลัวฟ้ารัองมาก เพระมันผ่าเอานะค่ะ เคยผิดสัญญาใครนะค่ะ..55555 ( พูดเล่นค่ะ..อิอิอิ เสียง ป็อก ป๊อก ๆ ที่บ้านเราอาจเป็นเสียง คุณแม่ผ่าฝืนนะ เพราะใช้เตาถ่าน .... ประหยัดดีนะค่ะ ... ไม่ต้องเงินใช้แก๊ส.... พูดแล้วก็คิดถึงบ้าน คิดถึงคุณแม่ที่สุดเลยค่ะ...