เธอคนนั้นไปโปรดอย่าจากผมไป.............
เราหล่อจังเลย...อ่ะ
เรื่องนี้มันน่าจะเริ่มตั้งแต่วันแรกของการเปิดเทอมปีการศึกษา 2547 เป็นวันอันแสนสับสน คนนู้นก็ไม่รู้จัก คนนี้ก็ไม่รู้จัก
มีเพื่อนห้องเดียวกันปีที่แล้วก็ไม่สนิทกับใครเลยสักคน แต่พวกเขากลับสนิทกันดีทุกคน เข้าไปอยู่กับพวกเขาเขาก็ทำท่ารังเกียจ
"โอ้! ชีวิตนี้ผมต้องเดินอย่างโดดเดี่ยว" ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในสมองของผมในทันที่ผมได้ยินเสียงจากปากที่เปล่งออกมาจากลำคอ
อันได้รับคำสั่งมาจากสมองของเพื่อนเก่าของผม ว่าเขาไม่อยากนั่งคู่ผม เขาขอแลกที่กับคนอื่นในกลุ่มแต่ทุกคนไม่ยอม แต่ผม
ก็ยังไม่กล้าที่จะเริ่มต้นใหม่ ทั้ง ๆ ที่มันเป็นเพียงหลุมอันน้อยนิด แต่คนหน้าตาดี หุ่น sexy อย่างผมกลับไม่กล้าที่จะกระโดดข้าม
หลุมอันน้อยนิดนี้ ที่ความกลัวของจิตใจของผมได้สร้างมันขึ้นมาให้ผมได้ฝ่าฟันมันไปให้
และแล้วผมก็สามารถหาเพื่อนใหม่ได้ พวกเค้าคือคนที่ไม่ค่อยพูด แต่ผมเป็นคนพูดมาก ตอนแรก ๆ เขาก็รำคาญ
ต่อมาพวกเค้าก็เริ่มพูดมากขึ้น แสดงว่าผมทำให้เค้าเสียคน แต่จิตใจของผมกลับบอกว่าผมเก่งที่เปลี่ยนนิสัยเพื่อนได้ ซึ่งการพูดมากขึ้น
ไม่ได้ส่งผลร้ายเท่าไรนัก และผมยังก็มีเพื่อนเก่าที่เค้าถูกย้ายห้องไป เราเจอกันทุกพักเที่ยง ทุกเย็น และบางเช้า เพราะอะไรน่ะหรือ
นั่นคงเป็นเพราะผมมาโรงเรียนสาย และเพื่อนของผมคนนั้นเขาก็ได้ทำให้ผมรู้จักเพื่อนของเขาอีกหลายคน และทำให้ผมเปลี่ยน
มุมมองชีวิตใหม่ ได้รู้จักสังคมใหม่ ๆ ทำให้ผมรู้ว่าห้องคิงนั้น ไม่ได้มีดีอะไรดีไปกว่าเด็กห้องคละนัก แค่เด็กห้องคิงมีความรับผิดชอบ
มากกว่า สติปัญญา ประสบการณ์ นั้นเด็กห้องคละมีพอ ๆ กับเด็กห้องคิง เผลอ ๆ มากกว่าด้วยซ้ำ ๆ แต่บางคนก็มีความรับผิดชอบ
แต่ครอบครัวเขาขาดเงินทุนส่งเสริม
วันหนึ่งเพื่อนผมคนนั้นได้ทักผมทำให้ผมได้คิดได้ค้นหาหัวใจ ทำให้ผมรู้ได้โดยทันทีว่าหัวใจผมหายไป ผมลองค้นหา
ลองนึกอยู่หลายหนหลายวันหลายคืน แต่ผมก็หาไม่เจอ วันเวลาล่วงเลยผ่านไปร่างกายมันเริ่มอยู่ไม่สุข เพราะมันต้องการหัวใจของมันคืน
เวลาก็ยังล่วงเลยไปไปไปไปเรื่อย ๆ ดั่งสายน้ำที่ไหลไปทางเดียว ไม่เคยไหลย้อยกลับ ไม่รู้ว่ามันโง่ที่ไหลย้อนไม่เป็น หรือมันมีความเพียร
พยายามไม่ว่าจะมีอะไรขวางกั้น มันก็ยังบุกฝ่าฟันมันไปได้อย่างโชกโชน
ในที่สุดผมก็แน่ใจแล้วว่าหัวใจของผมที่ตกอยู่ แล้วใครเป็นคนยื่นมือไปเก็บมัน หลังจากที่มันเคยเรียกร้องให้เธอผู้หนึ่งเก็บมัน
แต่เธอผู้นั้นได้ใช้สิ่งที่รองรับน้ำหนักของเธอ ซึ่งไม่น้อยเท่าไรนักเขี่ยมันทิ้งไปให้พ้นหนทางที่เธอจะก้าวไป
เธอคนที่เก็บหัวใจของผมไปนั้น หารู้ไม่ว่าสิ่งที่เธอได้เก็บมากุมไว้ในกำมืออันแสนอ่อนโยนนั้นมันคือหัวใจของผม ทำให้
หลายครั้งหลายหนที่เธอเกือบขยี้หัวใจของผมจนแหลกสลาย และบ่อยครั้งที่เธอได้ช่วยเติมเต็มหัวใจดวงนี้ที่มันยังไม่ขาดบางอย่าง
ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร มันเป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ได้ แต่มันทำให้หัวใจผมเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข อันไม่เคยได้จากใครมาก่อน
ยกเว้นผู้หญิงที่รักเราสุดหัวใจ แต่เราทุกคนกลับมองข้ามเธอไป เธอที่เราทุกคนเรียกอย่างติดปากว่า "แม่"
หัวใจดวงนี้ ที่มันล่องลอย
แต่มันยังคอย คอยรักจากเธอ
เธอผู้แสนดี มากมีน้ำใจ
โปรดนำรักมาให้ ใจดวงนี้ด้วยเทอญ
[ปล. ถึงกลอนบทนี้จะไม่ตรงฉันทลักษณ์ ไร้ซึ่งความไพเราะ แต่แต่งจากใจ คิดด้วยสมอง พิมพ์ด้วยสองมือ]
ในที่สุดผมก็ตัดสินใจ ที่จะทำอะไรเพื่อให้เธอผู้นั้นได้รู้ว่ามีผู้ชายหน้าตาดี หุ่น Sexy คนหนึ่งได้แอบรักเธออย่างหมดหัวใจ
เพราะมันเหมือนมีอะไรตะงิดอยู่ข้างใน มันรู้สึกไม่สบายใจที่ได้แต่เฝ้ามองเธออยู่ห่าง ๆ แอบคอยให้ความช่วยเหลือ ห่วงหาอาทร
ผมจึงวางแผนการอย่างเหมาะสมและลงตัว เหลือแต่เพียงโอกาสโอกาสที่ผมจะได้ทำตามแผนการของผม เวลาล่วงเลยผ่านไปผมก็ได้โอกาส
ผมได้นำสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ในการบอกรัก ไปวางไว้ ณ ของสิ่งหนึ่งสิ่งใดของเธอ ของที่เธอเห็นได้โดยทันทีที่เธอจะหยิบมันใช้ เพื่อที่เธอ
จะได้รู้ว่ามีคนบอกรักเธอ และผมก็ได้แอบดูอยู่
ทันใดนั้นเองผมนึกขึ้นได้ว่าผมมีกิจสำคัญที่จะต้องไปทำ ผมจึงต้องละจากการเฝ้าดู ต่อมาผมเจอเธอ เธอทำตัวเหมือนไม่มีอะไร
เกิดขึ้น หรือเธออาจจะไม่เห็นสิ่งบอกรักของผม ซึ่งนั่นกลับทำให้ผมมีความเดือดเนื้อร้อนใจมากกว่าเดิมเข้าไปอีก จากเดิมปกติแล้วผมไม่เคย
จริงจังกับอะไรมากมายและเป็นเวลานานขนาดนี้ คราวนี้ผมจึงวางแผนใหม่ ผมจะบอกเธอซึ่ง ๆ หน้าเวลาหน้าอยู่ตามลำพัง แต่พอผมมีโอกาส
ผมกลับไม่กล้า ความกล้าของผมหมดไป จากทุกทีที่ผมปลอบใจเพื่อเสริมสร้างความกล้าให้แก่ตัวเองว่า "ไม่เป็นไร มันไม่ตายหรอก" ผมได้พูด
กับตัวเองในใจหลายร้อยครั้ง แต่มันไม่ได้ช่วยให้ผมมีความกล้าเพิ่มขึ้นมาเลย
วันหนึ่งผมได้เดินคุยกับเธอสองต่อสองแต่ผมก็ยังไม่กล้าบอกรักเธอ เธออยากกลับบ้านแต่ผมอยากอยู่กับเธอนาน ๆ ผมก็เลยได้แต่
ชวนเธอคุยเรื่องงานเรื่องการบ้าน เธอจะได้อยู่กับผมอีกนาน ๆ แต่ผมก็นึกต่อไม่ได้อีกแล้วว่ายังเหลืองานอะไรให้คุยต่ออีก ผมก็ได้แต่ปล่อยให้
เธอเดินจากผมไป แต่นั่นก็ทำให้ผมมีความสุขอย่างมาก หัวใจของผมเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ความสุข อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
และวันที่เลวร้ายที่สุดนชีวิตของผมก็มาถึง นั่นคือวันปิดภาคเรียนจบปีการศึกษา 2548 ผมจะอดเจอหน้าอันงดงามของเธอไปอีกนาน
แม้แต่รูปเธอสักใบ ผมก็ไม่สามารถหามาได้ จะรอเปิดเทอมใหม่ก็ไม่แน่ว่าผมจะได้เจอเธอ ผมอาจจะต้องจากเธอไป หรือเธออาจจะจากผมไป
หรือผมกับเธอเราจะไปด้วยกัน หรือไม่เราก็ไม่ได้ไปยังคงอยู่ด้วยกันดังเดิม
ถึงอย่างไรก็ตามผมจะขอเก็บเธอไว้ในหัวใจ และกลอนบทนี้ผมได้แต่งเอาไว้ให้เธอ แต่ผมไม่กล้าที่จะนำมันไปให้เธอ
แอบ......รักเธอ อย่างสุดซึ้ง
แอบ......คิดถึง ทุกเวลา เธอรู้ไหม
แอบ......ห่วงหา และห่วงใย
อยากจะบอกความในใจ (แค่ก ๆๆ) I Love You