ขอระบาย...นิดเดียว

ชมพูภูคา J.


อาคารสูง 7 ชั้น ค่อนข้างหรูแถมสะอาดตาปรากฎอยู่เบื้องหน้า ฉันก้าวเข้าไปยืนมองประตูกระจกใสตรงทางเข้า  ถามตัวเองว่าจะผ่านเข้าไปได้อย่างไร  เพราะมีแผงตัวเลขชี้ชัดเลยว่า ถ้าคุณไม่มีรหัสผ่านอย่าหวังว่าจะได้ยื่นหน้าเข้าไปเชียว แต่ฉันยืนเซ่ออยู่เพียงครู่เดียว  ก็มีเสียงหวานๆ จากอินเตอร์คอมดังขึ้นมาใกล้ๆ สอบถามว่าฉันเป็นใครมาธุระอะไร ฉันจึงรีบตอบด้วยน้ำเสียงฉะฉาน ...แน่นอนฉันต้องทำเช่นนั้นแน่  คนมาสมัครงานทุกคนต้องแสดงความเชื่อมั่นอย่างออกนอกหน้า (เพราะกลัวไม่ได้งาน)  หลังจากนั้นฉันก็ได้เดินผ่านประตูบานนั้นเข้ามา  
คุณเชื่อหรือไม่ว่า...นั่นคือการก้าวข้ามมาในอีกโลกหนึ่ง  ที่ไม่มีสำนักงานไหนในเมืองไทยมี  ที่สำคัญมันยังคงได้เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง...ความรู้สึกนึกคิด...ของฉันไปจนเรียกได้ว่า  วันนั้นฉันจะไม่มีทางนึกถึงได้เลย 
คุณอยากรู้ไหมว่าทำไม  ตอนนี้ฉันจะเปิดประตูกระจกบานเดิมและเชื้อเชิญคุณให้เข้ามายังสถานที่แห่งนี้  เพราะว่าฉันดันรู้รหัสผ่านแล้วนี่  แต่ขอบอกไว้อีกนิด  คุณเข้ามาได้แค่นั้นแหละ  ...เพราะด่านต่อไปคุณต้องมีนิ้วมือที่ถูกป้อนข้อมูลไว้ในระบบตรวจสอบความปลอดภัยของเราก่อน   ซึ่งแน่นอนที่คุณไม่มี  ดังนั้น หยุดอยู่เพียงแค่นั้น  และฟังที่ฉันจะระบายต่อไป...
บทเรียนแรกของฉันคือการอ่านข้อมูลของบริษัทให้มากที่สุด  เรียนรู้ให้ไว ซึ่งฉันก็ทำได้ดี  และเจ้านายก็ชื่นชอบ  ชมแล้วชมเล่า  แต่ตัวฉันเองสิที่กลับเริ่มไม่แน่ใจในสิ่งที่ฉันเรียนรู้  มันอาจไม่ถูก  แน่ล่ะมันไม่ถูกแน่ ๆ ถ้าคุณได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่ง  มันอาจจะดูดี  และฉันจะต้องเปลี่ยนทุกอย่าง  เริ่มตั้งแต่การแต่งกาย การพัฒนาบุคลิก อารมณ์ ที่สำคัญคือ วาทศิลป์  ฟังแล้วดูดีใช่ไหม  คุณอาจอยากรู้ว่างานของฉันคืออะไร  อาจจะคล้ายเซลล์  ซึ่งก็อาจจะใกล้เคียง  แต่เราทุกคนเรียกตัวเองว่า ทีมงานที่ปรึกษาทางธุรกิจ  และลูกค้าเป้าหมายของเราไม่ใช่เล่นๆ พวกเขาต้องเป็นองค์กรที่มียอดขาย 100 ล้านขึ้นไปเท่านั้น  ต่ำกว่านั้นเราไม่มอง  และหน้าที่โดยตรงของฉันก็คือ   สอนวิธีโกง  ภายใต้คำพูดสวยหรูว่า กลยุทธ์การประยุกต์ใช้กับธุรกิจ  
วันแรกฉันจำได้ว่ารู้จักคำว่า ฝืนใจ อย่างรู้แจ้งก็ครั้งนี้  ธุรกิจของเรายืนอยู่ในที่ลับและคอยปล้นเงินที่ควรจะเป็นของแผ่นดิน  หอบเอาไปไว้กับใครบางคนที่คุณจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเป็นใคร  นอกจากเขาคนนั้นจะโง่...พลาดท่าให้ตรวจสอบได้เอง  
แต่ฉันไม่ได้ปฏิเสธงานชิ้นนี้  แม้ว่าในส่วนลึกของหัวใจ  ฉันคือคนไทย 100 % แต่เพียงความคิดที่ว่า  ฉันไม่ควรเดินหนี  ถ้าเราต้องการแก้ไข  เราก็ควรต้องรู้ให้ถึงที่สุด  ถ้าไม่รู้จริง จะมีปัญญาอะไรไปแก้  จากวันนั้นถึงวันนี้  ฉันยังคงยืนอยู่ที่นี่  ทำงานต่อไป... อาจไม่ใช่ด้วยเหตุผลเดิม  แต่ฉันเชื่อว่า  ธุรกิจนี้คงไม่ยืนยาว  
ตอนนี้ฉันก้าวขึ้นมาอีกขั้น  ด้วยการเขียนหนังสือขายเสียเลย ...คนรวยที่ไม่โกงมีที่ไหน...  ยอดขายทะลุถึง 1000 เล่ม ฉันควรภูมิใจไม่ใช่รึ  หลังจากนั่งไล่ดูรายชื่อลูกค้าที่สั่งซื้อหนังสือเล่มนี้จำนวน  1000 เล่ม หมายถึง คนรวย 1000 คน  พวกเขาอ่านหนังสือที่ฉันเขียน  บางคนเป็นถึงดอกเตอร์  ในขณะที่คนเขียนหนังสือเล่มนี้  จบเพียงปริญญาตรี  มหาวิทยาลัยของรัฐเท่านั้น  แต่พวกเขาไม่ได้โง่หรอก  เขาแค่ไม่รู้ในสิ่งที่ฉันรู้  มันแน่เสียยิ่งกว่าแน่อีก  ไม่มีมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งไหนในโลกนี้เปิดสอนแน่  ตำราก็ไม่มีการผลิตออกมา  ถ้ามีก็บ้าแล้ว  แต่ฉันก็ทำ 
ฉันอาจโชคดีก็ได้...ที่มีโอกาสในสิ่งนี้  มีคนจ้างให้ฉันเรียนวิชานี้แถมด้วยกลโกงสารพัด  แล้วยังมีเงินเดือนให้อีกด้วย  คุณคิดว่าดีไหมล่ะ  
ฉันไม่รู้ว่าธุรกิจนี้จะจบสิ้นลง ณ วันใด  เพราะจากที่ไม่เคยมีใครรู้จักมาก่อน  นอกจากกลุ่มคนรวยจำนวนไม่มาก แต่มาวันนี้  ด้วยความโง่เง่าบางประการ  ธุรกรรมที่เคยอำพรางของนายทุนบางคนดันถูกเปิดโปง  ทำให้ธุรกิจของเราดำเนินไปด้วยความยากลำบากยิ่งขึ้นตามไปด้วย
แต่ฉันไม่สนใจ...ถ้าวันหนึ่งคุณ  เกิดมีเงินมากขึ้นแล้วอยากรู้ว่า  จะทำให้เงินนั้นพอกพูนชนิดที่คุณคาดไม่ถึงได้อย่างไรล่ะก็  กรุณาติดต่อเรา  คุณเพียงแค่ควักเศษเงินเสียค่าความรู้...สักเล็กน้อย  เส้นทางโรยด้วยกลีบกุหลาบหอมหวานก็ปรากฎอยู่ข้างหน้าแล้ว...
เงินได้ที่ไม่ต้องเสียภาษี ไม่ว่าจะเป็น นิติบุคคล ภาษีส่วนบุคคล เงินปันผล และอีกสารพัดภาษี  คุณไม่ต้องจ่าย  หรือถ้าต้องจ่ายก็จ่ายน้อยลง 
คุณไม่ต้องเผชิญกับสารพัดความเสี่ยงทางธุรกิจ  น้ำมันขึ้น  คุณก็เฉย ๆ ดอกเบี้ยกระฉูด  โอ้ คุณไม่ระคาย ไม่มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน  เพราะคุณถือเงินที่แข็งกว่าได้ตลอดชาติ  และโยกย้ายได้สารพัดสกุลเงิน (ที่ไม่ใช่เงินบาท) ไม่มีข้อจำกัดจากกฎควบคุมเงินตราระหว่างประเทศ
ไม่มีใครรู้ว่าคุณเป็นใคร  เพราะคุณไม่มีชื่อปรากฎในสารบบ
ไม่มีใครรู้ว่า ณ ตอนนี้ คุณมีเงินทิ้งไว้ที่ไหนในโลก จำนวนเท่าไร
และที่สำคัญ...จะไม่มีใครแตะต้องคุณได้  แม้ว่าคุณจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งสูงสุดใดๆ ...นี่คือพันธะสัญญาของเรา...
				
comments powered by Disqus
  • จีด้า

    17 กุมภาพันธ์ 2549 19:32 น. - comment id 89629

    17.gif17.gif
    ว๊าวๆๆ..น่าสนใจจังค่ะ
    หนังสือเล่มนี้ชื่อว่าอะไรคะ...อยากไปซื้อ
    มาอ่านจัง
    
    
    
    
    ;
  • เรไร

    17 กุมภาพันธ์ 2549 20:48 น. - comment id 89640

    
    ตอนนี้เจ็บคอหรือเปล่า
    ระวังน๊าเวลาไอ เสียงมันจะดัง คุกๆๆๆๆ
    แบบว่าไม่เชิงถูก
    แต่ก็ไม่ผิด
    อะไรแบบนี้ป่าว โชคดีครับ 
  • MomMamSan

    18 กุมภาพันธ์ 2549 23:23 น. - comment id 89671

    เอ เอ่ เอ้ เอ๊ เอ๋ !!!!! คุ้นๆอ่านะ มันเรื่องของครายคนไหนคนนึง หรือว่า สอง สาม สี่ ห้า หก ..... กันน้า อิอิอิ 61.gif
  • ผ่านมา

    10 มีนาคม 2549 17:06 น. - comment id 89991

    คุ้นๆๆนะเหมือนเรื่องที่ออกทางไอทีเลย

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน