..ไปแอ่วเจียงใหม่มาเจ้า..

ชมอักษร

วันหยุด 3 วันที่ผ่านมา .. คิดอยู่นานว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี ..
งานยุ่งหัวฟูมาตั้งแต่ปลายปี ต่อเนื่องจนถึงเมื่อต้นเดือน .. งานเพิ่งจะซา ..
ได้ข่าวบางกลุ่มจะไปเที่ยวแพ .. ด้วยความใจง่าย ก็อยากไปกับเขา ..
สุดท้าย .. ต้องเปลี่ยนความตั้งใจ .. เพราะร่ำ ๆ ว่าจะติดอบรมของหน่วยงาน ..
เอ่ยปากปฏิเสธไปเรียบร้อย ก็เพิ่งมารู้ว่าเขาแบ่งจัดอบรมเป็น 2 กลุ่ม .. 
ชื่อชมอักษรไปอยู่กลุ่มที่ 2 ( 25-26 ก.พ. ) .. ครั้นจะขอกลับคำไปแพกับเขา ..
ก็กลัวที่นั่งจะเต็ม .. แถมไปแย่งอาหารเขากินอีกแน่ะ .. ก็เลยคิดใหม่ทำใหม่ ..
อืมมมม .. จะไปเที่ยวไหนดีน๊า ..
ได้ข่าวมา ( อีกแระ ) ว่าบางคนจะไปเที่ยวเกาะ ..
ก็อยากไปกะเขาอีก .. น้ำทะเลใส ๆ ฟ้าสวย ๆ .. 
กับอาหารทะเลที่ชอบ .. อืมมม .. น่าสนใจ .. กำลังจะชูจั๊กกะแร้ขอไปด้วย
แต่ต้องเบรกแขนโก่ง .. ก็คนพาทัวร์บอกว่าจะไปตกปลามาเป็นอาหาร ..
ไม่ซื้อกิน เพราะทรัพย์จาง ..  ( เหมือนทริปล่องแพเขื่อนศรี ฯ ครั้งกะโน่นนน )  
ชมอักษร .. รีบบ่ายหน้าเดินหนีแทบไม่ทัน .. ก็ตอนไปแพอ่ะ .. ถ้าไม่ซื้อไก่ ซื้อเนื้อติดไป ..
รับรอง .. อดแด๊กจนซูบแหง ๆ .. เพราะตกปลาไม่ได้ซ๊ากกกตัว ..
แถมเบ็ดโดนปลาลากไปแด๊กแทนอีก .. เหอ ๆๆ .. เข็ดค่ะ .. ขอบอก ..
เอ .. แล้วเราจะไปเที่ยวไหนดีหว่า ...
				

ลงมาจากดอยอินทนนท์แล้ว ..
ชมอักษรก็มุ่งหน้าไปยังสวนสัตว์เชียงใหม่ ..
โดยต้องรีบไปให้ทัน 4 โมงเย็น ..
ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายที่เจ้าหน้าที่จะพาหมีแพนด้าออกมาให้ได้เห็นชัด ๆ ..
โชคดีที่ไปทันเวลา .. 

เมื่อเข้าไปถึง ก็ได้เวลาพอดี .. หลินฮุ่ยซึ่งเป็นหมีเพศเมียออกมาก่อนตัวแรก ..
เธอค่อย ๆ เยื้องย่างออกมา .. แล้วเธอก็ .. อึ !! .. เหอ ๆๆ

หลังจากที่เธออึเสร็จ .. ก็ก็ค่อย ๆ คลานขึ้นไปนอนด้านบน ..






				

นาที่สุ .. ก้อคิเอาะแระ .. ว่าจาปาหนา .. ( อิอิอิ )

ช่วงนี้ .. สตรอวเบอร์รี่ของโปรดกำลังออก ..
ซื้อกินที่ กทม. ก็แสนแพง .. ลูกก็เล็กจิ๊ด ..
หุหุ .. ว่าแล้วก็ .. ไปแหวกว่ายในไร่สตรอวเบอร์รี่ .. แล้วก็กินให้หนำใจดีกว่า ..
เชียงใหม่โลด .. อ้อ .. มีคนรู้จักแนะนำร้านเค้กเจ้าอร่อยด้วยแหละ ..
อยากกิน .. อยากกิน .. เอ่อ .. อยากไปเที่ยวด้วยแหละ .. เหะ ๆๆ

((  ตัดฉากมาที่ชมอักษรจัดกระเป๋า .. เตรียมตัวเดินทางกันเลยคร๊าบบบ .. ))



				

ชมอักษรเดินทางจาก กทม. คืนวันที่ 10 .. 
รถออกเวลา 3 ทุ่มครึ่ง .. ( รถทัวร์วีไอพีอ่ะ.. ม่ะมีตังค์นั่งเครื่องบิน )
นั่ง ๆ นอน ๆ หลับ ๆ ตื่น ๆ .. จนถึง บขส. เชียงใหม่ก็เช้าพอดี ..
ดูนาฬิกาก็ 6 : 50 น.

อืมมม .. โทรหาคนมารับ .. ยืนเก้ ๆ กัง ๆ เหมือนบ้านนอกเข้ากรุงอยู่สักพัก ..
ชมอักษรกับเพื่อนร่วมชะตากรรม ( เรียกแบบนี้แหละ .. เหมาะ .. ฮี่ฮี่ฮี่ )
ก็โล่งอกโล่งใจเมื่อคนที่นัดไว้มารับ .. ไปอาบน้ำอาบท่า ..
อาหารมื้อแรกก็เป็นข้าวเหนียว หมูปิ้ง .. หมูชิ้นใหญ่ .. เคี้ยวสะใจดี
ไม่เหมือนแถวบ้าน .. ไม้ละ 3 บาท .. มีหมูติดไม้อยู่จิ๊ดเดียว .. เหอ ๆๆๆ
กินหมูได้ไม่ทันอิ่ม .. ก็พลันได้กลิ่นปลาเค็มทอดลอยมาเตะจมูก ..
รู้ได้ทันทีว่า .. อีกไม่นาน .. ข้าวต้มร้อน ๆ .. กับปลาอินทรีทอด
ก็จะลงไปนอนกองรวมกับข้าวเหนียว หมูปิ้งเป็นแน่แท้ .. โฮะ ๆๆๆ

อิ่มแระ .. หนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน .. ง่า .. 
เอาใหม่ .. กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ..
พออิ่ม .. พวกเราก็พร้อม และเริ่มออกเดินทาง ..
โดยมีหมาน้อย ชื่อเจ้านุ่น ไม่ทราบเพศ ( ไม่ทันดูอ่ะ )  ออกมายืนส่ง ..
ตัวอ้วนน่ากิน .. เอ้ยยย ... น่ารักเชียว .. อิอิอิ
				

จุดหมายแรกของการเดินทาง .. ก็คือดอยอินทนนท์ ..
ซึ่งช่วงนี้ เป็นช่วงที่ดอกกุหลาบพันปี กำลังบานสะพรั่งทั่วยอดดอย ..
ตลอดทางขึ้นเขา ก็จะเห็นต้น "คำขาว" หรือ กุหลาบพันปีสีขาว
ออกดอกเต็มต้น .. สวยมาก ๆ เลยค่ะ ..

แต่ .. อยากบอกว่า .. ทางขึ้นเขานี่สุดยอด ..
เล่นเอาคลื่นเหียนไปหลายยก .. จะอ้วกซะให้ได้ ..
แต่ว่าเสียดายหมูปิ้งอ่ะ .. ทนไว้ .. ทนไว้ .. เฮ้ออออ ..

ท้ายที่สุด .. ทนไม่ไหว .. ก็เลยต้องเปิดกระจก .. 
สูดอากาศนอกรถ .. อาการก็ค่อยยังชั่วขึ้น ..
อุณหภูมิก็เย็น กำลังดี .. ไม่ต้องเปิดแอร์เลย ..
ตอนหลังค่อยสดชื่นหน่อย ..

เอ .. ไม่รู้ว่า .. เมารถเพราะถนนคดเคี้ยว .. กับ เมาเรือเพราะคลื่นซัด .. 
อันไหนจะพะอืดพะอมมากกว่ากันน๊าาา
สงสัยต้องไปถามคนเมาคลื่นหน่อยซะแระ .. โฮะ ๆๆๆ

				

เก็บภาพดอกกุหลาบพันปีขาวมาให้ได้ยลโฉม ..
สวยดี .. แต่ความเห็นส่วนตัวชมอักษรคิดว่า .. เหมือนดอกลิลลี่มากกว่า ..
เหมือนกุหลาบตรงไหนหว่า .. ต้นรึก็ใหญ่เชียว ..

				

"คำขาว" บานสะพรั่งเต็มต้นเลยค่ะ .. 


				

เมื่อเดินทางถึงยอดดอย .. ก็เป็นเวลาใกล้เที่ยง ..
อากาศเย็นได้ที่ .. อยากสาปส่งอากาศร้อน ๆ แถวบ้านไปเลย ..
ดอกไม้ก็มีแต่สวย ๆ .. ชมอักษรเป็นคนชอบถ่ายรูปดอกไม้ใบหญ้าอยู่แล้ว ..
ก็เลยเพลินกับการวิ่งขึ้นทางนั้นที .. วิ่งลงทางนี้ที .. เล่นซะเหนื่อยเอาการ ..
ก็ออกซิเจนบนนั้นมีน้อยกว่าข้างล่าง .. 
บวกกับวัยที่ขึ้นเลข 2 มาได้ 2-3 ปีแล้ว .. จะบอกว่าเริ่มแก่ก็ว่าได้ ..
ไม่เกี่ยวกับน้ำหนักตัวแต่อย่างใด ..ด้วยความสัตย์จริง ( 555.. เชื่อเถิดนะคะ )




				

เพื่อนร่วมชะตากรรม .. ยืนหันหลังเก๊กหล่อให้ ..
ประมาณว่า .. มุมนี้ .. ดูดีที่สุดบนยอดดอยแล้วอ่ะ .. 5555  ( ขอแซวหน่อยนะ )



				

กล้วยไม้สวย ๆ .. สีสดมาก .. เห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะวิ่งเข้าใส่ ..
คว้ากล้องไปถ่ายรูปมานะคะ .. ไม่ได้เข้าไปกิน .. อิอิอิ


				

นี่ก็สวยค่ะ .. ดอกเล็ก ๆ น่ารักดี .. อยากได้กลับมาปลูกที่บ้าน ..
แต่ก็คงได้แค่คิดค่ะ .. สภาพอากาศไม่เหมือนกัน ..
อีกอย่าง .. คงหอบหิ้วไม่ไหว .. เหะ ๆๆ 


				

หลังจากนั้นก็ไปเดินดูป่าดึกดำบรรพ์ ..
ดูพรรณไม้แปลกตานานาชนิด .. ที่นี่เป็นแหล่งรวมพันธุ์นกด้วยค่ะ ..
แต่ชมอักษรไม่เห็นนกสักตัว .. เพราะมัวแต่เล็งกล้องถ่ายพืชพันธุ์แปลก ๆ ..
ที่ขึ้นตามขอนไม้ .. พื้นดิน .. และเกาะตามกิ่งไม้เรียกได้ว่าแทบจะทุกต้น ..
สวยแปลกตาอีกแล้ว ..  พยายามซูมกล้องเข้าไปใกล้ ๆ ..
แต่ก็คงไม่เห็นเหมือนสองตาชมอักษรที่ได้เห็น .. ว่ามันเล็กมาก ๆ .. 


				

ดอกสวย ๆ .. สีสด ๆ .. ลักษณะคล้ายโคมไฟ มีชื่อว่า "โคมญี่ปุ่น" ค่ะ
สวยแปลกตาดี .. มีสีม่วงด้วยแหละ .. 
อยากได้ไปปลูกที่บ้านอีกแล้ว .. แต่ก็คงได้แค่คิดอ่ะเนอะ ..


........
				

เวลาเที่ยงกว่า ๆ กับอุณหภูมิ 10 ํ C .. คิดถึงกาแฟอุ่น ๆ  แล้วสิคะ..
ไม่ทันขาดคำ .. ก็ได้กลิ่นกาแฟโชยมา .. มองหาต้นกลิ่น ..
ร้านกาแฟอยู่ใกล้ ๆ ร้านขายของที่ระลึกนี่เอง ..
ว่าแล้วก็วิ่งไปซื้อโปสการ์ดก่อน .. เลือกอยู่นาน .. ก็ได้มา  1 ชุด มี 8 ใบ
ส่งถึงใครบ้าง .. อีก 3-4 วันก็คงจะได้รับกันแล้ว ..
ใจอยากจะส่งให้หลาย ๆ คนค่ะ .. แต่เวลาเขียนไม่มีเลย ..

หลังจากได้โปสการ์ด .. ก็เดินไปซื้อกาแฟพร้อมด้วยขนมปังกระเทียมอบมา 1 ถุง ..
หนาวจนปวดมือ .. ได้กุมแก้วกาแฟอุ่น ๆ .. รู้สึกดีจริง ๆ 



				

นี่ค่ะ .. ขึ้นตามท่อนซุง .. สีเขียวสด .. เรียกว่าอะไรใครรู้บ้างคะ ..



				

ส่วนนี่ .. ขึ้นเกาะอยู่ตามต้นไม้ .. กิ่งไม้ .. 
ดูท่าทางจะนุ่มมือ .. แต่ชมอักษรไม่กล้าจับเลย .. บอบบางมาก ๆ ..




				

มองเผิน ๆ เหมือนสวนหย่อมเลยค่ะ ..
แต่ถ้าสังเกตจากขนาดของใบไม้ .. จะรู้ได้ว่า .. 
ที่เราเห็นต้นไม้มีหนวดที่ขึ้นอยู่ทั่วพื้นดินนั้น .. เล็กมาก ๆ ค่ะ ..



				

เดินลึกเข้าไป .. ก็ได้เจอนางเอกของดอยอินทนนท์ค่ะ ..
"คำแดง" หรือ กุหลาบพันปีแดง ..
ต้นจะสูงใหญ่กว่าพันธุ์สีขาวมาก .. ดอกก็ไม่ดกเท่าสีขาว ..
แต่ชมอักษรว่า .. สีขาวดูสวยกว่าเยอะค่ะ ..


				

คำแดงต้นนี้ .. ถ่ายได้จากไกล ๆ ค่ะ ..


				

ดูกันชัด ๆ .. กุหลาบพันปีแดงค่ะ ..
ดอกเริ่มจะเฉาแล้ว .. อยู่ไม่พ้นเดือนกุมภาพันธ์ .. ก็คงจะโรยหมดต้น ..



				

เวลาก็เลยล่วงไปมาก .. ถึเวลาต้องกลับซะที ..
เพราะมีโปรแกรมที่จะไปดูหมีแพนด้าต่อ .. ( เยี่ยมญาติ .. อิอิอิ )
ระหว่างทางเดินกลับ .. ก็ยังไม่พ้นถ่ายรูปดอกไม้มาอีก 3-4 ชนิด ..
เป็นดอกไม้เล็ก ๆ ที่อาจไม่ค่อยมีคนสนใจ .. แต่ชมอักษรกลับคิดว่า .. 
ดอกไม้ทุกชนิดมีคุณค่าและความสวยงามในตัวของมัน ..
ไม่จำเป็นต้องชื่อ "กุหลาบพันปี" .. ชมอักษรก็ชอบค่ะ ..

				

ดูอย่างเช่นดอกไม้ชนิดนี้นะคะ .. ดอกเล็ก ๆ ..
ถ้ามองใกล้ ๆ จะเห็นว่ามีกลีบและสีที่สวยสดดีนะคะ ..



				

นี่ก็ดอกเล็กน่ารักอีกเหมือนกัน ..
รู้สึกว่าจะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ด้วยค่ะ ..



				

ชมอักษร .. ชอบดอกนี้ที่สุดแล้ว ..
เห็นครั้งแรกก็สะดุดตามากเลยค่ะ ..
ยิ่งไปจ้อง ๆ มอง ๆ เพื่อจะเก็บภาพมา .. ยิ่งชอบค่ะ ..
ประทับใจอย่างบอกไม่ถูก .. เป็นดอกไม้เล็ก ๆ ที่ขึ้นข้างทางค่ะ ..
ขนาดดอกใหญ่กว่าเมล็ดถั่วเขียวนิดเดียว ..
ไม่รู้ว่ามีชื่อเรียกหรือเปล่า ..
โมเมว่าชื่อ "ชมอักษร" ก็แล้วกัน .. ฮะฮะฮะ



				

กลับขึ้นมาจากทางเดินศึกษาธรรมชาติอ่างกา ..
ชมอักษรก็ไม่ลืมที่จะถ่ายรูปตัวเองไว้เป็นที่ระทึก เอ่อ ..ที่ระลึกบนยอดดอย ..
โดยมีขุนเขาที่สลับซับซ้อนเป็นฉากหลัง .. สวยดีค่ะ .. 


				

ที่เห็นยิ้มแหย ๆ แบบนี้ ..
เพราะกลัวจะหงายท้องตกลงไปน่ะค่ะ .. เหะ ๆๆ


				

ค่อยยิ้มได้กว้างกว่าภาพข้างบน .. 
แต่ก็ยังฝืน ๆ อยู่ดี .. เพราะหนาวค่ะ .. ปากแข็งยิ้มไม่ออก ..
แก้มป่อง ๆ 2 ข้าง เย็นไปหมดเลย .. เอิ๊ก ๆๆ


				

หลินฮุ่ยปรากฏโฉม .. 


				

ค่อย ๆ เดินขึ้นไปด้านบน ..


				

แล้วเธอก็นอน .. สบายจริง ๆ ..


				

หลังจากนั้น .. ช่วงช่วง .. ก็เดินออกมา
เป็นหมีแพนด้าเพศไหน ดูจากรูปก็รู้อ่ะ .. ชัดเจนมาก .. 5555

เขาออกมานั่ง .. กิน .. กิน .. กิน .. และก็กิน .. เหอ ๆๆ .. เพลินเลย ..


				

ตัวนึงนอน .. อีกตัวนึงกิน ..
เป็นอยู่อย่างนั้น .. เนิ่นนาน ..

เราก็ได้แต่รอ .. ว่าทั้ง 2 จะทำอย่างอื่นกันบ้าง ..



				

หลินฮุ่ยยังคงนอน ..


				

ช่วงช่วงก็ยังคงกิน ..


				

ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ..
แล้วช่วงช่วงก็อิ่ม .. เริ่มขยับกาย .. ลุกจากกองเศษไม้ไผ่ ..
เดินต้วมเตี้ยมไป .. ไป .. ไป .. เอ่อ .. ไปนอนอ่ะ .. เฉยเลย
เวงกรำ .. รอดูตั้งนาน .. ( ท่านอนช่วงช่วงน่าเกลียดจริง ๆ )

แล้วสุดท้าย .. แพนด้าทั้งสองก็แข่งกันนอน .. อยู่อย่างนั้น .. ไม่ขยับเลย 
งือ ๆๆ .. ไม่ทำอย่างอื่นเลยเหรอเนี่ยยย ..




				

อ้อ .. ลืมบอกไป ..

ค่าเข้าชมหมีแพนด้า คนละ 50 บาท ..
นอกเหนือจากที่จะต้องจ่ายตอนเข้าประตูสวนสัตว์ค่ะ ..

แล้วก็ .. อาหารที่หมีแพนด้ากิน .. ก็คือไม้ไผ่ที่ผ่าเป็นซีก ๆ ..
สอบถามจากเจ้าหน้าที่ .. ได้คำตอบว่า ..
แพนด้าจะเลือกกินแต่ด้านในที่เป็นเยื่อของไผ่ และส่วนที่เนื้อไม้อ่อน ๆ ..
ไม่กินอาหารอย่างอื่นเลย .. ( ถ้าเรากินแบบนั้นคงผอม .. )
ดูได้จากกองอึ .. ที่มีแต่เศษไม้ไผ่ .. สีส้มบาง .. เหลืองบ้าง ..
แต่เอ๊ะ .. แล้วทำไมแพนด้าอ้วนหว่า ?? 


..................


				

หลังจากดูหมีแพนด้าเสร็จ ..ก็ออกมาซื้อของที่ระลึก ..
ซึ่งเป็นของเกี่ยวกับแพนด้า .. มีหลายอย่างเลย ..
แต่ทุกอย่าง .. ราคาแพงหมดอ่ะ ..
เล่นเอากระเป๋าเบาไปเลย .. เหอ ๆๆ

หลังจากออกมาจากโซนหมีแพนด้า ก็แวะไปดูนกเพนกวิน ..
แต่ดูได้ไม่นาน .. ก็ได้เวลาสวนสัตว์ปิด ..
หลังจากนั้นก็ไม่มีโปรแกรมที่ไหน .. หมดไป 1 วัน ..


ส่วนโปรแกรมของอีกวัน .. เน้นหาของกินค่ะ .. 
ทั้งข้าวซอยเสมอใจ .. ขนมจีนน้ำเงี้ยว .. ร้านเค้กเจ้าอร่อย ..
สตรอว์เบอร์รี่ลูกโต ๆ .. อิอิอิ .. พูดแล้วต้องกลืนน้ำลายดังเอื้อกกกเลย .. แหะ ๆๆ


((((((  โปรดติดตามตอนต่อไป .. ชมอักษรชวนชิม .. เร็ว ๆ นี้คร๊าบบบบ ))))))