เปิดปมปริศนา ตอน 3

May_jaa

ภาค 3 .....................................
จริงเหรอค่ะแม่ภรณ์และพัฒน์ตกใจ เมื่อสุนีย์เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
แล้วพวกเราจะไปไหนกันเนี่ยพัฒน์ถาม
 เขาบอกว่าต้องการใช้บ้านเราทำงาน ก็เลยให้เราไปอยู่บ้านพักตำรวจ สุนีย์พูดตอบพร้อมกับถอนหายใจ
สมชายกำลังลงจากสะพานเชื่อมเกาะ ไปสู่ชายฝั่ง
อีกเดี๋ยวเดียวก็คงจะถึงแล้วล่ะสมชายพูด แต่ทว่าคำว่าเดี๋ยวของสมชายนั้น จะต้องไปทางลูกรัง แถมยังบุกป่าฝ่าดงอีกต่างหากตั้งประมาณเกือบ 1 ชั่วโมงกว่าจะถึงบ้านพักที่เตรียมไว้ให้ และเท่านั้นยังไม่พอ สภาพที่เตรียมไว้ให้ก็ โทรมสุดๆ เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวดูเก่าและผุพังมาก มีหญ้าและต้นไม้ขึ้นรกเต็มไปหมด
เนี่ยนะ บ้านพักตำรวจพงษ์บอก
ทำใจซะเถอะสมชายบอกแล้วเดินตามตำรวจปราโมทย์เข้าไปในบ้าน
พอๆกับข้างนอกบ้านเลยนะเนี่ยสมชายพูด
พระเจ้าภรณ์และพัฒน์ตะลึงเมื่อเข้ามาถึงในบ้าน
อาจจะดูโทรมไปซักเล็กน้อย แต่ก็อยู่แค่ชั่วคราว ไม่นานคดีก็จะคลี่คลายแล้วครับตำรวจปราโมทย์พูดแล้วเดินจากไป
ฉันอยากจะนอนยาวๆเลย  จะได้ไม่ต้องเห็นบ้านหลังนี้อีกสุนีย์พูดเสร็จ  ทุกคนก็หลับกันง่ายๆเลยในเวลา 1 ทุ่ม 45 นาที
เมื่อถึงเวลาเช้าทุกคนต่างตื่นอย่างรวดเร็ว  ละจัดการอาบน้ำ กินอาหารเช้าอย่างเหนื่อยใจ
ปึ้ง ปึ้ง ปึ้งเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ค่ะสุนีย์ขานรับ แล้วเดินไปเปิดประตู ปรากฎว่าเป็นตำรวจปราโมทย์นั้นเอง
ผมมาเรียกทุกคนไปสอบปากคำน่ะครับตำรวจปราโมทย์บอก
ตอนนี้เลยเหรอคะสุนีย์ถามต่อ
ครับตำรวจปราโมทย์ตอบ
ไปกันเถอะไปสมชายบอกแล้วขับรถตามตำรวจปราโมทย์ไปที่สน.บ้านเพ เมื่อไปถึงระหว่างที่ทั้ง 5 คนกำลังจะเริ่มสอบปากคำ
พงษ์ พงษ์ เสียงเอ๋แฟนของพงษ์ขึ้นมาเรียกพงษ์บนสน.
ผมไปก่อนนะพงษ์บอกแล้วรีบตามเอ๋ไปโดยไม่รอใครอนุญาต
ไม่ต้องรอเขาหรอกครับ เริ่มกันก่อนเลยดีกว่าสมชายพูดพร้อมกับถอนหายใจ
ในการสอบปากคำ ทุกคนก็บอกข้อมูลตั้งแต่ตื่นมาในวันเกิดเหตุ แล้วมาถึงปัจจุบันนี้ และทุกคนก็ต่างไม่มีพิรุธเลย  นับว่าการสาอบปากคำครั้งนี้ ได้หลักฐานต่างๆมากขึ้น
แล้วพี่พงษฺล่ะคะ ภรณ์พูดถามตำรวจปราโมทย์
ก็...อืม...เรียกเขาแล้วก็แพนของเขาที่ชื่อ เอ๋ มาด้วยเลยนะครับตำรวจปราโมทย์บอก
สุนีย์จึงโทรศัพท์เรียกทั้ง 2 คนมาด่วน และเมื่อทั้ง 2 คนมาถึง
เสียใจด้วยนะที่พินัยกรรมและจดหมายน่ะ เป็นของปลอมตำรวจปราโมทย์พูด คำพูดนั้นทำเอาทั้ง 2 และครอบครัวเรือนศรีอึ้งไปตามๆกัน
และ...เสียใจด้วยนะที่ทางเราทราบว่าทั้งหมดเป็นฝีมือเธอตำรวจปราโมทย์พูดต่อแล้วมองหน้าทั้ง 2 คน
อ้าว!ทำไมมาหาว่าผมทำล่ะสมพงษ์พูดเสียงตอบ
โธ่...ทำไมเราจะไม่รู้นักสืบประสงค์เดินมาหน้ายิ้มๆ  มือใหม่ก็ยังงี้แหละ  
เราน่ะ ชันสูตรศพเรียบร้อยแล้ว นักวิจัยอุไรพรเดินมาแล้วหยิบกระดาษข้อมูลมาให้ดู  พวกเราพบสารพิษชนิดหนึ่งใช้ดองงูพิษ เธอน่ะ นำสารพิษนี้ฉีดใส่เขาข้างหลังตอนเขาเผลอ และให้แฟนเธอน่ะร้องกรี๊ดเหมือนว่ายายฆ่าตัวตาย
ใช่ จากนั้นพวกเธอก็ช่วยกัน สร้างเงื่อนงำต่าง ๆ โดยช่วยกันล๊อกประตูปิดหน้าต่างอะไรพวกนั้น นักสืบประสงค์ พูดต่อไปอีก ปริศนาที่จะใช้อำพรางเป็นยายฆ่าตัวตายน่ะก็น่าจะเป็นใช้มีดปักอกหรือเชือดคอ แต่พวกเธอน่ะลืมใช้มีดปาดแผลให้เป็นร่องรอย ทำแต่เพียงดูดเลือดจากรูโบ๋ข้างหลัง นักสืบประสงค์นำรูปมาให้ดู 
โดยใช้เจ้าหลอดดูดสารที่เห็นนั่นเอง ส่วนกลไกมีดหล่นนั้น ดูท่าคงจะดูการ์ตูนโคนันมากเกินไปทำตามเชียว ก็คือว่าเขาจะผูกสลิงค์ไว้ที่ปลายมีดและประตูห้องเขาเอง โดยใช้สลิงค์เส้นเดียว เมื่อเปิดประตูไป เชือกก็จะหลุดจากประตูและตรงนี้จะมีวัตถุแข็งเล็ก ๆ ให้สลิงค์ตกลงมาอยู่ที่พื้น และรั้งให้มีดหล่นลงมาโดนสวิสต์พัดลม
ทำให้พัดลมเปิด แล้วมันก็จะม้วนเอาสายสลิงค์ไปซ่อนเก็บไว้ข้างหลังใบพัดพัดลม โดยเขาจะผูกสลิงค์อีกอันไว้กลางเส้นที่โยงประตูกับมีดเมื่อพัดลมเปิดสายสลิงค์เส้นนี้ก็จะกระชากสายสลิงค์ม้วนกลับอย่างรวดเร็ว และตามคำให้การ สมพงษ์ เป็นคนเดินเข้าห้องไปก่อน นั้นก็เพื่อไปปิดพัดลม  
ยังไงก็ไม่ใช่เรา ทำไมต้องเรา เพราะเรามาช้าหรืออย่างไร ทั้งสองเถียง
ลูก ถ้าลูกทำก็สารภาพไปเถอะจากโทษหนักจะได้เบา สุนีย์บอก
งั้นฟังต่อนะ ดูซิว่าจะเถียงออกไหม นักวิจัยพูดต่อ ไอ้ของที่กองไว้ตรงมุมบ้านน่ะ ตามให้การเช่นกัน สมพงษ์ก้ม ๆ เงย ๆ อยู่นานเลยใช่ไหม นักวิจัยอุไรพรถาม
ก็ผมหาบันไดนี่ สมพงษ์ตอบดื้อ ๆ
ไม่ใช่หรอก เธอน่ะนำของที่หนัก ๆ ในกระเป๋า คือพวกกลไกต่าง ๆ อุปกรณ์ต่าง ๆ น่ะมาทิ้งไว้ เพราะบันไดใหญ่โตซะขนาดนั้น จะหาอะไรต้องนาน นักวิจัยอุไรพรตอบ 
พวกเรา เอ๋เริ่มพูดติด ๆ ขัด ๆ 
โถ่...เอ้ย ยอมรับมาซะทีเถอะน่า โทษหนักจะได้เป็นเบา ตำรวจปราโมทย์บอก
ก็พวกเรารำคาญยายวิไลนี่ สมพงษ์หลุดปากโพล่งออกมาเบา ๆ 
ตกลง พวกเธอยอมรับแล้วใช่ไหม  ตำรวจปราโมทย์ถามเพื่อความแน่ใจ
ค่ะ เสียงเอ๋แผ่วเบามาจากปาก
เหอ...โชคดีไป ไม่งั้นได้อยู่บ้านโทรม ๆ หลังนั้นอีกนานเลย นักสืบประสงค์พูด
นี่ ลูกทำจริง ๆ เหรอ สมชาย กับสุนีย์ ถาม
เอ๋ะ ! แล้วตอนที่เรามาทำไมไม่เจอเอ๋หนีล่ะ  สุนีย์ถาม
ก็ผมเปิดประตูหลังบ้านให้เอ๋วิ่งหนีไปตอนที่แม่เดินมาข้างบ้าน แล้วผมก็ล๊อกแล้ววิ่งขึ้นชั้นบนแล้วก็กระโดดลงมาจากข้างบนห้องนะครับ  สมพงษ์สารภาพ
พวกเรา ขอโทษน่ะทุกคน พวกเราแค่รำคาญที่ยายชอบมาบ่นมาว่าพวกเราน่ะ ทั้งสองคนสารภาพต้นเหตุที่ทำให้เกิดเหตุนี้ขึ้น
ทำไมลูกทำแบบนี้ ลูกรู้ไหมว่าลูกทำบาปอย่างมาก การที่ยายบ่นว่านั้นก็ความจริง ยายหวังดีกับพวกเราทั้งนั้น แต่ไม่เป็นไรลูก ยังดีที่ลูกยอมรับสารภาพ แม้ลูกจะต้องติดคุกแต่โทษหนักก็จะกลายเป็นเบาลง พ่อและแม่บอกทั้งสองคน
ไปกันเถอะไป ดำเนินการต่อเลยดีกว่า ตำรวจปราโมทย์บอก
ครับ  ค่ะ  เอ๋ และพงษ์ ตอบด้วยสีหน้าสำนึกผิด 
	หลังจากที่ทั้งสองผ่านการจำคุกนานถึงสิบห้าปี บัดนี้พวกเขาก็อายุได้สามสิบห้าปีแล้ว เมื่อพวกเขาพ้นโทษ จึงเดินทางมาหาครอบครัวของพวกเขา เขาทั้งสองได้สั่งสอนตักเตือนทุกคน ไม่ให้ทำอะไรวู่วามเพราะอารมณ์ พร้อมกับเล่าประสบการณ์ที่ยากจะลืมของตนนั้นให้แก่ทุกคนฟัง เพื่อเป็นตัวอย่างและคติเตือนใจ				
comments powered by Disqus
  • May_jaa

    7 กุมภาพันธ์ 2549 20:02 น. - comment id 89423

    เรื่องนี้ก็จบลงแล้วนะจ๊ะ ยังไงก็ช่วยติชมมากันนะ แล้วอย่าลืมติดตามเรื่องต่อไปล่ะ............1.gif1.gif1.gif13.gif13.gif13.gif29.gif29.gif29.gif41.gif41.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน