เรื่องของจดหมายรัก

เจ้าขาว

บ่อยๆที่การกดเบอร์ถึงบางคนคล้ายกับการส่งข้อความชิงโชค
ต้องคอยลุ้นด้วยใจระทึกว่าคนนั้นจะรับหรือไม่
ครั้นเมื่อรับแล้ว ก็กลายเป็นคุยเรื่องอื่นมากมาย
สุดท้ายสิ่งที่อยากบอกนั้นก็ถูกเก็บงำเช่นเดิม
เมื่อความคิดถึงเคลื่อนไหว 
ใจพยายามหาทางออก
มือก็เริ่มเคลื่อนไหวร่ายตัวอักษรลงบนกระดาษ
จริงอยู่ที่ความยาวของหน้ากระดาษไม่อาจวัดปริมาณความคิดถึงได้
แต่ความตั้งใจนั้นย่อมถูกถ่ายทอดออกไปแน่นอน
ถึงอย่างนั้น
บางครั้ง 
ข้อความสั้นๆ ก็สามารถเดินลึกเข้าไปเคาะประตูหัวใจของผู้อ่าน
และหลายครั้ง ถึงพยายามจะเขียนให้สั้นก็กลับยืดยาว
คล้ายว่าเรื่องราวและความรู้สึกช่างมากมาย
มากเกินจะถ่ายทอดลงบนกระดาษ
แต่ที่น่าหนักใจก็คือ สิ่งที่เขียนนั้นห่างไกลจากความรู้สึกจริงๆเหลือเกิน
สุดท้ายก็กลายเป็น จดหมายที่ไม่ได้ส่ง
แต่ก็อาจจะยังดีกว่า จดหมายที่เขียนไม่จบ 
บ้างก็ค้างไว้เพียงแค่คำทักทายว่า สวัสดี  
แล้วก็ยอมจำนนด้วยทักษะภาษาอันอ่อนด้อย ซึ่งคงเป็นข้ออ้างหนึ่งมากกว่า
แม้จะเป็นเรื่องจริงที่ว่า ไม่เคยมีครบรรจุการเขียนจดหมายรักไว้ในการเรียนการสอน
แต่นั่นไม่น่าจะเป็นอุปสรรคของความตั้งใจจริง
จดหมายกว่าครึ่งถูกเขียนขึ้นใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า
ราวกับมีบรรณาธิการสุดโหดมาคอยคุมทุกตัวอักษร
บางทีก็รู้สึกว่า 
ซากกระดาษที่กองเกลื่อนพื้นห้องนั้นอาจจะบ่งบอกอะไรได้ลึกซึ้งกว่า
เป็นเรื่องน่ายินดีไม่น้อย ถ้ามีสักฉบับที่เขียนออกมาได้ดั่งใจ
แต่ถึงอย่างนั้นกว่าจะตัดสินใจหยอดลงตู้ได้ก็ใช้เวลาไม่น้อย
เคยคิดเล่นๆว่าความกลัวคงสิงอยู่ในตู้ไปรษณีย์สีแดงนั้น
ทั้งที่จริงๆแล้วมันอยู่ในใจแดงๆของเรานี่เอง
เมื่อตัดสินใจส่งแล้ว
ก็ต้องคอยเตือนหัวใจว่าอย่าได้หวังว่าจะมีอะไรตอบกลับมา
แล้วก็อย่าลืมเตือนขาของตัวเองด้วย
เพราะมันจะคอยเดินไปที่ตู้จดหมายหน้าบ้านทุกครั้งที่มีเสียงมอเตอร์ไซด์ผ่าน
ถ้าโชคดี
อาจจะมีจดหมายแจ้งค่าน้ำค่าไฟมาให้แกะอ่านแก้ขัดไปก่อน
ในยุคที่ใครๆก็มีอีเมล์
จดหมายรักที่เขียนด้วยลายมือก็ยังไม่น่าจะหมดไปง่ายๆ
ความสุขยามที่ค่อยๆเลือกกระดาษและซองจดหมาย
ถ้อยคำที่คล้ายกับลอกมาจากนิยาย
สอดใส่ซอง บรรจงติดแสตมป์ดวงน้อยอย่างปราณีต
ทั้งหมดก็เพียงเพื่อจะสื่อความรู้สึกเดียว
ความรู้สึกนั้น
ที่อาจเขียนออกมาเป็นคำหนึ่งคำ
และเมื่อจะเขียนคำนั้น  
ทุกคนก็ได้แต่หวังว่ามันจะเป็นคำพิเศษสำหรับคนที่ได้รับ
เช่นเดียวกับที่เป็นคำพิเศษของผู้เขียน
คำๆนั้น
คำที่ไม่จำเป็นต้องเขียน คนรับก็ได้อ่าน
คำที่ไม่จำเป็นต้องอ่านก็ได้ยิน และถึงจะหลับตาก็ยังรับรู้
น่ามหัศจรรย์ไหมที่ความรู้สึกยิ่งใหญ่นี้
ส่งถึงกันได้ด้วยแสตมป์เพียงสามบาท
และถึงจะพยายามแปะแสตมป์ลงไปเป็นร้อยเป็นพัน
ก็คงไม่มีประโยชน์อันใด
ยกเว้นอย่างเดียว
คุณกำลังหลงรักนักสะสมแสตมป์
/(-_-)				
comments powered by Disqus
  • ผู้ ห ญิ ง ช่ า ง ฝั น...

    19 ธันวาคม 2548 08:33 น. - comment id 88562

    อืม.ม..  เขียนได้ดีค่ะ  ชอบจัง..  
    เดี๋ยวว่างแล้ว จะมาเก็บรายละเอียดใหม่
     36.gif
  • ผืนทราย

    20 ธันวาคม 2548 23:23 น. - comment id 88581

    กระดาษบาง ๆ แผ่นขาวที่ร่ายเรียงด้วยอักขระอักษร
    ถ่ายทอดความรัก ความผูกพันธ์
    ความปรารถนาดี ห่วงใยและอาทร
    หรือความว้าวุ่น ตะขิดตะขวงในดวงใจ
    ทุกอณูของการถ่ายทอด
    คือ สู่จุดหมายและปลายทาง
  • ส้มอ่อน

    18 เมษายน 2549 02:54 น. - comment id 90451

    1.gif
  • อ่านแล้วนึกถึงเพลงนี้อ่ะ..จาก..ส้มอ่อน..อีกหน่ะแหล่ะ..

    18 เมษายน 2549 03:14 น. - comment id 90452

    It\'s amazing how you can speak right to my heart 
    Without saying a word, you can light up the dark
    Try as I may, I could never explain 
    What I hear when you don\'t say a thing
    
    The smile on your face lets me know that you need me
    There\'s a truth in your eyes saying you\'ll never leave me
    The touch of your hand says you\'ll catch me if ever I fall
    You say it best when you say nothing at all
    
    All day long I can hear people talking out loud
    But when you hold me near, you drown out the crowd
    Old Mr. Webster could never define 
    What\'s being said between your heart and mine
    
    The smile on your face lets me know that you need me
    There\'s a truth in your eyes saying you\'ll never leave me
    The touch of your hand says you\'ll catch me if ever I fall
    You say it best when you say nothing at all
    
    .........
    When You Say Nothing At All 
    ( Ronan Keating )

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน