คอย
ใบคา
ยามเช้าของเดือน ตุลาคม เดือนที่สายฝนยังโปรยปรายเป็นสายบ้างเป็นห่าบ้างแล้วแต่อารมณ์และความพอใจของเทวดาแต่ไม่เคยทิ้งช่วงห่าง
เกิน ๓ วัน แสงอาทิตย์แทงกลีบเมฆดำที่เกาะกลุ่มกันอย่างหนาแน่นมาตั้งแต่เดือนที่แล้วโดยไม่มีทีท่าว่าจะคลายความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แสงอาทิตย์ที่เล็ด
ลอดออกมาได้ก็พอจะช่วยขับไล่ความเปียกชื้นไปได้บ้างเล็กน้อย เด็กวัดเดินตามเณร เณรเดินตามพระ ออกบิณฑบาตรแล้วตั้งแต่เช้ามืด เสียง หมาเห่าหอน
ตั้งแต่ก่อนที่พระยังไม่ออกบิณฑบาตร มันเป็นหมาที่สั่งเข้ามาเลี้ยงจาก ญี่ปุ่นเห่าหอนได้ไม่เลือกเวลาข้าวก็ไม่กิน กินแต่เบนซินเป็นอาหารหลักและน้ำมัน
เครื่องเป็นอาหารเสริมที่สำคัญมันไม่รู้ด้วยว่าใครคือเจ้าของมัน มันถูกเจ้าของสั่งให้ลากเลื่อนออกไปตลาดเพื่อซื้อของมาเตรียมขายในร้านขายของตรอกเล็ก
ซอยน้อย
ในยามเช้าที่แสนจะวุ่นวายของผู้คนในอำเภอเมืองอันไกลปืนเที่ยงแห่งนี้ "ลัดดา" สาวน้อยจากเมืองหลวงผู้หลงไหลกลิ่นไอ ของชนบทเดิน
ออกมาจากซอยเล็กๆข้างโรงพยาบาล ลัดเลาะซอกตึกร้านเรือนซึ่งมีความสูงไม่เกิน ๓ ชั้นมุ่งหน้าสู่ ศูนย์เยาวชนอันเป็นสถานที่ออกกำลังกายของคนเมือง
นี้ มีถนนกั้นรอบรั้วของศูนย์อีกริมฝากถนนนั้นเป็นตึกรวงซึ่งนั่นก็มีความสูงเพียง ๓ ชั้นเช่นเดียวกัน
นี่เป็นเช้าที่ ๓ แล้วที่เธอมาออกกำลังกายในสวนแห่งนี้ ที่ๆเป็นที่เล่นกีฬาของกลุ่มเยาวชน อันซึ่งรัฐบาลจัดให้และใช้ชื่อเรียกว่า "ลานกีฬาต้าน
ยาเสพย์ติด" แต่รู้จักในนามของกลุ่มวัยรุ่นว่า "ลานกีฬาพร้อมยาเสพย์ติด" เพราะเมื่อเล่นกีฬาเสร็จไม่เกาะกลุ่มกันกินเหล้าต่อก็นั่งบ่นควันอยู่ริมสนามจน
ชินตา แต่ตอนเช้าอย่างนี้ก็กลายเป็นที่ออกกำลังกายของวัยกลางคนเพราะวัยรุ่นนั้นกลัวว่าตื่นขึ้นมาแล้วจะไม่มีอะไรจะให้กินเลยต้องนอนกินบ้านกินเมือง
ไปก่อนเพราะอย่งน้อยตื่นขึ้นมาก็ไม่ต้องตาลีตาเหลือกหาของกินอย่างไม่ลืมหูลืมตา
ลัดดา ชอบเมืองนี้มากและนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกของเธอที่เดินทางมาพักผ่อนที่นี่ เธอจะมาพักผ่อนและเยี่ยมพี่ชายทุกๆปิดภาคเรียนเนื่องจากพี่ชาย
ของลัดดา เป็นหมออยู่ ณ ที่แห่งนี้ ที่ๆไกลความเจริญทั้งๆที่เป็น อ.เมืองแต่ก็ยังเล็กกว่าตำบลหรือเขตของกรุงเทพฯหลายเท่าโดยไม่ฟังเสียงค้านของแม่พ่อ
แม้แต่น้อยและโดยสาเหตุอันใดนั้น "ลัดดา" ก็ไม่อาจทราบได้นั่นเป็นเพราะว่าความเป็นคนเงียบขรึมของพี่ชายนั่นเอง ลัดดา ชอบที่เมืองไร้คนยากไร้คนรวย
เพราะแทบทุกคนมีฐานะไม่ต่างกันนักถึงจะมีคนรวยอยู่บ้างแต่นั่นก็ช่วยเหลือกันดี ไม่มีขอทานที่ทำให้ ลัดดา ต้องควักกระเป๋าควานหาเศษเหรียญออกมาให้
เป็นประจำเหมือนอยู่เมืองหลวงทั้งๆที่รู้ว่าขอทานพวกนี้มีนายหน้าอยู่เบื้องหลังแต่เนื่องด้วยความใจอ่อนรักเพื่อนมนุษย์ของเธอจึงไม่อาจปฏิเสธคำร้องขอนั้น
ได้
ยามเช้าอย่างนี้การออกกำลังกายที่ดีคงหนีไม่พ้นกายวิ่งเหยาะๆและมันก็เหมาะกับร่างกายของเธอสาวน้อยจากรั้วมหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งของ
เมืองหลวงซึ่งเหลือเวลาในนั้นเพียงปีเดียว หลังจากนั้นเธอก็คงวิ่งแจ้นหาชนบทที่ห่างไกลเพื่อสานต่ออาชีพครูของเธอ
ทุกๆเช้าที่ผ่านมาทุกอย่งเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นจำนวนคนที่น้อยบ้างมากบ้าง สีเสื้อที่ใส่ของแต่ละคนก็เปลี่ยนกันอยู่ทุกวัน เมื่อวานป้าคนหนึ่ง
ใส่เสื้อสีเหลืองแต่ทว่าวันนี้ใส่เสื้อสีขาว เมื่อวานมาคนเดียวแต่วันนี้กลับมากับหลานบ้าง ไม่มีใครที่ทำอะไรซ้ำๆแม้กระทั่งตัว ลัดดา เองก็ยังแต่งตัวไม่ซ้ำวัน
เช่นกัน แต่นั่นก็เป็นการกระทำของคนส่วนใหญ่
ชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่ที่ม้านั่งข้างสนามบอลให้ต้นไม้ใหญ่ ด้วยเสื้อลายสก็อตกางเกงลูกฟูกขายาวขาดริ่ว ท่าทางซอมซ่อ จากการสังเกตุของ ลัดดา
ลุงคนนี้ทั้งท่าทางการนั่งเครื่องแต่งกายไม่เปลี่ยนไปเลยตลอดระยะเวลา ๓ วันที่ลัดดามาใช้บริการลานวิ่งข้างสนามฟุตบอลแห่งนี้
"สวัสดีค่ะ" ลัดดา ปล่อยให้ความสงสัยหยุดแค่นั้นเดินเข้าไปทักทายทันที
คำตอบรับที่เธอได้คือความเงียบ
เธอไม่สนใจว่าคำตอบรับที่ได้จะเป็นอย่างไร ลัดดา เข้าไปนั่งใกล้ทันที
"โทษนะค่ะ ! หนูเห็นลุงมานั่งตรงนี้ทุกวันเลยคอยใครหรือเปล่าค่ะ"
เหมือนเดิมคำตอบที่ได้คือความเงียบ
ไม่ว่าเธอจะชวนคุยอย่างไรก็ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากปากของชายชราคนนั้นเลยแม้แต่น้อย จน ลัดดา ไม่รู้จะขุดเอาคำพูดอะไรมาชวนคุยอีก
เธอก็นั่งเงียบไปสักพัก ไม่ช้าท้องฟ้าก็มืดครึ้มฝนตั้งเค้าจะตกลงมาแต่แปลกที่ไม่มีลมโกรก ผู้คนก็ไม่มีใครแตกตื่นหนีฝนกัน ลัดดาจึงไม่สนกับเหตุการนั้นเมื่อ
นั่งอยู่ครู่หนึ่ง ลัดดา ก็จนปัญญาจึงลุกขึ้นขณะที่ชันตัวยืนขึ้นนั้นหน้าของเธอก็ค่อยๆเงยขึ้นพร้อมกับการชันตัวท้องฟ้าที่ทำท่าจะมืดครึ้มเมื่อไม่นานมานี้พลัน
ดำสนิททำให้ ลัดดา งงอยู่พักใหญ่เธอหันไปมองชายชราข้างก็ไม่มีไม่รู้หนีฝนไปตั้งแต่เมื่อไหร่เธอยกมือทั้งสองขึ้นขยี้ตาครั้งหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้
หน้ามืดตาลายไปเอง
ทันทีที่ ลัดดา ลืมตามองดู ที่ๆเธอยืนอยู่กลับไม่ใช่ที่เดิมแล้วไม่มีตัวเธอไม่มีใครมีแต่ป่ารกร้าง ฝัน! จิตสำนึกแรกที่โพล่งเข้ามาในตัวเธอ
"เอาจริงๆหรือ" เธอรีบหันมองไปตามเสียงทันที่ ภาพที่เธอเห็น เป็นภาพชายวันรุ่น ๒ คนกำลังนั่งคุยกันอยู่ในกระท่อมกลางป่า
"เฮ้ย!" เสียงแรกย้ำเรียกหาคำตอบหลังจากที่ไม่ได้รับคำตอบจากเพื่อน
"แน่นอน" เสียงชายใส่เสื้อลายสก็อตกางเกงลูกฟูกขายาวใหม่เอี่ยมตอบ
"มันหยามกูมากเลยนะเว้ยไอ้ ดำ มันข่มขืนเมียกูแล้วยังเอาไปขายต่ออย่างนี้จะให้กูทำไงว่ะ มันจ้างเราไปเก็บคู่อริให้แต่พอ ให้น้อยเมียกูไปทวง
เงินมันกลับทำอย่างนี้มไมันก็กูต้องตายกันไปข้างล่ะ" เขาตอบด้วยความเครียดแค้น
หลังจากตั้งใจฟังอยู่นาน ลัดดา จับใจความได้ว่าทั้งคู่เป็นมือปืนและได้รับงานฆ่าคนให้กับนายจ้างแต่ต้องหลบตำรวจจึงส่งให้เมียไปรับเงินค่าจ้าง
ที่เหลือแทน
ทันใดทั้นเองรามศูรก็พลันทำขวานหล่นลงมาเป็นสายฟ้าผ่าจ้าไปหมด ทำให้ ลัดดา มองอะไรไม่เห็นอีกเมื่อหายจากอาการแสบตาจากแสงฟ้าผ่าฟ้า
แลบภาพที่ลัดดาเห็นคือ ชายผู้สวมเสื้อลายสก็อต กับ นายดำเพื่อนของเขากำลังใช้ปืนลูกโม้จ่อขนับคนๆหนึ่งอยู่ในห้องนอนโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าหลังบ้านนั้น
มีวงเหล้าของลูกน้องเจ้าพ่อคนนั้นตั้งวงกันอยู่นับ ๑๐ คน
"มึงรู้ไหมกูเป็นใคร" ชายชุดสก็อตถามเบาๆแบบกัดกรามถาม
"ใคร" เสียงเสี่ยตอบมาเบาๆ
โป้ง!
"ชาติ" เขาบอกชื่อ "คนที่มึงเอาเมียมาทำของเล่นไง"
"ไป ดำ" ชาติ ชวนเพื่อนออกไปอย่างช้าโดยไม่ทิ้งนิสัยโจรที่จะต้องหยิบของมีค่าติดไม้ติดมือไปด้วย
แต่ช้าเสียแล้ววงเหล้าหลังบ้านได้ยินเสียงปืนรีบแห่กันมาดูเห็นทั้งคู่กำลังหนีออกจากบ้านไปทางป่าละเมาะหน้าบ้าน
เปรี้ยง!
เสียงลูกซอง แฝดดังตามหลังทันทีตะกั่วทั้ง ๙ เม็ดพุ่งตรงเข้ากลางหลังชาติครบทุกเม็ดแต่เนื่องด้วยระยะที่ไกลพอดูจึงทำให้ตะกั่วทั้ง ๙ นั้นบานออก
ไม่เกาะกันเป็นก้อนแต่นั่นก็ทำให้ ชาติ หยุดการเคลื่อนไหวในทันที
"ไหวไหม" ดำถาม
"อือ" ชาติคราง
"อย่งนี้ไม่ไหวแน่ แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูจะล่อมันหนีไปที่อื่นแล้วกลับมาช่วยมึง"
ชาติเพียงแต่จับมือ ดำ เบาๆเป็นสัญลักษณ์ว่า อย่างทิ้งกูนะ
"กูเคยทิ้งมึงหรือ มึงคอยอยู่นี่อย่าไปไหนนะเดี๋ยวกูมา บางทีกูอาจจะไปหาหัวหน้าเก่ากูมาช่วยอยู่ใกล้ๆนี่เองโดนแค่นี้ไม่ถึงตายหรอก"
"อย่าไปไหนนะมึง" ดำกำชับ
แล้วดำก็ยิงปืน ดัง ปัง เพื่อล่อให้กลุ่มนั้นตามเขาไป
ผ่านไปครู่ใหญ่ ก็มีเสียงเรียก "ชาติๆ" เบาๆ
ชาติ ขานรับ โป้งๆๆๆๆๆ เสียงปืนดังถี่ยิบร่างของ ชาติ พรุน
ลัดดาอยากจะตะโกนอยากจะร้องแต่ก็ทำไม่ได้ เหมือนมีอะไรมาบีบไว้ให้ดูเฉยๆ
"ลัดดาๆ" เธอหันกลับไปตามเสียงเรียกทันที ภาพที่เธอเห็นคือพี่ชายของเธอเดินเข้ามาหาจากกลางสนามฟุตบอล(เดินลัดสนามมา)ท้องฟ้ายังคง
มัวฟ้ามัวฝนเหมือนเมื่อตอนที่เธอออกจากบ้านมา ทุกคนต่างวิ่งออกกำลังกายหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชายชราคนนั้นก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เธอหันไปมองพร้อม
ยิ้มอย่าง งงๆ แต่ไม่ทันได้คิดอะไรต่อพี่ชายเธอก็เดินเข้ามาถึงแล้ว "พี่จะมาบอกว่าวันนี้พี่ไม่กลับบ้านเพราะต้องไปสัมมนาเอ้า!นี่กุณแจบ้าน" พี่ชายเธอยื่นกุญแจบ้านให้
พร้อมเดินไปทันทีด้วยความรีบ ตอนนี้ ลัดดา ก็อยากกลับบ้านแล้วเช่นกันเพราะรู้สึกสับสนเรื่องเมื่อกี้มากแต่เธอก็คิดแค่ว่าคงเผลอนั่งหลับไปเพราะเมื่อคืน
นอนดึกไปหน่อยไม่ทันโบกมือลา ชายชราคน นั้น แกก็พูดออกมาลอยๆว่า "ลุงชื่อ ชาติมานั่งคอยเพื่อนนานแล้วยังไม่มาเลย"
*************