ความคำนึงถึงสายน้ำ
อนาลัย
5 ธันวาคม 2548
ถ้าจะนับวันนี้เป็นวันครบ 44 ปีเต็ม ก็คงจะไม่ผิด เพราะพรุ่งนี้ ก็ถึงวันเกิดของเราแล้ว นั่งเขียนบันทึกริมหนองน้ำเก่า ที่เราเคยชอบมานั่งเล่น ดูนกเป็ดน้ำและดวงตะวัน
ยังคงมีนกบินเป็นฝูงอยู่เหนือหนองน้ำนี้ แต่ว่าเหลืออยู่ฝูงนิดเดียว เสียงนกร้องหายไปแล้ว ได้ยินแต่เสียงรถมอเตอร์ไซด์ดังอยู่ทางฝั่งโน้น กลางบรรยากาศอย่างนี้ก็มีผู้คนอีกหลายกลุ่มมานั่งเล่นดูนกและพระอาทิตย์ตกดิน ในโลกของความวุ่นวายปัจจุบัน คงมีผู้คนอีกมากที่ต้องการความสงบเงียบเพื่อพักผ่อน..แม้จะเพียงชั่วครู่
ท้องฟ้าทิศตะวันตกเริ่มเป็นสีส้มอมเหลือง เมฆสีทะมึนขลิบทองก้อนใหญ่ดูลึกลับ แต่สวยงามอย่างน่าพิศวง เหนือก้อนเมฆนั้นเป็นวิมานของทวยเทพองค์ใดหนอ หรือเป็นแค่เพียงกลุ่มละอองไอน้ำที่รอคอยเวลากลั่นตัวมาเป็นหยดน้ำในไม่ช้านี้
มองไปข้างหน้าที่หนองน้ำฝั่งโน้น กำลังมีการก่อกองไฟ ไอควันสีเทาลอยตัวขึ้นสู่ฟ้าอย่างอ้อยอิ่ง แค่เพียงชั่วครู่เปลวไฟสีเหลืองอมส้ม ก็โชติช่วงท่ามกลางกลุ่มไอควันสีเทานั้น กองไฟดูสวยงามอย่างน่าประหลาดใจ เราไม่เคยมองเห็นได้อย่างนี้มาก่อน
พระอาทิตย์ดวงกลมโตใกล้จะลับขอบฟ้าแล้ว
ลมหนาวโชยมาปะทะใบหน้า.... หนองน้ำฝั่งที่เรานั่งนี้คงไม่อบอุ่นและสวยงามเท่ากับฝั่งโน้นหรอกนะ เสียงหัวเราะประสานกันดังแว่วมา ท่ามกลางความจริงใจของผองเพื่อน จะมีความสุขสำราญใดเล่ามาเปรียบเปรยกันได้
กลางหนองน้ำมีนกเป็ดน้ำ 2 ตัว ลอยคออยู่ ก่อนโน้นมีผักตบชวากอใหญ่และหมู่นกเป็ดน้ำมากมาย แต่วันนี้มองเห็นเพียงน้ำใสๆ กอผักตบชวาหายไป นกเป็ดน้ำก็เลยหายไปด้วย ....
คิดถึงเธอนะ...เพื่อนของฉัน กับยามเย็นอย่างนี้ เธอคงอยู่กับครอบครัวที่อบอุ่น ฉันได้แต่หวังให้เธอมีรอยยิ้มที่แจ่มใส และมีความสุขที่เบิกบาน
ได้แต่บอกความห่วงใยไปกับสายน้ำ ละอองน้ำที่กำลังระเหยล่องลอยไป บอกความรู้สึกไปกับสายลม บ้านของเราอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ ไม่เกินค่ำคืนนี้ เธอก็คงรับรู้ได้
แสงสว่างของพระอาทิตย์ใกล้จะหายไปแล้ว กลิ่นกองไฟลอยตัวมาถึงฉัน เหมือนอยากจะบอกว่า คงอีกไม่นานหรอก กลิ่นไอความคิดถึงของฉันก็จะพัดพาไปถึงเธอเช่นกัน
พื้นผิวน้ำกระเพื่อมพริ้ว สะท้อนแสงสีแดงอมส้มของพระอาทิตย์ที่ลับหายไปแล้ว แมลงกลางคืนเริ่มส่งเสียงร้อง คงส่งสัญญาณหากันและกัน และฉันก็คงต้องกลับบ้านเสียที
ฝากความรักและความปารถนาดีไปถึงเธออีกครั้ง ฉันยังหวังอยู่เสมอนะว่าเราคงจะได้พบกัน แต่ไม่เคยคิดหรอกว่าจะเป็นเมื่อไหร่ วงเวียนและถนนแห่งชีวิตของเราแตกต่างกันมากมาย เราต่างมีสิ่งที่จะต้องรับผิดชอบ เราต่างก็มีคนที่เรารัก ต้องใส่ใจดูแล แค่ความเป็นเพื่อน และความสุขในวัยเด็กที่มีอยู่ในใจ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
แมลงปอจับคู่ล้อเล่นลมเหนือผิวน้ำ ฉันยืนมองอย่างอัศจรรย์ในใจ ไม่เคยเห็นลีลาแมลงปอจับคู่บินโฉบเฉี่ยว เหมือนคู้เต้นรำโยกพลิ้วสวยงามในสนามแข่งขัน ชีวิตของแมลงปอเช่นพวกเจ้านั้นสั้นนัก แต่ฉันขอให้ชีวิตของเจ้านั้นมีความสุขอย่างนี้ตลอดไป
แสงของพระจันทร์เสี้ยว และดาวประจำเมืองเริ่มดูเรื่อเรืองงามจับตา ฉันคงต้องจบบันทึกฉบับวันนี้แล้ว
ลาก่อนนะหนองน้ำ ดวงดาวและแสงตะวัน อีกไม่นานพระจันทร์ดวงเสี้ยว และ ดาวประจำเมืองก็คงจะลับหายตามไปด้วย ขอฝากความปรารถนาดีไปมอบให้เพื่อนของฉันด้วย ขอให้ค่ำคืนนี้เพื่อนทุกคนคงหลับและฝันดี และถ้ามีเวลาอีกเมื่อไหร่ ฉันก็จะกลับมาที่นี่อีก ความสุขของฉันมีอยู่ที่นี่มากมายจริงๆ
ลาก่อนนะแมลงปอเพื่อนใหม่ และหนองน้ำใสที่ดูเหมือนว่ากำลังจะหลับตา ระลอกคลื่นที่กระเพื่อมไหวกระทบฝั่ง คล้ายจะรับรู้กล่าวคำอำลา แม้ฉันอาจจะหวังถึงวันที่จะได้พบกับใครๆ แต่ฉันก็รู้ดีว่า สำหรับหนองน้ำที่นี่แล้ว อีกไม่นานหรอก ฉันคงได้กลับมานั่งเล่นและเขียนความรู้สึกอย่างนี้เก็บไว้บอกหัวใจตัวเองตลอดไป
ในความวุ่นวายของหัวใจ
กับความอาลัยที่ก่อตัว
เป็นความรู้สึกที่น่ากลัว
หม่นมัวหมองเศร้าร้าวราย
บอกเล่าได้เพียงกับสายน้ำ
หวังความขื่นขมจมหาย
บอกเล่าเรื่องราวร้ายร้าย
หวังเรื่องกลายไปเป็นดี
บอกเล่าไปกับสายลม
เก็บความขื่นขมไว้ในใจนี้
ฝากไปแต่ความหวังดี
ขอให้มีแต่ความชื่นบาน
ฝากบอกไปกับละอองไอน้ำ
จดจำแต่คำอ่อนหวาน
ความรู้สึกที่สุขสำราญ
ซึมซับผ่านไปให้เธอ
ฝากบอกไปกับดาวและเดือน
ย้ำเตือนว่าห่วงเสมอ
แม้ไม่มีวันได้พบเจอ
ดาวและเดือนเป็นเพื่อนเธอทุกดวง