ทำไมผู้ชายไม่ชอบมีพันธะ? นั้นน่ะซิ!...ทำไมผู้ชายไม่ชอบมีพันธะ...คะ... ผู้ชายทุกคนอยากมีแฟน แต่มีผู้ชายจำนวนน้อยเท่านั้น ที่ร้อนรนอยากแต่งงาน เราจะเห็นได้จากการคบกันเป็นแฟนของชายหญิง ตั้งแต่สมัยมัธยม มหาวิทยาลัย จนกระทั่งเริ่มทำงาน ฝ่ายหญิงส่วนใหญ่จะใฝ่ฝันถึงตอนจบของความสัมพันธ์ครั้งนี้เป็น...การแต่งงาน แต่ฝ่ายชายส่วนใหญ่มักจะทำตัวเป็นแฟนไปตลอดอยากอยู่ด้วยกันเฉยๆ แต่ไม่มีอนาคต ไม่มีฉากแต่งงาน หลายคนสอดส่ายสายตามองหาหญิงอื่นไปเรื่อยๆ ทิ้งให้ผู้หญิงคนแรกของเขาเจ็บตอนจบ .... ผู้ชายสมัยนี้ ไม่ว่าจะหล่อเข้ม หล่อตี๋ หล่อลูกครึ่ง ยุโรป อเมริกา การศึกษาสูงระดับด็อกเตอร์ หรือเรียนไม่จบสักอย่าง ฉลาดหรือโง่ ไม่เว้นว่ารวยหรือจน ร้อยทั้งร้อยต่างก็กลัวการผูกมัดกันทั้งนั้น เป็นเพราะอะไร เรามาลองช่วยกันหาเหตุผลของเขาดีกว่า 1. กลัวการรับผิดชอบ พวกผู้ชายหลายคนได้รับการสั่งสมความคิด และรับรู้กันมาว่า การแต่งงานคือการผูกมัดต้องมอบชีวิตทั้งหมดให้ครอบครัว ซึ่งพวกเขาจะต้องรับผิดชอบภรรยาและลูกๆ ที่จะเกิดมาทำให้พวกเขาแค่นึกก็ขยาดขนหัวลุก เลยพากันคิดว่าอยู่อย่างนี้ดีแล้วไม่ต้องรับผิดชอบใคร 2. กลัวขาดอิสระ ชีวิตส่วนใหญ่ของเพศชาย มีอิสระล้นฟ้า จะทำอะไร จะไปไหนก็ได้ พ่อแม่ไม่ถือ อาจจะบ่นจะว่าบ้าง แต่ก็ไม่รุนแรง หายหัวไปนอนบ้านเพื่อนสองอาทิตย์ กลับมาก็ยังได้รับการต้อนรับจากครอบครัวเหมือนเดิม สำมะเลเทเมาแค่ไหนก็ได้ มีแฟนกี่คนก็ได้จะรีบมีเมียไปทำไม 3. กลัวไม่ได้ทุ่มเทกับงาน ผู้ชายบางกลุ่มมุ่งมั่นในอาชีพการงาน ชอบการแข่งขัน เพื่อไขว่คว้าหาความก้าวหน้า คนพวกนี้คิดว่า การมีครอบครัวจะขัดขวางเวลาในการทำงาน กลัวทำงานดึกไม่ได้ กลัวไปกินดื่มสังสรรค์กับเจ้านาย และลูกค้าไม่ได้อย่างที่เคย เขาจึงไม่อยากผูกมัดกับหญิงใด 4. กลัวอดเที่ยว ผู้ชายทุกคนชอบเที่ยว บางกลุ่มชอบเที่ยวกลางคืน เฮไหนไปนั่น อยู่กับเพื่อนทั้งวันทั้งคืน บางกลุ่มชอบผจญภัย ชอบขับรถออฟโรด ตะลุยไปทั่วป่าเขาลำเนาไพร ผู้ชายกลุ่มนี้จะทุ่มเทเงินกับการแต่รถ ซื้ออุปกรณ์เดินป่า ไม่อยากมีลูกเมียให้เป็นพันธะให้ต้องเป็นห่วง 5. กลัวเพื่อนหาย เป็นที่รู้กันแล้วว่า ผู้ชายชอบจับกลุ่มอยู่กันเป็นฝูง เพื่อส่องหญิง จีบหญิงแข่งกัน หรือแต่งรถแข่งกัน หาเรื่องมาแข่งขันกัน เช่น พนันฟุตบอล เล่นเกมต่างๆ คุยใหญ่โตทับกัน เพราะหัวใจของผู้ชายชอบการแข่งขัน ถ้ามีเมีย เขากลัวว่าจะกลับมารวมกลุ่มกันไม่ได้ 6. กลัวว่าตัวเองจะกลัวเมีย ผู้ชายหลายคนนะ...ที่รักผู้หญิงแบบเทิดทูน แต่พวกเขาก็ยังรักตัวเอง รักชีวิตแบบเดิมๆ ของตัวอง ดังนั้นพวกเขาอาจจะไม่อยากแต่งงาน เพราะเกรงว่ามีครอบครัวไปแล้วจะกลายเป็นคนกลัวเมีย หลงรักลูก ไม่กล้าไปทำอะไรอย่างที่เคยๆ แล้วก็กลัวถูกเพื่อนล้อด้วย... 7. กลัวเซ็กซ์หดหู่ เคยบอกแล้วววว...ว่าเซ็กซ์เป็นสิ่งสำคัญในอันดับต้นๆ ของเพศชาย การเป็นโสดของผู้ชาย อาจหมายถึงการใช้ชีวิตเซ็กซ์อย่างอิสระเสรี มีเพศสัมพันธ์อย่างตื่นเต้นกับหญิงแปลกหน้าไปเรื่อยๆ ถ้าการมีเมียหมายถึง การต้องมีเซ็กซ์กับผู้หญิงคนเดียวพวกเขาจะรีบมีไปทำไม 8. กลัวญาติ (เมีย) เยอะ ผู้ชายไม่ชอบความวุ่นวาย เพศชายส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องก้มหัวให้ใครแบบเพศหญิง ถ้าการแต่งงานหมายถึงเขาจะต้องเข้าไปจำยอมอดทนกับ พ่อตา แม่ยาย สารพันญาติกาโหติโกของภรรยา เขาคงต้องหลีกเลี่ยงแน่ๆ ผู้ชายหน้าไหนจะอยากแกว่งเท้าหาเสี้ยน 9. กลัวผู้หญิงเปลี่ยนไป ผู้ชายอาจรับรู้มาจาก พ่อ แม่ ของเขา หรือจากครอบครัวเพื่อนว่า ผู้หญิงที่เป็นแฟนกับเป็นเมียต่างกันลิบลับ เช่น แฟนน่ารัก เมียขี้บ่น แฟนหุ่นดี เมียอ้วนพะโล้ ฯลฯ (แล้วผู้หญิงก็มักเป็นเช่นนี้ซะด้วย!...) ผู้ชายพวกนี้จะคบผู้หญิงแค่เป็นแฟน แต่ไม่ยอมแต่งงาน 10. กลัว เพราะเห็นแก่ตัว จากการที่มนุษย์เพศชายส่วนใหญ่ในสังคม ทำให้พวกเขาเคยชินกับอาการใหญ่โตของพวกเขา และเห็นแก่ตัวเกินไป ที่จะต้องเสียสละอันใหญ่หลวง ด้วยการแต่งงาน ผู้ชายบางคนบอกว่าไม่มีเมีย เพราะกลัวเมียมาแย่งกินแย่งใช้...เฮ้อ! อย่างนี้ก็มีด้วยแฮะ... มาถึงตรงนี้แล้ว อยากจะบอกว่าผู้หญิงหลายคนก็กลัวการแต่งงานเช่นกันนะคะ เพราะภาระการเป็นเมียก็ยิ่งใหญ่ไม่น้อยหน้ากัน โดนเฉพาะการเป็นแม่ ผู้หญิงต้องลำบากกว่าผู้ชายหลายเท่านัก แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักกล้าหาญ เรียกร้องการผูกมัด อยากเข้าพิธีแต่งงาน อยากเป็นเมีย อยากเป็นแม่ ... ว่าแต่ถ้าจะให้ได้เป็นแน่ๆ ต้องทลายกำแพงความกลัวทั้งหลายเหล่านี้ของผู้ชายให้ได้ก่อนนะคะ หากทำให้ผู้ชายหายกลัว หลวมตัวมาแต่งงานด้วยได้...ก็ขออวยพรให้มีความสุขตลอดไปนะคะ ......... ข้อมูลจาก นิตยสาร คู่รัก คู่ชีวิต ฉบับที่ 150 ประจำเดือนกันยายน 2548 ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
8 ธันวาคม 2548 07:23 น. - comment id 88448
พี่เหมียวกั๊บป๋ม สำหรับเอม เอมกลัวข้อสองเป็นที่สุด แห่ะ แห่ะ แบบว่า ..... กลัวขาดอิสระ ที่จะทำอะไรตามใจตัวเอง เพราะการมีใครพิเศษสักหนึ่งคน ถึงแม้ไม่ได้หมายถึงขั้นเป็นสามีภรรยาก็ตาม จะไปไหนทำอะไรก็ต้องเกรงใจกันไว้ก่อน อยากไปเที่ยวไหนก็จะตามใจตัวเองไม่ได้แหละ เพราะว่ามีใครอีกคนเค้าคอยห่วงเราเหมือนกัน เอ่แล้วแบบนีมันดีหรือไม่ดีดีคะพี่เหมียว
8 ธันวาคม 2548 08:48 น. - comment id 88451
สวัสดีนู๋เอม... แวะมาทานขนมรึวันนี้.....555555 ขอบคุณนะที่แวะมานั่งคุยกันทานขนมไปด้วย..ไม่เหงา...ว่าไหม... ใช่...คนเราเป็นแฟนกันมันต้องมีการเกรงใจกันบ้าง ไม่ใช่ทำไรตามใจตัวเองไปหมดนะ..นั่นมันไม่ดี....... ...พี่เองอ่านเจอในเว็ปนะ ก็เลยเอาลง ให้เพื่อนๆ บ้านไทยได้อ่านกันนะ เห็นว่ามันสาระดีนะ สาระสำหรับคนโสด.....อิอิอิอิ...... พี่นะชอบอ่านแต่เขียนกลอนไม่เป็น....... ..พูดไปแล้วสำหรับพี่เอง ก็ยังหวงความโสดเลยตอนนี้นะ ยังไม่อยากแต่งงานหรอก...555555 (อันที่จริงแล้วไม่มีมาขอเรานะสิ...555555555) ขนาดแฟนก็ยังบ่มีเลย(ไกลกันะแฟนนะ ไอ้เราก็ไปขี้ตู่ว่าเขา เป็นแฟนเราซะแล้ว เขายังไม่ได้เราสักกะหน่อยว่าเราเป็นเขา....55555555) ...กลัวเที่ยวไม่หนุก...และอีกอย่างก็กลัวไม่เป็นอิสระนะค่ะ.... เพราะพี่มันเป็นนักเดินทางนะ.. ..ไม่ต้องมานั่งงอนง้อกันใช่เปล่า.... ปล. ถ้ามีใครเป็นห่วงเรามันดีนะ คอยคิดถึงเรา ถามข่าวว่าเป็นไง จะมีไรสุขเกินดีคุณน้องขา...5555555 ไปล่ะ โมมากแล้ว เดี่ยวน้องเอมขี้เกรียจอ่านนะ.. ดูแลสุขภาพนะ........
8 ธันวาคม 2548 15:00 น. - comment id 88465
สวัสดีค่ะ น้องเหมียว สำหรับพี่ พี่กลัวใจตัวเองมากกว่า ที่จะกลัวใคร ๆ เพราะพี่เป็นคนชอบทำอะไร ตามใจตัวเอง... ไม่มีแบบแผน คิดจะทำอะไรก็ทำ... จึงไม่เหมาะที่จะแต่งงาน แต่ผู้ชายบางคน หรืออาจจะหลายคน ก็มันไม่เสมอไปหรอกคะ เท่าที่เคยเจอมามีอยู่คนหนึ่งนะ เค้าไม่กลัวที่จะขาดอิสระ ไม่กลัวที่จะรับผิดชอบ ไม่กลัวอะไรเลย... แต่เรากลับกลัวใจตัวเอง...
9 ธันวาคม 2548 01:47 น. - comment id 88480
สวัสดีค่ะ...คุณพี่ขา.... พูดๆๆ ไปแล้ว หวงความโสดหรอค่ะ....หิหิหิ..... แซวเล่นนะอย่าคิดมากนะค่ะ..... ดูแลสุขภาพนะพี่มะกรูด...เป็นห่วงค่ะ...