เรื่องเล่าจากแอฟริกา : อายุยืนนะมึง
..สายลมทะเล..
แป๊ะเป็นนายสิบแผนที่ที่จับผลัดจับผลูสอบมาทำงานกับสหประชาชาติ ด้วยความที่เป็นมือใหม่ไม่ประสาโลก ก็เลยหาที่ซุกหัวนอนไม่ได้ ต้องมาออดอ้อนขอเช่าบ้านอยู่กับผม..ผมเจอใครผมก็บอกอย่างนี้ แป๊ะเจอใครแป๊ะก็บอกอย่างผม..ผู้กองแกเป็นผู้สังเกตการณ์ทางทหารอยู่ในเมืองหลวงตัวคนเดียว เห็นแล้วอดสงสารแกไม่ได้ เลยรับมาอยู่เสียด้วยกัน ..ก็ไม่รู้ใครพูดจริงกว่ากัน แต่ที่แน่ๆ เราก็ดูแลกันและกันเป็นอย่างดี
แป๊ะนิสัยดีเกือบทุกอย่าง เสียแต่ขี้กังวล ยอมคนมากไป ช่างโลเล ไม่เคยตัดสินใจได้เอง ฉลาดแบบเซ่อๆ กรนดังกว่าโรงสี และช่างซักช่างถามยิ่งกว่าเด็กสามขวบ เรื่องขี้กังวลคิดมากโลเลไม่เด็ดเดี่ยวนั้น ผมอบรมและสอนแป๊ะทุกคืน เรื่องฉลาดในเรื่องโง่ๆ เซ่อในเรื่องควรรู้ และซื่อในเรื่องน่าเตะนี่ ผมพยายามให้อภัยและหยวนๆ มาตลอด..เข้าใจว่า เรื่องแบบนี้ไม่อาจพัฒนาได้ในช่วงข้ามคืน
แต่สำหรับแป๊ะ..ดูท่าข้ามชาติก็คงพัฒนาไปไม่ไหว
เรื่องเดียวที่ผมยังคงอึดอัดอยู่ในใจก็คือ แป๊ะชอบเล่นไฟขณะขับรถตอนกลางคืน แป๊ะมักจะกระพริบไฟสูงบ่อยมาก เรียกว่าทุกๆ สิบเมตรก็ว่าได้ ผมทักทุกครั้งเวลานั่งไปด้วย แป๊ะก็มักอ้างว่ามองไม่เห็น
ก็ผู้กองดูซิคนดำเดินบนถนนเหมือนว่าเป็นทางเท้า มืดก็มืด ดำก็ดำ ใครจะไปมองเห็นล่ะครับผู้กอง
ก็ขับช้าๆ ซิแป๊ะ
แล้วแป๊ะก็ลดความเร็วลง แต่ไม่วายเล่นไฟเหมือนเดิม
อ้าวยังมองไม่เห็นอีกเหรอ ผมถาม
เปล่าหรอกครับผู้กอง ผมไม่มั่นใจนะ แล้วแป๊ะก็ขับแบบสบายใจแป๊ะต่อไป
ผมรำคาญกับการกระพริบไฟแบบแมวหยอกแมงสาบของแป๊ะเต็มทน เลยบอกให้เปิดไฟสูงขับไปเลย แป๊ะก็ปฏิเสธว่าไม่ได้หรอกผู้กอง ขับไฟสูงผมก็ไม่เห็นผิวถนนใกล้ๆ นะซิ ขับสูงๆ ต่ำๆ แบบนี้นี่แหล่ะปลอดภัยดี.. มิวายที่ผมจะชักเหตุผลร้อยแปดมากรอกหู แป๊ะก็ยืนยันว่า..นี่นะดีสุดๆ แล้ว
ก็ในเมื่อแป๊ะมั่นใจขนาดนั้น..ผมเลยขี้เกียจสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ จึงนั่งหน้าเป็นแมวเบ่งขี้ไปจนถึงบ้าน
วันนี้กลับมาถึง จู่ๆ แป๊ะก็ถามขึ้นมาว่า
Have a long live. แปลว่าอะไรครับผู้กอง ผมขับรถไปส่งเพื่อน ตอนจอดรถส่งมันที่หน้าบ้าน มีรถอีกคันจอดอยู่ฝั่งตรงข้าม ฝรั่งยูเอ็นนั่งอยู่ข้างใน ทางค่อนข้างมืดถนนก็แคบ ผมเลยกระพริบไฟตรวจสอบสภาพผิวทางไปสิบกว่าครั้ง พอจะออกรถ มันก็ขับรถมาเทียบ พอดีผมเปิดกระจก ได้ยินมันตะโกนว่า Have a long live ผม Thank you มันไปทีนึง นึกอยู่ในใจ เออแฮะ อยู่มาตั้งนาน เพิ่งเจอฝรั่งอัธยาศัยไมตรีดี จู่ๆ ก็ทักทาย..สงสัยจะรู้ว่าเราเป็นคนไทย
ผมนั่งฟังแป๊ะยิ้มๆ
แล้วแป๊ะคิดถึงอะไรล่ะ
ผมก็นึกนึง Long live the King นะครับ ขอจงทรงพระเจริญอะไรทำนองนั้น
ผมส่ายหน้าด้วยความเวทนา
แป๊ะเอ้ย ไอ้ที่แป๊ะแท้งคิ่วแล้วนั่งยิ้มแก้มปริมาตลอดทางนะ แปลเป็นไทยได้ว่า
ขับรถกวนตีนแบบนี้..ให้อายุยืนนะมึง
อ้าว! ผมทำอะไรผิด อย่างนี้มันเว่อร์ไปหรือเปล่า
มันไม่เว่อร์หรอก เพราะถ้าเป็นพี่
พี่จะตะโกนว่า Have a short day เถอะมึง แล้วก็ยิงสวนเข้าแสกหน้าด้วยลูกซองแฝด
ฮ่ะๆ ผู้กองพูดเล่นใช่มั๊ย
เออ พูดเล่น แต่ Have a long live นะของจริง คราวหน้าก็จำไว้ล่ะ
ครับผู้กอง แป๊ะพยักหน้ารับ คราวหน้าผมจะไม่ขอบคุณมันอีก
ผมมองหน้าเซ่อๆ ของแป๊ะแล้วก็เวทนา.. มันเข้าใจอะไรของมันเนี่ย
แล้วผมก็เล่าเรื่องเจอคนทิ้งเปลือกถั่วระหว่างติดไฟแดงให้แป๊ะฟัง
วันนั้นผมขับรถไปธุระที่สะพานใหม่กับนักบินรุ่นพี่ ระหว่างรอไฟแดงหน้าประตูกองทัพ รถผมจอดเยื้องมาข้างหลังของรถอีกคัน ทั้งคันมีคนนั่งอยู่ห้าคนปอกถั่วต้มกินกันจุ๊บจั๊บ ผมเห็นก็เฉยๆ มาไม่เฉยก็ตอนพวกนั้นเปิดกระจกทิ้งเปลือกถั่วบนถนนไปสองกำนั่นแหล่ะ
ผมบีบแตรปิ๊น เหมือนเตือนว่าไม่ควรทำนะ นอกจากมันจะหันมามองหน้า มันยังทิ้งถุงใส่ถั่วเย้ยลงมาอีก เรื่องแบบนี้ยอมกันได้ที่ไหน ผมบีบแตรไปอีกสองที นึกว่ามันจะกลัว ที่ไหนได้ นอกจากมันไม่กลัวผมแล้ว มันยังเอาถังขยะในรถเทลงกลางถนนและยักคิ้วใส่เสียอีก รุ่นพี่ที่นั่งในรถอยู่กับผม เอื้อมมือมาแตะขา(พอเสียวๆ) อย่าเลยซู พอเถอะ เผื่อมันมีปืน
กลัวอะไรพี่ เรามีตีน..มันชักปืน เราก็วิ่งซิครับ ผมโมโหจนหน้ามืดอยากลุกเอาหนังสือไปทุบหัวมันคนละที
ผมหยุดเล่าแล้วหันมาถามแป๊ะ เป็นแป๊ะจะทำไง
ผมว่าเดี๋ยวคนกวาดขยะก็มาครับ.. ไม่น่าเสี่ยงหรอกครับผู้กอง
ผมยิ้ม ถูกของแป๊ะ พี่ก็นึกขึ้นมาได้เหมือนกันเลยเงียบไว้ รอจนไฟเขียว ก็รีบขับแซงไปปาดหน้า พอจังหวะได้ ก็เอาขยะในรถทิ้งไปกำนึง กำเดียวจริงๆ นะ
..รู้จักตะปูเรือใบไหม นั่นละ กำเดียวเท่านั้น รถเจ้าตัวดีเอียงเซเข้าเลนซ้าย ตัดหน้ารถเมล์ที่หักหลบไปชนป้อมยามท่าดินแดง ก็เหตุการณ์เมื่อปีก่อนที่รถติดระเนระนาดไปสามชั่วโมง ข้าราชการ ทอ.เซ็นชื่อใต้เส้นแดงไปสามพันกว่าคนนั่นไง..จำได้ไหม
นั่นละ ฝีมือพี่
ก็บอกแล้ว ทิ้งขยะให้เป็นที่..
Have a long day เถอะเรา