ครั้งหนึ่งที่มีรัก ..(ต่อ)
keekie
"คอยนานไหม? .." เสียงห้าวร้องถาม
ฉันเงยหน้าจากหนังสือเรียนในมือ ... "ก็นั่งรอทุกวัน ... นานไหมล่ะ .. " ฉันหยอก
ตามองเหงื่อที่ไหลโทรมเสื้อยืดสีขาวจนเปียกชุ่ม ..
"เบื่อไหม? มานั่งรอเราทุกวัน .." ถามแล้วก็ปีนสแตนขึ้นมานั่งข้างๆ ฉัน
"เบื่อ .. " ฉันตอบ
"แล้วมารอทำไมล่ะ? .." เสียงห้าวปนอาการงอนเล็กน้อย
"ก็เราหลงรักความเบื่อไปแล้วนี่ .. " ฉันตอบ
เขายกมือลูบหัวฉัน "กีฬามหาวิทยาลัยคราวที่แล้ว เรายิงประตูได้ก็เพราะแก้วนี่ล่ะ ..
ขอบคุณนะที่มานั่งให้กำลังใจเราตอนซ้อมทุกวัน .. "
สายตาคมกริบคู่นั้นส่งความอ่อนโยนมายังฉันเสมอ
"อื้มม .. " ฉันได้แต่ยิ้มตอบ .. ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรให้มากกว่านั้น
สายลมเย็นพัดเอื่อย ..
อากาศตอนเริ่มเข้าหน้าหนาวนี่ .. มันอุ่นจัง ..
"ทำไมเงียบไป .. ?" เขายกมือขึ้นลูบหัวฉันอีกแล้ว ..
"ชู่วววว .." ฉันยกนิ้วขึ้นปิดปากเป็นเชิงบอกให้เขาเงียบ ..
เขามองหน้าฉัน .. สายตาส่อแววสงสัย ..
"ความสุขมันเบานักรู้ไหม? .. "
ฉันพูดเสียงเบาแทบกระซิบจนเขาต้องเอาหูมาใกล้ๆ ปากฉัน ..
"ถ้าเสียงดัง เดี๋ยวมันก็กระเจิงหมดหรอก .. เบาๆ ซี่ .." ฉันบอก
เขายิ้ม .. ขยับตัวเข้ามานั่งชิดตัวฉัน .. หันหน้ามองฉัน ..
ฉันนั่งชันเข่า .. เอาแก้มข้างซ้ายเกยเข่า .. หันหน้ามองเขา ..
เราซึมซับไออุ่นแห่งความสุขท่ามกลางความเงียบด้วยกัน
สายลมแห่งฤดูหนาวพัดแผ่ว ..
.. อบอุ่น ..
"แก้ว .. " เขาเรียกชื่อฉันแผ่วเบา .. "แก้วมีความฝันไหม? .. "
"มีสิ เยอะด้วย .. " ฉันตอบ
"บอกเราบ้างได้ไหม? .. " ดวงตาคุ้นเคยส่อแววอยากรู้จริงจัง ..
ฉันยิ้ม .. แล้วก็ลุกขึ้นยืน ..
"เราอยากใช้ชีวิตสงบๆ .. ในบ้านหลังเล็กๆ ที่ทำด้วยกระจก ..
บ้านแบบไม่มีรั้วนะ .. แล้วหน้าบ้านน่ะ ..." ฉันวาดมือไปกลางสนามฟุตบอล
"เราจะปลูกดอกไม้ให้เต็มสนามเลย .. ดอกโมก .. ดอกมะลิ .. "
ฉันหันหลังกลับมามองเขา ..
เห็นเขากำลังทำมือเป็นรูปสี่เหลี่ยมคล้ายเฟรมบนเลนส์กล้องถ่ายรูป ..
"บันทึกไว้แล้ว .. ถ้าไม่ตายเสียก่อนจะทำให้ .. .. แช๊ะ .. "
ว่าแล้วเขาก็ทำมือเหมือนกดชัตเตอร์
"อื้อ .. บันทึกไว้แล้วจำให้ดี .. ที่สำคัญน่ะ .. ต้องมีดอกแก้วด้วยนะ .. "
ฉันสำทับ ..
"จ้า .. บันทึกไว้แล้วบนหัวใจเรา .. ดอกแก้ว .. "
เรายิ้มให้กัน ... อบอุ่นท่ามกลางสายลมแห่งฤดูหนาวที่พัดเอื่อย ..
"แก้ว .. " เสียงเรียกหงุดหงิดฉุนเฉียว ..
ฉันเงยหน้ามองเขา โดยที่ไม่หยุดเดิน ..
"ไอ้หมอนั่นมันใคร .. " เขาถาม .. ดวงตาวาวโรจน์ ..
ฉันมองหน้าเขาเฉยเมย ..
"ทำไมต้องหยุดคุยกับมันด้วย ปล่อยให้เรารออยู่ได้ .. เห็นมันสำคัญกว่าหรือไง?"
ฉันถอนหายใจ ..
"เรียนวิชาเดียวกัน .. เขาจดเลคเชอร์ไม่ทันเลยมาถามเราน่ะ .. ไม่มีอะไรหรอก .."
"แล้วทำไมมันต้องมาถามแก้ว .. คนอื่นเยอะแยะ .. แอบไปรู้จักมันตอนไหน? .."
เขาตะคอกเสียงดัง .. เพียงแค่นี้ก็หงุดหงิด .. เป็นเช่นนี้เสมอ ..
"ยุทธ .. " ฉันเรียกชื่อเขา ..
"เห็นมันสำคัญกว่าเราใช่ไหม? .." เขายังตะคอกใส่ฉัน ..
ฉันสบตาเขา .. เห็นเพียงประกายแห่งความหงุดหงิดไร้เหตุผล ..
"ใช่ .. " ฉันตอบ .. แล้วเดินต่อไปเพื่อไปขึ้นตึกเรียน ..
"แก้ว .. " ได้ยินเสียงห้าวแว่วดังตามหลังแต่ฉันยังคงเดินต่อไป ..
...
.........
.............
...................
.............................
"เอ .. น่าจะอยู่แถวๆ นี้นา .. " เสียงพี่พัฒน์บ่นพึมพำๆ
เรามางานแต่งงานของเพื่อนพี่พัฒน์ ที่อำเภอปัว จังหวัดน่าน
พี่พัฒน์เป็นเพื่อนทางฝั่งเจ้าสาวน่ะ .. และพี่เขาชวนฉันมาด้วย
ดีเหมือนกัน .. เมืองเหนือหน้าหนาวแบบนี้สวยอย่าบอกใคร ..
เราขับรถฝ่าหมอกหนาจากอำเภอเมือง .. ออกมาทางอำเภอปัวตั้งแต่ตีห้า
ได้แต่ค่อยๆ คลานมาเพราะหมอกลงจัด .. ฟ้ายังมืด ..
จนเข้ามาสู่ถนนทางเข้าหมู่บ้าน .. บ้านแต่ละหลังไม่มีรั้ว ดูสงบสุข ..
ฉันยิ้มให้กับตัวเอง ..
หมู่บ้านเล็กๆ แบบนี้ .. น่าจะมีสักที่ที่พอจะสร้างความฝันของฉันได้ล่ะมั้ง
"นี่ไง .. หลังนี้แหละ .. เลขที่ 5 .." เขาเลี้ยวรถผ่านกอ ดอกแก้ว ..
ฉันรีบไขกระจกรถลง .. กลิ่นดอกแก้วหอมฟุ้ง ..
ดอกแก้วกอใหญ่ถูกปลูกอยู่สองฝั่ง .. คล้ายรั้วบ้าน ..
เลยกอ ดอกแก้วเข้าไป .. ต้นโมก .. ปลูกเรียงเป็นแถวด้านซ้ายของตัวบ้าน
ด้านขวามีดอกมะลิลา มะลิซ้อนปลูกเรียงรายไว้เต็มสนามหน้าบ้าน ..
พี่พัฒน์หยุดรถหน้าเรือนกระจกชั้นเดียว ..
ฉันเปิดประตูรถลงไป .. ยืนมอง ..
.. ความฝันของฉัน ..
ไม่ใช่สิ .. มันคล้ายๆ .. ไม่เหมือนซะทีเดียว แต่ .. คล้ายมาก
"เฮ้ออออ .. ถึงซะที .. " พี่พัฒน์พูดแล้วก็บิดเนื้อตัวคลายความเมื่อย
"ไปแก้ว เข้าบ้าน .. ป่านนี้เจ้าบ่าวเจ้าสาวคงเตรียมงานกันวุ่น .." พี่พัฒน์เรียก
"อ้าว ยืนอึ้งอยู่ได้ ยังไม่ตื่นหรือไง .. " พูดแล้วก็เดินมาดึงมือฉันเข้าไปในบ้าน ..
สายตาฉันจับจ้องตัวเรือนกระจกชั้นเดียว ..
กลิ่นดอกโมกปนกลิ่นมะลิ .. โรยเข้าจมูกราวอยู่ในความฝัน ..
"อ้าว .. พี่พัฒน์มาแล้วสวัสดีค่ะ .. " เสียงเจ้าสาวในชุดไทยที่เตรียมพร้อมเข้าพิธีเช้า
"นั่นแน่ พาใครมาด้วย .. " เจ้าสาวสัพยอก .. มองมาที่ฉัน
เจ้าสาวสวยมาก เธออยู่ในชุดไทยสีครีม .. คนที่ยืนหันหลังอยู่นั่นคงเป็นเจ้าบ่าว
ฉันเดาจากเครื่องแต่งตัวที่เข้ากันกับเจ้าสาว .. แผ่นหลังนั้นฉันรู้สึกคุ้นตาชอบกล ..
"ยุทธคะ .. นี่พี่พัฒน์ค่ะ .. " เจ้าสาวแนะนำ ..
ชื่อนั้นสะดุดใจ .. คุ้นหู ..
เขาหันหน้ามา ..
ฉันสบดวงตาคมกริบคู่คุ้นเคย .. คุ้นใจ ..
"สวัสดีครับคุณยุทธ .. ผมยินดีด้วย .. เจ้าสาวของคุณสวยมาก"
พี่พัฒน์ทักทายตามประสาลูกผู้ชาย ..
"ขอบคุณครับ .. แล้วเมื่อไหร่จะถึงงานคุณพัฒน์กับคุณ ......... "
เขาจำชื่อฉันไม่ได้ .. ?
"อ้อ .. แก้วครับ .. " พี่พัฒน์แนะนำ
"ยินดีที่ได้รู้จักคุณ .. แก้ว .. เมื่อไหร่จะถึงงานคุณบ้าง .. อ้อ หรือว่า .. เรียบร้อยแล้ว"
ดวงตาคมกริบสบตาฉันแน่วแน่ ...
"คุณพัฒน์เก่งนะครับ กำหัวใจคุณแก้วได้ .. คุณพัฒน์คงจะเงินหนาพอดู.."
เขายังพูดต่อ ..
"ขอล้างหน้าล้างตาหน่อยได้ไหมคะ? .. เดินทางไกลชักเพลียๆ .." ฉันขัดขึ้น
"เชิญค่ะ ห้องน้ำอยู่ด้านนั้น .." เจ้าสาวกุลีกุจอพาฉันไป ..
ฉันปิดประตูห้องน้ำ .. ยืนส่องกระจกที่อยู่เหนืออ่างล้างหน้า ..
คำพูดครั้งเก่าพรั่งพรูสู่ความนึกคิด ..
...............
............................
..........................................
"เพราะเราจนใช่ไหมแก้ว? .." เขาตะคอกใส่ฉัน
"เรามันเป็นแค่ไกด์จนๆ ใช่ไหม? .. ไอ้เสี่ยนั่นมันคงจ่ายไม่อั้นสินะ .."
ฉันนิ่ง .. สบตาคมกริบวาวโรจน์ที่ส่อประกายโทสะแรงกล้า .. เช่นทุกครั้ง ..
"ผู้หญิงก็แบบนี้ .. สุดท้ายแล้วเงินก็ซื้อได้ .. " เขายังคงพูดไม่หยุด ..
เป็นเช่นนี้เสมอ .. ไม่เคยถามไถ่ .. ไม่เคยฟัง ..
ครั้งนี้มันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะตะคอกใส่ฉัน ..
"แก้วต้องการเงินเท่าไหร่ .. " เขาตะคอก ..
"ยุทธไม่มีหรอก .. " ฉันตอบเฉยเมยไม่ละสายตาจากเขา
แววตาปวดร้าวปนโทสะ .. วาวโรจน์ .. "สักวันผมจะมี .. ทุกอย่าง .." เขาบอก
แล้วหันหลังเดินไป .. คอยังคงตั้งตรง .. เชิดหยิ่ง ... คนพรรค์นั้น ..
......................
...................................
.............................................
เสียงเคาะประตูดึงฉันกลับสู่เวลาปัจจุบัน ..
คงมีคนจะใช้ห้องน้ำ ..
ฉันรีบล้างหน้าล้างตา .. เปิดประตูออกไป ..
' เขา ' ยืนพิงผนังหน้าห้องน้ำ ..
"โลกมันกลมจริงนะ .. เจอกันจนได้ .. " แววตาหาเรื่องแบบนั้น .. เหมือนเดิมจริงๆ
"คุณต้องการเงินสักเท่าไหร่? .. ตอนนี้ผมพอมีนะ .. ไม่แน่ใจว่าจะมีมากกว่าคุณพัฒน์นั่นหรือป่าว? .. คุณลองเรียกมาสิ เผื่อผมจะสนใจ" รอยยิ้มเยาะปรากฎเหนือริมฝีปาก
ฉันนิ่ง .. ก้าวเท้าจะเดินผ่านเขาออกไป ..
เขาใช้มือกันทางไว้ ..
"เท่าไหร่ .. ผมยอมทุ่ม .." ฉันสบตาเขานิ่ง ..
"ตอนนี้ฉันไม่สนซะแล้ว .. เสียใจด้วย .. " ฉันใช้มือปัดแขนเขาแล้วเดินผ่านไป
... To be continued ...