นิทาน...นาย นิทาน ตอน ยังเยาว์ ๑ เพราะเกิดมาเป็นลูกชาวไร่ ชาวนา ชิวิตของข้าจึงผุกพันอยู่กับวิถีท้องทุ่งเป็นส่วนใหญ่ ตั้งแต่ข้าเริ่มจำความ ข้าก็รู้ว่าตอนนั้นครอบครัวของข้าอาศัยอยู่ที่ห้างในไร่ห้วยนางทอง(บ้านดงยาง ในปัจจุบัน)นานๆจึงกลับเข้ามาที่บ้านในหมู่บ้านสักครั้งนึง เหตุที่นานๆกลับครั้งเพราะว่าทางไกล ในสมัยนั้นการเดินทางจากไร่มาบ้านใช้เวลาเกือบหนึ่งวันเต็มๆ เพราะต้องกลับด้วยล้อ(เกวียน)ซึ่งใช้แรงงานงัวนั่นเอง การไปนอนที่ไร่ในสมัยนั้นจะไปช่วงที่ทำนาแล้วเสร็จ เพื่อไปทำไร่ฝ้าย และ ถั่ว สุมถ่านบ้าง และ พ่อก็จะขึ้นเขาไปโค่นไม้มาเลื่อยเพื่อสะสมไว้ทำบ้าน เลื่อยพื้นบ้านบ้าง ฝาบ้านบ้าง แล้วก็ใช้ ล้อลากกลับยามหน้าแล้ง เพราะทางจะแห้งไม่ค่อยมีหล่ม งัวจะเดินทางได้สะดวกและไม่หนัก ข้าชอบนอนในไร่ที่สุดสมัยเด็กไม่เคยอยากกลับเข้าบ้านเลยสักครั้งแม้จะไม่มีเพื่อนเล่น เพราะเด็กๆรุ่นราวคราวเดียวกันที่อยู่ในไร่นั้นจะอยู่ไกลกันมากระหว่างห้างแต่ละหลัง แต่ข้าก็มีน้องที่ต้องคอยเลี้ยงอีกคนนึง ซึ่งตอนนั้นข้าเองเพิ่งได้๖-๗ขวบมั้ง แต่ข้าก็มีเพื่อนที่ข้ารักที่สุดอยู่๓ตัว เป็นหมาพันธุ์ไทยแท้ ชื่อ ไอ้ขาวและ งัว อีก๑คู่ที่พ่อใช้ติดล้อและไถไร่เพื่อปลูกฝ้ายและถั่ว มันชื่อไอ้จันกับไอ้ไหม มันเป็นงัวคู่แรกที่ผมได้เลี้ยงและลุกขึ้นมาช่วยพ่อล้างน้ำมันในตอนเช้า ก่อนเอามันออกไปกินหญ้าตามที่ว่างๆที่เขาไม่ได้ทำอะไร โดยเฉพาะไอ้ขาวมันคือเพื่อนที่ดีของข้ามากมันจะคอยติดตามข้าไปทุกๆที่เวลาข้าเอางัวไปเลี้ยง มันช่วยข้าล่าสัตว์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะงูและกิ้งพอน(พังพอน) ถ้าวันใดได้ยินเสียงไอ้ขาวมันเห่า นั่นหมายความว่าต้องได้อะไรมาเป็นกับข้าวในตอนเย็นแน่นอน ห้างในไร่ของข้าตอนนั้น เป็นห้างหลังค่อนข้างใหญ่ ยกพื้นสูง ใต้ถุนห้างจะทำคอกงัวไว้ให้ไอ้ไหมกับไอ้จันมันนอน และจะมีเล้าไก่อยู่ข้างๆคอกงัวอีกทีนึง เลี้ยงไก่ชนพื้นบ้านธรรมดาไว้เก็ยไข่กินบ้าง หรือ ไม่ก็ฆ่าแกงยามเพื่อนของพ่อแวะมาเยี่ยม หรือ เวลาที่พ่อเลื่อยไม้ คือ เวลานั้นเขาจะผลัดกันหรือเอาแรงกันเลื่อยไม้ ถ้าเลื่อยไม้ของใครคนนั้นต้องเลี้ยงข้าวเลี้ยงเหล้ากันแบบไทยๆเรา และมือเพชฌฆาตก็ไม่ใช่ใครข้าเองนี่แหละเวลายิงกระสุนยาง(หนังสติ๊ก)นี่แม่นนัก หากพ่อชี้จะเอาตัวไหนเอาข้าวเปลือกมาโปรยแล้วยิงไม่เคยพลาดสักครา เพราะเวลาเอางัวไปเลี้ยงข้าชอบยิงเป้าด้วยกระสุนยางบ่อยๆจึงแม่นเหมือนจับวาง(โม้หรือเปล่าว่ะ) ถัดจากห้างมาก็จะเป็นโรงทึมสร้างไว้สำหรับเก็บผลผลิตยามเก็บเกี่ยว เช่นถั่วและฝ้าย ถ่านบ้าง ซึ่งโรงทึมนี้จะใหญ่มากและอยู่ใกล้ๆกับต้นปูต้นใหญ่ ซึ่งเป็นอาหารของเหล่าบรรดานกทั้งหลายจะมากินยามลูกปูสุก นั่นหมายถึงอาหารของครอบครัวข้าด้วย และตอนกลางวันมันคือร่มของไอ้ไหมกับไอ้จันงัวคู่ทุกข์คู่ยากที่พ่อใช้มันติดไถไถไร่ติดล้อลากของกลับบ้านยามหน้าแล้ง โปรดติดตามตอนต่อไป เศษทาน ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ ๒๒.๑๗ นาฬิกา
18 พฤศจิกายน 2548 10:23 น. - comment id 87281
ดีค่ะหนูสนุกมาก
16 พฤศจิกายน 2548 11:42 น. - comment id 87879
ง่า..... แวะมาเยี่ยมเยียน ทักทายค่ะ ไปละ กำลังอยู่ในคาบเรียน 55555 เด็กดื้อแอบเล่นเน็ต
17 พฤศจิกายน 2548 12:54 น. - comment id 87887
อ่านแล้วคิดถึงธรรมชาติในชนบทค่ะ
17 พฤศจิกายน 2548 23:25 น. - comment id 87895
อ่านเพลินเลย เหมือนกำลังเล่าเรื่องให้ฟังอยู่ตรงหน้า แต่ขอทักนิดนึงนะคะ เห็นผู้เล่าเรียกสรรพนามแทนตัวเองว่า \"ข้า\" แต่บังเอิญพิมพ์ผิดไปหรือเปล่าคะ เห็นมีหลงคำว่า \"ผม\" มาด้วย รออ่านตอนต่อไปอยู่ค่ะ