จะมีอะไรสุขเท่ากับการได้ทำสิ่งที่เราชอบในวันหยุดสุดสัปดาห์ จำได้ว่าเมื่อสองสัปดาห์ก่อน อัลมิตรากับเพื่อนยังปั่นจักรยานชมเมืองโบราณ มาวันนี้ อัลมิตราอ่านหนังสืออาร์ทิมิส ฟาล์ว..เล่มสามจนจบ และกำลังต่อเล่มสี่ เหมือนได้เวลาส่วนตัวกลับคืนมา .. มีความสุขกับจินตนาการของตนในกะลาแคบ ๆ ผละจากหนังสือ ก็ไปว่ายน้ำ .. ชวนเด็กแถวบ้านตีปิงปอง จากนั้นก็มาดูซีดีสบายใจ
Madagascar เป็นเรื่องราวของมิตรภาพสี่สายพันธุ์ แต่ไม่ใช่พันธุ์ไดโนเสาร์เหมือนที่เคยเขียนไว้นานแล้ว ม้าลายที่มีชื่อเดียวกันกับอัลมิตรา .. ไม่นะ มันไม่ได้มีชื่อว่า ..อัลมิตรา หรอก หมายถึง..มันชื่อมาร์ตี้ ชื่อที่เคยเป็นอีกชื่อหนึ่งของอัลมิตราต่างหาก
เพื่อนทั้งสามของมัน ไม่ว่าจะเป็น อเล็กซ์ สิงโตขี้หงุดหงิด เมลแมน ยีราฟจอมซุ่มซ่าม และกลอเรีย ฮิปโปโปเตมัสที่ปราดเปรื่อง ดูวุ่นวายนะ กับบุคคลิกของพวกมันที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่สี่ตัวที่มี คือความเป็นเพื่อน ใช่แล้ว .. อัลมิตรากำลังจะโยงเรื่องมาสู่คำที่มีความหมายอันยิ่งใหญ่ .. มิตรภาพ
ความฝันของเจ้าม้าลายมาร์ตี้ที่อยากจะมีชีวิตในป่า ป่าจริง ๆ ไม่ใช่ฉากป่าบนกำแพงที่มันมองเห็นอยู่ทุกวี่ทุกวัน มันโหยหาชีวิตที่อิสระ และอยากดำรงชีพอยู่ในป่า .. นั่นเป็นความคิดที่เรียบง่ายของเจ้ามาร์ตี้ม้าลายต้นเรื่อง ในขณะที่เพื่อนทั้งสามยังไม่มีความคิดนี้สักเท่าไหร่ หนำซ้ำกลับคิดว่า การมีชีวิตอยู่ในสวนสัตว์ ก็เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว จะดิ้นรนไปทำไมกัน.. ? แต่อย่าหวังนะ ว่าเจ้าม้าลายมาร์ตี้จะคิดเช่นนั้น หัวใจของมันไปไกลเกินกู่กลับแล้ว
ภาพยนตร์เรื่องนี้ ดำเนินเรื่องอย่างไม่ซีเรียสนัก ดูตลกด้วยซ้ำไปที่เจ้าม้าลายหนีออกจากสวนสัตว์ตามลำพัง เอากับมันสิ หัวใจของมันตั้งมั่นเหลือเกิน กระทั่งเพื่อนทั้งสาม ต้องออกตะเวนตามหาเจ้าม้าลายตัวยุ่ง และในที่สุดชีวิตของพวกมันทั้งสี่ก็ผกผัน
จะทำอย่างไรในการปรับตัวเพื่อให้การใช้ชีวิตในป่าสมบูรณ์แบบ ? ตรงนี้น่าจะเป็นประเด็นสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยเฉพาะเจ้าป่าอเล็กซ์ สัตว์กินเนื้อ.. เมื่อคราวที่ต้องอยู่ป่า สัญชาติญาณแห่งนักฆ่านักล่า ก็ปรากฏ แต่เหนือสิ่งอื่นใด .. ความเป็นเพื่อนทำให้มันละเว้นเพื่อน ๆของมัน และในที่สุด เจ้าสิงโตอเล็กซ์ก็พบว่ารสชาติของปลา .. ก็ดีมิใช่น้อย
Racing Stripes.. นี่ก็เป็นเรื่องราวของม้าลายเหมือนกัน ม้าลายที่กว่าจะรู้ว่าตนเองเป็นม้าลาย เรื่องก็ดำเนินมากว่าครึ่งแล้ว สตริปส์ .. เป็นชื่อของมัน..
มันเป็นลูกม้าลายที่พลัดหลงมาอยู่ในฟาร์มเล็ก ๆแห่งหนึ่ง เจ้าของฟาร์ม ผู้ซึ่งมีประวัติเป็นถึงผู้ฝึกม้าระดับแชมป์ แต่เขาเลือกใช้ชีวิตอย่างสงบกับลูกสาวที่ชื่อแชนนิ่ง ในฟาร์มเล็ก ๆ ที่ฟาร์มแห่งนี้ ลูกม้าลายที่ควรจะอยู่ในคณะละครสัตว์.. ชีวิตของมันกำลังเปลี่ยนไป .. เปลี่ยนไป .. เปลี่ยนไป
เป็นความสุขของเด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งกำพร้าแม่ สุขที่ได้ดูแลเจ้าม้าลายตัวน้อย มันไม่ใช่เป็นเพียงสัตว์เลี้ยงของเธอ .. แต่มันคือ เพื่อนของเธอด้วย
แน่นอน สตริปส์ไม่ได้เป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่อย่างโดดเดี่ยว มันมีเพื่อนร่วมฟาร์มอยู่หลายตัว .. ไม่ว่าจะเป็นม้าแคระ แพะแก่ นกกระทุง ไก่แจ้ หรือแม้แต่สุนัขพันธุ์บลัดฮาวน์ที่พูดไม่เกินสองประโยคแล้วก็หลับ
มีบางฉากที่อัลมิตราดูแล้ว ต้องกลั้นยิ้มไว้ .. ฉากนั้นคือ.. ฉากที่เจ้าม้าลายสตริปส์ดวลฝีเท้ากับรถยนต์ที่บุรุษไปรษณีย์ขับแข่ง เหมือนชิงไหวชิงพริบกัน .. ทันทีที่บุรุษไปรษณีย์เสียบกุญแจเตรียมสตร๊าทรถ เจ้าม้าลายก็ตั้งท่าเตรียมจะวิ่งเช่นกัน และจบด้วยการวิ่งชนต้นไม้
อย่างที่บอกตั้งแต่ต้น กว่ามันจะรู้ว่ามันเป็นม้าลายมันก็หลงรักม้าสาวเอาเข้าแล้ว .. เป็นไปได้เพียงนั้น.
และทั้งที่มันโดนดูถูกจากบรรดาม้าฝีเท้าระดับแชมป์ ว่ามันเป็นแค่ม้าลายโง่ ๆตัวหนึ่ง แต่หัวใจของมันก็ไม่เคยเลยที่จะยอมพ่ายต่อคำสบประมาทนั้น เพื่ออะไร เพื่อสิ่งใด .. มันเอง..มีคำตอบสำหรับตัวมัน
เยี่ยมมากเจ้าม้าลายสตริปส์ หัวใจม้า ในที่สุดมันก็มีชื่อเข้าไปแข่ง ถึงแม้ว่ามันจะต้องถูกฝึกอย่างหนักเยี่ยงม้า แต่มันก็ไม่ย่อท้อ
ใครล่ะจะรู้ ใครล่ะจะคาดคิดไว้ว่า .. เจ้าม้าลายตัวกระเปี๊ยกเมื่อเทียบกับม้าตัวอื่น ๆ จะได้เป็นแชมป์ของเคนตั๊กกี้
เหมือนว่ามันจะพิสูจน์อะไรสักอย่างให้เรารู้ แชมเปี้ยนบางคนชนะได้เพราะตัวเอง .. มิใช่เพราะสายเลือด !!
หลังจากเก็บซีดีใส่กล่องเรียบร้อย .. อัลมิตราก็วกมาหยิบหนังสือเล่มโปรดอ่านต่อ อาร์ทิมิส ฟาล์ว เล่ม ๔ เริ่มต้นคำนำมาก็แทบจะวางหนังสือไม่ลง .. ทว่า อ่านแค่คำนำก่อนละกัน ที่เหลือ ไว้บ่ายๆ นอนเปิดพุงตากพัดลมแล้วค่อยอ่านต่อ วันนี้ตั้งใจจะเขียนเรื่องเจ้าม้าลายสักหน่อย..
อัลมิตราไม่รู้เหมือนกันว่า ที่อัลมิตราเขียนเรื่องม้าลายนี้จะหวังผลอะไรได้บ้าง ..คงไม่หวังดีกว่า เพราะกว่าจะให้ใครสักคนเข้าใจในเรื่องที่เขียน .. ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
แต่เท่าที่เป็นไป.. หลายคนมักประเมินอัลมิตราด้วยสิ่งที่คาดเดา คาดหวัง ทั้งที่อัลมิตราอยากให้ประเมินที่งานเขียนมากกว่า เหตุเพราะ .. อัลมิตราสามารถเป็นอะไรได้ตั้งหลายอย่างแล้วแต่จินตนาการ และถ้าหากมีใครสักคนอ้างว่ารู้ตัวตนจริง ในความเป็นอัลมิตรา.. มันก็แล้วแต่ แต่ละคนจะคิด ป่วยการจะไปขัดแย้ง เพราะอย่างไรเสีย สิ่งที่อัลมิตราจะบอกก็คงมีเพียง "..จงใช้วิทยปัญญาตรองเอาเองเถิด .. คงไม่มีหรอก .. ที่จะมีใครรู้จริงในตัวตนจริงของอัลมิตราเทียบเท่าตัวอัลมิตราเอง.."
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ .. งานเขียนที่ยังปรากฏไว้ให้เห็น มันเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ ดังนั้น จึงควรที่จะวิเคราะห์กันตรงที่ผลงาน คิดเช่นไร ก็เขียนเช่นนั้น รู้สึกเช่นไร ก็ถ่ายทอดออกมาเป็นอย่างนั้น นี่แหล่ะ ความเป็นอัลมิตรา .. สุขใจที่ได้เขียน มีอิสระในด้านความคิด และพึงพอใจในสิ่งที่ตนเองเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ..สุขใจ .. จริงมั๊ย ม้าลายเพื่อนรัก ...
13 พฤศจิกายน 2548 22:20 น. - comment id 87536
ป๊าด..ติ โถ อย่างอื่นไม่จำดันมาจำตอนสะดุดล้มหัวทิ่ม มันเป็นอุบัติเหตุเข้าใจไหม อุบัติเหตุน่ะ หมายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยมิได้นัดหมายทำใจไว้ล่วงหน้าน่ะ แหะๆแต่ว่าจะบอกว่าอบัติเหตุอีกแหระ คราวนี้หัวเข่าแตกได้พักตั้งสองอาทิตย์แน่ะ ตอนนี้ซ่าส์ยังกะโซดาเปิดใหม่ ไม่เข็ดหรอกจะบอกให้ ยาเส้นก็ยังพอมีบ้าง แต่ไม่มากมายเพราะใบตองเริ่มหายากใบจากก็ไม่ค่อยจะมี จะบอกให้ว่าบุหรี่จริงไม่ได้มีพิษภัยอันใดเลย อันตรายเกิดจากไฟที่ไปจุดบุหรี่นั้นแล พึงสดับรับฟังไว้ บอกคนใกล้ๆนะจ๊ะมาร์ตี้จ๋า อิอิอิ ไปนอนละขอให้ฝันดี เป็นได้อย่างที่ฝัน
13 พฤศจิกายน 2548 23:17 น. - comment id 87537
หืม..ลุงดึกดื่นได้แผลมาอีกแล้วเหรอ ลุงดึกดื่นคงมีแผลเต็มตัวเลยนะ ลายคงเหมือนแผนที่กระมัง วันนี้อัลมิตราดู..แผลที่เกิดจากการลงต้นไม้ไม่เป็น.. น่าจะเป็นที่ระลึกเพียงจุดเดียว ที่มี ลุงดึกดื่น .. หายเจ็บยังคะ เป่าพ่วงให้นะ ทานส้มเช้งอยู่ อร่อยด้วย ใครอยากทานบ้างไหมหนอ .. ฮา ..
12 พฤศจิกายน 2548 11:21 น. - comment id 87779
แวะมาทักม้าลายค่ะ ได้ดูทั้งสองเรื่องดีมากเลย ใช่ค่ะ ความพยายามเท่านั้นที่จะทำให้ ประสบความเร็จได้ แวะมา...ไปล่ะ...
12 พฤศจิกายน 2548 12:31 น. - comment id 87782
คิดแล้วว่าต้องได้ดู
12 พฤศจิกายน 2548 13:02 น. - comment id 87784
มาร์ตี้..แหะ แหะ ชื่อนี้ไม่ได้พิมพ์เป็นปีแล้ว.. เป็นชื่อแรกที่เรารู้จักกัน..ใช่ม๊า... ..
12 พฤศจิกายน 2548 20:23 น. - comment id 87793
ตามหามานาน มาแอบอยู่นี่เอง ไม่รู้เหรอว่าคิดถึง ลุงดึกฯ
13 พฤศจิกายน 2548 10:19 น. - comment id 87815
คุณแสงไร้เงา .. ขอบคุณค่ะ คุณร้อยแปดพันเก้า .. มีการ์ตูนเป็นกระตั๊กเลยค่ะ คุณกุ้งหนามแดง .. ใช่แล้ว ชื่อนี้เป็นชื่อที่คุณพ่อเรียก และเป็นอีกชื่อที่เรารู้จักกัน ในนามแห่งมิตร ลุงดึกดื่น .. คิดถึงจังเลยค่ะ :) ไม่เชื่อดูตะหมูกสิคะ
13 พฤศจิกายน 2548 10:25 น. - comment id 87816
เชื่อแล้วว่าคิดถึง (ก็เห็นจากจมูกนี่แหละ) สบายดีมิตรภาพเหมือนเดิม ส่วนที่เพิ่มก็คือความคิดถึง (ชั่วดินละลาย)นี่แหละ แต่ว่านานทีปีละหลายหนได้ผ่านมา คิดถึงก็เลยแวะมาหา
13 พฤศจิกายน 2548 11:05 น. - comment id 87818
ตอนนี้หน้าที่ยังเหมือนเก่าหุงข้าวซักผ้าถูบ้าน ส่วนเหล้าเบียร์เลิกแล้วนมนาน ส่วนเรื่องงานก็ดีทำได้ยังไม่เบื่อ มาร์ตี้คนสวยเป็นไงบ้างคงสบายดีนะเห็นตัวอ้วนพี อิอิอิ ขอให้มีความสุขอย่างนี้ตลอดไปชั่วกาลนานเทอญ สาธุ
13 พฤศจิกายน 2548 11:23 น. - comment id 87819
อะโด่ ลุงดึกดื่น .. อย่ามาอำกันเลย รู้น๊า ลุงดึกดื่นทราบข่าวของอัลมิตรามาโดยตลอด ตอนนี้ยังต้องปั่นจักรยานอยู่อีกมั๊ย .. ตอนนี้น้ำมันแพง เวลาปั่นจักรยานไปทำงานก็คิดถึงลุงดึกดื่นนะ คิดถึงท่าที่ตีลังกาสะดุดหลุม แล้ว ลุงบาดเจ็บน่ะ .. ยังจำได้นะ ที่ลุงเล่าให้ฟัง ว๊า ทำหน้าหิว เห็นอ้วนแล้วคิดว่ามองเป็นหมูหันหรือคะ ความจริงยังเป็นลิง อยู่น๊า
13 พฤศจิกายน 2548 11:27 น. - comment id 87820
เบียร์+เหล้า เลิกได้จริงๆ เหรอ ดีจังเลย แล้วบุหรี่+ยาเส้น เลิกได้มั๊ย ขอสูตรหน่อยซี่ ลุง .. เผื่อว่าจะเอาไปใช้กับบางใคร
14 พฤศจิกายน 2548 07:16 น. - comment id 87829
นกผัดเปรี้ยวหวาน อร่อยกว่าม้าลายต้มยำ
14 พฤศจิกายน 2548 08:19 น. - comment id 87830
หุห...มาถูกเวลาหรือป่าววุ๊ยเนี๊ยะ..มีทั้งขอสูตรเลิกสุราและยาเส้น..ยังไม่พอมีคนบอกนกผัดเปรี้ยวหวานอร่อยอีกอะ....ลุงดึกมะต้องบอกสูตรให้ลิงเน้อ..ไอ๊ซ์...เปลี่ยนเป็นลิงตุ๋นได้มะ ***รักษาสุขภาพนะครับ...
14 พฤศจิกายน 2548 08:20 น. - comment id 87831
ดำขาวลายสลับสร้าง......สีขน ดีชั่วรักชังปน................เช่นนั้น เป็นสัตว์ป่าป่าคน...........ปรุงแต่ง ขุดขอดเรื่องใดคั้น..........สุดแท้แต่เขา มองม้าลายก็คล้ายตาบอดสี หาชมพูหรือมีทางเห็นได้ มีแต่ขาวสลับดำซ้ำซ้ำไป ต้องกรีดเลือดควักหัวใจจึงเห็นแดง
14 พฤศจิกายน 2548 08:44 น. - comment id 87832
14 พฤศจิกายน 2548 10:01 น. - comment id 87836
ไอซ์ ..นกยังไม่เคยกินเลย ยิ่งม้าลายก็ยิ่งไม่เคยไปกันใหญ่ แต่มันน่าจะกินได้นะ พุงอ้วนๆอย่างนั้น มิน่าอเล็กซ์ถึงได้อดใจแทบไม่อยู่ คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. ปะเหนี่ยว ซะเลย ม้าลายเพื่อนรัก .. ขาวดำลายพาดทั้ง.......ตัวตน สีอื่นมาปะปน.............บ่แจ้ง เทียบกับจิตใจคน......ฤๅกระจ่าง ดี-ชั่วต่างเสแสร้ง........ลึกล้วงจึ่งเห็น อ่านบทกลอนม้าลายหมายพิสูจน์ แดงอย่างพูดหรือเปล่าเราสงสัย หากท่านพร้อมพลีตัวและหัวใจ จะมัวช้าทำไมไยไม่ทำ คุณร้อยแปดพันเก้า .. ทิวาสวัสดิ์ค่ะ :)
19 พฤศจิกายน 2548 21:48 น. - comment id 87906
สวัสดีมาร์ตี้คนสวย...แม้ไม่ว่างก็ยังคงคิดถึง ไหนว่าส้มเช้งเปรี้ยวจี๊ดไงหวานได้??? หรือเพราะไปเอามาแถวเชิงเขา อิอิอิ มิตรภาพตราบดินละลาย ครับผม
19 พฤศจิกายน 2548 22:50 น. - comment id 87909
ลุงดึกดื่น .. ใกล้รุ่งคืนวันศุกร์ .. เจ็บขาขวาค่ะ รู้สึกตัวนะตอนนั้น ตอนที่จะเป็นตะคริว แต่ห้ามไม่ให้มันเป็นไม่ได้ เจ็บขาชะมัดเลย .. ทำเอาเดินเป๋ทั้งวัน มีวิธีมั๊ย ตอนที่ใกล้จะเป็น ไม่ให้มันเป็น คือว่า ตอนนั้น ลุงดึกดื่นสอนว่า ให้ง้างนิ้วโป้งออก ง้างแล้วนะ .. แต่ เจ็บอ่ะ
19 พฤศจิกายน 2548 22:55 น. - comment id 87910
อ้อ ! ลืมบอกค่ะ คิดถึงลุงดึกดื่นเหมือนกัน ส้มหวาน จ้า ส้มหวาน ... รับมั๊ย
20 พฤศจิกายน 2548 13:30 น. - comment id 88063
มาร์ตี้จ๋า ..คิดว่าไปหาหมอพร้อมจะให้คำปรึกษาได้ดีกว่าหมอผีอย่างลุงนะ เพราะที่ลุงบอกไปก็เพราะเคยเป็นหรอกจึงบอกให้แต่ว่านั่นมิได้หมายความว่ามันจะหายเหมือนกันดอกหนาแก้วตาเอ๋ย เคยเป็นช่วงที่ร่างกายเหนื่อยเกินไป หรือฝืนตัวเองมากเกินไป เครียดเป็นตัวการสำคัญ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น มันมิได้หมายความว่าคนเราจะเหมือนกัน และแก้ไขด้วยวิธีการเดียวกันหรอกนะจ๊ะ ไปหาหมอเถอะจ๊ะคนสวย ปล. ถ้าส้มฯหวานก็พอทานได้ครับ แต่ว่า เจ้าของไม่ยอมขาย เลยไม่ได้ทาน แหๆๆ อิอิอิ
20 พฤศจิกายน 2548 21:17 น. - comment id 88078
ลุงดึกดื่น .. อื้อ ..! คืนนั้นฝันว่าวิ่ง วิ่งแบบว่า วิ่งหนีผีไปซ่อนตรงไหน ผีก็ตามเจอ เหมือนในหนังเรื่องปอบหยิบเลย ค่ะ มุดลงโอ่ง ก็ดันเจออีก บ้าตาย !.. คงจะวิ่งจนเหนื่อย ขาเลยเป็นตะคริว สรุปว่า ตั้งแต่ตอนนั้น ถึงตอนนี้ ยังไม่ได้ไปซื้อจักรยานเสือภูเขาเลยค่ะ บังเอิญเหลือเกิน ที่ไปเล่นเกม แล้วชนะได้จักรยานมาคันนึง โชคดีไป .. ถึงจะไม่ใช่จักรยานเสือภูเขาก็ตาม (จักรยานลิงท้องทุ่ง น่ะ..) ลุงคะ .. พี่ชายเป็นเจ้าพ่อนะ เจ้าพ่อ.... หย่ายยยยยยยยยยมาก ๆ เลย เจ้าพ่อเจ้าของไร่ส้มอ่ะ
21 พฤศจิกายน 2548 20:26 น. - comment id 88097
ถ้าฝันเห็นผีหลอกบ่อยๆก็บอกลุงน่ะ แค่ลุงไปปรากฏตัวผีก็กลัวแล้ว ฮ่าๆๆๆ ว่าแต่มาร์ตี้ เดี๋ยวนี้คงไม่ขี้แย ขี้มูกโป่งแว่บ โป่งแว่บ เหมือนก่อนแล้วสินะ คิดถึงจึงมาเยี่ยม ว่าแต่เมื่อไหร่จะเขียนเรื่องใหม่ล่ะ รออ่านจนจะเหนียงยานแล้ว แหะๆ รู้น่า ว่ามีพี่ชายเป็นเจ้าของไร่ส้ม หย่าย ว่าแต่ว่า ส้ม ไร่พี่ชายน่ะหวานจริงเหรอ อิอิอิ ไม่บอกก็ไม่รู้น่ะเนี๊ยะ คิดถึงเรื่อยๆจ๊ะ
22 พฤศจิกายน 2548 15:48 น. - comment id 88130
ลงเรื่องใหม่แล้วค่ะ ลุงดึกดื่น .. แต่ลงในฐานะที่สวมหมวกเป็นผู้ดูแลระบบค่ะ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/story6106.html และก็มีกลอนที่ลงเมื่อวาน หัวใจไร้จุดยืน สงสัยลุงดึกดื่นจะยังไม่ได้อ่าน.. ส่วนไอ้เรื่องขี้แย ยังเป็นอยู่บ้างนะ ก็เป็นน้องเล็กนี่นา กลัวพี่ ๆ จะลืม ต้องทิ้งภาระให้พี่ ๆ โอ๋ บ้างล่ะ ฮา .. แล้วลุงดึกดื่นนี่ ... ขนาดผียังกลัวจริง ๆ เหรอ เขาเล่ากันว่า เจอผี ให้แก้ผ้า หรือว่า ลุงใช้วิธีนี้อ่ะ ฮา ... คิดถึงจริง ๆ นะ ดูตะหมูกสิ ตะหมูกตอนนี้มีน้ำมูกย้อย ๆ คิดถึงที่ซู๊ด ..
22 พฤศจิกายน 2548 21:40 น. - comment id 88145
เห็นแล้วนั่นมันจมูกของเจ้าหุ่นไม้มีชีวิตนี่นาพอพูดโกหกครั้งคราใดจมูกเขาก็จะยาวออกมา ลุงจำได้นา สมัยเป็นเด็กครูเคยเล่าให้ฟัง พอรู้แล้วว่า เจ้าแขกตี้คิดถึงลุงจริงๆ ฮ่าๆๆซึ้งจนน้ำลายไหล ต้องรีบไปเดี๋ยวจะแวะอ่านเรื่องใหม่ซักกะหน่อยนึงก่อน แล้วจะรีบเข้านอนพรุ่งนี้ต้องไปปราผีอีกหลายตน ส่วนวิธีแก้ผ้าไล่ผีน่ะทำได้ผลเฉพาะผีสาวเท่านั้นส่วนผีแก่กล้าหลอกเก่งแล้วจะไม่ได้ผล ฮ่าๆๆๆ คิดถึงจ๊ะ
23 พฤศจิกายน 2548 14:46 น. - comment id 88173
:) แน๊ มาเรียกแขกตี้ .. ช่วงนี้นอนหัวค่ำเหมือนกัน รบกับงานตอนกลางวัน มึนตึ๊บค่ะ ลุงดึกดื่นอ่านที่จั่วหัวเรื่องค่ายนักเรียนแล้ว ฝากลุงดึกดื่นบอกพี่สาวเชิงเขาด้วยนา จะไปดักพบ ได้ที่ไหนเนี่ย ..