เมื่อเพื่อนผมแต่งงาน

..สายลมทะเล..

ในบรรดาเพื่อนรักเพื่อนซี้ของผมแล้ว ดุ่ยเป็นผู้ชายแถวหน้าที่ยืนบังเพื่อนคนอื่นในตำแหน่งคนสนิทมาอย่างเหนียวแน่น เรียกว่าคนไหนพยายามเบียดขึ้นมา เป็นโดนดุ่ยใช้วิชาซูโม่ผลักตกเจ้าพระยาไปทุกราย ผมกับดุ่ยจึงสนิทกันมาอย่างยาวนาน
สมัยเรียนหนังสือ ดุ่ยเป็นตัวตั้งตัวตีก่อกบฏ กวีทหาร  ชักชวนผมซึ่งหน่อมแน้มเข้าร่วมขบวนการเคลื่อนไหวใต้ดิน แอบเขียนบทกวีการเมือง ชื่มชมธรรมชาติ แต่หลอกด่าผู้บังคับบัญชาไปแอบแปะไว้ตามบอร์ดห้องสมุด และประตูโรงเลี้ยง ทำอยู่ประมาณสองเดือน ..สนุกแบบเสียวๆ พอหายคัน ผู้พันชักเหม็นหน้าก็เลยเลิกรากันไป 
สมัยเรียน ผมขึ้นไปนั่งเล่นนอนเล่นห้องดุ่ยแทบทุกวัน  เปิดอ่านไดอารี่ชีวิตรักรันทดทุกเล่มและจำได้แทบทุกฉากสำคัญ ฉากเด็ดๆ ผมยังแอบก็อปปี้มาใช้อยู่บ่อยๆ .. ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง
นิยายรักของดุ่ยไม่มีตัวอิจฉา และไม่มีฉากเลิฟซีน นั่งอ่านนอนอ่านไปครึ่งเรื่องพระเอกก็ยังไม่โผล่ เพิ่งมารู้ทีหลังตอนอ่านจบ..
มันเป็นเรื่องของนางเอกและหมาน้อย
ช่างเป็นเรื่องที่เศร้าจริงๆ
เอเป็นสาวธรรมศาสตร์น่ารักน่าเอ็นดู สวยหวานและมีลักยิ้ม เป็นผู้หญิงที่บังเอิญเคราะห์ร้ายเดินหลงมาเหยียบหางดุ่ยตอนเกิดสุริยคราสในวันราหูอมจันทร์..นับจากวันนั้น เอก็ไม่เคยได้รู้จักกับความสุขอีกเลย ส่วนดุ่ยเพื่อนผมหลังคราสหลุดก็ไม่เป็นอันกินอันนอน ผ่ายผอมไปหลายกิโล
ความรักนะความรัก.. ชะงัดยิ่งกว่าชาใบระมิงค์
วันเวลาผ่านไปเหมือนใบไม้ร่วง ขณะที่ผมเปลี่ยนแฟนไปปีละคน ดุ่ยก็ยังเหนียวแน่นเดินคาบกระดูกต้อยๆ ตามเอไม่ยอมห่าง 
พรหมลิขิตเล่นตลกกับดุ่ยอย่างไม่น่าให้อภัย
เกือบสิบปีที่เราเทียวไล้เทียวขื่อฉุดกระชากลากถูเอไปกินข้าวดูหนัง ไปกันสามคนบ้างสี่คนบ้างแล้วแต่สถานะของผม สี่คนในยามที่ผมมีแฟน และสามคนในยามรอคอยคนใหม่..คาสโนว่าก็อย่างนี้ล่ะครับ ถ้าไม่ทิ้งเขาก็ถูกเขาทิ้ง มันเป็นสัจธรรม แต่อย่าถามว่าด้านไหนมากกว่า อาจถึงกับต้องฆ่ากันตาย
ขอเสียของผมคือเอาแต่ใจตัวเองเวลาดูหนัง เรื่องอื่นผมยอมได้หมด แต่ถึงเวลาดูหนัง ต้องตามใจผม..ไม่งั้นผมจะลงไปนอนชักดิ้น แม้ผมจะรู้ว่าดุ่ยมันไม่อายแต่เอนะไม่แน่ ทั้งสองคนเลยยอมผมมาตลอด บ่อยครั้งผมจึงพาสองคนไปหลับข้างในอยู่บ่อยๆ หนังจบก็ปลุกพาไปส่งบ้าน
ฉะนั้นคนที่เห็นเอกระเซอะกระเซิงเดินออกมาจากโรงหนังนะ ไม่ใช่เพราะผมกับดุ่ยทำมิดีมิร้ายอะไรหรอกครับ
เอแค่ฝันร้ายน้ำลายไหลตามปกติของเธอ
ตอนพี่เขยจีบพี่สาวผม พี่สาวลากผมไปด้วย ผมก็ลากดุ่ยกับเอไปอีกที ตอนพ่อแม่ผมขึ้นมากรุงเทพไปเที่ยวกันพร้อมหน้าพร้อมตา ดุ่ยกับเอก็เหมือนคนในครอบครัวที่ขาดไม่ได้ทุกครั้ง 
เวลาสองคนอยากไปเที่ยวไหน ผมจึงมักเป็นผู้ติดสอยห้อยตามไปด้วยเสมอ..ดุ่ยว่าเที่ยวสามคนสนุกดี..แต่เอบอกว่าเที่ยวสามคนมันประหยัด ผมไม่รู้จะเชื่อใคร ก็เลยปล่อยเลยตามเลย
ไม่ว่าไปเที่ยวครั้งไหนๆ ด้วยความรู้ค่าเงิน เราจึงเปิดห้องพักห้องเดียวเสมอ เอไม่ห่วงเรื่องความปลอดภัยเพราะรู้ว่าดุ่ยเป็นสุภาพบุรษ (แต่ลึกๆ อาจคิดว่าไม่มีน้ำยา) ส่วนสำหรับผม เอไม่คิดมากเพราะรู้มาว่าผมเป็นเกย์ 
รู้จริงเสียด้วย
ด้วยนโยบายประหยัด การเสริมเตียงจึงไม่มี ปัญหาจึงเกิดว่าจะนอนกันยังไง 
ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ ดุ่ยก็เสนอทางเลือก..ให้เอนอนพื้น ผมกับดุ่ยนอนเตียง จะได้ไม่มีปัญหาดุ่ยละเมอถีบเอตกเตียง เอทำหน้างงๆ เหมือนไม่เห็นด้วย แล้วเสนอทางเลือกที่สอง..ให้ดุ่ยนอนพื้น เอกับผมนอนเตียง โดยให้เหตุผลว่าไม่วางใจกลัวผมจะทำอะไรดุ่ย เถียงกันไปเถียงกันมา ตกลงกันไม่ได้ ผมเลยอนุมัติให้นอนกับผมด้วยกันทั้งคู่
สามคนเลยนอนบนเตียง..มองไกลๆ จะเห็นเหมือนหมีสามตัวนอนเรียงกัน
หมีควาย หมีแพนด้า และหมีพู
ผ่านมาถึงวันนี้ผมถึงสงสัย..แล้วทำไมผมไม่ลงไปนอนพื้นข้างล่างเสียเองหว่า
เสียงเอแว่วมาแต่ไกล ไม่มีคำว่าสุภาพบุรุษในพจนานุกรมของเกย์หรอกจ๊ะน้าซู
อ้อ ผมเพิ่งเข้าใจ
รู้จริงเสียด้วย
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว  ยังไงสองคนนี้ก็ต้องแต่งงานกัน ผมคงฉุดรั้งไว้ไม่ได้อีก ก็เลยอยากบอกเอไว้เสียหน่อย แต่งงานกันไปแล้วชีวิตมันจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาล ความดีที่ดุ่ยทุ่มเทมาแต่ครั้งหลังอาจพลิกผันไปตามวันเวลาและตีนกาที่มากขึ้น
เพราะฉะนั้น มันมีเคล็ด
โบราณว่ากันว่าในบ้านอย่าให้ชายเป็นใหญ่ การถือเคล็ดงานวิวาร์จึงเป็นสิ่งสำคัญ ..ทุกพิธีกรรมในงานแต่ง ต้องถือเคล็ดช้างเท้าหน้า..เวลาจับทัพพีตักบาตรฤกษ์เช้า ให้อยู่ข้างบน..จุดเทียนชัยฤกษ์ค่ำในงานเลี้ยง ต้องอยู่ข้างบน.. ทุกขั้นตอน จนกระทั่งเปิดประตูเข้าหอ ก็ต้องจับอยู่ด้านบน
เอ่อ แต่หลังจากนั้น..เพื่อภาพพจน์ที่ดี
แนะนำว่า..
เอจ๋า ไม่ควรถือเคล็ดจ๊ะ				
comments powered by Disqus
  • แสงไร้เงา

    5 พฤศจิกายน 2548 13:43 น. - comment id 87642

    ขอแสดงความยืนดีถึงเพื่อนคุณด้วยน่ะค่ะ36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน