ดวงผมนี่ไม่ทราบเป็นยังไงครับ ถูกโฉลกกับการโยกย้ายและช่วยราชการอยู่เรื่อย ตอนอยู่เมืองไทยไปขโมยไก่บ้านเมียผู้การ ถูกเด้งเข้ากรุงเทพมานั่งรับผิดชอบเรื่องข่าวเทคโนโลยีทางด้านการทหาร ผ่านไปได้เดือนนึงงานกำลังจะรุ่ง สาวโต๊ะตรงข้ามเริ่มสบตา สถานการณ์ของปลากัดกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่แล้วเชียว ผู้ใหญ่ก็สั่งย้ายยี่สิบสี่ชั่วโมงให้ไปช่วยราชการข่าวประเทศรอบบ้านเสียชิบ อุตส่าห์วิ่งโร่ไปหาน้องนายทหารคนสนิทเจ้ากรม ขอให้ช่วยบอกเจ้านายอย่าย้ายพี่ น้องมันดันบอกว่า เดือนหน้าแผนกนั้นจะได้นายทหารหญิงเพิ่งจบมหาวิทยาลัยเข้ามาสองคนนะพี่ ข่าวว่าสวยด้วย ถ้าพี่ไม่เอา เดี๋ยวพี่มาเป็น ทส.แทนผม แล้วผมย้ายไปแทนพี่เอง อ้อยถึงปากช้าง..ไม่เอาก็โง่ซิครับ เอ่อ คิดดูอีกที พี่ว่า..ทหารถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคัญบัญชาเสียแล้ว มันก็เหมือนไม่ใช่ทหารนะน้อง ผมแลบลิ้นแผล่บ แล้วก็หันหลังจากมา ไม่รู้เลยว่าเจ้าน้องรักแอบยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ข้างหลัง หนึ่งเดือนกับการรอคอย..แล้ววันรายงานตัวของน้องใหม่ก็มาถึง ผมตื่นมาอาบน้ำตั้งแต่ตีสอง ฉีดน้ำหอมหมดไปสามขวด กะว่างานนี้ถ้าเธอไม่หลงเสน่ห์เพราะกลิ่น เธอก็คงรับรู้ว่าผมรวยขนาดซื้อน้ำหอมมาอาบได้ แรกพบหน้า ใจผมหายวาบ ความฝันที่นอนรอมาสามสิบวันตกไปถึงตาตุ่ม แม้ไม่ส่องกระจกก็รู้ว่าหน้าคงซีดเป็นไก่อหิวาต์.. ไม่รู้ชาติที่แล้วผมทำกรรมอะไรไว้นักหนา ช่างสวยได้ไม่รู้ลืม..ใบหน้านั้นหลับตาลงอย่างไรก็ไม่หาย สวยแบบที่ผมต้องเปิดไฟนอนอยู่สองอาทิตย์ คนอะไรสวยไม่เกรงใจพระ ไปทำงานตาโบ๋เพราะนอนไม่หลับได้เกือบเดือน ผมก็ทนไม่ไหว ขืนปล่อยไว้แบบนี้เฉาตายแน่ และนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมผมถึงหนีมาไกลถึงแอฟริกา อารัมพบทมาตั้งนาน ก็แค่จะบอกว่าตอนนี้ผมซึ่งทำงานให้กับชุดปฏิบัติการปลดอาวุธมาได้สองเดือน โดนย้ายไปช่วยราชการแผนกฝึกศึกษา ทำหน้าที่สอนผู้สังเกตการณ์ทางทหารใหม่ครับ ฟังดูเหมือนน่ายินดี ต่อไปนี้ชีวิตไม่ต้องไปเสี่ยงกับมัชจุราชที่ไหนใช่ไหมครับ แต่ผมนะหนักใจ..ใครๆ ก็รู้ว่าผมนะเด็กเกือบที่สุดในภารกิจ ยศก็ต่ำสุด เรียงตามอายุผู้สังเกตการณ์สองร้อยกว่าคน..ผมก็คนที่สองจากท้ายแถวล่ะครับ (เป็นการบอกว่าผมยังหนุ่มเป็นนัยๆ ..อะไรนะ หน้าแก่เหรอ เดี๋ยวเถอะ) ภาษาพูดก็กระท่อนกระแท่น ภาษาเขียนคงไม่ต้องพูดถึง ผมเลยปวดหัวจนไข้ขึ้นมาอาทิตย์นึงแล้ว กินยาไปครึ่งกระปุก อาการก็ยังทรงๆ ทรุดๆ กำลังสงสัยว่าเป็นมาลาเรียหรือเปล่า เพราะช่วงนี้กำลังฮิตติดชาร์ท ทหารไทยเองก็โคม่าส่งขึ้นเครื่องบินไปรักษาที่เคนย่าคนนึงเมื่อเช้า อุตส่าห์แวะไปหาหมอ บอกหมอว่าผมไม่ได้กินยาป้องกัน ไม่ได้กางมุ้งนอนครับหมอ หมอยังมองแบบเหยียดๆ เหมือนจะบอกว่า ถึงเอ็งจะไม่กินยา นอนแก้ผ้าไม่กางมุ้ง หนังหนาๆ ขนาดเข็มทำหมันควายยังแทงไม่เข้าแบบเอ็ง ยุงที่ไหนจะเจาะเอาเลือดชั่วไปได้ว่ะ แล้วหมอก็ไล่ผมกลับบ้าน เมื่อหมอบอกว่าผมไม่ป่วย วันนี้ผมเลยลงเล่นฟุตซอลนัดเปิดสนามให้กับทีมไทยดี ซึ่งโคจรมาเจอกับทีมไทยเลว เอ้ยไทยซีครับ มีกันสี่ทีม ไทยเอถึงไทยดี ไทยชั่วไทยเลวไทยระยำนั้นไม่มีครับ ..คนไทยดีและน่ารักจะตาย ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมผมได้ลง งานนี้บังคับต้องมีนายทหารลงเล่นหนึ่งคน คนนึงอยู่ต่างจังหวัด คนนึงปวดฟัน คนนึงเพิ่งผ่าซีสต์ อีกคนเมาคอพับอยู่ข้างสนาม มองซ้ายมองขวานายทหารห้าคนเหลือเราคนเดียวนี่หว่า เสียงลูกน้องยุ ลงๆ ไปเถอะผู้กอง กำลังขาดตัวขำๆ อยู่พอดี ตัวขำๆ เลยลงไปป่วน ไล่เตะฝั่งตรงข้ามร่วงไปนอนกองเสียสองคน ลูกมาโดนตีนสามครั้ง เข้าไปสามประตู ..ขำกันทั้งสนาม ยิงประตูไหนไม่ยิง ดันยิงเข้าประตูตัวเอง แฮททริคเสียด้วย จบเกมส์ด้วยสกอร์สามศูนย์..งานนี้เหมาคนเดียว ขำกันไปอีกนาน ออกจากสนาม ผมเดินเข้าห้อง ถอดเสื้อนอนยาวจะเป็นลมเสียให้ได้ หายใจระทวยอยู่เกือบชั่วโมง ในความรู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย ไม่นึกว่าน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาเกือบเจ็ดกิโลตอนกลับไปพักเมืองไทยจะเล่นเอาสาหัสปานนี้ ตอนนั้นสติผมเหมือนจะขาด ผมเชื่อว่านักกีฬาที่ตายในสนามคงเริ่มต้นด้วยอาการแบบเดียวกับผม กำลังจะตายอยู่เพลินๆ ก็ดันนึกถึงลูกในท้องของเมียน้อยคนที่สามขึ้นมา งานนี้ก็เลยกร่อย แข็งใจลุกขึ้นไปอาบน้ำ จะถูกหลักไม่ถูกหลักผมไม่รู้ แต่ผมร้อนอยู่ข้างในจนแทบคลั่ง แดดตอนบ่ายสามอาจทำให้ผมเจอกับภาวะฮีทสโตร๊คผมคิด การลดอุณหภูมิเร่งด่วนจึงพุ่งปรี๊ดเข้าหัวสมอง แก้ผ้าตัวขาวโดดเข้าใต้ฝักบัว อาบน้ำจนตัวเย็นแล้วก็ขับรถกลับบ้าน ที่บ้านไฟดับ และไม่มีใครอยู่ เอาข้าวและกับที่แช่ไว้ในตู้เย็นตั้งแต่เมื่อวานมานั่งเปิดไฟฉายกิน เย็นชืดเพราะไม่มีไฟฟ้าให้อุ่น อย่าถามหาเตาแก๊สนะครับ คนรวยอย่างผมไม่รู้จัก..ที่บ้านมีแต่เตาไฟฟ้าไฮโซ ขอโทษ อาบน้ำด้วยไฟฉาย บรรยากาศโรแมนติกไปอีกแบบ ก่อนออกจากห้องน้ำ เอาไฟฉายส่องใต้คางดูในกระจก บรื้อส์...ภาพน้องใหม่ที่แผนกกลับผุดขึ้นมาอีกครา ผู้หญิงอะไรสวยเปลืองไฟไม่เกรงใจพระ ผมกระชับไฟฉายแน่น เดินหาถ่านสำรองที่เก็บไว้ คืนนี้..ผมจะเปิดไฟฉายนอน
25 ตุลาคม 2548 22:29 น. - comment id 87437
เจอสาวที่น่าประทับใจซะขนาดลืมไม่ลงแบบนั้น .. .. อย่าปล่อยให้หลุดไปได้นะคะ .. .. สวยแบบไม่เกรงใจพระ .. หล่อแบบไม่เกรงใจมรรคนายก .. เข้ากั๊น .. เข้ากัน ..
26 ตุลาคม 2548 09:31 น. - comment id 87443
ภาพที่คุ้นเคย...น้องใหม่ สวยติดตามากเลยเหรอ? คะ อิอิ ภาพคงคุ้นเคยจนเกือบจะคุ้นใจหรือเปล่าคะ.... เอาน่ะ ดีกว่าไม่มีอะไรให้มอง เอิ๊กๆๆๆ
26 ตุลาคม 2548 10:07 น. - comment id 87444
เปลืองถ่านจัง แนะนำว่าให้นอนดูเดือนแทน..จะประหยัดแบตฯได้มากเลยค่ะ.. ..
26 ตุลาคม 2548 13:59 น. - comment id 87449
อ่านแล้วได้อมยิ้มค่ะ แต่มีอะไรบางอย่างในนี้.. ให้ได้คิดมากกว่า.. การที่คุณย้ายเพราะคนสวยไม่เกรงใจพระคนนั้น 55
27 ตุลาคม 2548 22:07 น. - comment id 87489
.. เรนชอบอ่านเรื่องสั้นของลุงเล.. ด้วยดิคะ.. ยิ่งอ่านยิ่งสนุก .. เรนอยากเขียนแบบนี้จัง .. ..
28 ตุลาคม 2548 15:35 น. - comment id 87506
สมกันยังกะขนมจีนกับน้ำโซดาเลยเนาะกีกี้ นั่นซิ ดูไปนานๆ เดี๋ยวก็ดูดีน่าคุ้นใจอย่างแมงกุ๊ดจี่ว่า..สักวัน ดูไม่เห็นซิครับกุ้งหนามแดง น้องสาวตัวดีมันบัง..ไม่รู้ทำไม ชอบขึ้นไปนั่งบนคานหลังคา ทำลายทัศนวิสัยจริงๆ ครับ มีอะไรให้คิดเหรอครับเมจิค.. คนเขียนยังนึกไม่ออกเลย อิอิ หลานเรนเขียนได้น่าอ่านกว่าลุงอีกนะ ลุงยังอ่านหลับๆ ได้บ่อยๆ
29 ตุลาคม 2548 22:37 น. - comment id 87526