สงครามก็ไม่มี แล้ววันวันทหารทำอะไร ..นั่งถอนหายใจให้หมดวัน เช้าชามเย็นชาม กินเงินภาษีประชาชน เข้างานสิบโมงเช้าก้าวเท้าออกสามโมงเย็น แล้วรอรับเงินสิ้นเดือนหรือ.. ผมได้ยินคำถามประเภทนี้บ่อยๆ ได้แต่ยิ้มให้กำลังใจคนถูกถาม เอาใจช่วยให้สามารถหาคำอธิบายง่ายๆ ให้เขาเข้าใจ ..มานั่งนึกๆ ดู การอธิบายเหตุผลบางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่อธิบายให้กับตัวเอง..ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยิ่งเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นจับต้องไม่ได้ ยิ่งหาคนเข้าใจยากเต็มที พลังอำนาจของชาติมีหลักๆ อยู่สี่ห้าประการ ที่ทำให้ชาติดำรงสภาพของความเป็นชาติอยู่ได้ พลังอำนาจเหล่านั้นก็เช่น พลังอำนาจทางทหาร พลังอำนาจทางการเมือง พลังอำนาจทางเศรษฐกิจ และพลังอำนาจทางสังคม หากพลังอำนาจด้านใดด้านหนึ่งเสื่อมถอยหรือล่มสลายลง ย่อมส่งผลกระทบต่อพลังอำนาจด้านอื่น รวมถึงความเป็นชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นักการทหารคนหนึ่งเคยพูดไว้ตอนยังไม่ตายว่า (ถ้าพูดตอนตายไปแล้วนี่ ผมจะเป็นคนแรกที่ออกวิ่ง) ..ชาติอาจสูญเสียพลังอำนาจอื่นๆ ได้ทุกด้าน เราอาจอ่อนแอลง เราอาจต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูสภาพ แต่เราจะยังคงอยู่..และชาติยังคงเป็นชาติ ..พลังอำนาจหนึ่งเดียวที่จะยอมให้เสียไปไม่ได้ คือพลังอำนาจทางทหาร ..วันใดที่เราต้องรบ วันใดที่เราต้องทำสงคราม เราต้องชนะ ..ความพ่ายแพ้หมายถึงสิ้นชาติ..พลังอำนาจทุกด้านล่มสลายและเปลี่ยนมือไปเป็นของคนอื่น ชีวิตประชาชนทุกชีวิตขึ้นกับทิศทางที่ผู้ชนะขีดให้ ตราบใดที่เขาแสวงประโยชน์ในสิ่งที่เขาต้องการจนพอใจแล้ว เขาอาจคืนชาติให้คุณ..ชาติที่ไม่มีวันเหมือนเดิม..และมันจะถูกจารึกไว้ในความสงสัยของลูกหลานสืบไปจนวันสิ้นโลก ..ในช่วงเวลานั้น บรรพบุรุษของเรามัวทำอะไรอยู่หนอ วันนี้เราถึงต้องพูด ต้องเรียนหนังสือกันด้วยภาษาที่ไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ ต้องใช้เงินที่คนในรูปหน้าตาเหมือนผู้นำชาติอื่น ต้องกินซีเรียลและขนมปังแทน..เอ แทนอะไรนะ ที่เป็นเม็ดๆ สีเหลืองๆ ในพิพิธภัณฑ์นะ อ๋อ ใช่ๆ เขาเรียกข้าว ต้องกินนมแทนน้ำเพราะนมนำเข้าจากประเทศเขา และห้ามเลี้ยงวัวไปขายแข่ง ให้เลี้ยงไก่เลี้ยงหมูได้ เพราะมันขี้โรคตายง่ายและสกปรก..แต่ราคาขึ้นกับเขากำหนด กุ้งไก่ปูปลาขายใครก็ได้ แต่ต้องหลังจากเหลือขายแบบลดแลกแจกแถมกับเขาแล้ว แล้วก็อย่าซ่ากับเขาเชียว เดี๋ยวพ่อคุณแกล้งปิดบริษัทไม่จ่ายน้ำ ไม่จ่ายไฟ ไม่ขายของ ไม่ทำกิจการทุกประเภท.. คนจะตกงาน และอดตายเป็นล้านนะทำเล่นไป อีกทั้งไม่ต้องห่วงเรื่องบริหารประเทศ นักการเมืองนักวิชาการที่จะดูแลบริหารจัดการ เขาจัดสรรและชี้นำไว้พร้อมสรรพ พร้อมสนองนโยบายประเทศ แบบชี้นกเป็นหมาชี้ปลาเป็นกระต่าย..ไม่หือไม่อือ รับรอง สังคมวัฒนธรรมคนป่าที่เขาตราหน้าให้บรรพบุรุษ เขาจะยกเลิกสิ้น ไม่มีสงกรานต์รดน้ำให้เปลืองประปา ไม่มีระบบกษัตริย์เพราะบารมีขององค์กษัตริย์อาจสร้างคลื่นมหาชนยากต่อการควบคุม ไม่มีงานบุญบั้งไฟงานบุญเดือนสิบที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนบ้านและสังคมแน่นแฟ้น ต่อไปอยู่กันแบบครอบครัวเล็กๆ บ้านใครบ้านมัน คุณกลับบ้านนอกก็ไม่ต้องหิ้วไตปลามาฝาก บ้านผมแกงเหลืองผมก็จะไม่แบ่งคุณ (นี่ผมแค่ยกตัวอย่าง จริงๆ แล้วผมไม่รู้จักทั้งไตปลาและแกงเหลือง ที่บ้านจำความได้ แม่ก็ให้กินแต่ปลากะพงผัดฉ่า พล่ากุ้งฮ่องเต้ และยำทะเลรวมมิตร อาหารประเภทนั้นมีแต่เพื่อนเด็กบ้านนอกเขากินกัน) ชาติที่ไม่มีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง..ยังจะเป็นชาติอยู่หรือ ชาติที่คอยเก็บเงินส่งส่วยให้ชาติให้ประเทศอื่น..ยังเป็นชาติอยู่อีกหรือ ชาติที่จะดำเนินนโยบายอย่างโน้น อยากจะทำอย่างนี้ ต้องหันรีหันขวางขอคำแนะนำชาติอื่น..ชาตินั้นคนในชาติยังหลงเหลือ..ซึ่งความเป็นเจ้าของอยู่หรือ.. ผมเดินตะลุยอยู่ในป่าแอฟริกา เจอผู้คนมากหน้าหลายตาจากนานาประเทศทั่วโลก ภาษาอังกฤษผมกระพร่องกระแพร่ง ภาษาฝรั่งเศสผมไม่เป็น... หลายคนมองผมด้วยความรู้สึกเหยียดหยาม ประเทศคุณล้าหลังถึงขนาดนายทหารยังไม่มีการศึกษาเลยเหรอ.. รู้ไหม หัวหน้าทีมผมพูดแทนผมว่าไง.. ประเทศไทยไม่ได้ใช้ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน และโปรตุเกต ประเทศเขาเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่เคยถูกปกครองโดยประเทศเจ้าอาณานิคมใด... เพื่อนๆ ชาวเอเชีย แอฟริกา และละตินอเมริกาเงียบกริบ ไม่มีประเทศใดในพวกเขาเหล่านั้นไม่เคยถูกปกครองด้วยชาติอื่น.. ผมยิ้มให้หัวหน้าทีม และรู้ดีว่าทุกคำที่หัวหน้าทีมพูด มันเสียดแทงใจไม่น้อย..เพราะชาติของเขาก็เป็นหนึ่งในประเทศเหล่านั้น เพราะเราไม่เคยแพ้ เพราะเราไม่เคยลำบาก.. ถึงไม่รู้ว่ามันควรหวงแหนแค่ไหน คนไม่เคยสิ้นชาติ ไหนเลยรู้สึกถึงความไม่มีชาติ.. คุณรู้จักคนมอญไหม กลุ่มคนเล็กๆ ที่เคยยิ่งใหญ่ในลุ่มน้ำอิรวดี ..ที่ตอนนี้ไม่มีกระทั่งแผ่นดินจะอยู่ แม้พวกเขาจะเหลือเพียงกลุ่มเล็กๆ แต่เขาก็รักสามัคคีกันอย่างเหนียวแน่น เขายังคงฝันว่าสักวันจะมีประเทศ มีแผ่นดินเป็นของตัวเอง ..และแม้ชาตินี้ไม่ได้เห็น เขาก็ยังหวังว่าลูกหลานจะได้เห็น..เขาไม่เคยท้อถอย และเขายังคงสอนสืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น..เอ็งจงอย่าลืมความเป็นมอญ.. พ่อแม่เอ็งเกิดมาเป็นมอญ ใช้ชีวิตอย่างมอญ และจะตายอย่างมอญ ..ถึงวันนี้ไม่มีชาติไม่มีแผ่นดินมอญ แต่เอ็งจะต้องมีชาติ มีแผ่นดินสักวัน.. ผมไม่เคยสงสัยว่าผมจะตายเพื่อชาติได้ไหม.. ถ้าจะสงสัยก็เห็นจะเป็นว่า ..ต้องเกิดมาตายเพื่อชาติอีกกี่รอบถึงจะแทนคุณบรรพบุรุษ แทนคุณชาติได้หมด.. แม้วันนี้ผมจะไม่ได้ทำหน้าที่โดยตรงของทหารคือออกรบ.. แต่ผมก็ยังทำตัวเองให้พร้อมเสมอสำหรับสิ่งใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน แน่นอน ทุกๆ วันทหารเช่นผมต้องพยายามทำหน้าที่อื่นนอกเหนือจากการเตรียมกำลังเพื่อการรบ ทุกวันนี้เราไม่ได้ทำงานแลกข้าว ไม่ได้ทำงานแลกเงินเดือน ..ที่เราทำเพราะสำนึกรู้อยู่เสมอ ว่าถ้าไม่มีประชาชนก็ไม่มีเรา..หน้าที่เราคือปกป้องและรักษาอำนาจของประชาชนไว้.. ประชาชน ผู้ซึ่งส่งเสียพวกเราเรียน ..ให้ข้าวให้น้ำให้เราได้กินทุกๆ เดือนไปจนถึงวันตาย ตายเสร็จยังโอนสิทธิ์เลี้ยงดูนั้นไปยังเมียและลูกต่อ.. ไหนยังดูแลเรา ดูแลพ่อแม่ ดูแลภรรยาและลูกยามพวกเราเจ็บป่วย..กระทั่งส่งเสียให้ลูกเราได้เรียนอย่างน้อยก็ถึงระดับมัธยม ...ประชาชนให้เราขนาดนี้..หากไม่รู้สึกว่าควรทดแทนแล้ว ยังจะรู้สึกเป็นอย่างอื่นได้หรือ ภารกิจของทหารนอกเหนือไปจากการสงคราม..เคยได้ยินไหมครับ นั่นล่ะ คือสิ่งที่ทหารเขาทำๆ กันในเวลาแบบนี้ ทหารอย่างเราก็ไม่ต้องการสงคราม ..สงครามไม่ว่าแพ้หรือชนะ ก็นำมาแต่ความสูญเสีย.. นักการทหารที่เก่ง สำหรับผมแล้วไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญการรบ แต่คือผู้ที่ยุติความขัดแย้งได้ก่อนที่มันจะกลายไปสู่สภาพที่ต้องทำสงครามกัน.. แต่จะทำอย่างนั้นได้ ก็ต้องเข้าใจธรรมชาติของอำนาจ ความขัดแย้ง ผลประโยชน์ การแบ่งปัน และการประนีประนอมอย่างถ่องแท้เสียก่อน.. นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมทหารยุคนี้ตบเท้าเข้าสถานศึกษาและเดินเข้าสู่สังคมกันมากขึ้น การออกไปดูโลกภายนอก ไปเรียนไปศึกษานั่นก็เป็นการมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ทหารที่ดีอย่างหนึ่ง โครงการพระราชดำริ จะมีสักกี่คนรู้ว่ามีเป็นร้อยเป็นพันโครงการ ..พระองค์ท่านไม่เคยหยุดคิด.. แล้วรู้กันไหมว่าเฟืองเล็กๆ ที่คอยหมุนให้โครงการดำเนินไปได้นั่นก็คือทหาร..บนยอดเขาที่ยากลำบาก องค์กรเอกชน นักศึกษาเข้าไม่ถึง และไม่ได้มีผลประโยชน์หรือความสวยงามใดให้น่าถวิลหา ทหารไปทุกแห่ง เปลี่ยนทุ่งฝิ่นเป็นป่ายาง ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น สอนชาวเขา สอนชนกลุ่มน้อยให้ดำรงชีพได้โดยไม่ทำลายสมดุลธรรมชาติ และไม่สร้างปัญหาให้กับประเทศทั้งพรมแดนเราและพรมแดนข้างเคียง พูดคุยกันไม่เข้าใจก็สร้างโรงเรียนสอนตั้งแต่เด็กยันคนแก่ เป็นทั้งทหาร เป็นทั้งเกษตรหมู่บ้าน เป็นทั้งครู และเป็นได้ทุกๆ อย่าง ขอแค่ให้เกิดผลดีต่อประเทศชาติ ฝนตกน้ำท่วม..ทหารต้องเป็นกลุ่มแรกๆ ที่เข้าไปถึงพื้นที่ บรรเทาทุกข์ที่ท่วมท้น ฝนแล้งน้ำน้อย..ทหารร่วมกับกระทรวงเกษตรก็ขึ้นทำฝนหลวง ปัดเป่ารอยยิ้มที่เหือดแห้งให้กลับมาอีกหน ไฟไหม้ป่าหมด..พ้นจากฤดูรณณรงค์จะมีใครถ้าไม่ใช่ทหาร ที่ยังคงก้มหน้าก้มตาปลูกกันต่อไม่คิดหยุด ทำทาง สร้างถนน ต่อสะพานตามตะเข็บชายแดนในพื้นที่เสี่ยงๆ ที่ไม่มีใครอยากไปทำ ก็ทหารที่แหล่ะที่บดอัดเกรด สร้างมันขึ้นมา ประชาชนตกอยู่ในวิกฤตความมั่นคงในประเทศอื่น..ก็ไม่ใช่ทหารหรือ ที่ฝ่าเข้าไปช่วยทันทีเพียงข้ามวัน ภารกิจอย่างนี้ เราเรียกมันว่า..ภารกิจของทหารนอกเหนือไปจากการสงคราม.. แล้วคุณยังสงสัยอีกไหมว่า ทำไมทหารไม่เรียนแค่วิชาทางทหารอย่างเดียว แล้วค่อยจ้างผู้เชี่ยวชาญหรือนักศึกษาเฉพาะทางอื่นๆ มาทำงานให้กับหน่วยทหาร.. แทนที่จะศึกษาศาสตร์ทางด้านโยธา ไฟฟ้า อิเลคทรอนิกส์ วัสดุอุตสาหกรรม และการบริหาร ศึกษาแค่ศาสตร์แห่งการฆ่าอย่างเดียวไม่ดีกว่าเหรอ..เลือกไปเลยว่าจะเป็นไก่หรือจะเป็นนก..เป็นไก่ก็จงขันให้เพราะ..เป็นนกก็จงบินให้ดี..ไม่เห็นต้องเป็นเป็ด..ทำได้ทุกอย่าง แต่เอาดีไม่ได้เลยนี่ สักวันหนึ่งเมื่อบริษัทที่ตกเป็นของต่างชาติทั้งสิ้นแล้วนั้น อยากแทรกแซงประเทศเล็กๆ ของเรา เขาแกล้งตัดเงินเดือน ไม่ให้โบนัส แล้วก็ปลดพนักงาน วินัยของคนในชาติมากพอที่จะมองข้ามผลประโยชน์ส่วนตัวและก้มหน้ากัดฟันไม่หยุดงานไม่สไตรค์ แบกรับความทุกข์เพียงลำพังได้ไหม ..ห้าบริษัทสิบบริษัทอาจไม่เป็นไร แต่หากเป็นหลักร้อยหลักพันเล่า ..และเมื่อเวลานั้นมาถึง ทหารความรู้น้อยๆ เหล่านี้จะถูกจัดเข้าไปทำหน้าที่แทนเพื่อพิทักษ์ชาติไว้ก่อนล่มสลาย.. สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น และอาจไม่เกิดขึ้น.. ซึ่งทหารทุกคนก็ภาวนาอย่างนั้น ผมเป็นนักบิน ..รับเงินเดือนมากกว่าเพื่อนๆ ..เสียงจึงอาจอ้อมแอ้ม พูดได้ไม่เต็มปากเต็มคำ.. แต่ถ้าต้องไปตายเพื่อชาติเพื่อประชาชน.. ขอเถอะ ให้ผมไปอยู่แถวหน้าด้วยคน.. ผมอยากดัง
24 ตุลาคม 2548 14:21 น. - comment id 87415
ขอฝันใฝ่ ในฝันอันเหลือเชื่อ ขอสู้ศึกทุกเมื่อ ไม่หวั่นไหว ขอทนทุกข์ รุกโรมโหมกายใจ ขอฝ่าฟัน ผองภัยด้วยใจทะนง จะแน่วแน่ แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติ จนชีวิตเป็นผุยผง จะยอมตาย หมายให้เกียรติดำรง จะปิดทอง หลังองค์พระปฏิมา ไม่ท้อถอย คอยสร้างสิ่งที่ควร ไม่เรรวน พะว้าพะวังคิดกังขา ไม่เคืองแค้น น้อยใจ ในโชคชะตา ไม่เสียดาย ชีวา ถ้าสิ้นไป นี่คือ ปณิธานที่หาญมุ่ง หมายผดุงยุติธรรม อันสดใส ถึงทนทุกข์ ทรมาน นานเท่าใด ยังมั่นใจรักชาติ องอาจครัน โลกมนุษย์ ย่อมจะดี กว่านี้แน่ เพราะมีผู้ไม่ยอมแพ้ แม้ถูกหยัน จงยืนหยัด สู้ไป ใฝ่ประจัญ ยอมอาสัญ ก็เพราะปอง เทอดผองไทย --------------- บทเพลงพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ --------------- แวะมาทักทาย..และเป็นกำลังใจให้ค่ะ
24 ตุลาคม 2548 17:15 น. - comment id 87417
หากสยามยังอยู่ยั้ง........ยืนยง เราก็เหมือนอยู่คง........ชีพด้วย หากสยามพินาศลง.......ไทยอยู่ ได้ฤๅ เราก็เหมือนมอดม้วย...หมดสิ้นสกุลไทย เอาเพลงปลุกใจมาฝากครับ
24 ตุลาคม 2548 19:32 น. - comment id 87418
25 ตุลาคม 2548 14:12 น. - comment id 87425
ทำไมทหารถึงได้ชอบใช้นิคเนม ที่เกี่ยวข้องกับ ลม คะ พี่ พายุ ก็เป็นนายทหารค่ะ แต่ใม่ใช่นักบิน แวะมาทักทายค่ะ
25 ตุลาคม 2548 20:56 น. - comment id 87436
ตอนเด็กๆ ครูเคยให้เขียนจดหมายไปถึงทหารที่ชายแดน ครูบอกว่าเพื่อเป็นกำลังใจให้ทหาร...รู้ไหมทหารทำเพื่อเราแค่ไหน.. ถ้าไม่มีทหาร..ไม่รู้พวกเราจะอยู่กันได้อย่างไร คงหวาดหวั่น น่าดูน่ะค่ะ.. ...
28 ตุลาคม 2548 15:20 น. - comment id 87505
ปกติก็ชื่นชมทหารอยู่แล้วเพราะเคยติดต่อสอบถามข้อมูลไม่ว่ายศต่ำยศสูงระดับนายพัน ทหารให้คำตอบด้วยมิตรไมตรีและสุภาพอ่อนน้อม แต่ในทางกลับกันเคยติดต่อกับตำรวจโดยเฉพาะตำรวจห้วยขวางยศนายพันเช่นเดียวกันท่านหญ่ายมาดจ้าวนายไม่เห็นใครแถมแกล้งให้รอครึ่งวันค่อนวันพูดจาแย่ ยิ่งได้อ่านภาระกิจทหารยามว่างรบรู้สึกซึ้งมากแต่คิดว่าคงเป็นแบบนี้เฉพาะทหารประจำชายแดนหรือต่างจังหวัดไกลๆ ยังสงสัยว่าทหารประจำเมืองกรุงมีภาระกิจอะไรยามว่างรบ ถ้าว่างก็เขียนให้อ่านอีกนะคะ
28 ตุลาคม 2548 16:51 น. - comment id 87507
บทความที่เขียนขึ้นตอบคำถามน้องๆ บทนี้ค่อนข้างยาว ไม่คิดว่าจะมีใครตั้งใจอ่านจนจบด้วยซ้ำ ขอบคุณนะครับที่แวะมาอ่านและทักทาย งานทหารก็คล้ายๆ กับงานในองค์กรอื่นนั่นละครับ คือต้องทำงานได้ ยืนหยัดได้ จุดสำคัญคือควรมีขีดความสามารถมากพอที่จะไม่ต้องพึ่งพาส่วนอื่นในกรณีฉุกเฉิน ดังนั้นหน่วยที่ไม่ได้ทำการรบหรืออยู่ภาคสนามจึงเกิดขึ้น และหน่วยเหล่านี้มักกระจายอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางในแต่ละพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ. .ทหารที่แกร่งที่สุด ขาดน้ำสามสี่วันก็ตายครับ ทหารที่ยิงปืนแม่นที่สุด แบกปืนเสียๆ ไปรบ ทำได้ดีที่สุดคือตีหัวฝ่ายตรงข้ามครับ ทหารสามกองพันวางแผนไม่ดี ก็เหมือนแมงเม่าเดินเข้ากองไฟครับ เรือรบเรือบินไม่มีสถานีสื่อสารก็เหมือนปิดตาตีหม้อครับ ทหารเมืองมีหลายรูปแบบลักษณะการทำงาน ผมเพิ่งมาเป็นทหารเมือง ศึกษาเรียนรู้ได้ไม่นาน ก็ต้องเข้าป่าอีกแล้ว ยังไม่รู้มากพอจะเขียนถึงให้เข้าใจได้ง่ายๆ ผมรู้แต่ว่า..เล่าปี่เคยพูด..ขงเบ้งคนเดียวเทียบได้กับทหารสามแสน..ผมว่าคงไม่ได้หมายถึงคุณค่าความเป็นมนุษย์ แต่มันคงมีความหมายอย่างอื่น ว่าไหมครับ
29 ตุลาคม 2548 06:39 น. - comment id 87510
ถ้าไม่มีทหารหรือตำรวจ ตอนนี้ ในสภาวะการณ์อย่างนี้ พวกเราคงอยู่อย่างหวาดหวั่นไม่น้อยเลยคะ บทบาท ภาระหน้าที่ของทหารนั้น แม้จะไม่เห็นชัดเจนเท่าที่ควร แต่ว่าการที่ได้อ่านบทความนี้แล้ว ทำให้สามารถมองอะไร ๆ ได้ชัดขึ้น ภาระหน้าที่ของทหารนั้น ก็ยิ่งใหญ่และสำคัญมากเช่นกัน ก็จะเป็นกำลังใจให้นะคะ...
30 ตุลาคม 2548 11:01 น. - comment id 87528
ทหารคือรั้วของชาติ
30 ตุลาคม 2548 11:05 น. - comment id 87529
ทหารคือรั้วของชาติ
4 พฤศจิกายน 2548 11:04 น. - comment id 87628
เขียนถูกใจจัง
12 ตุลาคม 2549 09:45 น. - comment id 92977
เพิ่งได้เคยเข้ามาอ่าน คุณเขียนหนังสือดีเชียวค่ะ อ่านแล้วเพลินจนอ่านจบ เดิมทีก็ชื่นชมทหารเป็นทุนเดิมในความเสียสละ อดทน และ ฯลฯ แต่ไม่เคยรู้ในรายละเอียดขนาดนี้ มาให้กำลังและร่วมยินดีที่ได้มีหนังสือของตัวเองนะคะ