เรื่องเล่าจากแอฟริกากลาง : โรงพยาบาลควาย
..สายลมทะเล..
ไม่น่าเชื่อว่าควายๆ อย่างผมจะเข้าโรงพยาบาลกับเขาเป็นเหมือนกัน เปล่า! คราวนี้ไม่ได้ไปไล่จีบหมอสาวๆ หรอกนะ ..ป่วยจริงๆ ครับ นอนดื้ออยู่บ้านหนึ่งวันหนึ่งคืน กินพาราไปสิบแปดเม็ด จนพี่ ทบ.ทนไม่ไหว ยื่นคำขาด..ถ้าไม่ไปเพราะไข้ เอ็งจะได้ไปเพราะไม้หน้าสามแน่..ก็เลยจำใจไปหาตาหมอหนวดเฟิ้มของกองพันปากีสถาน
วัดไข้ ตรวจชีพจรนิดหน่อย หมอก็บอกไข้ไม่สูงนะแต่ชีพจรเต้นไวไปนิดแอบไปกิ๊กกับเด็กๆ มาหรือเปล่า ..ผมก็..ปล๊าว..เสียงสูงขึ้นมาทีเดียว หมอก็เลยแอดมิทนอนโรงพยาบาลไป (ยี่สิบนี่ไม่ถือว่าเด็กใช่ม๊า)
เคยดูหนังสงครามบ้างไหมครับ..ไม่เคยเหรอ..หัดดูเสียบ้างนะ ไม่ใช่ดูแต่หนังรักโรแมนติกคิกกะปู้อย่างเดียวเลย
บรรยากาศของโรงพยาบาล แหมมันใช่เลย เสียก็แต่ไม่มีพยาบาลสาวแบบในหนัง In love and War ห้องน้ำเก่าๆ ที่จะเหยียบลงบนโถแต่ละครั้งต้องระวังแตก ตกลงไปอาจได้เป็นบิ๊กดีทูบีไปอีกคน
แก้ว ช้อน จานที่ใช้ต้องล้างเอง ไม่มีนะครับ น้ำยาล้างจาน สก็อตไบรท์ จานมันๆ เพราะอาหารปากีสถานก็น้ำเปล่านั่นแหล่ะล้าง อย่าว่าแต่ความมันเลย คราบน้ำแกงกะหรี่ยังเหลืองอ๋อยคาจาน ต้องเสียสละเสื้อที่ใส่เช็ดอีกรอบถึงพอทำใจเก็บไปกินต่อมื้อหน้า
เคยกินหรือเปล่าครับอาหารปากีสถาน..ไม่เคยเหรอ..หัดกินเสียบ้างนะ ไม่ใช่กินแต่ KFC แม็คโดนัล อาหารเหลือทิ้งของฝรั่งอย่างเดียวเลย
คนป่วยที่นี่น่ารักมาก จะคอยดูแลซึ่งกันและกัน ใครทำอะไรไม่ไหว ที่เหลือก็จะกุลีกุจอทำให้ เมื่อคืนผมอ่านหนังสือเพลิน สะลึมสะลือหลับคาหนังสือ เพื่อนปากีสถานที่อยู่อีกฝั่งเลยมากางมุ้งให้..กำลังฝันถึงน้องบัวชมพูฟอร์ดอยู่พอดี เลยหอมแก้มไปฟอดนึง ..รุ่งเช้าเห็นเพื่อนมันไม่สบตาสู้หน้า ..ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร
ปากีสถานนี่สมเป็นชาตินักรบครับ เสิร์ฟอาหารเช้าตั้งแต่ตีห้าครึ่ง เป็นธรรมดาผมคงกินไม่ลง ดีว่าเพิ่งกลับมาจากเมืองไทย เวลาที่เมืองไทยเร็วกว่าที่นี่ห้าชั่วโมง ร่างกายยังไม่ทันได้ปรับ เลยกินซะเกลี้ยง..แลบลิ้นเลียอีกต่างหาก เพื่อนเนปาลกับอินเดียทนไม่ไหว ยกขนมปังให้อีกสองแผ่น..เห็นเศษไข่ต้มเจ้าเนปาลกินไม่หมด เลยขอมันมาด้วย..อิ่มจัง
ตอนเช้าหมอมาตรวจ..ก็เลยขอหมอกลับบ้าน หมอถามจะกลับกี่ชั่วโมง ผมทำหน้างงๆ หมอเลยถึงบางอ้อ ..อ้อ! มันนึกว่ามันสบายดีจะกลับไปทำงานต่อได้..หมอเลยฟาดด้วยขวดน้ำเกลือผางนึง..นอนไปเลย ตื่นมาเดี๋ยวไป x-rays ติดเชื้อทางเดินหายใจไอแค่กๆ หายใจฟืดฟาดเลือดกำเดาแห้งกรังเต็มจมูกยังมีหน้ามาซ่า ..ผมเลยต้องเจี๋ยมเจี๊ยมยึดพื้นโชว์ไปสิบที..หมั่นไส้กันไปทั้งโรงพยาบาล
ตอนเที่ยงคนป่วยหกคนกับเจ้าหน้าที่พยาบาลอีกสามชีวิตอัดกันไปในรถพยาบาลสนามขนาดไมโครเพื่อไป x-rays ที่โรงพยาบาลของกองพันแอฟริกาใต้
คุณเคยดูหนังสงครามไหม..ไม่เคยเหรอ..เออถามไปแล้วนี่เนาะ..ก็หัดไปดูเสียบ้างนะ
โรงพยาบาลของกองพันปากีสถานนี่ ผมนึกถึงโรงพยาบาลสนามของสงครามในยุโรปสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ประยุกต์เอาตึกรามบ้านช่องในเส้นทางที่กองทัพผ่านมาใช้ ส่วนโรงพยาบาลของกองพันแอฟริกาใต้นี่คล้ายกับโรงพยาบาลสนามของอเมริกาในสงครามพายุทะเลทราย เพราะเป็นเต็นท์โดมลายพรางเคลื่อนที่ได้ ข้างในเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ไฮเทค แต่ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลไหน ก็ไม่น่าเข้าทั้งนั้นแหล่ะ ..ถ้าไม่มีพยาบาลสาวแบบในหนัง
เฮ้อ! คิดแล้วก็อยากออกไปทำงาน
เมื่อวานโทรไปบอกทีมว่าไม่สบายไปทำงานไม่ไหว ได้ยินเสียงเย้! สงสัยกำลังเชียร์บอลกันอยู่ ..ตอนเช้าพากันมาเยี่ยม ไม่รู้กระซิบอะไรกับหมอ เห็นยัดแบงค์ร้อยดอลล์ใส่มือไปหลายใบ ..หมอหันมายิ้ม อ่านปากมุบมิบได้ว่า..ให้อยู่ทั้งชาติก็ยังได้ ..
แหม่..เพื่อนมันรักจริง