ดอกทองกวาวสีส้มสดเบ่งบานสระพรั่งทั้วทั้งโรงเรียน ตัดกับท้องฟ้าสีคราม สายลมเย็นๆพัดโชยมาท่ามกลางอากาศที่ ร้อนอบอ้าวในฤดูร้อนมีเมฆก้อนน้อยก้อนใหญ่ลอยไปมาอย่างไร้จุดหมายแล้วแต่สายลมจะพัดผ่านไป ต้นทองกวาวต้นใหญ่นี้ได้แฝงใว้ด้วยความรู้สึกต่างๆมากมายเอาจากคนหลายๆรุ่น ที่สามารถสังเกตได้จากรอบๆต้นที่มีรอยขีดเขียนต่างๆนานาทั้งคำบอกรัก บอกลา บอกความรู้สึกต่างๆนานา รวมทั้งสูตรคณิตศาสตร์ก็ยังมี ต้นทองกวาวต้นนี้เลยได้กลายเป็นกระดานสำหรับบอกเล่าเรื่องราวต่างๆไปโดยปริยายแม้แต่ม้านั่งหินอ่อนใต้ต้นทองกวาวก็หนีชะตากรรมอันเลวร้ายนี้ไม่พ้น ถึงแม้มันจะแข็งก็คนก็ยังทำเหมือนกับมันอ่อนเหมือนกับชื่อของมัน มีร่องรอยจารึกต่างๆ ที่แล้วใหญ่สำหรับมันก็คือ ตาหมากรุกที่ติดอยู่ได้กลายเป็นหลุมลึกหลายคนที่ไม่รู้คงคิดว่ามันคงจะโดนอุกกาบาตตกใส่เป็นกระมัง แต่ความจริงแล้วก็คือมันผ่านศึกหนักมาอย่างโชกโชนที่จะต้องคอยเป็นที่ให้ความสนุกสนานแก่มนุษย์ มันต้องพลีกายของมันเพื่อกลายเป็นที่เล่นหมากฮอส และคิดว่าคงจะมีคนมาเล่นหมาฮอสที่นี่หลายร้อยหลายพันกระดานมาแล้ว วันนี้มองไปทางไหนก็ดูเงียบเหงาไปหมด ถนนที่เคยมีคนเดินขวักใขว่ไปมาในโรงเรียนตอนนี้กลับดูว่างเปล่าไปถนัดตา ไม่มีเสียงเจื้อยแจ้วจอแจ จะมีก็เพียงแต่เสียงนกที่มากินน้ำหวานจากดอกทองกวางกับเสียงลมที่พัดผ่านมาเท่านั้น ฤดูกาลแห่งการสอบไล่ก็มาถึง ผู้คนที่เคยวิ่งเล่น พูดคุยสนุกสนานเฮฮาตอนนี้ต้องมานั่งจับกลุ่มกันอ่านหนังสืออย่างเคร่งเครียดเพราะผลการสอบที่ค้ำคอหลายคนอยู่ ทำให้ในสมองของหลายๆคนไม่มีสิ่งอื่นใดนอกจากครามรู้ที่ต่างคนต่างพยายามที่จะขุดคุ้ยมันขึ้นมาหลังจากที่มันได้จมอยู่ที่ขี้เลื่อยในสมอง ใครจะขุดได้มากเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับว่าตอนเรียนคนคนนั้นตั้งใจขนาดไหนที่จะพยายามทำให้หัวของตัวเองมีขี้เลื่อยน้อยที่สุด มาถึงตอนนี้ดอกทองกวาวที่บานสะพรั่งก็คงร่วงโรยหมดต้นแล้ว ร่วงโรยไปโดยที่คงมีน้อยคนที่ได้เห็นถึงความงามของมัน และแล้วผลการสอบของทุกคนก็มาถึงหลายคนเห็นผลสอบก็ยิ้มหน้าบานกว่าจานในโรงอาหารซะอีก แต่ก็มีอีกหลายคนที่หน้าบูดไปตามๆกัน หลายคนสอบติดที่ต่างๆกันออกไปบ้างก็สอบไม่ติด แต่ว่ายังไงทุกคนก็จะต้องแยกย้ายกันจากไปคนละทิศละทางอยู่ดี ช่วงเวลาแห่งการลาจากก็มาถึงทุกคนต้องไปตามทางที่ทุกคนได้เลือกเอาใว้ ห้องเรียนห้องเก่าๆที่เปรียบเสมือนบ้านหลังใหญ่หลังที่สอง ที่ไม่ได้มีแค่ใช้เรียนเพียงอย่างดียว เป็นทั้งห้องนอน ห้องครัว ห้องรับแขก แต่คงไม่มีใครเป็นบ้าเอาเป็นห้องน้ำหรอกนะ เพื่อนทุกคนที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาครูที่เคยสั่งสอน จ้ำจี้จ้ำไชอยู่ตลอดเวลา แต่ทำไมนะถึงอยากกลับไปฟังอีกหลายๆครั้ง ทั้งที่ตอนเรียนนั้นไม่ชอบเอาซะเลย ว่าไปแล้วก็หยิบเอามาลัยดอกมะลิที่ได้รับเมื่อวันปัจฉิมนิเทศวันสุดท้ายของการมาโรงเรียนในฐานะนักเรียน ขึ้นมาชื่นใจอีกสักที เอมันก็เหี่ยวแห้งจนขนาดนี้แล้วแต่ทำไมนะมันถึงยังได้หอมตลบอบอวลได้ถึงขนาดนี้อยู่อีกนะ สำหรับวันสุดท้ายวันนี้อะไรรอบๆตัวมันก็ดูสวยงามไปหมด ทำไมนะมันถึงดูแล้วรู้สึกเหมือนกับว่ามันผูกพันมากับเรานานแสนนานจนยากที่จะตัดขาดจากกันได้ แล้วไอ้น้ำใสๆไม่รู้ทำไมจู่ๆมันก็ไหลออกมาจากตาได้นะ เมื่อดอกทองกวาวบานอีกครั้งเราคงจะได้กลับมาพบกันใหม่นะ
ไม่มีอะไรหรอก คือว่าจะเขียนส่งอาจารย์ เลยเอามาลงให้วิจารย์กันก่อนส่งครับ
20 กุมภาพันธ์ 2546 19:26 น. - comment id 67449
อ่านแล้วคิดถึงภาพตอนอยู่มัธยมจังเลย คิดถึงเพื่อนจังอ่ะ ฮือออออ T_T
8 มีนาคม 2546 09:38 น. - comment id 67640
อ่านแล้ว ชีวิตนายเน่าจัง ผู้ชายก็งี้แหละ
8 มีนาคม 2546 15:24 น. - comment id 67641
ตามกัดกันไม่เลิกนะ ประการังสีฟ้า
14 มิถุนายน 2547 15:18 น. - comment id 74684
เป็นเรื่องที่เขียนได้ดีมากในความคิดของเรา ทำให้คิดถึงวันวานเก่าๆๆๆๆๆ ขอบคุณมากสำหรับเรื่องราวดี