ปาฏิหาริย์รักข้ามมิติ ( ตอนที่ 5 )

สุชาดา โมรา

...จริง ๆ แล้ว เขาเองอาจจะยังอ่อนแออยู่มาก...ชาตินักรบได้แต่ครุ่นคิด 
...ตอนที่เจอกับอาริซ่าเขาพยายามแสร้งทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อาริซ่าคงไม่รู้หรอกว่าจริง ๆ แล้วตอนที่อยู่กับเธอเมื่อครู่ เขาสมมติให้เขาและเธอยังคงเป็นคนรักกันเหมือนเมื่อก่อน ด้วยหวังว่ามันจะกลบความรู้สึกโหยหาลงไปได้บ้าง...
หลังจากที่อาริซ่าขอตัวกลับไปก่อนแล้ว ชาตินักรบเดินเล่นเตร็ดเตร่ตามร้านขายวีซีดี-ดีวีดี เพื่อเลือกหนังเอาไปดูที่ห้องแก้เหงา เขาเลือกหนังได้มาสามเรื่องเป็นหนังลึกลับทั้งหมด ตั้งใจว่าจะเอามาดูเพื่อปลุกใจก่อนจะเริ่มทำงานร่างเนื้อหาของส***๊ปพิเศษเรื่องพิศวง...งาน งาน งาน...ชาตินักรบคิด เพื่อดึงกำลังใจของตัวเองให้กับมา เขาต้องคิดถึงแต่เรื่องงานเท่านั้น
ออกจากร้านขายวีซีดี-ดีวีดีแล้วชาตินักรบมุ่งหน้าไปยังลานจอดรถบริเวณ ข้างหลังศูนย์การค้า จึงได้รู้ว่าข้างนอกนั้นฝนตกหนักและลมกรรโชกแรง แรงลมพัดพาละอองฝนสาดเทเข้ามาข้างในบริเวณลานจอดรถ ทำให้พื้นคอนกรีตบางส่วนเปียกปอนและน้ำไหลเจิ่งนอง ชาตินักรบเดินหลบเลี่ยงสายฝนมุ่งตรงไปยังรถของเขาที่จอดอยู่ ตรงข้ามที่รถของเขาจอดอยู่เป็นทางเชื่อมไปหาโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ด้านหลังของศูนย์การค้า ตอนนี้เองที่เขาได้เจอกับเทอดศักดิ์ที่เพิ่งจอดรถเสร็จ
เทอดศักดิ์เป็นทั้งรุ่นพี่ที่เรียนสื่อสารมวลชนมาด้วยกัน และเป็นรุ่นพี่ที่ทำงานที่สำนักพิมพ์ ไททรรศน์มาก่อนเขาสามปี สำหรับชาตินักรบแล้วเทอดศักดิ์เป็นรุ่นพี่ที่ดี ทั้งทางด้านการเรียนและการทำงาน เทอดศักดิ์เป็นคนเปิดโลกการเรียนรู้ของเขาให้กว้างขึ้น ในตอนที่เขาเข้าร่วมเป็นทีมทำหนังสือพิมพ์ฉบับนักศึกษารายสัปดาห์ขึ้นเพื่อจำหน่ายในรั้วมหาวิทยาลัยกับเทอดศักดิ์
การได้เข้าร่วมวางแผนการนำเสนอข่าว การวางแผนหางบประมาณ และการออกงานภาคสนามกับเทอดศักดิ์ ทำให้เขาซึมซับประสบการณ์ของการทำงานในสถานการณ์จริง ๆ ได้มากทีเดียว และการได้มีโอกาสคลุกคลีทำงานร่วมกันนี้เอง ส่งผลให้เมื่อเขาเรียนใกล้จบ เทอดศักดิ์ชักชวนให้เขามาสมัครงานที่หนังสือพิมพ์ไททรรศน์ที่เทอดศักดิ์ทำอยู่ก่อนแล้ว
ตอนนั้นเทอดศักดิ์ทำเรื่องขอย้ายแผนกจากทีมข่าวอาชญากรรมมาอยู่ ทีมข่าวสังคมแทน เพราะนุศราภรรยาของเทอดศักดิ์ซึ่งท้องอ่อน ๆ ได้สามเดือนขอร้อง เธอต้องการให้เขาอยู่ใกล้ชิดดูแลเธอมากขึ้น ที่สำคัญเธอนั้นไม่อยากให้เขาทำงานเสี่ยงและกลับบ้านไม่เป็นเวลาเหมือนเคยอีก
เมื่อเทอดศักด์ทำเรื่องย้ายแผนกได้และทางสำนักพิมพ์ต้องการคนมาแทนเขาในทีมข่าวอาชญากรรม เขาไม่รอช้าเลยที่จะนำเรื่องนั้นมาบอกกับชาตินักรบให้รับรู้
เขาไม่ได้เจอกับเทอดศักดิ์มานานแล้ว ทั้งในชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนเคยแวะเวียนไปเยี่ยมไปหาเทอดศักดิ์ที่บ้านอยู่เป็นประจำ เพราะมัวแต่วุ่น ๆ กับการทำข่าวอาชญากรรมที่ต้องตระเวนไปนู่นไปนี่ไม่เป็นเวลา เป็นเหตุผลที่เขายกขึ้นมาอ้างกับตัวเองเสมอ 
หลังจากตกลงกับอาริซ่าว่าจะกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม เขาก็พยายามทำตัวโดดเดี่ยวมาตลอด เอาแต่ก้มหน้าก้มตา มุ่งทำงานเพียงอย่างเดียวเพราะอยากจะพิสูจน์ว่าตัวเองเข้มแข็งสามารถอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว และที่สำคัญการไปบ้านของเทอดศักดิ์มันทำให้เขาอดคิดถึง ช่วงเวลาที่เขาพาอาริซ่า ไปเล่นกับยัยลูกหนูลูกของเทอดศักดิ์ไม่ได้
เทอดศักดิ์และนุศรา ขอร้องให้พวกเขาเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์ให้กับยัยลูกหนู ตั้งแต่แกยังเล็ก อาริซ่ารักยัยลูกหนูมาก จนเธอเคยปรารภกับเขาว่า ถ้าแต่งงานและมีลูกกับเขาซักคนอยากมีลูกสาวอย่างยัยลูกหนู...นึกถึงตรงนี้แล้วทำให้ชาตินักรบรู้สึกสะท้อนใจ โอกาสที่เขาจะได้แต่งงานอยู่กินและมีลูกกับเธอตอนนี้มันช่างอยู่ห่างไกลลิบลับหรือเกิน
ชาติ มาทำอะไรแถวนี้วะ เทอดศักดิ์เอ่ยทักขึ้นก่อน
พี่เทอดหวัดดีครับ มีนัดกับเพื่อนครับ กำลังจะกลับ พี่ล่ะครับวันนี้มาทำข่าวอะไร เขาเอ่ยถามเมื่อเห็น เทอดศักดิ์สะพายกล้องติดตัวมาด้วย
อ๋อ ข่าวงานเลี้ยงการกุศล ของคุณหญิงศันสนีย์น่ะ เห็นเขาบอกว่าจะระดมทุนไปช่วยเหลือเด็กยากจนในชนบท   เออชาตินายว่างมั๊ยล่ะ
ทำไมเหรอครับพี่
พี่มีเรื่องอยากจะคุยด้วยเยอะเลย ไม่ได้เจอกันนานแล้วนี่เรา เอางี้นาเข้าไปทำข่าวกับพี่ในงาน เสร็จแล้วเราไปหาที่คุยกันที่บ้านพี่ ยัยลูกหนูบ่นว่าเจอแต่คุณอาริซ่า ไม่เจออาชาติซักที แกเข้าโรงเรียนแล้วนะ กำลังเห่อชุดนักเรียนใหญ่
ลูกหนู ตอนนี้คงจะย่างห้าขวบแล้ว เขาไม่ได้ไปเยี่ยมแกนานเท่าไรแล้วนะ....เกือบ ๆ ห้าเดือนได้แล้วมั้ง
มันจะดีเหรอครับพี่ ผมรอพี่อยู่ข้างนอกดีกว่า พี่เสร็จธุระแล้วค่อยโทรหาผมดีกว่ามั้งครับ 
เออน่า แป๊บเดียวไม่นานหรอก พี่ไปถ่ายรูปคุณหญิงกับแขกผู้มีเกียรติบางคนตอนมอบเงินการกุศลก็เสร็จแล้ว ถือว่าเข้าไปหาอะไรกินเล่นแล้วกันนะ..ไปกัน เทอดศักดิ์เอ่ยปากพร้อมฉุดแขนชาตินักรบไปด้วย  เหมือนเป็นการขอร้องแกมบังคับ
ก็ได้ครับ ชาตินักรบตกลงรับคำชวน เพราะเขาคิดว่าอย่างน้อยมีอะไรให้ทำบ้างก็ยังดีกว่ากลับไปนอนดู หนังเหงา ๆ อยู่ที่ห้องคนเดียว
.
งานเลี้ยงจัดได้ค่อนข้างใหญ่โตเลยทีเดียว บรรดาแขกผู้มีเกียรติที่ใส่ชุดราตรีสวย ๆ งาม ๆ เท่าที่ประมาณดูด้วยสายตาแล้วไม่น่าจะมีจำนวนต่ำกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบคน สื่อมวลชนอีกจำนวนกว่าสามสิบชีวิต
เทอดศักดิ์พาชาตินักรบเดินสำรวจอาหารและเครื่องดื่มทั่วห้อง งานนี้จัดเลี้ยงแบบงานเลี้ยงค็อกเทล  อาหารจึงไม่เป็นอาหารหนักมาก  ส่วนใหญ่เป็นจำพวกเครื่องจิ้ม และของขบเคี้ยวกินเล่น 
ชาตินักรบไม่ได้ทานอะไรมาก  เพราะเขายังอิ่มจากมื้อที่ทานกับริซ่าอยู่  เขาเลือกหยิบเครื่องดื่ม และของแกล้ม เล็ก ๆ น้อย ๆ เพียงไม่กี่ชิ้นมาทานในระหว่างรอเวลาเปิดงาน แต่เทอดศักดิ์ดูเอร็ดอร่อยกับการไล่ชิมอาหารอยู่มาก
พี่เทอด กินเยอะระวังอ้วนนะพี่ เขาเย้า
ไม่ทันแล้วว่ะชาติ  ตอนนี้มันยื่นออกมาแล้ว
เทอดศักดิ์หัวเราะ พลางใช้มือลูบหน้าท้องให้เขาดู สี่ห้าปีจากการมีชีวิตครอบครัว ทำให้เขาผ่อนคลายตัวเองลงไปมาก ชาตินักรบเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่า รุ่นพี่ผู้เคยเคร่งขรึมเอาจริงเอาจัง เมื่อเปลี่ยนมาเป็นสามีและพ่อคนแล้วจะกลายเป็นคนอ่อนโยนและขี้เล่นได้ถึงเพียงนี้
...ถ้าชาติมีครอบครัวแล้วก็จะรู้เอง...เทอดศักดิ์เคยบอกเขาอย่างนั้น
.
พิธีกรหญิงร่างเล็กขึ้นประจำตำแหน่งที่โพเดี่ยมบนเวที เธอกล่าวต้อนรับแขกผู้มาร่วมงาน แจ้งให้ทราบถึงกำหนดการต่าง ๆ ภายในงาน เมื่อเธอกล่าวจบแสงไฟภายในห้องค่อย ๆ ลดระดับความสว่างของมันลง  ม่านบนเวทีค่อย ๆ เปิดขึ้น พร้อมกับแสงสีที่สาดส่อง เป็นจุดเด่นบนเวที
หนุ่มสาวหลายคนแสดงลีลาท่าทางของพวกเขาบนเวที ร่างกายพลิ้วไหวไปตามบทเพลงที่บรรเลงประกอบ  แสงสีเสียงและการเคลื่อนไหวบนเวทีเรียกความสนใจจากผู้คนในห้องไม่น้อย นักข่าวทั้งหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์เริ่มทำหน้าที่ของพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง ชาตินักรบและเทอดศักดิ์เกาะกลุ่มกับนักข่าวคนอื่น ๆ ที่ออกันมาถ่ายรูปอยู่หน้าเวที ชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปแต่ละตัวส่งเสียงดังแข่งกันเอง ในขณะที่แสงแฟลชจากกล้องส่องประกายวูบวาบเหมือนพยายามจะสู้กับแสงสีบนเวที
การแสดงกินเวลานานเกือบสิบนาที เสียงตบมือดังกึกก้องหลังจากการแสดงจบลง สปร์อตไลท์ส่องแสงไปที่โพเดี่ยมบนเวทีอีกครั้งหนึ่ง พิธีกรหญิงคนเดิมกลับมาทำหน้าที่ของเธออีกครั้งหนึ่ง ประกาศแจ้งให้ทราบว่าต่อไปจะขอเรียนเชิญคุณหญิงศันสนีย์ขึ้นรับมอบเงินบริจาคของแต่ละคน
คุณหญิงศันสนีย์ก้าวขึ้นบนเวทีพร้อมเสียงตบมือ เธอใส่ชุดผ้าไหมสีน้ำเงิน เนื้อตัวประดับประดาไปด้วยเครื่องเพชรหลายชิ้น พิธีกรหญิงประกาศรายชื่อผู้บริจาครายใหญ่และเรียนเชิญแต่ละคนขึ้นมอบเงินให้กับคุณหญิงบนเวที
เสียงตบมือดึงกึกก้องทุก ๆ ครั้งที่มีการประกาศรายชื่อ ผู้บริจาคแต่ละคนทยอยขึ้นมอบเงินและถ่ายรูปคู่กับคุณหญิงบนเวที แต่ละคนบริจาคเงินไม่ต่ำกว่าสองหมื่นบาท หลังจากประกาศชื่อผู้บริจาคคนที่สิบห้าซึ่งเป็นคนสุดท้ายบนเวที พิธีกรหญิงก็แจ้งให้ทราบถึงยอดเงินบริจาคที่ได้รับทั้งหมดในคืนวันนี้ให้ทราบทันที สี่แสนห้าหมื่นบาทเป็นยอดเงินหลังจากหักค่าใช้จ่ายในงานแล้ว
คุณหญิงศันสนีย์ขึ้นกล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกคนที่เข้ามาร่วมเป็นสักขีพยานในงาน พร้อมกับแจ้งให้ทราบว่าการแสดงชุดสุดท้ายจะเป็นการแสดงของเด็ก ๆ เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ และกล่าวเชิญชวนแขกผู้มีเกียรติร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีก่อนจะปิดงาน
เด็ก ๆ เริ่มปรากฏตัวบนเวที คุณหญิงศันสนีย์เดินจากเวทีลงมา นักข่าวต่างมารุมมาตุ้มเข้าไปเพื่อขอสัมภาษณ์เธอ คุณหญิงให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าเงินที่ได้รับบริจาคในคืนวันนี้จะถูกนำไปเป็นทุนการศึกษาให้เด็กยากจนในชนบทอย่างแน่นอน และวันไหนถ้าหากเธอมีเวลาว่างเธออาจจะเดินทางไปมอบทุนนี้ให้กับ เด็ก ๆ ถึงโรงเรียนของพวกเขาเอง...ให้สัมภาษณ์ได้ไม่นาน คุณหญิงก็ขออนุญาตเข้าไปคุยกับแขกผู้มีเกียรติซึ่งเป็นผู้บริจาคงานรายใหญ่
นักข่าวเสร็จงานของเขาแล้ว ต่อจากนี้ก็เป็นช่วงเวลาอิสระจนกว่างานจะเลิก เนื้อหาข่าวที่จะเขียนนั้นไม่มีอะไรบ้าง เพียงแค่บอกชื่องาน ผู้จัด จำนวนผู้เข้าร่วม ยอดบริจาค และรายชื่อผู้บริจาคเท่านั้น
เทอดศักดิ์ชวนให้ชาตินักรบดื่มเครื่องดื่มอีกเล็กน้อย ก่อนที่จะออกไปคุยกันต่อที่บ้านของเขา  นาฬิกาข้อมือบอกเวลาสองทุ่มสี่สิบห้านาที  กว่าจะไปถึงบ้านของเทอดศักดิ์คงเกือบสี่ทุ่มแล้ว
..เพล้ง..
ว๊ายยย 
มีเสียงของแตกและเสียงร้องดังมาจากมุมหนึ่งของห้อง มองไปตามที่มาของเสียงพบว่ามาจากกลุ่มที่คุณหญิงศันสนีย์เข้าไป คุยด้วยเมื่อครู่
คุณหญิงละ...คุณหญิงอยู่ไหน
มีเสียงตะโกนเรียก
คุณหญิง! คุณหญิง!
ชาตินักรบและเทอดศักดิ์ผวาไปตามต้นเสียงนั้น พร้อม ๆ กับนักข่าวคนอื่น ๆ
...เกิดอะไรขึ้น...
คุณหญิงล้มตัวนอนอยู่กับพื้น  แก้วไวน์ของเธอหล่นแตกอยู่ข้าง ๆ ตัว มีเลือดไหลออกตามบริเวณตา หู จมูก ปาก ช่องคลอด และทวารหนัก ร่างกายบิดกระตุกไปมา ร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด
โอ๊ยยยย
ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ตัวเธอยังคงยืนตัวสั่น สีหน้าซีดเผือด ผู้ชายที่อยู่ใกล้ ๆ กันท่าทางจะมีสติมากกว่าคนอื่น ๆ เขาอยู่ในท่าคุกเข่าจับตัวคุณหญิงเขย่าและร้องเรียก
คุณหญิง คุณหญิงครับ
ร่างเธอกระตุกอีกสองสามครั้งก่อนจะสำลักเอาลิ่มเลือดออกมาทางปาก และแน่นิ่งไปเสียงชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปดังแข่งกันไม่หยุด กล้องโทรทัศน์แต่ละสถานีต่างบิดเสียดกันเข้ามาเพื่อที่จะแข่งกั นเก็บภาพให้ได้ใกล้และชัดที่สุด
กรี๊ดดดดดด 
เสียงกรีดร้องดังมาจากอีกตำแหน่งหนึ่งของห้อง บริเวณใกล้ ๆ กัน ผู้บริจาคสองคนล้มลงนอนอยู่บนพื้น มีเลือดไหลออกตามบริเวณตา หู จมูก ปาก อวัยวะเพศ และทวารหนัก ร่างกายบิดกระตุกไปมา ร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด ร่างของเขาและเธอกระตุกอีกสองสามครั้งก่อนจะสำลักเอาลิ่มเลือดออกมาทางปาก และแน่นิ่งไป ไม่แตกต่างจากคุณหญิง
...เกิดอะไรขึ้นเหรอ...เกิดอะไรขึ้น...สื่อมวลชนยังแข่งกันทำหน้าที่ของพวกเขา
โอ๊ยยยย
พิธีกรหญิงที่เคยทำหน้าที่บนเวทีเมื่อครู่ร้องขึ้น ร่างของเธอทรุดลงกระแทกกับพื้นเสียงดัง นอนดิ้นทุรนทุรายร่างกายมีเลือดไหลออกตามบริเวณตา หู จมูก ปาก ช่องคลอด และทวาร ร่างของเธอกระตุกขึ้นสองสามครั้งก่อนจะสำลักเอาลิ่มเลือดออกมาทางปาก และแน่นิ่งไป
...สี่รายแล้ว...และดูเหมือนเหตุการณ์จะหยุดลงแค่นั้น
การแสดงบนเวทีหยุดชะงักไปกลางคัน เพราะความวุ่นวายจากข้างล่าง มีเสียงตะโกนให้เรียกรถพยาบาล พร้อม ๆ กับเสียงโหวกเหวกตกใจของคนที่เข้ามาร่วมงาน สักพักหน่วยรักษาความปลอดภัยของโรงแรมก็มาปรากฏตัวที่ห้องเกิดเหตุ
สงสัยคราวนี้เอ็งได้ข่าวใหญ่ไปเขียนอีกข่าวแล้วว่ะชาติ เห็นมั๊ยว่ามากับพี่แล้วไม่เสียหลาย เทอดศักดิ์หันมามองเขาและพูดเย้าทีเล่นทีจริง
ประหลาดมากแสดงว่าผู้ที่กระทำการในครั้งนี้ต้องมีพลังเหนือธรรมชาติเกินกว่าจะต้านทานได้แน่ ๆ เขาอาจจะเป็นคนที่เราตามหาอยู่ก็ได้  
แคนดี้นึกในขณะที่เธอเองก็ลอยตัวขึ้นไปบนเพดานและเกาะอยู่ตรงดวงไฟที่ห้อยระย้านั้นด้วยท่าทางที่ครุ่นคิด
 
 
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ
ผู้ตั้งกระทู้ สุชาดา โมรา ( p_naja@hotmail.com )				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน