ภาคค่ำอลวนหัวใจอลเวง@THE EVENING SCHOOL@ตอนที่ห้า

กันตะปัณณ์

ตอนที่ห้า เก็งข้อสอบที่นายรูปหล่อทำให้
โอ๊ยยยย!!!!ทำไมหนังสือเรียนมันถึงได้เยอะขนาดนี้ฟะ อ่านไม่ทันแล้วว๊อยย ฉันเกาหัวแกรกๆเพราะเตรียมตัวตัวสอบไม่ทันค่ะ ตั้งแต่มิสเตอร์แดเนียลหายไปจากชีวิตของฉัน ฉันก็ทำอะไรยุ่งเหยิงไปหมด
ก็รูหรอกนะว่าถ้าไม่เริ่มดูหนังสือตั้งแต่วันนี้มีหวังสอบตกแหงๆ เฮ้อ แต่พอจะเริ่มอ่านหน้าหล่อๆของอาจารย์ก็ลอยมาปรากฏที่หน้าหนังสือซะอีกแล้ว...ม่ายยยนะ..........เฮ้อ ปิดหนังสือแล้วนอนเอาแรงก่อนดีกว่า........อ้าว!!!!!!!!ซะงั้นน่ะหล่อน 
..........แต่นึกถึงคำพูดเมื่อตอนเดินกลับบ้านกับอีตานั่นแล้ว........เคยมีแฟนแล้วเหรอ???.......จะเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันน๊า......อยากรู้จัง.....เอ๊ะจะคิดถึงตานั่นทำไมเนี่ยฉัน .....ไม่เกี่ยวกันซักกะหน่อย....นอนดีกว่าเรา...คร่อกๆๆๆฟี้ๆๆๆๆ ....ผู้หญิงบ้าไรฟะนอนกรนสนั่นบ้านสะเทือนซะ....
และแล้วเวลาก็หมุนผ่านไปเรื่อยๆจนถึงประมาณตีสองกว่าๆนางเอกของเราก็ตื่นขึ้นมาเพราะปวดฉิ้งฉ่องค่ะ...หุหุ
ไม่งั้นมันไม่ยอมกระดิกตัวเป็นอันขาด อิอิ พอเปิดประตูออกไปก็ตกใจค่ะ ....ก็อีตารูปหล่อยังไม่ยอมหลับยอมนอนกลับนั่งติวหนังสือในห้องครัวท่าทางเพลิดเพลินเชียวนะยะ
โทษที เลยพลอยทำให้เธอตื่นไปด้วยเลยเขาหันมาบอกสีหน้าแช่มชื่นเหมือนคนกินยาโด๊ปเข้าไปเลยอ่ะ คนบ้าไรไม่ได้หลับทั้งคืนยังแจ่มใสอยู่ได้...น่าสงสัย...
ไม่เป็นไรอ่ะ เธอดูวิชาไรอยูเหรอปราชญ์
วิชาไรก็ช่างเหอะฉันอ่านก็แล้วกันว่าแต่เธอเหอะเอาแต่นอนเดี๋ยวก็สอบตกหรอกเฮอะ
ช่างฉันเหอะ ว่าแต่ทำไมเธอมาอ่านที่ครัวล่ะ นายนั่นมองหน้าฉันเขม็ง
ไม่รู้นางยักษ์ตนไหนกรนเสียงดังโคตรรเลยนะสิ ฉันเลยต้องย้ายมานั่งตรงนี้ เชอะ
นะ...นาย ว่าฉันงั้นเหรอตาทึ่ม เดี๋ยวปั้ด!!! นายหล่อเอี้ยวตัวหลบอย่างคล่องแคล่วก่อนหัวเราะเยาะฉันอย่างสนุก
ว่าจะช่วยติวให้หน่อยแต่ไม่ดีกว่าอ้ะนายนั่นทำงอน
ดีฉันไม่มีอารมณ์หรอก เบื่อๆๆๆๆเข้าใจมั้ย?ฉันรีบวิ่งเข้าห้องอย่างเร็วกลัวเขาชวนติววิชาภาษาอังกฤษแล้วจะเห็นหน้าอาจารย์ลอยมาอีก...พอถึงเตียงนอนก็จับวิชาคณิตศาสตร์มาดูนิดหนึ่งแต่ก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรเข้าหัวเลย
.....นอนดีกว่า.....อีกละยัยนี่
.......................
เฮ้อ...สุดท้ายเมื่อคืนก็ไม่ได้ความรู้อะไรเลย...เซ็ง ....ทำมาบ่นก็หล่อนมัวแต่นอนไม่ใช่เหรอยะ....
เออ...หนูมัจลุกไม่ต้องออกไปช่วยพ่อหรอกนะวันนี้ ฉันทำหน้างงๆ
พรุ่งนี้มีสอบไม่ใช่เหรอลูก วันนี้หยุดดูหนังสือซักวันนะเอาให้เต็มที่ไปเลย ฉันมองไปที่ตารูปหล่อก่อนถามพ่อ
แล้วตาเบื้อกนั่นล่ะ พ่อ นายสุพจน์ยิ้มกว้างก่อนตอบลูกสาว
โอ๊ยไอ้หนุ่มมันหัวดี ไม่เป็นไรหรอก ฮ่าๆๆๆ คำตอบนั้นทำฉันหันขวับจ้องพ่อแบบเอาเรื่อง
อะไรนะ พ่อว่าหนูโง่เหรอ
ก็หรือไม่จริงอ้ะ พ่อทำหน้ากวนแบบสุดๆ
หึ..งั้นที่โบราณว่าไว้ว่าลูกไม้ย่อมไม่ไกลต้น หนูโง่พ่อก็โง่แหละฮึ่มๆ
ก็จริงไง อย่างหนูต้องขยันกว่าคนอื่นสองเท่า ถึงจะสู้เขาได้นะพ่อลูบหัวฉันเบาๆเพื่อปลอบใจ
แล้วนักปราชญ์ก็ยื่นอะไรบางอย่างมาให้ฉัน
อ้ะ ...เก็งข้อสอบที่จะสอบวันพรุ่งนี้ เอาไว้อ่านดูสิ หมอนั่นยิ้มระรื่นก่อนส่งมันมาให้ฉัน แต่ฉันรู้สึกเหมือนเป็นตัวตุ่นโง่ๆตัวหนึ่ง ที่อยากจะมุดรูหนีเต็มที่
ทั้งสองคนเลิกรังแกฉันซักทีได้มั้ย!!!!!!!!!!!!!!! ฉันโพล่งออกไปอย่างเหลืออด
หนูเป็นลูกพ่อนะพูดจาไว้หน้ากันบ้างเซ่ 
ก็เพราะเป็นลูกไง ถึงต้องพูดพ่อเอี้ยวตัวมาตอบก่อนหันไปสาละวนกับการเตรียมของขายต่อ
คนอย่างหนูน่ะถ้าลองตั้งใจทำอะไรแล้วต้องสำเร็จฉันกอดอกพูดอย่างภาคภูมิ
พูดผิดพูดใหม่ได้นะอีหนูเอ๊ย...ฮ่าๆ ....พ่อสบประมาทฉันอีกแล้ว....ฮึ้ยย!!!!!!!
ไปเลยไปออกไปได้แล้ว ไปขายของของพ่อเลยป่ะ!!!!!!!ฉันดันหลังพ่อให้ออกไปทางประตูไวไว
แต่ในใจกำลังคิดการใหญ่ที่จะทำให้ทุกคนต้องตะลึง จะทำคะแนนเต็มให้ได้คอยดู ฮึ่มๆ เอาให้ช็อคไปเลย
...................................
ที่แผงลอยขายหมูปิ้งพ่อสุพจน์ ณ เซ็นเตอร์พ้อยท์เมืองน่าอยู่ฯ
ลุงๆเมื่อกี้ไม่พูดแรงไปหน่อยเหรอครับ ยัยนั่นอาจเสียใจก็ได้นะ พ่อหันมายิ้มให้เขาทีหนึ่งก่อนหันไปกางผ้าใบกันฝน
ไอ้ลูกคนนี้มันต้องพูดแรงๆ ถึงจะกระเตื้องน่ะ....ตารูปหล่อมองพ่อแบบงงสุดๆ ก่อนนึกในใจว่า...โคตรซาดิสม์..
...............................
ในขณะที่สุวรรณมัจฉา ซึ่งอยูที่บ้านตอนนี้กำลังขะมักเขม้นกับการอ่านหนังสืออย่างหนักหน่วงเอาเป็นเอาตาย....
.....ตรงไหนไม่ทราบ เหอๆๆ..กำลังนั่งจ้องหนังสือสามเล่มอย่างเอาเป็นเอาตายตังหาก.....ก้ากๆๆเพราะเจ้าหล่อนคิดไม่ออกน่ะค่ะว่าจะเริ่มจากวิชาไหนก่อนดี พลางก็เหลือบไปเห็นเก็งข้อสอบที่พ่อรูปหล่อเราทำไว้ให้ก็ออกอาการหมั่นไส้ในความเก่งกาจของเขาขึ้นมาอีก....
นี่อ่ะเหรอที่อุตส่าห์ไว้ให้ เชอะๆๆๆๆ แม่จะฉีกซะ...ขณะที่กำลังจะฉีกกระดาษเจ้ากรรมอยู่ก็นึกขึ้นมาได้...
อ่านก่อนค่อยฉีกก็ดีเหมือนกัน ย่นระยะเวลาดีกว่าอ่านเนื้อหามากนัก หึหึ...เพิ่งมาฉลาดก็ตอนนี้อ่ะนะ
นึกๆแล้วเขาก็อุตส่าห์ช่วยทำซะดึกดื่นเหรอ....นายนักปราชญ์....นายก็เป็นคนดีเหมือนกันนะ..........

ที่โรงเรียนภาคค่ำวันนั้น พิมพ์ชนกนั่งมองสุวรรณมัจฉาอ่านหนังสือสอบอย่างขะมักเขม้น นายนักปราชญ์ก็ทึ่งกับวิธีการของลุงสุพจน์ที่ใช่ได้ผลเกินคาด แต่เมื่อหันไปมองเพื่อนคนอื่นรอบๆก็หัวเราะออกมาพรืดใหญ่....
นี่พิมพ์ เธอดูพวกนั้นสิ เล่นเตรียมตัวทุจริตการสอบซะเป็นการเป็นงานเลยนะ ขำว่ะ แล้วงี้จะผ่านมั้ยนี่
โรงเรียนนี้เขาให้ความสำคัญกับการเข้าเรียนมากกว่าการสอบหรอกย่ะพ่อคุณ นายนักปราชญ์ตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินอย่างมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยให้มันเป็นไปอย่างที่มันเป็น
....................
กินข้าวได้แล้วยัยทึ่ม ฉันได้ยินตาปราชญ์มาเรียกแว่วๆ
ไม่กินเฟ้ย วันนี้ขยัน ฉันตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสืออย่างไม่ลดละ
แต่.... ตาปราชญ์ทำสีหน้าเป็นห่วง
ช่างเขา ดูหนังสือตอนท้องหิวหัวมันคงแล่นหรอกนะ .........ตาปราชญ์มองสองพ่อลูกพลางคิดว่าสมแล้วที่เป็นพ่อลูกกัน....ดื้อซะเจงๆ .....
โอ๊ย....มึน..........ไม่ไหวแล้วอ่ะ .....หิวข้าว.....
ฉันเดินสะโหลสะเหลไปยังห้องครัวก็เห็นตานักปราชญ์นอนฟุบอยู่บนโต๊ะทานข้าวค่ะ
นี่ตาเบื้อกมานอนที่นี่เดี๋ยวก็หวัดกินหรอกเฮ้อ.........หักโหมเกินไปแล้วนะ........เมื่อคืนดูหนังสือทั้งคืนแถมตอนเช้ายังไปช่วยที่ร้านถึงเย็นอีก...เอ๊....ฉันเหลือไปเห็นสิ่งหนึ่งค่ะ....
วิชาที่จะสอบวันที่สองนี่นา......ทำให้ฉันอีกแล้วเหรอ...ตาบ้า....ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้นะ.....ฉันเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมผู้หญิงตาถั่วคนนั้น ถึงได้รักเธอ....ฉันยิ้มให้เขาทีหนึ่งก่อนที่ท้องจะร้องประท้วง ...
กินมาม่าแล้วกัน พอดีกับที่เหลือบไปเห็นกับข้าวที่นายนั่นเตรียมไว้ให้.........อีกแล้วเหรอ......อย่าดีกับฉันมากนักได้มั้ย?ตาทึ่ม.....
พอกินอิ่มแล้วฉันก็ลุยต่อเลยค่ะ....ฉันจะพยายามให้สมกับที่หมอนั่นเป็นแรงใจให้......สู้ตายค่า!!!!!!!
........................
พอถึงวันสอบจริง...
ฉันก็ทำสอบด้วยความมาดมั่น...พวกที่ไม่ได้เตรียมสอบแต่เตรียมลอกก็ขุดยุทธวิธีนานาประการมาใช้เพื่อความอยู่รอด ฉันเหลือบไปมองนายนักปราชญ์แวบนึง เขาเท่จัง...ทำข้อสอบด้วยความสุขุมรอบคอบ...อา..นี่ฉันเป็นไรไปนี่
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป พอถึงวันประกาศผลสอบ
อาจารย์รามิลนำผลสอบของเรามาให้ที่ห้อง...ตื่นเต้นๆ....
คนแรกที่ไปรับผลคือนายพงษ์ศักดิ์ค่ะ เขาได้เต็มค่ะ...เต็มศูนย์ได้ศูนย์อ่ะค่ะ
ส่วนคนอื่นๆก็ได้ครึ่งๆซะส่วนใหญ่
ส่วนฉันอาจารย์รามิงชะมด้วยค่ะว่าเก่งมาก...อิอิ อยู่แล้นนนน....
พอเดินไปที่โต๊ะเรียน...
เป็นไงฉันเอากระดาษผลสอบบังหน้าก่อนชูสองนิ้วให้นายรูปหล่อค่ะ ตานั่นยิ้มหวานให้ฉันด้วย กรี้ดๆ
ขอบใจนะนายปราชญ์ เก็งข้อสอบของเธอช่วยฉันไว้มากทีเดียวฉันยิ้มเขินๆให้เขา 
เปล่านี่ ความสามารถเธอเองตะหากเล่า มั่นใจหน่อยเซ่ อุ๊ย....เขาเขินค่า....หน้าแดงด้วย
ทำหยั่งกับไม่มีเราในโลกนี้ ฮึ้ยๆๆๆ ยัยพิมพ์จู่ๆก็โวยวายหงุดหงิดอะไรไม่รู้ค่ะ
เออ...จริงสิ วันนี้จะทำของโปรดให้ทานนะนักปราชญ์
ข้าวไข่เจียว ไข่เจียวๆๆๆ แล้วเขาก็ทำหน้าเหมือนเด็กๆที่ดีใจเลยค่ะ
อุ๊บส์...ฮาค่ะฮา แต่ก็น่าร้ากกกกกมากกกกกกเลย
ขำไรอ้ะยัยมัจ ข้าวไข่เจียวมันน่าตลกตรงไหนไม่ทราบห๊า!!!!!!......เปล่าหรอกนะไม่ได้ขำไข่เจียวแต่ขำหน้านายตังหากเล่า....
ฉันก็จะกินไข่เจียวฝีมือมัจฉาน้อยเหมือนกันอ้ะยัยพิมพ์โพล่งขึ้นมาขัดจังหวะคนคุยกันอีกละ
ฉันกับตาหล่อหันไปจ้องยัยนั่นเขม็งเครียดก่อนตอบพร้อมๆกัน
ได้เซ่... ยัยนั่นถึงกับกระโดดตัวลอย...ทีเดียว
มัจไม่โกรธเราแล้วใช่ม้า???
เรื่องไรยะ เราไม่ได้ทะเลาะกันซักหน่อยจะโกรธทำไมล่ะฉันทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
ส่วนพ่อรูปหล่อซึ่งตอนนี้ทำหน้างงกับความสัมพันธ์แบบเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของพวกเรา...สุดๆ
ระหว่างทางกลับบ้าน...
เออ...ช่วงนี้ไม่เห็นเธอถอนใจแล้วนะยัยมัจ นักปราชญ์ตั้งข้อสังเกตขึ้นมา 
จริงๆด้วย กลับมาเป็นมัจฉาน้อยคนเดิมแล้วนะ ดีจังเลย 
เหรอ...สงสัยฉันคงตัดมิสเตอร์แดเนียลขาดแล้วจริงๆอ้ะ ฉันยิ้มกว้างๆให้ทั้งสองคน
เลิกได้เด็ดขาดก็ดีแล้ว มัวแต่กลุ้มก็ไม่มีประโยชน์หรอกเนอะ
........ที่จริงเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร.........ถึงตอนนี้เปิดตำราภาษาอังกฤษก็ไม่มีภาพอาจารย์
แดเนียลมารบกวนอีกแล้ว.....ตรงกันข้าม....กลับมีภาพคนอื่นมาอยู่ตรงหน้าแทน....!!!!

ที่บ้าน
ฉันยกข้าวไข่เจียวมาให้ทุกคนได้ชิม แต่ตาเบื้อกปราชญ์กลับมองอย่างกลัวๆ
กินได้ป่าวเนี่ย? .....ก็ไข่เจียวที่โปะลงบนข้าวมันมีน่าตาน่ารักจนกินไม่ลงนั่นเอง...หึหึ...ฉันเติมหน้าให้มันด้วยซอสมะเขือเทศ เป็นรูปหน้าอีตานั่นเองล่ะค่ะ ...เหมือนตรงไหน!!!
ว้าว..น่ากินสุดๆเลย ยัยมัจของพิมพ์ทำไรก็ดูดีมีคลาสไปหมดแหละเนอะๆพิมพ์ชนกพยายามปลอบใจฉัน
เห็นอย่างนี้หนูมัจของลุงทำข้าวไข่เจียวอร่อยที่หนึ่งเลยนะ
พอเหอะพ่อไม่ต้องมาทำเป็นพูด ถึงไงลูกพ่อทำอะไรก็ต้องพยายามมากกว่าคนอื่นสองเท่าอยู่แล้วไม่ใช่เหรอฉันประชดพ่อ..ซะเลย โทษฐานที่มาว่าฉันโง่...หุหุ				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน