ปู่ของผม..

หมอกจาง


ตอนผมเป็นเด็กอยู่บ้านนอก ผมมีปู่อยู่กับเขาคนนึง..
ปู่ไม่ใช่ปู่แท้ๆของผมหรอก ปู่แท้ๆของผมตายไปก่อนที่ผมจะได้ทันจำหน้าแกได้ด้วยซ้ำ ปู่ที่ผมเรียกว่าปู่นี่เป็นปู่เพราะสนิทกับที่บ้านผม บ้านอยู่ใกล้กัน พ่อกับแม่ผมเคารพปู่เหมือนญาติผู้ใหญ่ มีแกงส้มต้มผักอะไร ผมก็มักจะได้รับหน้าที่ถือถ้วยน้ำชามแกงไปให้ปู่ที่บ้านเสมอมาตั้งแต่ครั้งยังเล็ก
ผมไม่รู้หรอกว่าปู่คนนี้ ต่างกับปู่แท้ๆของผมอย่างไร ค่าที่ผมไม่เคยรู้จักพูดคุยกับปู่แท้ๆของผม ผมรู้แต่ว่าตั้งแต่เด็กจนถึงบัดนี้ ผมเรียกแกว่าปู่อย่างเต็มปากเต็มใจทุกครั้ง 
ปู่แกอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีลูกมีหลาน เก็บผักหาปลาของแกไปตามเรื่อง ขายบ้างแจกบ้าง แต่จะหนักไปทางแจกเสียมาก พออยู่พอกินของแกไปไม่เคยเดือดร้อน ว่างแกก็สานกระบุง ตระกร้าไปขายในตลาด
เก็บเป็นเงินเอาไว้บ้าง เผื่อจำเป็นต้องใช้ขึ้นมาวันใดวันหนึ่ง แกอธิบายเมื่อผมถามแกตามประสาเด็กว่าแกจะสานไปทำไม ในเมื่อข้าวปลาแกก็หากินได้ไม่เคยขาดแคลนอยู่แล้ว
ผมรักแกเป็นปู่ แกก็รักผมเป็นหลาน ตอนเล็กๆช่วงโรงเรียนปิดเทอม ผมขลุกอยู่บ้านปู่มากกว่าบ้านตัวเอง ปู่ชอบเล่า ชอบสอน ผมก็ชอบฟัง จำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ไอ้ที่จำได้ บางทีก็ใช่ว่าจะเข้าใจ
ตอนนั้นเวลานั้น ผมไม่เคยคิดว่าปู่แปลกหรือพิเศษกว่าคนอื่นตรงไหน จนกระทั่งโตขึ้น นึกย้อนไปนั่นแหละ ผมถึงเพิ่งรู้ว่าปู่แปลกไปกว่าชาวบ้านทั่วๆไป ในสังคมบ้านนอกนั้น..
เรื่องราวระหว่างผมกับปู่ที่มักใช้ชีวิตวันๆหมดไปกับการทำโน่นทำนี่ด้วยกันมีมากจนจดจำไม่หวาดไม่ไหว แต่แค่ที่จำได้ก็มีมากพอจะเล่าได้เป็นวันๆ ผมคงจะหยิบเรื่องราวของปู่มาเล่าสักแค่สองสามเรื่อง จากเรื่องราวทั้งหมด เท่าที่ผมพอจะจำได้..
----------------------------------------------------------------------------------------------
ปู่ไม่ชอบการทำบุญ แทบจะไม่เคยไปทำบุญเลยก็ว่าได้ ปู่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับวัดหรือพระ
แต่ปู่บอกว่าเป็นเพราะปู่เองที่ไม่ชอบคำว่าทำบุญ
ปู่ไม่เข้าใจ ปู่เล่าให้ผมฟังในวันหนึ่ง
ว่าทำไมใครต่อใครถึงชอบพูดว่า ไปทำบุญ จะได้ได้บุญ จะได้เป็นคนดี ได้ขึ้นสวรรค์
ลองคิดดูสิ ว่าเราหอบข้าวหอบของตั้งมากมายไปวัด แต่ไม่ได้คิดที่จะไปเพื่อให้ หากแต่คิดจะไปเพื่อเอาบุญเท่านั้นเอง ผมนั่งฟังตาแป๋ว รู้เรื่องมั่ง ไม่รู้เรื่องมั่ง แต่ก็ดูเหมือนว่าปู่แกจะไม่ใส่ใจ  แกอยากพูดให้ฟัง แกก็พูด ผมจะรู้เรื่องหรือเปล่าแกก็ไม่เอาเป็นธุระ
ถ้าเราไปทำบุญด้วยความมุ่งหมายว่าจะไปเอาบุญ ปู่ไม่เห็นว่ามันจะทำให้คนเป็นคนดีขึ้นมาตรงไหน คนก็ยังเห็นแก่ตัว ยังทำทุกอย่างเพื่อตัวเองกันอยู่นั่นเอง ตอนนี้เอามาย้อนนึกๆ ก็จริงของแกแฮะ
ปู่แกเลยสรุปว่านั่นแหละ ที่ทำให้แกไม่ยอมไปทำบุญไม่ว่าจะวันพระใหญ่ วันพระเล็ก ปู่แกยังคงเคารพนับถือพระแบบพุทธศาสนิกชนที่ดี จะต่างตรงแกไม่ทำบุญเท่านั้น
ทำทานดีกว่า สบายใจ ทำทานของปู่ คือการช่วยเหลือคนโน้นคนนี้ เกื้อกูลใครต่อใครไปตามประสา ช่วยเหลือดูแลแม้แต่หมาแต่แมว จนชาวบ้านที่แม้จะมองแกว่าแกเป็นคนแปลกๆก็ยังรักแกกันทุกคน
ทำทาน จบแล้วก็จบ ให้แล้วก็ไม่ต้องรอรับ ไม่ต้องสะสมไว้เหมือนบุญ ไม่หนักดี คำพูดของปู่หลายๆคำ ผมจำได้แม่น ถึงแม้ว่าแกจะพูดให้ฟังเพียงครั้งเดียวก็เหอะ ค่าที่ว่ามันมักจะแปลกประหลาดกว่าคำพูดของใครคนอื่นๆที่ผมรู้จัก แต่ถึงแม้ว่าผมจะใช้เวลาชั่ววิบตาเดียวในการจดจำ แต่บางทีผมอาจต้องใช้เวลากว่าครึ่งค่อนชีวิต เพื่อที่จะทำความเข้าใจในสิ่งที่ปู่พูด
ปู่เคยเล่า ว่าป้าละเอียด เมียกำนันน่ะ เมื่อก่อนเคยเป็น ชิ้น เก่าของปู่
อะไรคือ ชิ้น เหรอปู่ ผมนึกไปถึงชิ้นเนื้อ ชิ้นหมู ขนมเป็นชิ้นๆ
ก็คล้ายๆกับแฟนเดี๋ยวนี้นั่นแหละ ผมเลยถึงบางอ้อ
เมื่อก่อนรักกันมาก ละเอียดเขาอ่อนกว่าปู่อยู่หลายปี พ่อแม่เขาก็กีดกัน ตอนแรกปู่นึกว่าเขากีดกันเพราะว่าอายุ ปู่แกเล่าไปเรื่อยๆ ดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับเรื่องรักแต่หนหลังของแกนัก
มารู้ทีหลังว่ากำนันเขามาทาบทามไว้ ตอนนั้นเขายังไม่ได้เป็นกำนันหรอกนะ แต่ว่ารวย..ค้าควาย  เงินทองคล่องมือทีเดียว
ละเอียดมันก็ร้องไห้จะเป็นจะตาย ปู่เองก็นึกจะพาหนีแต่ไม่มีโอกาส สุดท้ายเขาก็แต่งงานกันไป ตอนนี้ป้าละเอียดแกมีลูกมีหลานกับลุงกำนันเต็มไปหมดนี่นา
แต่ดูป้าแกก็มีความสุขดีอยู่นี่นะปู่ ตอนนี้น่ะ พูดไปแล้วก็สะดุ้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าปู่แกจะเคืองความปากพล่อยของผมบ้างหรือเปล่า แต่พอมองหน้าแก แกก็ยังยิ้มเรื่อยๆ ยิ้มของปู่บางทีก็มองเหมือนยิ้มของพระในวิหาร..
อยู่ๆไปเขาก็รักกัน ตอนนี้ละเอียดเค้าคงลืมเรื่องของเค้ากับปู่ไปแล้วมั้ง ปู่พูดเฉยๆ หากแววตาอ่อนโยน.. ไม่รู้เรื่องป้าละเอียดนี่หรือเปล่า ที่ทำให้ปู่ไม่ยอมแต่งงาน
ปู่ไม่เสียใจเหรอ ผมถาม เพราะแปลกใจที่ปู่เล่าเรื่องอย่างนี้ด้วยใบหน้าที่สงบ ไม่ฟูมฟาย ไม่มีแววกล่าวโทษใคร ไม่ว่าป้าละเอียดที่เปลี่ยนใจ หรือลุงกำนันที่มาแย่งคนรักไปจากแกแบบไม่เป็นธรรมนัก..
แรกๆก็เสียใจอยู่ ปู่บอกเนิบๆตามแบบแก
ผ่านไปๆ แก่ขึ้น เห็นอะไรมากขึ้น ปู่ก็เรียนรู้ แกหยุด มองหน้าผมด้วยแววตาปราณี ค่อยๆพูด..ช้าและชัด เหมือนตั้งใจจะให้ผมจดจำ
ว่าคนเราสามารถมีความสุขได้ โดยไม่จำเป็นต้องได้ทุกอย่างที่อยากได้หรอก 
ผมจำคำพูดนั้นแม่น ค่อยครวญค่อยคิดมาจนบัดนี้ ผมไม่เคยแน่ใจว่าผมเข้าใจคำพูดของปู่จริงๆหรือยัง บางอย่างเราเคยคิดว่าเราเข้าใจ แต่เมื่อใดที่เราเข้าใจมันจริงๆ เราถึงจะรู้ ว่าที่ผ่านมา เราไม่ได้เข้าใจอะไรเลย..
บางทีผมพยายามที่จะเอาหลักเกณฑ์ที่ใครต่อใครสอนผม ถึงความ ถูกผิดดีเลว มาตัดสินปู่ แต่ผมก็ไม่เคยตัดสินปู่ลงไปได้เสียที ว่าเป็นคนแบบไหน
ปู่อาจดูเป็นคนบาป คนไม่ดี ถ้ายึดตามคำสอนที่โรงเรียน ที่สอนในวิชาพุทธศาสนาว่าการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเป็นบาป 
แต่ปู่แกก็หาปลาของแกทุกวัน วางข่ายดักปลาหมอปลาดุกตามบึงร้างข้างนา ได้ปลาเต็มข้องกลับมาแจกคนโน้นคนนี้ หลายคนที่ไม่อยากทำบาปก็ขอร้องให้ปู่ช่วยทุบปลาให้ก่อนจะเอามาให้ เพื่อที่ว่าบาปจะไม่เปื้อนมือตัว ปู่ก็ทุบให้ตามคำขอ..
ผมยังแปลกใจมาตลอด ว่าการบอกให้คนอื่นฆ่าให้ กับการฆ่าด้วยมือตัวเองนั้นมันต่างกันตรงไหนในวิถีของบาป-บุญ
แม้ว่าปู่จะฆ่าปลามาเสียนักต่อนัก แต่เวลาที่มีปูนามาติดข่ายปู่กลับปฏิบัติอีกแบบ 
บางครั้งเวลาฝนตก น้ำดี จะมีทั้งปูทั้งปลาติดข่ายให้ยัวะเยี๊ยไปหมด ปูนี่ตัวร้าย ด้วยความที่มันมีก้ามมีขาให้ยุ่บยั่บ จะปลดออกจากข่ายลำบากมาก บ่อยครั้งก็หนีบมือคนปลดเอาเสียด้วย แถมยังเป็นตัวการทำให้ข่ายขาดอยู่บ่อยๆ เพราะปลดไปดึงไป ข่ายไหนที่มีปูติดเยอะและบ่อยมักจะใช้ได้ไม่นาน ผมเคยเห็นคนหาปลาหลายคนเลือกที่จะใช้หินทุบให้ปูมันตาย ขาและก้ามแหลกหลุดออกจากตัว จากนั้นเพียงสะบัดๆ ส่วนที่เหลือก็จะหลุดออกจากแหอย่างง่ายดาย
..แต่นั่นไม่ใช่วิธีของปู่..
ปู่จะยอมเสียเวลา บางทีเป็นครึ่งค่อนวัน เพื่อที่จะค่อยๆปลดปูออกจากข่ายทีละตัว ใส่กระแป๋งสังกะสีไว้ จากนั้นก็เอามันไปปล่อยลงหนองน้ำ ที่ไม่ค่อยมีคนไปหาปลากัน
เราไม่ได้กินเขา ก็อย่าไปฆ่าเขา ปู่แกะปูไป สอนผมไป..
นี่แหละที่ผมมักจะสับสน ว่าตกลงปู่เป็นคนยังไงกันแน่ จะว่าเป็นคนดี..ซึ่งในใจผมค่อนข้างเชื่ออย่างนั้น..ปู่ก็ไม่ใช่คนดีตามตำรา ครั้นจะว่าเป็นคนไม่ดี อันนี้ไม่ต้องกางตำราไหนมา ผมก็พร้อมที่จะเถียงขาดใจ หากใครจะว่าปู่ของผมอย่างนั้น..
พอผมเล่าเรื่องที่ผมไม่รู้ว่าปู่เป็นคนแบบไหนกันแน่ให้ปู่ฟัง ปู่ก็หัวเราะน้อยๆ เอื้อมมือมาขยี้หัวผม
แล้วเราจะตัดสินทำไมล่ะ มือปู่เหม็นปู แต่ผมก็ไม่รังเกียจ
ปู่ก็เป็นปู่อย่างที่เอ็งเห็นนี่แหละ มันจำเป็นมากนักเหรอที่จะต้องตัดสินลงไปให้ได้ว่าใครเป็นคนดีคนเลวน่ะ
..นั่นสินะ ว่าไปผมก็มองไม่เห็นความจำเป็นอะไรสักหน่อยกับการที่จะเที่ยวไปตัดสินใครต่อใครน่ะ..
ปู่ตายไปแล้วหลายปี..
แต่ผมยังจำได้ดีเสมอ ว่าปู่รักผมแค่ไหน..
ปู่ที่ไม่เคยเข้าวัดมานาน พาสังขารมาวัดในวันที่ผมบวช ตอนนั้นหน้าปู่ยับย่น ผมก็ขาวโพลนหมดแล้ว แต่ตาแกที่มองดูผมดูอิ่มเอิบและมีความสุข..
จำได้ว่า ผมเข้าไปกราบปู่ทั้งชุดนาค..
ผมไม่ได้เอาบุญเข้าไปฝากปู่หรอก เพราะผมรู้ว่าปู่คงไม่ต้องการมัน..
..ผมรู้ว่าปู่ของผมอิ่มแล้ว พอแล้ว..
วันนั้นผมกราบปู่ กราบ..ด้วยหัวใจเดียวกับที่กราบพระประธาน..
				
comments powered by Disqus
  • vaproud ♫♪

    10 กรกฎาคม 2548 14:48 น. - comment id 74746

    ได้อ่านเรื่องราวดี ดี อีกแล้ว ^^
    ดีจัง...
  • rain..

    10 กรกฎาคม 2548 18:36 น. - comment id 74749

    ..เรน..อยากใกล้..และอยากมีปู่..แบบพี่หมอกจัง.. ..62.gif
         เรน..  ชอบเข้ามาอ่าน..เรื่องที่หมอกเขียนด้วยนะคะ ...
       เรน..ชอบที่สุด..ด้วยดิคะ ..
    
      เป็น..เรื่องเล่า .. ที่อ่านแล้ว ..  เรนอบอุ่นจัง..
              เรนก็มีเรื่องเล่า.. ของคุณย่า..นะคะ62.gif..
       เรน..  อยากเขียนเล่าแบบพี่หมอก ..  แต่เรนเขียนทีรัย.. เรนไม่กล้าเอาให้พี่ๆ..อ่าน..
       งัยดี...50.gif..  
        ...
        เรน.. ขอบคุณ..พี่หมอกนะคะ ..ที่เขียนเรื่องเล่าดีๆ..  ให้เรนได้อ่าน..36.gif
  • koy eang

    10 กรกฎาคม 2548 14:12 น. - comment id 74763

    ให้แง่คิดที่ต่างออกไป   ดีมากๆ
  • กีกี้

    10 กรกฎาคม 2548 13:07 น. - comment id 74802

    .. สิ่งที่สังคมบอกว่าดี ..
    .. บางทีอาจดีไม่จริง ..
    .. สิ่งที่สังคมตัดสินว่าไม่ดี ..
    .. บางที .. อาจดีที่สุดสำหรับเรา ..
    
    .. ดี ไม่ดี ถูก ผิด ควร ไม่ควร .. ใครหนอกำหนด ..
    
    เรื่องราวดีดี ตอนเที่ยงวันอาทิตย์ .. 
    
     ปล. ชอบประโยคนี้มั่กๆ ..
    
    แต่ถึงแม้ว่าผมจะใช้เวลาชั่ววิบตาเดียวในการจดจำ แต่บางทีผมอาจต้องใช้เวลากว่าครึ่งค่อนชีวิต เพื่อที่จะทำความเข้าใจในสิ่งที่ปู่พูด
    
  • หมอกจาง

    10 กรกฎาคม 2548 22:17 น. - comment id 75095

    กีกี้..ขอบคุณกับคอมเมนท์แรกตั้งแต่หลังเที่ยงวันอาทิตย์ 1.gif 
    เมื่อก่อน..แยกแยะไม่ออก..ว่ารู้กับเข้าใจ นั้นต่างกันอย่างไร 
    กระทั่งโตขึ้นมานี่แหละ ถึงรู้..ว่ามันต่างกันมากมายทีเดียว..
    
    คุณก้อย..ขอบคุณครับ :)
    
     วาพราว..เจอกันอีกแล้ว..ดีจัง 1.gif 
    
    ขอบคุณเช่นกันเรนที่เข้ามาอ่าน มาลงชื่อเป็นกำลังใจ 1.gif 
    ..ว่าแต่วันหลัง..ว่างๆ..เล่าเรื่องของคุณย่าให้พี่ฟังบ้างนะ..
  • หมอกจาง

    11 กรกฎาคม 2548 18:23 น. - comment id 75391

    อัลมิตรา.. 1.gif
    
    ตอนเด็ก..มีพี่ชายที่สนิทกันมาก..แต่อายุห่างกันสักสิบสองปีได้..เราเป็นลูกหลงน่ะ
    
    พี่ชายโดนรถเฉี่ยว ล้มหัวฟาดพื้น รักษาอยู่เป็นเดือน แต่แล้วก็ไม่รอด..
    จำได้ว่าตอนนั้น ไม่เข้าใจเหมือนกัน..ว่าความตายคืออะไร แต่รู้ว่าใจหาย..ที่ใครต่อใครบอกว่า พี่ไปสวรรค์..จะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว..
    
    วันเผา..ไม่อยากให้เขาเอาพี่ไปเผา..ลึกๆแอบหวังตลอดว่าพี่จะขยับตัว จะลุกขึ้นได้เหมือนอย่างแต่ก่อน เขาเปิดโลงก็ไม่กลัวนะ..ชำเลืองตลอด ว่าพี่จะขยับตัวไหม..
    
    สุดท้าย..เขาเอาเข้าเตาเผา สักพักก็มีเสียงขลุกขลัก..เหมือนคนดิ้น จำได้ว่าร้องไห้..บอกให้ใครต่อใครเอาพี่ออกมา..นั่นไง พี่ฟื้นแล้ว..พี่เค้าร้อน
    
    ยิ่งพูด ทุกคนก็ยิ่งร้องไห้กันใหญ่ พี่สาวที่สะอื้นก็ยิ่งสะอื้นหนักขึ้นๆ กอดเราเอาไว้แน่น.. เราก็ร้องไห้ ว่าทุกคนใจร้าย..ไม่ยอมเอาพี่ออกมาจากไฟ..
    
    จบแล้ว..
    เห็นไหม ไม่เบื่อหรอก เล่ามาเถอะ มีแต่จะเล่าด้วย.. 1.gif
  • หมอกจาง

    16 กรกฎาคม 2548 09:53 น. - comment id 75855

    ละอองน้ำ..นั่นเป็นคำชมที่น่าปลื้มนะเนี่ย 1.gif
    
    นก.. ขึ้นต้นมาพูดจาน่าฟัง พอลงท้าย..เอ๊ะ..หยาบคายๆ ..พูดเรื่องอายุ 55
  • นกค่ะ

    15 กรกฎาคม 2548 12:52 น. - comment id 76209

    12.gif เรื่องเล่าของพี่หมอก
    มักจะสอนอะไรดีๆไว้ด้วยเสมอ
    
    ชอบประโยคนึง. . .
    ว่าคนเราสามารถมีความสุขได้ โดยไม่จำเป็นต้องได้ทุกอย่างที่อยากได้หรอก
    (อิอิ. . .ป่าวหมายความว่าอ่านทั้งเรื่องจะชอบแค่ประโยคเดียวนะพี่. . .แต่รู้สึกจี้ใจไงไม่รู้)
    
    ถ้าเราเปิดใจคบคนต่างวัย ต่างแบบ เราก็จะได้รับอะไรดีๆแตกต่างกันไปเน๊อะ. . .
    
    ดีใจที่ได้รู้จักพี่หมอก. . .
    (หุหุ ที่ต่างวัยกัน)
    
       3.gif3.gif . . .
  • ละอองน้ำ

    13 กรกฎาคม 2548 22:28 น. - comment id 76235

    เข้ามาอ่านแต่เช้า
    แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี
    
    แค่รู้สึกว่า ดีใจที่ไม่พลาดงานชิ้นนี้
  • อัลมิตรา

    11 กรกฎาคม 2548 16:06 น. - comment id 77372

    อากงของอัลมิตรา .. อัลมิตราจำหน้าไม่ค่อยได้ ตอนนั้นอัลมิตราเล็กมาก รู้แต่ว่า นาน ๆ อากงจะลงมานั่งที่แคร่หน้าบ้าน เด็ก ๆ จะค่อย ๆ หลบไปเล่นที่มุมอื่น 
    
    อากงเป็นเจ้าสัว เป็นเจ้าของโรงงาน โดยที่หอบเสือผืนหมอนใบขึ้นสำเภามากับพ่อ และมาตั้งรกรากอยู่ที่เมืองไทย พ่อเล่าว่า อากงจะเก็บออมเงินและส่งไปยังเมืองจีน ที่นั่นมีญาติที่ยังลำบากอยู่ ลูกหลานที่เมืองไทยกินดีอยู่ดีอย่างไร อากงก็คาดหวังว่าพี่น้องที่นั่นจะมีกินมีใช้เช่นกัน 
    
    พ่อบอกว่า เงินและข้าวของที่อากงส่งไป อาจไปไม่ถึงมือญาติที่เมืองจีน เพราะระบบการปกครองที่นั่น ไม่เหมือนที่เมืองไทย อากงก็ไม่สนใจ ยังส่งเงินไปให้สม่ำเสมอ
    
    มีอยู่ครั้งหนึ่ง ไปเล่นใกล้ ๆ อากง อากงเลยเรียก การสื่อภาษากับอากงใช้ภาษาจีนโดยวิธีเดียวเท่านั้น ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้ลำบากนัก ถือว่าเป็นภาษาที่ใช้ในครอบครัว บางทีฟังแปลได้ แต่ครั้นจะพูด นึกคำไม่ออก เลยเล่นละครใบ้ให้อากงดู อากงก็ได้แต่หัวเราะเสียงดัง
    
    อากงนอนหลับ บนตั่งชั้นล่าง ใส่ชุดสวยเหมือนขุนนางในหนังจีน ญาติผู้ใหญ่พากันร้องไห้ระงม รวมทั้งอาม่าที่แอบเอาผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาบ่อย ๆ 
    
    \"อากง อากง .. \"เสียงเรียกนี้ ไม่ทำให้อากงตื่น
    \"อากง อากง ตื่น สิ อากง ..\"  อัลมิตราเรียกเท่าไหร่ อากงก็ไม่ตื่น อัลมิตราไม่รู้จักความตาย ยังไม่เข้าใจถึงความสูญเสีย อัลมิตราซุกตัวนอนข้าง ๆอากง และเอามือของอากงที่อยู่บนหน้าอก มาจับไว้ ไม่รู้เหมือนกันว่า ใครอุ้มอัลมิตราไปนอนไหน 
    
    งานศพของอากงจัดที่วัดใกล้บ้าน ตามประเพณีจีน อัลมิตรายังเก็บรูปสมัยตอนเด็กอยู่เลย เสื้อชุดขาวที่มอมแมม และภาพเด็กผู้หญิงแก้มเปรอะมัดผมจุก .. คืนสุดท้าย ที่มีการทำพิธี พี่สาวอุ้มอัลมิตราเดินข้ามถนนที่หน้าวัด .. และแล้ว รถชน
    
    พี่สาวล้มลง อัลมิตราร้องไห้.. หลายคนมุงดู เลือดกลบปากและมีไหลออกจากจมูก เจ็บ..และกลัว .. จำความไม่ค่อยได้ นะ มารู้สึกตัวอีกที ที่โรงพยาบาล โดนหมอฉีดยาจนเกลียดหน้าหมอจัง  อยากกลับบ้าน จนในที่สุดก็กลับบ้าน .. บ้านที่อากงไม่ได้อยู่แล้ว อากงอยู่สวรรค์
    
    .. อย่าเพิ่งเบื่อนะ มีเรื่องจุกอยู่ในอก แยะเลย อักษรบำบัดงัยคะ ..

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน