http://www.thaipoem.com/forever/ipage/story5389.html FREE SIZE ตอนแรก เคยมีร้านโปรด ชื่อร้าน หัวกะทิ อยู่ซอยทางเข้าเมืองเอก บรรยากาศแบบนี้เลย หน้าร้านเป็นกระจก มีน้ำตกไหลตลอด แอร์เย็น เพลงเพื่อชีวิตเบาๆ เสียดาย กลับไปครั้งสุดท้าย เลิกกิจการไปเสียแล้ว เห็นสัจจะธรรมเลย ..ความรักต้องมีวันเลิกรา... ฮ่าๆๆ ปรัชญานี้ตั้งแบบไม่ปรึกษาเจ้าลัทธิไหน .....................(ว่าแล้วก็นึกถึงเรื่องเก่าๆ)..........................
คนเริ่มทยอยเข้าร้านกันเรื่อยๆ มาเป็นคู่ มาเป็นกลุ่มเล็ก กลุ่มใหญ่ (หันซ้าย หันขวา) อ้อ ... มีพวกสปีชี่ย์เดียวกันกับเราบ้าง อีกสองสามโต๊ะ ..มาคนเดียว.. อยากรู้ความในใจพวกนี้เหมือนกัน ว่าคิดยังไงถึงมาคนเดียว แล้วถ้าถามกลับมา จะตอบไปว่ายังไงหว่า?! นักดนตรีเล่นไปเกือบสิบเพลง สันนิษฐานว่า คนใดคนนึงในวง คงจะประสบปัญหาชีวิต พวกประเภทอกหัก รักคุด เพราะแต่ละเพลงแสนจะโค-ตะ-ระเศร้าเลย นี่ถ้าเล่นครบสิบเพลง แล้ว..นักดนตรีแกะสายกีตาร์ออกมาผูกคอตาย คงไม่น่าแปลกใจเลย
ชั่วโมงนึงผ่านไปไวเหมือนโกหก... แป๊บเดียวลูกค้าเต็มทุกโต๊ะ- เหล้าปลอมหรือป่าวหว่า .. ไม่มืน ไม่เมา ไม่รู้สึกอะไร สงสัย ด้านชาซะแล้วเรา สงสัยจะจริงที่เค้าว่าไม่ตั้งใจเมาจะไม่เมา ถ้าตั้งใจเมาละสองแก้วก็เมาหัวทิ่ม หันหน้าไปเจอพนักงานรับออเดอร์ หล่อนยิ้มกว้าง กำลังเดินมาทางนี้อีกแล้ว นึกในใจ(กรู) ไม่ได้สั่งอะไรเพิ่มนี่หว่า Ice ของหล่อนก็ยังอยู่ เหล้าก็ยังไม่พร่อง กับแกล้มกินไปสองคำ เดินยิ้มมาหาพระแสงของ้าวอะไรล่ะนี่?! พนักงานรับออเดอร์ : เอ่อ..คุณพี่ขา คือว่า ทางร้านเราสนับสนุนนโยบายของรัฐ ทางเดียวกันไปด้วยกันน่ะค่ะ me : (นึกในใจ เอ้า..ก้อกรูนั่งอยู่ ไม่ได้ขับรถนี่หว่า) แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่คะคุณน้อง? พนักงานรับออเดอร์ : (จีบปากจีบคอพูดต่อ) โต๊ะเต็ม! พอดีคุณพี่ผู้ชายท่านนึงมาคนเดียว ไม่มีโต๊ะนั่งน่ะค่ะ หวังว่าคุณพี่คงมีน้ำใจเมตตาปรานีให้ร่วมโต๊ะน่ะค่ะ me : แล้วทางร้านจะลดราคาอาหารให้พี่ไม๊ Mrs.Smith พนักงานรับออเดอร์ : แหม คุณพี่ขา นึกว่าทำบุญ ให้ทาน หละกันนะค๊า me : โอเค งั้นไปข้างหน้าก่อนวันนี้พี่ไม่อยากทำบุญ ฮ่าๆๆ (หัวเราะอย่างสะใจ) พนักงานรับออเดอร์ : .....?!......คุณพี่จะไม่ให้นั่งด้วยจริงๆหรือค๊า(แววตาอ้อนวอนสุดฤทธิ์) me : อืมม เอาเป็นว่าพี่เห็นแก่น้องนะเนี่ย ได้..ไม่มีปัญหา ว่าแต่หล่อไม๊? พนักงานรับออเดอร์ : (ยิ้มกว้าง..ชวนขนหัวลุก) ตั้งแต่หนูมีผัวคนนี้ สายตาหนูไม่เคยมองใครหล่อเลยค่ะ แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ หนูไม่ปล่อยมาถึงโต๊ะพี่แน่ๆค๊า(แล้วหล่อนก็รีบเดินจากไป)
สักพักหล่อนก็กลับมาพร้อมกับขวดชีวาส มิกเซอร์ น้ำแข็ง..(นึกในใจ ...โห กินหรูซะด้วย) you : ขอบคุณครับสำหรับที่นั่ง ผม...................ครับ ยินดีได้รู้จักครับ คุณ? (ฮั่นแน่ ธรรมเนียมฝาหรั่งเลย ยื่นมือมาให้จับซะด้วย ) me : (...ยืนซะหน่อย ให้เกียรติผู้ร่วมโต๊ะ ที่ดูอายุมากกว่าสักห้าหกปี... ) (...พร้อมกับพนมมือขึ้นไหว้ตามที่เรียนมาสมัยประถม ปลายนิ้วชี้จรดปลายจมูก) (..พร้อมกับยิ้มนิดๆ แบบสะใจในความเป็นไทยของกรู ฮ่าๆๆๆ ชักมือกลับรับไหว้แทบไม่ทัน) ชื่อ....ค่ะ เชิญค่ะ ตามสบาย you : ครับ (นั่งแบบไว้ฟอร์มโคดๆ พลางหยิบกล่องนามบัตรสีทองออกมา) นี่นามบัตรผมครับ me : ทานได้นะคะ ถ้าทานเป็น you : ครับ ยำสมุนไพรทอด ผมชอบทานครับ ขออนุญาตจุดเทียนนะครับ (ยิ้มอีกแล้ว)
me : (เอ้า..ดันรู้จักอีกเงยหน้า ขึ้นมองปากเรียวๆนั้นอีกครั้ง.... เค้าว่าผู้ชายปากบางนี่ตระหนี่ จริงป่าวน๊ะ) you : แล้วทำไมคุณมาคนเดียวครับ? me : ถือว่าเป็นคำถามที่หยาบคายมากเลยนะคะ สำหรับคืนนี้ แล้วคุณล่ะ ทำไมมาคนเดียวคะ? you : ผมนัดเพื่อนไว้ครับ แต่พอดีปู่เค้าเข้า ICU เลยต้องรีบกลับต่างจังหวัด ผมเลยเคว้งครับ
..............แล้วคำสนทนามากมายก็เกิดขึ้นบนโต๊ะกลมๆเล็กๆ ................ จนรู้สึกตัวอีกที ก็เมื่อเค้าพูดว่า ผมเล่าเรื่องผมไปเกือบทั้งชีวิตแล้วนะครับ แต่ผมไม่รู้อะไรจากคุณเลย นอกจากชื่อ.. แล้วก็คำถามกลับว่า แล้วคุณล่ะคะ? แล้วผมก็ตอบทุกครั้ง จนผมเริ่มเมาแล้วครับ me : ขนาดไม่เมาคุณยังหาข้อมูลไม่ได้เลย ถ้าเมาแล้วคงจะยิ่งลำบากแล้วหละค่ะ ( ยิ้มแบบสะใจอีกแล้ว) you : อย่ายิ้มแบบนี้สิครับ มันดูเหมือนมีเลศนัยยังไงไม่รู้ครับ me : (อ้าว มีบังคับยิ้มด้วย นึกว่ามีแต่บังคับเลี้ยว) ค่ะ งั้นยิ้มใหม่นะ you : (ตั้งใจดูซะ..!) ยิ้มแบบนี้ เฮ้อ.... me : มันเป็นยังไงคะ( เลิกคิ้วด้วยความสงสัย กรูก็ยิ้มให้ดีๆนี่หว่า) you : ผมใจคอไม่ค่อยดีครับ หวั่นหวั่น ไงไม่รู้ครับ me : ฮ่าๆๆ.... โอเค ไม่ยิ้มหละกันค่ะ .... เอ้า อยู่ๆก็เงียบไปเฉยๆซะงั้นหละ เป็นอะไรหว่า...?! me : เป็นอะไรคะ? you : GM ครับดูแลลูกค้ารายใหญ่ครับ me : ( เออ ดูมันตอบ รู้แล้วเฟ๊ย เห็นนามบัตรแล้ว) อืมม ตอบได้หน้าตาย!! ดีค่ะ you : มีนามบัตรให้ผมสักใบไม๊ครับ me : ไม่มีเลยค่ะ ไม่ได้เป็น GM เลยไม่ต้องพกติดตัวน่ะค่ะ
you : ....(จ้องหน้าตาเขม็งเลย) คือ ตรงๆเลยนะคะ คุณผู้หญิง ผมขอเบอร์โทรศัพท์หละกัน me : อืมม ค่ะ เดี๋ยวนะคะ (ควานๆหากระดาษในกระเป๋าตังค์มีแต่บัตรลดราคาร้านอาหาร อ่ะ..ใบนี้ก็ได้ หยิบมาแล้วก็เขียนเบอร์ลงไป ก่อนจะส่งให้ ..พลิกดู อ้าวบัตรร้าน ณ นนท์) you : (คราวนี้ยิ้มแบบมีเลศนัยแฮะ..) ขอบคุณครับ me : (หันหน้า หันหลัง มองหา Mrs.Smith) เชคบิลด้วยค่ะ ขอตัวนะคะ ห้าทุ่มกว่าแล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าค่ะ
you : ครับ ผมจ่ายนะเอง ถือเป็นการเลี้ยงล่วงหน้า พรุ่งนี้วันเกิดผม.. me : 14 หรือคะ? you : (ยิ้ม พร้อมพยักหน้าเป็นการตอบคำถามกลายๆ) me : สุขสันต์วันเกิดล่วงหน้าค่ะ อยากได้อะไรขอให้ได้ตามที่หวังค่ะ you : ขอบคุณครับ พนักงานรับออเดอร์ : นี่ค๊า ค่าอาหารทั้งหมด...... เลี้ยงง่ายทั้งสองคนเลยน๊ะค๊า ยำจานนึง มะนาว เกลือ น้ำแข็ง อยู่ได้ตั้งครึ่งคืนแน่ะ (ดูม๊านนพูด) you : ผมไปส่งที่รถนะครับ.. me : (เอื้อมมือไปหยิบขวดเหล้าที่เหลือ) you : ผมถือให้ดีกว่าครับ เดินนำเลยครับ... .. เดินมาจนถึงรถไม่รู้ตาลายหรือเมา ว่าตอนซื้อ ซื้อบรอนซ์ทอง ทำไมมันเห็นเป็นบรอนซ์เงินนะเนี่ย.. me : ถึงแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ ขอขวดเหล้าด้วยค่ะ แล้วก็เปิดกระโปรงรถ you : คุณเปิดท้ายขายหนังสือด้วยหรือครับ (ถามยิ้มๆ) me : ค่ะ ขายเศษกระดาษ หนังสือ เอาไว้ซื้อเหล้าไงคะ...พูดพลาง เก็บขวดไว้ท้ายรถ ใส่ไปกล่องรองเท้า ห่อด้วยผ้า ใส่ถุงกระดาษอีกชั้น .... ( ฮ่าๆๆ ถนอมยิ่งกว่าไข่ในหินซะอีก....) you : โห ดูแลขนาดนี้เลยหรือครับ (ยิ้มอีกแล้ว) me : รถคุณอยู่ไหนคะ ขึ้นไปก่อนไม๊คะ เดี๋ยวไปส่ง you : อยากนั่งไปด้วยมากเลยครับ แต่รถผมอยู่ด้านหน้าแค่นี้เอง ผมเดินไปดีกว่าครับ ขอบคุณครับ (ยิ้มให้อีกแล้ว..) me : ค่ะ โชคดีค่ะ .............( เอ้า เดินมาปิดประตูให้อีก ธรรมเนียมจัดจริงๆเลย) .... แล้วคุณ GM ก็เดินกลับไปที่รถ....
หันไปมองกล่องสีแดงข้างเบาะคนขับ มันยังวางนิ่งอยู่อย่างนั้น นึกถึงคำพูด " พรุ่งนี้วันเกิดผม" มองนาฬิกาหน้ารถ นี่มันเที่ยงคืนกว่า เปลี่ยนวันแล้วสิ ก็ขับรถไปจอดหน้ารถคุณ GM ที่ยังสตาร์ทเครื่องเพื่อรอให้เราออกไปก่อน ..หยิบกล่องสีแดงผูกโบว์ไขว้หลังไปด้วย เดินไปยังไม่ทันถึงรถ ก็เปิดกระจกลงมาแล้ว.. you : เป็นอะไรหรือป่าวครับ ขับไหวไม๊ครับ ผมจอดรถไว้ที่นี่ได้นะครับ แล้วผมขับไปส่ง me : (ยื่นกล่องของขวัญเข้าไปในรถ) วันนี้วันเกิดคุณ สุขสันต์วันเกิดค่ะ you : ขอบคุณครับ me : (ยิ้ม แบบประหลาดใจสิท่า คงนึกว่าชั้นเป็นพวกแม่มด เสกของขวัญมาจากไหน) คิดว่าคุณคงใส่ได้พอดี you : รู้ได้อย่างไรครับว่าผมจะใส่ได้พอดี me : เห็นข้างกล่องมันเขียนว่า DUREX FREE SIZE!! น่ะคะ :) ......................................................................................................................
...ขับรถกลับมา ก็นั่งนึกถึงหน้า ที่กระอักกระอ่วนบอกไม่ถูก ของคุณ GM.. ฮ่าๆ คงนึกว่าในกล่องนั่นเป็นถุงยางอนามัยจริงแน่ๆเลย ถึงทำหน้าแบบนั้น.. โธ่...มันแค่เสื้อกล้ามสีเทา FREE SIZE เท่านั้นเองคู๊ณณณณ...
22 มิถุนายน 2548 13:24 น. - comment id 85421
เพิ่งว่างมาอ่านตอนจบตะกี้เองค่ะ พอดีว่ามีงานต้องทดสอบระบบในช่วงเช้า ยิ้มไว้นะคะ โลกนี้จะสดใสยิ่งนักแล้วค่ะ :)
22 มิถุนายน 2548 14:24 น. - comment id 85424
เอ..คล้ายกับว่าตั้งใจเอาของขัวญไปให้ใครนะ แต่ไหง เอาไปให้อีกคนได้ หัวใจคงเหมือนกันหรือเปล่าครับ อ่านแล้วยิ้มนะ :)
22 มิถุนายน 2548 15:26 น. - comment id 85430
คุณอัลมิตรา ยิ้มอยู่ตลอดอยู่แล้วค่ะ หนังสือเขียนว่าเวลาที่เรายิ้ม คนอื่นมักจะไม่รู้ว่าเราคิดอะไร ขอให้ระบบผ่านไปได้โดยปราศจากบั๊กส์ค่ะ คุณเรไร ดอกฟ้า ยิ้มตั้งแต่ยังไม่ได้อ่านแล้วค่ะ ยิ้ม เพราะนึกถึงประโยคนึง ที่มีคนเคยพูดให้ฟังบ่อยๆว่า \"จะไปเอาอะไรกับตัวอักษรไม่กี่ตัว\" อ่านแล้วยิ่งยิ้ม สองยิ้มเลย .... หัวใจดอกฟ้า ไม่ใช่ ของขวัญค่ะ .... เอ..รึหัวใจคุณเรไรถูกห่อเป็นของขวัญให้สาวๆ Thaipoem ได้แกะกันอยู่บ่อยๆ ?? แต่สาวๆคงไม่ถูกใจ แกะแล้วถึงได้ปล่อยให้โสดค้าง โสดคา อยู่หน้าเว็บ เช่นนี้ อ่านแล้วยิ้มนะ :)