ผิดไหม...ชุลมุลวุ่นรักรุ่นพี่(1)
พรรณพชร
เต้ เป็นเด็กหนุ่มอายุ19 ปี เป็นนิสิตคนใหม่ในคณะการท่องเที่ยวของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เต้มาจากจังหวัดทางภาคใต้ของประเทศไทย นี่เป็นครั้งแรกที่เต้ได้เข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในตัวเมืองโดยลำพัง แต่ด้วยความร่าเริงและอัธยาศัยดี ทำให้เต้มีเพื่อนมากมาย ทั้งๆที่เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของคณะได้ไม่นาน ครอบครัวของเต้ จัดว่าลำบาก แต่ด้วยความลำบากนี้ ที่ปลูกฝังความรักดีให้เต้ เต้ไม่ใช่เด็กเรียนเก่งอะไรนัก แต่ก็จัดได้ว่าเป็นเด็กหัวดีคนหนึ่ง จริงอยู่ ทุกคนรู้จักเต้ในนามเด็กร่าเริง ขี้เล่น แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเต้เป็นเด็กขี้เหงาเอาเสียมากๆ... ท่ามกลางเสียงหัวเราะ มักมีความแห้งแล้งแอบซ่อนอยู่เสมอ แต่อย่างไรก็ตาม เต้นั้นก็เป็นที่หมายปองของสาวๆหลายต่อหลายคน พ่อของเต้ เสียชีวิตตั้งแต่ตอนเต้ยังเล็ก เต้จึงอยู่กับแม่มาตลอด เต้ติดแม่มาก ก็ด้วยความเป็นลูกคนเดียว แม่จึงให้ความรัก เอาใจใส่ ดูแลห่วงใย ลูกชายมาตลอด เมื่อต้องห่างไกล ก็ไม่แปลกอะไรที่ทั้งแม่และลูกจะรู้สึกเหงาเมื่อห่างกัน...
ช่วงพักกลางวัน เต้มักจะมานั่งคุยกับเพื่อนๆ ที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ ไอ้เต้ ... ไมนายถึงไม่รับรักน้องอุ้ยวะ ดูเดะ มานั่งมองนายอีกแล้ว โง่หรือบ้าวะถามจริง น้องเค้าออกจะน่ารักขนาดนั้น... ... อ้าว...หันมายิ้มอีก... ไอ้บ้า...เราว่าแกต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ...นายดูไอ้เติร์ธดิ มันพยายามจีบน้องอุ้ยมาตั้งเท่าไหร่แล้ว น้องเค้าก็ไม่เล่นด้วย...แต่นายดิ... เฮ้ยๆ...ปากหรือวะนั่นที่พูดน่ะไอ้ต้อ ที่เราเลิกจีบน้องอุ้ยนะ ไม่ใช่เพราะน้องเค้าไม่เล่นด้วยซะหน่อย ...แค่ว่าเรามีเป้าหมายใหม่โว้ย เหอะ ....ไอ้ขี้โม้....แล้วหมาที่ไหนวะ ที่เมาจนเยี่ยวใส่วงเหล้าเพราะอกหักที่สาวเจ้ามาตกหลุมรักไอ้หน้าละอ่อนประจำกลุ่ม...เหอๆๆ... จบประโยคนี้ ที่นายต้อถากถาง นายเติร์ธเพื่อนซี้ ก็สามารถเรียกเสียงฮาจากเพื่อนๆในกลุ่มได้ชุดใหญ่....พร้อมกับการที่นายต้อต้องวิ่งเกียร์หมา หนีพระบาทาของนายเติร์ธไปรอบๆโต๊ะ...
วันนี้เต้อารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะคุณแม่ที่รักโทรมาบอกว่าจะมาเยี่ยมในเดือนหน้า นายเต้จึงวิ่งพลางกระโดดโลดเต้นไปตามทางเดินอาคารเรียน โครม เอาละสิ นายเต้เอ๋ย... เต้ชนเข้าอย่างจังกับหญิงสาวคนหนึ่ง ขอโทษครับ ขอโทษ เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับนายเต้รีบขอโทษหญิงสาว พร้อมเข้าไปประคองเธอลุกขึ้น เธอมองนายเต้อย่างหัวเสีย พร้อมตาแดงๆเหมือนกำลังจะร้องไห้ แต่ก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร แล้วเดินจากไป...งงสิครับ พระเอกของเรางงเป็นไก่ตาแตกก็งานนี้...แปลกคนแฮะ...แต่น่ารักจัง...แล้วทำไมต้องตาแดงอย่างนั้นด้วย...เธอเจ็บมากหรอ เป็นอะไรรึเปล่านะ นายเต้เป็นกังวล...คิดไปพลางก้มเก็บของ...เอ๋...กระเป๋าตังค์ ... ของใครหว่า...ลายหวานแหวว ไม่ใช่ของเราแน่ สงสัยจะเป็นของ ผู้หญิงคนตะกี้...เมื่อเก็บได้ นายเต้มองหาเจ้าของ ไม่อยู่เสียแล้ว หายไปไหนแล้วไม่รู้ เดินเร็วจัง... ไม่รู้ด้วยสิว่าเดินไปทางไหน ...นายเต้ไม่ได้ตั้งใจจะละลาบละล้วง แต่ขอดูในกระเป๋าก่อนละกันจะได้ตามหาเจ้าของง่ายขึ้น เอ๋ ...รูปใครหว่า...เอ๋...รูปเธอคนตะกี้นี่นา กำลังยิ้มมีความสุขอยู่ในอ้อมกอดของหญิงหล่อคนหนึ่ง ....อ่า...เธอเป็นพวกฉิ่งฉาบทัวร์หรือนี่...ขอภาวนาอย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย...แต่...ช่างเหอะ ไม่เกี่ยวกับเรานี่นา นายเต้คิด ดูบัตรนักศึกษาหน่อยซิ อชิราวดี ชื่อแปลกดีแฮะ อ่า...อยู่ปีสามแล้วงั้นหรอ หน้าเธอยังอ่อนมาเลยนะเนี่ย...ไม่น่าเชื่อว่าเป็นรุ่นพี่นายเต้...โอเค ตามหาเธอดีกั่ว....
เปี๊ยะ เสียงนายเต้ตบยุง...ห้าทุ่มกว่าแล้ว...ทำไมเธอยังไม่กลับบ้านอีกนะ...นายเต้มารอตั้งแต่เลิกเรียน...ไปไหนของเขานะ ช่างเหอะ ไม่รอแล้ว กลับดีกว่า ค่อยว่ากัน ทันใดนั้นรถยนต์คันงามคันหนึ่งก็แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของหญิงสาว พร้อมกับเห็นสาวสวยรุ่นพี่นั่งอยู่ในรถเคียงคู่มากับชายหนุ่มรุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งนายเต้รู้ถึงกิตติศัพท์ความเป็นเสือผู้หญิงของเขาดี สาวสวยอยู่ในสภาพที่เมามาก เมื่อรถจอดสนิทคนทั้งคู่ยังอยู่ในรถโดยไม่ได้สังเกตเห็นว่านายเต้ยืนหน้างงๆอยู่ ชายหนุ่มรุ่นพี่พูดอะไรบางอย่างกับหญิงสาว พลางโน้มคอเข้ามาใกล้ และ...เต้ไม่เข้าใจว่าทำไมหญิงสาวรุ่นพี่ของเขาจึงไม่ปัดป้อง อาจจะเพราะฤทธิ์เหล้า หรือว่าจริงๆแล้วเธอก็เป็นแค่ผู้หญิงง่ายๆทั่วไป ...เอ๊ะ...แล้วทำไมนายเต้ต้องรู้สึกแปลกๆ ทำไมรู้สึกโกรธ...ไม่พอใจ...เป็นบ้าอะไรขึ้นมา...แล้วนายเต้