เรารักเธอไม่ได้ เพราะหัวใจไม่ใช่ของเธอ ** 2 **
นายหมึกซึม
ทุกวัน เอและแนนจะมานั่งก่อปราสาททรายด้วยกัน
ก่อสร้างความหวังบนมิตรภาพและความรัก
ระหว่างลูกชายเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรและลูกสาวนายช่างใหญ่
แนนๆ เมื่อวานแม่เราสอนให้เราเขียนหนังสือด้วยแหละ
เด็กผู้ชายเสื้อผ้ามอมแมมคลุกฝุ่นและทรายเปียกเงยหน้าขึ้นมองเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่วิ่งเข้ามา
ไหนๆ แม่ของเอสอนเขียนคำว่าอะไร แนนถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น
แม่เอสอนเขียนหลายคำ แต่เอจำได้คำเดียว เอพูดพลางทำเสียงเศร้าๆ
เอคงอยากจำทุกคำมาเขียนให้แนนดู
เอจำคำไหนได้ เขียนให้แนนดูหน่อยสิ แนนพูด เอค่อยๆก้มลงข้างๆกองทราย
หยิบเศษไม้เล็กๆปักลงบนผืนทรายที่เพิ่งผ่านฝนเมื่อคืนแล้วตวัดเป็นจังหวะเพียงชั่วครู่
ปรากฎเป็นตัวอักขระลายเส้นบิดพลิ้ว คำว่า รัก
ปรากฎบนผืนทรายราบเรียบที่เกาะตัวเหนียวด้วยหยดน้ำ
เด็กตัวเล็กๆสองคนยืนมองด้วยความตื่นเต้น
อ่านว่าอะไร เอ แนนพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้นและแปลกใจ
อ่านว่า รัก เอพูดกระซิบข้างหูแนนเบาๆ
เหรอ อ่านว่ารักเหรอ....สอนแนนเขียนหน่อยสิ นะๆๆๆ
แนนพูดพลางเกาะแขนออดอ้อนเอ
มานี่ๆ เอจะสอน เอพูดพลางหยิบเศษไม้เล็กๆให้แนนจับไว้
มือเอและมือแนนจับประสานกัน ตวัดบนกองทรายให้เกิดเป็นอักขระบิดพริ้ว
นี่ไง แนนเขียนได้แล้ว ดีใจจังเลย
แนนพูดพลางหันหลังกลับไปกอดเอด้วยความดีใจ
มันแปลว่าอะไรเหรอ เอ แนนยังคงสงสัยไม่หายในความหมายของมัน
เอก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่แม่บอกว่ามันมีความหมายมากนะ มากจนอธิบายไม่ได้
ใช่สิ...ความหมายมันคงมากมายเกินกว่าเด็กห้าขวบจะรู้
หรือแม้แต่คนบางคนใช้เวลาทั้งชีวิต ก็ไม่อาจรู้ว่าคำว่ารักคืออะไร....
สักวัน เราจะรู้ความหมายมัน แม่เอบอก เอพูดพลางหันไปมองแนน
เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่ยืนข้างๆตน
อืม สักวันนะ แนนพูดพลางหันมายิ้มให้กับเอ ใช่
สักวันแนนและเอคงรู้ความหมายของมัน......
โอ๊ย...เจ็บ
เด็กผู้หญิงผมเปียพูดขึ้นพลางจับผมเปียของตัวเองด้วยสีหน้าเซ็งๆ
เธอโดนเพื่อนแกล้งดึงเปียผมของเธอประจำ
ใครดึงผมเปียแนน
เด็กผู้ชายนั่งข้างๆเธอหันขวับกลับไปมองแทบจะพร้อมกันกับเจ้าของผมเปีย
เห็นเด็กผู้ชายวัยเดียวกันสามคนนั่งอยู่ข้างหลังหัวเราะกันคิกคักพลางชี้นิ้วมาที่แนน
ทำไมๆ ข้าดึงเอง จะทำไม หนึ่งในเด็กสามคนพูดพลางชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
แกล้งผู้หญิง หน้าตัวเมีย เอยืนขึ้นชี้หน้าด่า
แล้วจะทำไม เด็กทั้งสามกรูกันมายืนหน้าเอ
ถีบโต๊ะเรียนกระจัดกระจายคนละทิศคนละทาง
ไม่เอาเอ อย่าไปยุ่งกับพวกนั้น แนนพูดพลางเกาะแขนเอไว้แน่น
เอเอามือจับแขนแนนออกจากตัวทันที...
ปั้ง...หนึ่งหมัดปล่อยออกไป คล้ายเป็นการประกาศสงครามของคนสองกลุ่ม
ทั้งสามคนกรูเข้ามารุมเอคล้ายหมาป่ากำลังรุมขยุ้มเหยื่อ
โต๊ะเรียนที่กระจัดกระจาย
ข้าวของทั้งของเอและแนนตกกระจายเกลื่อนกลาดคนละทิศคนละทาง
หยุด!!
เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง...มีอำนาจมากพอจะทำให้ทั้งสี่คนหยุดการตะลุมบอนกัน
พวกเธอทำอะไรกัน อันธพาลกันใหญ่แล้วนะ
ครูประจำชั้นเข้ามาห้ามทัพหมาป่าขยุ้มเหยื่อ แม้จะห้ามทัพได้
แต่ก็ได้ปรากฎเลือดไหลซิบๆที่คิ้วและโหนกแก้มของเอ
เอ เจ็บมั้ย แนนวิ่งเข้ามาทันทีที่ครูประจำชั้นเดินออกไป
ไม่เจ็บหรอก เอพูดพลางก้มหน้าหลบสายตาแนน
ไม่เจ็บอะไร เลือดไหลใหญ่แล้ว ไปห้องพยาบาลนะ แนนจะทำแผลให้
แนนพูดพลางดึงตัวเอออกจากห้องเรียนไป
เลือดไหลเป็นทางลงมาจากคิ้วและโหนกแก้มเปรอะเปื้อนเสื้อนักเรียนสีขาวของเอ
โอ๊ย...เจ็บ อย่าจับสิ
เอพูดโพล่งขึ้นขณะที่แนนกำลังกดดูความลึกของบาดแผล...แต่แนนกลับยิ้มออก
โอ๊ย แสบ
เอโอดครวญด้วยความเจ็บปวดทันทีเมื่อแนนค่อยๆกดสำลีชุบแอลกอฮอลงบนแผลของเอ
แสบก็ทนสิ อยากหาเรื่องเค้านี่นา แนนพูดพลางยิ้ม
ค่อยๆเช็ดแผลบนใบหน้าของเอช้าๆอย่างระมัดระวัง
ทุกครั้งที่มีคนแกล้งแนน เอจะยืดอกปกป้องแนนเสมอ
แม้จะต้องเจ็บตัวหรือตกอยู่ในภาวะเป็นรองก็ตามที....
แนนๆ แฮปปี้วาเลนไทน์นะ
ชายหนุ่มวัยรุ่นแต่งตัวภูมิฐานพูดห้วนๆพลางยืนกุหลาบแดงให้กับมือหญิงสาว
อีตาบ๊อง อย่ามาทำหวานใส่ฉันหน่า แนนพูดกวนๆพลางยิ้ม
เอได้แต่ยืนม้วนด้วยความอาย
อ้าว ก็วันนี้วันวาเลนไทน์
ทำหวานให้เจ้าหญิงของตัวเองสักหน่อยจะเป็นอะไรไป เอพูดพลางยิ้ม
ทำไมหนุ่มวัยรุ่นเวลาอายนี่ดูตลกดีแท้ ทั้งมือทั้งแขนแทบจะไม่มีที่เก็บ
สงสัยถ้าแทรกแผ่นดินหนีได้คงหนีหายไปแล้ว
หวานกับเค้าก็เป็นเหรอ เดี๋ยวนี้พัฒนาขึ้นนะ
แนนพูดพลางยื่นมือไปหยิกจมูกเอด้วยความเขิน
เอยังคงพยายามสำรวมอาการเขินอยู่
เอรักแนนนะ เอพูดพลางจับมือแนนขึ้นมาเขียนรูปหัวใจไว้ที่ฝ่ามือ
ตอนนี้แนนเริ่มหน้าแดงขึ้นบ้างแล้ว แต่ยังพยายามกลบเกลื่อนสีหน้าตัวเอง
เหรอ....เขียนคำว่ารักตรงนี้ ดูไม่ซึ้งเลย แนนพยายามบ่ายเบี่ยง
ไม่เลิกแหย่เอ
เดี๋ยวสักวัน เอจะเขียนไว้ตรงหัวใจแนนเลยนะ เอพูดประหม่า
มองหน้าแนนพลางเอื้อมมือดึงตัวแนนเข้ามาโอบกอดไว้แน่น....สักวัน
เอจะเขียนคำว่ารักไว้ในหัวใจแนนเลย.....
โปรดติดตามชมตอนต่อไป..เร็ว ๆ นี้