เรื่องเล่าจากเก้าโยกสีดำ...

เจรนัย

ในห้องนั่งเล่นที่ฉาบด้วยสีขาวจนส่องแสงสว่างไปทั่วทั้งห้อง ยังมีโต๊ะเขียนหนังสือสีขาวตัวหนึ่ง เก้าอี้พนังสีขาวอีกตัวหนึ่ง หนังสือปกขาวเล่มหนึ่ง และปากกาสีขาวอีกหนึ่งด้าม นอกจากนั้น ก็ยังมีเก้าอี้โยกสีดำตัวเก่าๆอีกตัวหนึ่งวางอยู่ตรงกลางห้อง
     ทุกๆวันเวลาเย็นก็จะมีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง เขาจะนั่งลงที่เก้าอี้พนังสีขาว แล้วใช้ปากกาสีขาวด้ามนั้นเขียนอะไรต่อมิอะไรมากมายลงในหนังสือปกสีขาว อยู่บนโต๊ะหนังสือสีขาวตัวนั้น เขาทำอย่างนี้เป็นประจำทุกวันทุกวัน 
     จนชายหนุ่มเริ่มย่างเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ แต่กิจวัตรของเขาก็ยังคงเป็นอยู่เช่นเดิม นั่นคือ "นั่งลงที่เก้าอี้พนังสีขาว แล้วใช้ปากกาสีขาวเขียนอะไรต่อมิอะไรมากมายลงในหนังสือปกสีขาว อยู่บนโต๊ะหนังสือสีขาว " เขาทำเช่นนี้ต่อไปเรื่อยโดยไม่มีเว้นแม้แต่วันเดียว 
     จนในที่สุดเขาก็ได้แต่งงาน การแต่งงานนั้นเองทำให้เขาต้องย้ายไปอยู่กับครอบครัวในที่ห่างไกล จึงทำให้เขาต้องปิดบ้านของตัวเองลง ซึ่งแน่นอนก็รวมถึงห้องนั่งเล่นนั้นด้วย ทำให้ห้องนั้นกลับดูเงียบเหงาลงไปทันที
"นี่พวกนายรู้ไหม เจ้านายน่ะ ชอบใช้ฉันมากที่สุด" เสียงอวดอ้างของเก้าอี้ผนังสีขาวดังขึ้นท่ามกลางความเงียบในวันหนึ่ง
"บ้าหรือ ข้าต่างหากที่เจ้านายชอบใช้มากที่สุด"เสียงข่มของโต๊ะเขียนหนังสือสีขาวดังขึ้นบ้าง
"ไม่จริงเลย ข้าต่างหาก เจ้านายชอบบันทึกเรื่องราวต่างๆในตัวข้าทุกวัน" หนังสือปกสีขาวเริ่มอวด
"พวกนายไม่รู้อะไร เจ้านายน่ะ ชอบใช้ฉันต่างหาก" เสียงปากกาด้ามขาวอวดอ้างเอาบ้าง
ทั้ง 4 ทกเถียงกันในเรื่องนี้ทุกวัน แล้วก็ยังไม่วายที่จะมาทับถมเก้าอี้โยกสีดำ ที่ยังคงนั่งอมทุกข์อยู่กลางห้อง
"เจ้านายเคยเขียนในตัวฉันนะว่า เขาน่ะไม่ชอบสีดำ รู้ไหมแกน่ะรกตาเจ้านายจริงๆ" เสียงเจ้าหนังสือจอมกวน เริ่มเปิดฉาก
"..." เก้าอี้โยกไม่พูดอะไร
"เออ...ใช่ เจ้านายเคยเปรยๆ ให้ฉันฟังนะว่าน่าจะเอาแกไปเผาซะที" เสียงเก้าอี้พนังก็เริ่มขึ้นตามมา
"..." เก้าอี้โยกไม่พูดอะไร
"ใช่เหรอ ฉันว่าฉันได้ยินว่าเจ้านายจะเอาไปขายไม่ใช่เหรอ" คราวนี้เป็นเสียงของโต๊ะหนังสือพี่ใหญ่
"..." เก้าอี้โยกไม่พูดอะไร
"ใช่พี่ เขากะจะเอามันไปประมูลขายน่ะ เขาว่าได้เงินเยอะดี" เสียงปากกาเจ้าตัวเล็กเอาบ้าง ขยายความทันที
"..." แต่เก้าอี้โยกก็ยังคงไม่พูดอะไร
จนเวลาล่วงเลยไป เป็นสิบปี ยี่สิบปี สามสิบปี 
     ในที่สุดชายหนุ่มก็กลับมา แต่ตอนนี้ชายหนุ่มคนนั้นไม่ใช่ชายหนุ่มอีกต่อไปแล้ว เขาชราภาพลงไปมาก มีเคราสีขาวรุกรัง ผิวหนังที่เหี่ยวย่น และกำลังที่มีอยู่อย่างน้อยนิด เขามาพร้อมกับชายหนุ่มคนหนึ่งกับหญิงสาวอีกคนหนึ่ง ซึ่งก็คือลูกของเขาเอง
     ชายชราคนนั้นเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นตามปกติ เหมือนเช่นที่เขากระทำอยู่เป็นประจำยามที่อยู่ที่นี่ แต่ตอนนี้เขาไม่ได้ไปนั่งที่เก้าอี้พนังสีขาวและใช้ปากกาสีขาวเขียนหนังสือปกสีขาวอยู่บนโต๊ะสีขาวอีกแล้ว 
     เขานั่งลงบนเก้าอี้โยกสีดำ มองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วก็โยกเก้าอี้ไปมา พร้อมกับรำพึงว่า "ชีวิตเราตอนนี้คงนั่งเก้าอี้พนังไม่ได้แล้ว จับปากกาเขียนลงในหนังสือบนโต๊ะก็ทำได้ยากยิ่ง ตอนนี้คงมีแตเจ้าล่ะ เจ้าเก้าอี้โยกที่จะให้ความสุขแก่ฉันได้นะ ไอ้เพื่อนยาก"
     ชายชรารำพึงรำพัน ก่อนที่จะเผลอหลับไปบนเก้าอี้โยกสีดำเก่าๆ ตัวนั้นเอง...				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน