ThE TruE STorY : เสียงร่ำร้องต่อแสงจันทร์

bMX

ที่วังคาโนวาล
            
              "แกแน่ใจเหรอ คาโล"  เสียงของหนุ่มนักฆ่าผู้ซึ่งมาเยี่ยมคาโลที่คาโนวาลเอ่ยทักขึ้น
    
    นัยน์ตาสีฟ้าเหลือบมองเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่พูดอะไร
              
              "ก็ตามใจ  อยากปล่อยไว้อย่างนี้ก็เรื่องของแก"  คิลถอนใจพลางยักไหล่
   
     สักพัก...แววตาสีม่วงก็ส่อประกายแวววับ  ก่อนเปรยเบาๆ   
    
              "ป่านนี้หมอนั่น...ไม่สิ ยัยนั่นจะรู้สึกยังไงนะ  ถ้าได้รู้ว่าคนที่มันคิดถึงแทบตายกำลังจะลืมมัน"  
    
    รอยยิ้มขยับขึ้นบนใบหน้าของนักฆ่าจากซาเรส  เมื่อได้เห็นว่าแวบหนึ่ง ดวงตาของกษัตริย์น้ำแข็งมีแววสลดลง   
    ก่อนที่มันจะหายไปแล้วเปลี่ยนมาส่งสายตาดุๆ ให้เขาแทน   คิลจึงรีบออกตัว
    
              "อะไร...อะไร  ไอ้เรารึก็อุตส่าห์มีน้ำใจ  ถ่อมาถึงที่คาโนวาลว่าจะช่วยให้ความรักของเพื่อนสมหวัง" 
    
    รอยยิ้มเหยียดๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าของคาโล  ก่อนจะเปรยออกมาพอให้คิลได้ยิน
    
              "แกแน่ใจเหรอว่าที่แกอุตส่าห์ถ่อมาถึงคาโนวาลเพื่อมาช่วยฉัน  ไม่ได้มีเจตนาอื่น"  
    
    ดวงหน้าขาวๆ ขึ้นสีระเรื่อ  พลันในหัวก็ผุดภาพของเจ้าหญิงคนงามของคาโนวาล  
    
               "ไอ้บ้า"  
    
    ไม่ทันขาดคำ  เสียงประตูก็เปิดออกเรียกให้คนในห้องหันขวับไปทันที  ภาพเบื้องหน้าเป็นภาพที่ทำให้คิล
    
    หน้าแดงหนักกว่าเดิม
    
               "เรนอน"   คิลพึมพำเบาๆ 
    
    เรนอนหันมองคิลแล้วส่งยิ้มอ่อนหวานไปให้ก่อนจะหันไปทางกษัตริย์แห่งคาโนวาล
    
               "มาหาท่านพ่อเหรอเรนอน"   คาโลถามออกไป  แม้จะขึ้นเป็นคิงแล้ว แต่กับเพื่อนๆ ทุกอย่างยังโอเค
               "ค่ะ มาถามท่านเรื่องงานเลี้ยงศิษย์เก่าเอดินเบิร์กที่จะมาถึงอีกสามวันนี้น่ะค่ะ  
    
    ไม่ทราบว่าคุณคิลจะมาร่วมงานด้วยรึเปล่าคะ"   เธอหันไปถามนักฆ่าหนุ่ม
    
               "ง่า...ไปสิ"   คิลตอบตะกุกตะกัก พยายามไม่สบตากับสาวน้อยหน้าแฉล้มตรงหน้า
    
    คาโลกลั้นยิ้มเบือนหน้าไปมองทางอื่น
    
                 ให้ตายเหอะไอ้นี่  จบจากเอดินเบิร์กมาตั้งเกือบปี  มันยังอายไม่เลิก  อายได้ยังไงเป็นเจ็ดแปดปี
    เขาคิดก่อนจะรีบตีหน้าขรึมเหมือนเดิม  เหมือนเจ้านักฆ่าหนุ่มสงสายตาแหยๆ มาขอความช่วยเหลือ
    
                   ในขณะเดียวกันที่เดมอส  จักรพรรดินีวิเวียนนานีย่าได้เสด็จมาเยี่ยมพี่หญิงของเธอ ที่ตอนนี้กลับมาเป็น
    เจ้าหญิงเต็มตัว คำพูดคำจาดูอ่อนหวานขึ้น สมหญิง แม้ว่าความคิดและท่าทางบางอย่างจะยังคงเป็นนายเฟรินคนเดิม
   
    และถึงแม้ว่าเฟรินในร่างเฟลิโอน่าจะยังคงยิ้มร่าเริงแต่เธอก็รู้สึกได้ว่าพี่หญิงของเธอกำลังเศร้า
    
               "พี่หญิง"     เสียงวิเวียนเอ่ยเรียก ทำให้นัยน์ตาสีน้ำตาลคู่สวยตื่นจากภวังค์
               "พี่หญิงคะ ท่านพี่โรเวนบอกว่าให้มาชวนพี่หญิงไปร่วมงานที่เอดินเบิร์ก ไม่ทราบว่าพี่หญิงจะว่ายังไง" 
    วิเวียนเอ่ยถามเสียงหวาน  เธอกำลังพยายามกล่อมเฟรินให้ไปร่วมงานตามคำขอของโรเวน
               "เอ่อ...ช่วงนี้อากาศมันหนาว  ฉันไม่ค่อยถูกกับอากาศหนาวเกรงว่าจะไปพาพวกท่านโรเวนลำบากเสียเปล่า" 
    เฟรินพยายามเอ่ยเลี่ยง  แต่วิเวียนยิ้มกริ่มอย่างรู้ทัน  
               "แต่หญิงไม่มั่นใจนักว่าเป็นเพราะอากาศหนาวในเดมอส หรือว่า น้ำแข็งแห่งคาโนวาลกันแน่ที่ทำให้
    พี่หญิงเป็นแบบนี้"   คำกล่าวที่ตรงจุดทำเอาใบหน้านวลผ่องขึ้นสีแดงระเรื่อ  แลดูน่ารัก  นึกแล้วตกใจว่า
    วิเวียนอภิเษกกับท่านโรเวนได้ไม่นาน  อะไรจะติดนิสัยกันเร็วขนาดนี้  นึกไปนึกมาพลันรอยยิ้มนั้นก็หายไป
    พร้อมกับสีหน้าที่หม่นลง
               "พูดอะไรอย่างนั้นวิเวียน น้ำแข็งแห่งคาโนวาล คงไม่มีวันจะย่างกรายมาให้พี่ได้สัมผัสความหนาวนั่นหรอก"
    รอยยิ้มบางๆ ที่ดูซีดเซียวฉายบนใบหน้าของเธอ   วิเวียนเห็นเฟรินเศร้าก็แทบจะตบปากตัวเอง
    ก่อนจะรีบๆ รวบรัดให้แผนของโรเวนให้เสร็จสิ้น
               "ตกลงพี่หญิงไปเถอะนะคะ  ถือว่าหญิงขอร้อง"   เฟรินกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น  ใจหนึ่งมันก็อยากไป
   
    อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากไป  ไม่อยากไปเจอกับแววตาสีฟ้าคู่นั้น
               "ตกลงตามนี่นะคะ ขอบคุณพี่หญิงมากค่ะ"   วิเวียนพูดรัวก่อนจะรีบชิ่งออกไป  ทิ้งให้เจ้าหญิงองค์งามนั่งมอง
    ตาปริบๆ  จนด้วยคำพูด จึงตะโกนออกไป
               "แล้วท่านพ่อล่ะ"    เป็นคำถามที่ไร้คำตอบ  แต่แน่นอนโรเวนนั้นได้กล่อมท่านเจ้าเอวิเดสจนสำเร็จแล้ว
   
              
                ที่วังคาโนวาล  คาโลกำลังเดินหน้าเคร่งเข้ามาในห้อง แล้วพลันสายตาของแขกตัวแสบที่มาพักด้วย
    ก็สังเกตเห็นจนได้แม้เจ้าตัวจะพยายามปกปิดก็ตาม
               "เป็นอะไรของนาย คาโล"  คิลถามอย่างแปลกใจ   คาโลชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนจะตัดสินใจยื่นซองจดหมาย
    บางอย่างให้คิลดู 
               "วิเวียนงั้นเหรอ"   คิลร้องถามเมื่อเห็นชื่อที่จ่าหน้าซอง
               "แต่ทำไมจ่าหน้าซองเป็นเดมอสล่ะ หรือว่า..."  เจ้านักฆ่าส่งสายตาวิบวับมาให้  คาโลไหวตัวทันจึงตัดบท
               "อ่านไป"   คิลหัวเราะก่อนก้มหน้าก้มตาอ่าน  สักพักก็ทำท่าเมื่อคิดอะไรสักอย่าง  ปรายตามองคาโล
    แล้วก้มลงอ่านอีกครั้ง
             
                                                     คาโล วาเนบลี เดอะ คิง ออฟ คาโนวาล 
                      จากที่ทราบข่าวกันเป็นอย่างดีแล้วว่าจะมีการจัดงานเฉลิมฉลอง
             ร่วมศิษย์เก่าขึ้นที่โรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์กในอีกสามวันข้างหน้า
             ตัวข้า วิเวียนนานีย่า ฮาเวิร์ด ราชินีในคิงโรเวนแห่งเจมิไนและเวนอล
             อยากจะทูลให้ท่านทราบว่า ทางเจมิไน จะได้ เชิญเจ้าหญิงเฟลิโอน่า
             ร่วมเสร็จในการเดินทางครั้งนี้ด้วย  
                       แต่เนื่องจากยังมีการเป็นห่วงในความปลอดภัย ทางเราจึงต้อง
              มาขอความช่วยเหลือจากคาโนวาลในการช่วยเตรียมการต้อนรับ
              เจ้าหญิงเฟลิโอน่าที่เมืองหน้าด่านบารามอส
                                                                                วิเวียนนานีย่า  ฮาเวิร์ด
               "นายจะเอาไง"   คิลถามหลังจากอ่านจบ   คาโลมองสบตากับคิลแทนคำถาม  หนุ่มนักฆ่าเดาคำตอบนั้นออก
    จึงยิ้มออกมาอย่างพอใจ  พลันหวนนึกถึงเจ้าเพื่อนตัวแสบอีกคนที่อยู่ห่างไกล
                  นานเหมือนนะที่พวกเราสามคนไม่ได้มาอยู่กันพร้อมหน้า  
                  ป่านนี้นายจะเป็นยังไงบ้างยังไม่รู้เลย  หวังว่าคงสบายดี 
                  ถ้าไม่นับเจ้าหญิงนั่น อย่างน้อยก็นายคนหนึ่งล่ะเฟริน  
                          ที่ทำให้นักฆ่าอย่างฉันคิดถึงเป็น...
         
              
                "ท่านจ้าว ท่านจ้าว"   เสียงเล็กๆ ของโกโดมเอ่ยอย่างร้อนรน
                "พระองค์จะทรงปล่อยให้องค์หญิงเดินทางไปกับเจมิไนแน่หรือกระหม่อม"  โกโดมเอ่ยถาม แววตาสีดำของเอวิเดส
    ฉายแววขบขัน
                "อย่าโวยวายไปน่าโกโดม คิงโรเวนเค้าก็มีเหตุผลของเค้าน่ะ"  เอวิเดสกล่าวอย่างสบายใจ
    โกโดมทำท่าจะอ้าปากแย้ง  แต่เอวิเดสก็กล่าวตัดบท
                "เอาน่า  เอาเป็นว่าเหตุผลของคิงโรเวนเนี่ย  ข้าชอบใจก็แล้วกัน"    โกโดมถอนหายใจก่อนกล่าวปลงๆ
                "ตามแต่พระประสงค์กระหม่อม"  จ้าวเอวิเดสจึงหัวเราะอย่างสบายอารมณ์   จนโกโดมอดที่จะส่ายหัวอย่าง
    ระอาไม่ได้กับพฤติกรรมที่พอกันของพ่อลูกคู่นี้จริงๆ
                
                 "บ้าเอ๊ย"  เสียงร้องที่ไม่น่าเชื่อของคิงแห่งคาโนวาลซึ่งปกติจะสงบนิ่ง  บัดนี้แววตาสีฟ้าคู่สวยดูเคร่งเครียด
                 "โรเวนคิดอะไรของเค้าอยู่เนี่ย"  คิดพลางปากก็บ่นไปหยุด เดินวนไปมา หลุดมาดไปเสียสิ้น
    หนุ่มนักฆ่าตอนนี้เองก็ชักจะเริ่มตาลายกับคนตรงหน้า  
                 "เอาน่า คาโล นายเองก็อยากไม่สนใจมันก่อนทำไมล่ะ"  คิลเอ่ยยิ้มๆ  ก่อนจะเสนอไปว่า
                 "ที่ฉันอยากรู้น่ะ คือว่าโรเวนทำยังไง เอวิเดสถึงยอมปล่อยให้ลูกสาวคนเดียวเดินทางมาด้วยต่างหาก"  คิลว่า
    คาโลมองตามอย่างครุ่นคิด เห็นด้วยอย่างสุดซึ้ง   คิงแห่งเจมิไนนี่ร้ายไม่เบา  กล่อมได้แม้กระทั่งราชาปีศาจ
                           ว่าแต่เขาทำยังไงล่ะ ?      
              
                  
                  เกวียนไม้ขนาดใหญ่ของคิงแห่งเจมิไนที่ถ่อไปรับองค์หญิงเฟลิโอน่าถึงเดมอสยังคงเคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ
    แสงจันทร์นวลผ่องเด่นสกาวอยู่บนท้องฟ้ายามราตรี   ความมืดปกคลุมชวนให้กายหนาวเหน็บ
                 แต่บัดนี้  ใจของใครบางคนกลับหนาวเสียยิ่งกว่า  ดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยฉายแววอาทรณ์ 
    ความห่างไกลที่แสนเจ็บปวด   ใจร้ายสิ้นดี...
                 หยาดน้ำตาเม็ดใสๆ ไหลลงมาคลอเคลียนวลแก้มเนียนอย่างสุดจะฝืน  ดวงตาคู่งามค่อยๆ ปรือลง ก่อนจะปิดสนิท
                
                       ....ไม่ต้องการหรอก ความอบอุ่นใดในโลก  ขอเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้นไม่ได้หรือ
                              แค่ความอบอุ่นที่แฝงเร้นอยู่ภายใต้ความเย็นเยียบของหัวใจใครสักคนก็พอ...
     ---------------------------------โปรดติดตามตอนต่อไป------------------------------------				
comments powered by Disqus
  • เฟลิเซีย

    29 ธันวาคม 2553 18:14 น. - comment id 120849

    สนุกมากๆค่ะ
    มีต่อไมค่ะ
    ถ้ามีต่อขอเวปด้วย
    อ่านแล้วมันค้างคาใจมากๆ
  bMX

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน